ทำอย่างไรได้บ้างคะ เหตุการณ์คือโทรหาบริษัทประกันชีวิตที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เพื่อต้องการตัดบัตรเครดิตในการชำระเบี้ยประกันปีนี้
จนท.แจ้งยอดที่ต้องชำระมาและบอกวิธีการตัดบัตรเครดิต.... และแจ้งว่ามีอีกยอดที่เราค้างคือยอดกู้จ่าย ก็งง?????ไปเลยถามไปว่า
กู้จ่ายคืออะไร กู้ไปตั้งเมื่อเไร ตอนไหน จนท. บอกว่าเราไม่ได้จ่ายเบี้ยประกันภัยของปี 54 !!!!! ยิ่งงงไปใหญ่เลย ถามไปว่าทำไม SMS
ที่แจ้งก็เป็นยอดของปีล่าสุดก็เป็นยอดปีปัจจุบันเท่านั้น ทำให้ดูไม่รู้ว่ามีค้างจ่าย ไม่เห็นจะมียอดกู้อะไรเลย จนท.บอกว่าจะแจ้งเฉพาะยอด
ของปีปัจจุบันไม่รวมยอดกู้ อ้าวเฮ้ย.... แล้วงี้ยังไงหละเนี่ย เรามีหนี้เหรอเนี่ย (!!! แล้วลูกค้าจะรู้มั้ยหละทุกอย่างมันก็เนียน!!!)
จนท.บอกว่าถ้าชำระแล้วต้องหาหลักฐานมายืนยันโห ตั้ง 6 ปีจะหาเจอยังไงหละ ก็วางสายไป ก็พยายามค้นหาเอกสาร ทั้งไฟล์/กระดาษ
ก็ไปเจอใบรับรองการชำระเบี้ยที่ใช้ยื่นลดหย่อนภาษีปี 2554 ก็นึกว่านี่แหละหลักฐานว่าเราได้จ่ายเบี้ยไปแล้ว ก็เลยโทรไปใหม่ ทางจนท.
แจ้งว่าใบนั้นเป็นใบที่แสดงยอดการชำระคือเราได้กู้ไปจ่ายแล้วเลยมียอดว่าเราได้จ่ายเบี้ยแล้ว ก็งง????ไปอีก อ้าวแล้วแบบนี้ลูกค้าจะไปรู้
ได้ยังไง ว่าเรายังไม่จ่าย ทุกอย่างเหมือนจ่ายปกติไปหมด แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามียอดหนี้อยู่ จนท.ก็ตอบว่าไม่มี จะมีแต่จดหมายที่บรษัท
เคยส่งให้เมื่อปี 54 ซึ่งถึงมือลูกค้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซึ่งเราก็ยืนยันว่าเรายังไม่เคยเห็นจดหมายนี้เลยหน้าตาเป็นยังไง จดหมายว่าเราเป็นหนี้
เป็นยังไง จนท.ยืนยันว่าจะต้องหาเอกสารมายืนยันว่าจ่ายแล้วเท่านั้น ไงดีหละก็ต้องหาเอกสารหลักฐานการที่ไปชำระเงิน
หรือใบเสร็จที่เคยได้รับกับตัวแทนหรืออะไรที่เราจ่ายไป หรือช่องทางการโอนเงิน ตอนนี้ก็พยายามจะหาเอกสารแต่มันนานมากตั้ง 6 ปีกว่า
แล้ว ถ้ารู้เร็วกว่านี้ก็น่าจะยังพอจะหาหลักฐานหรือจำอะไรได้บ้าง แต่นี่ผ่านไปนานมากกกก เราก็ถามจนท.ว่าถ้าไม่โทรไปเรื่องต้องการ
ตัดบัตรเครดิตทางลูกค้าก็ไม่รู้เลยว่าเป็นหนี้อยู่ เค้าก็ตอบว่าใช่ บอกแต่ว่าบริษัทมีจดหมายแจ้งแล้วตอนปี 54 ไม่รู้ส่งมาเดือนไหน
ซึ่งปีน้นก็เป็นปีน้ำท่วมซะด้วย ถ้าส่งช่วงนั้นจะได้จดหมายได้อย่างไร ซึ่งจดหมายก็ยังไม่เคยเห็น ก็เลยถามว่าแล้วหลังจากปีนั้นจะมีจดหมาย
แจ้งอีกมั้ย ที่แสดงว่าเราเป็นหนี้ จนท.ก็บอกว่าไม่มี จะแจ้งแค่ตอนปี 54 ปีเดียวเท่านั้น ส่วนปีต่อๆมาก็ไม่แจ้งแล้ว แปลกมั้ยหละเราเป็นหนี้
บริษัทโดยที่เราไม่รู้ตัว และเหมือนไม่อยากให้เรารู้ด้วย ไม่ยอมบอกลูกค้าเลย บอกเค้าไปว่าแล้วทำไมไม่โทรตามลูกค้าเลยเหรอว่าเราจะจ่ายเมื่อไร
หรืออยากจะกู้ต่อมั้ย ตอนเราไม่จ่ายทำไมไม่มีการตามลูกค้าเลยว่าเลยกำหนดชำระ จนท.ตอบว่าเป็นหน้าที่ของตัวแทนที่ต้องตาม
ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ตัวแทนแต่บริษัทก็น่าจะมีการควบคุมตัวแทนด้วยหรือไม่ว่าได้ตามลูกค้าตามกำหนดหรือไม่ และได้มีการติดตามหรือไม่
และลูกค้าประสงค์ที่จะกู้จ่ายหรือไม่ ทำไมการกู้ไม่ต้องมีเอกสารหรือยืนยันการกู้จากลูกค้าอะไรเลย คิดในใจว่าแหมทีตอนขายประกัน
โทรหาจังไม่รู้กี่รอบยังโทรได้เลย ถ้าลูกค้าลืมจ่ายก็ไม่ยอมตามบ้างเลย ปีถัดไปบอกก็ยังดี นั่นสิเค้าได้ดอกเบี้ยเราตั้ง 7% ต่อปีแหนะ
เค้าบอกมีในสัญญากรมธรรม์ตั้งแต่แรกให้ลองไปอ่านดูว่าถ้าไม่จ่ายเบี้ยภายในกำหนดจะเป็นการกู้จ่ายโดยอัตโนมัติ สอบถามตัวแทนก็บอก
ไม่เห็นยอดนี้เหมือนกันรู้แค่ว่าลูกค้าชำระค่าเบี้ยแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างหรือใครเคยเจอแบบนี้บ้างมั้ยคะ เหมือนโดนเอาเปรียบเลย
ตอนนี้ก็เลยขอเอกสารยืนยันการชำระเงินจากบริษัททั้งหมดที่ผ่านมา กลัวว่าปีหน้าจะมาบอกว่าเราเป็นหนี้อีก ตอนนี้จะต้องเก็บเอกสารชำระเงิน
ย้อนหลังทั้งหมดให้ดี (ไม่ใข่ใบรับรองการชำระเบี้ย เพราะไม่สามารถยืนยันว่าเราได้จ่ายเบี้ยจริง) ระวังกันด้วยนะคะ ต้องโทรสอบถามบริษัทประกัน
ด้วยว่ามียอดกู้จ่ายด้วยมั้ยไม่นั้นอาจจะเจอแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเหมือนกันทุกบริษัทมั้ยนะคะ
ทำอย่างไรได้บ้างคะ บริษัทประกันบอกว่าเรากู้จ่ายอัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย
จนท.แจ้งยอดที่ต้องชำระมาและบอกวิธีการตัดบัตรเครดิต.... และแจ้งว่ามีอีกยอดที่เราค้างคือยอดกู้จ่าย ก็งง?????ไปเลยถามไปว่า
กู้จ่ายคืออะไร กู้ไปตั้งเมื่อเไร ตอนไหน จนท. บอกว่าเราไม่ได้จ่ายเบี้ยประกันภัยของปี 54 !!!!! ยิ่งงงไปใหญ่เลย ถามไปว่าทำไม SMS
ที่แจ้งก็เป็นยอดของปีล่าสุดก็เป็นยอดปีปัจจุบันเท่านั้น ทำให้ดูไม่รู้ว่ามีค้างจ่าย ไม่เห็นจะมียอดกู้อะไรเลย จนท.บอกว่าจะแจ้งเฉพาะยอด
ของปีปัจจุบันไม่รวมยอดกู้ อ้าวเฮ้ย.... แล้วงี้ยังไงหละเนี่ย เรามีหนี้เหรอเนี่ย (!!! แล้วลูกค้าจะรู้มั้ยหละทุกอย่างมันก็เนียน!!!)
จนท.บอกว่าถ้าชำระแล้วต้องหาหลักฐานมายืนยันโห ตั้ง 6 ปีจะหาเจอยังไงหละ ก็วางสายไป ก็พยายามค้นหาเอกสาร ทั้งไฟล์/กระดาษ
ก็ไปเจอใบรับรองการชำระเบี้ยที่ใช้ยื่นลดหย่อนภาษีปี 2554 ก็นึกว่านี่แหละหลักฐานว่าเราได้จ่ายเบี้ยไปแล้ว ก็เลยโทรไปใหม่ ทางจนท.
แจ้งว่าใบนั้นเป็นใบที่แสดงยอดการชำระคือเราได้กู้ไปจ่ายแล้วเลยมียอดว่าเราได้จ่ายเบี้ยแล้ว ก็งง????ไปอีก อ้าวแล้วแบบนี้ลูกค้าจะไปรู้
ได้ยังไง ว่าเรายังไม่จ่าย ทุกอย่างเหมือนจ่ายปกติไปหมด แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามียอดหนี้อยู่ จนท.ก็ตอบว่าไม่มี จะมีแต่จดหมายที่บรษัท
เคยส่งให้เมื่อปี 54 ซึ่งถึงมือลูกค้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซึ่งเราก็ยืนยันว่าเรายังไม่เคยเห็นจดหมายนี้เลยหน้าตาเป็นยังไง จดหมายว่าเราเป็นหนี้
เป็นยังไง จนท.ยืนยันว่าจะต้องหาเอกสารมายืนยันว่าจ่ายแล้วเท่านั้น ไงดีหละก็ต้องหาเอกสารหลักฐานการที่ไปชำระเงิน
หรือใบเสร็จที่เคยได้รับกับตัวแทนหรืออะไรที่เราจ่ายไป หรือช่องทางการโอนเงิน ตอนนี้ก็พยายามจะหาเอกสารแต่มันนานมากตั้ง 6 ปีกว่า
แล้ว ถ้ารู้เร็วกว่านี้ก็น่าจะยังพอจะหาหลักฐานหรือจำอะไรได้บ้าง แต่นี่ผ่านไปนานมากกกก เราก็ถามจนท.ว่าถ้าไม่โทรไปเรื่องต้องการ
ตัดบัตรเครดิตทางลูกค้าก็ไม่รู้เลยว่าเป็นหนี้อยู่ เค้าก็ตอบว่าใช่ บอกแต่ว่าบริษัทมีจดหมายแจ้งแล้วตอนปี 54 ไม่รู้ส่งมาเดือนไหน
ซึ่งปีน้นก็เป็นปีน้ำท่วมซะด้วย ถ้าส่งช่วงนั้นจะได้จดหมายได้อย่างไร ซึ่งจดหมายก็ยังไม่เคยเห็น ก็เลยถามว่าแล้วหลังจากปีนั้นจะมีจดหมาย
แจ้งอีกมั้ย ที่แสดงว่าเราเป็นหนี้ จนท.ก็บอกว่าไม่มี จะแจ้งแค่ตอนปี 54 ปีเดียวเท่านั้น ส่วนปีต่อๆมาก็ไม่แจ้งแล้ว แปลกมั้ยหละเราเป็นหนี้
บริษัทโดยที่เราไม่รู้ตัว และเหมือนไม่อยากให้เรารู้ด้วย ไม่ยอมบอกลูกค้าเลย บอกเค้าไปว่าแล้วทำไมไม่โทรตามลูกค้าเลยเหรอว่าเราจะจ่ายเมื่อไร
หรืออยากจะกู้ต่อมั้ย ตอนเราไม่จ่ายทำไมไม่มีการตามลูกค้าเลยว่าเลยกำหนดชำระ จนท.ตอบว่าเป็นหน้าที่ของตัวแทนที่ต้องตาม
ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ตัวแทนแต่บริษัทก็น่าจะมีการควบคุมตัวแทนด้วยหรือไม่ว่าได้ตามลูกค้าตามกำหนดหรือไม่ และได้มีการติดตามหรือไม่
และลูกค้าประสงค์ที่จะกู้จ่ายหรือไม่ ทำไมการกู้ไม่ต้องมีเอกสารหรือยืนยันการกู้จากลูกค้าอะไรเลย คิดในใจว่าแหมทีตอนขายประกัน
โทรหาจังไม่รู้กี่รอบยังโทรได้เลย ถ้าลูกค้าลืมจ่ายก็ไม่ยอมตามบ้างเลย ปีถัดไปบอกก็ยังดี นั่นสิเค้าได้ดอกเบี้ยเราตั้ง 7% ต่อปีแหนะ
เค้าบอกมีในสัญญากรมธรรม์ตั้งแต่แรกให้ลองไปอ่านดูว่าถ้าไม่จ่ายเบี้ยภายในกำหนดจะเป็นการกู้จ่ายโดยอัตโนมัติ สอบถามตัวแทนก็บอก
ไม่เห็นยอดนี้เหมือนกันรู้แค่ว่าลูกค้าชำระค่าเบี้ยแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างหรือใครเคยเจอแบบนี้บ้างมั้ยคะ เหมือนโดนเอาเปรียบเลย
ตอนนี้ก็เลยขอเอกสารยืนยันการชำระเงินจากบริษัททั้งหมดที่ผ่านมา กลัวว่าปีหน้าจะมาบอกว่าเราเป็นหนี้อีก ตอนนี้จะต้องเก็บเอกสารชำระเงิน
ย้อนหลังทั้งหมดให้ดี (ไม่ใข่ใบรับรองการชำระเบี้ย เพราะไม่สามารถยืนยันว่าเราได้จ่ายเบี้ยจริง) ระวังกันด้วยนะคะ ต้องโทรสอบถามบริษัทประกัน
ด้วยว่ามียอดกู้จ่ายด้วยมั้ยไม่นั้นอาจจะเจอแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเหมือนกันทุกบริษัทมั้ยนะคะ