จากในรูปจะเป็นแบบบ้านโดยรวมของผมคร่าวๆครับ สีน้ำเงินคือเขตตัวบ้านผมเอาไว้อยู่อาศัย
ส่วนสีเชียวก็คือตัวบ้านเช่นกันใช้หลังคาเดียวกัน แต่เป็นหน้าโล่งโดยผมกั้นฝาห้องเพื่อให้เช่าทั้งหมด 4 ห้องเท่ากับขนาดตัวบ้าน
โดยห้องบนสุดที่โผล่มาคือการก่อสร้างเพิ่มเติมทีหลัง เบ็ดเสร็จมีห้องเช่ารวมกันสี่ห้อง โดยห้องเช่าทั้งหมดด้านหลังติดกับตัวบ้านเป็นแบบห้องเช่าหน้าเปิดไม่มีทางออกด้านหลัง นอกจากห้องบนสุด
การก่อสร้างครั้งนี้ได้วางแผนกับทางภรรยาแต่แรกแล้วว่า จะทุบบ้านเดิมทิ้งและสร้างใหม่จากที่ดินเดิม การสร้างบ้านใหม่ครั้งนี้จะต้องใช้เงินจากห้องเช่าเพื่อไปจ่ายค่าบ้านที่กู้จากธนาคาร จึงยื่นเรื่องทำการกู้เงินสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา ในการยื่นก็แจ้งความจำนงค์ในการกู้โดยบอกจุดประสงค์ในการทำให้กับแบงค์ โดยหลักการ การสร้างอาคารเชิงพาณิชย์แบงค์จะไม่ปล่อยให้กู้ในระยะยาว ทางแบงค์จึงแนะนำผมว่าให้สร้างเป็นอาคารที่อยู่อาศัยดีกว่า โดยจะสามารถผ่อนจ่ายกับแบงค์ในระยะยาวได้ ผมจึงตกลงและทำการยื่นแบบ BOQ โดยการก่อสร้างนั้นจะยังไม่มีการกั้นห้อง โดยเป็นการสร้างหน้าบ้านแบบโล่งๆไว้ จนการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อแบงค์มาตรวจสอบในงวดสุดท้ายผ่าน ผมจึงทำการกั้นห้องไว้เพื่อเช่า โดยสร้างผนังมวลเบา และห้องน้ำในตัว บ้านและห้องแถวจึงแล้วเสร็จตามการวางแผนที่ว่าไว้
จนผ่านมาได้ราวๆสองปี และกำลังจะเข้าสู่ปีที่สาม ห้องเช่าก็มีคนแวะเวียนมาเช่าย้ายเข้าย้ายออกกันไปตามปรกติ แต่ก็ยังเต็มทุกห้อง
เงินจากการเช่าก็นำมาใช้จ่ายเพื่อการผ่อนชำระแบงค์ (ตกเดือนละ 22,000 บาท) เมื่อวันนี้ตอนเที่ยง มีเจ้าหน้าที่เทศบาลมาแจ้ง
บอกว่าการสร้างอาคารแบบนี้ผิดกฏหมาย เพราะตอนแรกทางเทศบาลแจ้งว่าแต่แรกบ้านผมถูกแจ้งเป็นอาคารที่อยู่อาศัย ไม่ใช่อาคารพาณิชย์ จึงไม่สามารถให้คนอื่นมาเช่าได้ ให้ทำการรื้อถอนหรืออย่างไรไม่ทราบ ไม่งั้นเทศบาลจะฟ้อง รายละเอียดจับใจความได้เท่านี้เพราะผมทำงานไม่ได้อยู่เฝ้าบ้าน แม่ผมบอกรายละเอียดมาประมาณนี้
ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มีขั้นตอนในการแจ้งเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายอย่างไร ผมสงสัยว่าทำไมเทศบาลจึงไม่แจ้งผมตอนที่ผมไปยื่นแบบบ้านเพื่อขออนุญาติในการสร้าง และการเสียภาษีรายได้จากการเช่าให้กับเทศบาล เทศบาลก็เรียกเก็บปีละ 12,000 บาท มันคืออะไรครับ? ทำไมถึงเรียกเก็บถ้าไม่อนุญาติให้ทำ
ขอรบกวนผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบคำถามนี้ให้ด้วยครับ เพราะภรรยาเครียดมาก รวมถึงตัวผมเองเช่นกัน
สอบถามเรื่องการแบ่งบ้านให้เช่า และปัญหาจากเทศบาลครับ
จากในรูปจะเป็นแบบบ้านโดยรวมของผมคร่าวๆครับ สีน้ำเงินคือเขตตัวบ้านผมเอาไว้อยู่อาศัย
ส่วนสีเชียวก็คือตัวบ้านเช่นกันใช้หลังคาเดียวกัน แต่เป็นหน้าโล่งโดยผมกั้นฝาห้องเพื่อให้เช่าทั้งหมด 4 ห้องเท่ากับขนาดตัวบ้าน
โดยห้องบนสุดที่โผล่มาคือการก่อสร้างเพิ่มเติมทีหลัง เบ็ดเสร็จมีห้องเช่ารวมกันสี่ห้อง โดยห้องเช่าทั้งหมดด้านหลังติดกับตัวบ้านเป็นแบบห้องเช่าหน้าเปิดไม่มีทางออกด้านหลัง นอกจากห้องบนสุด
การก่อสร้างครั้งนี้ได้วางแผนกับทางภรรยาแต่แรกแล้วว่า จะทุบบ้านเดิมทิ้งและสร้างใหม่จากที่ดินเดิม การสร้างบ้านใหม่ครั้งนี้จะต้องใช้เงินจากห้องเช่าเพื่อไปจ่ายค่าบ้านที่กู้จากธนาคาร จึงยื่นเรื่องทำการกู้เงินสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา ในการยื่นก็แจ้งความจำนงค์ในการกู้โดยบอกจุดประสงค์ในการทำให้กับแบงค์ โดยหลักการ การสร้างอาคารเชิงพาณิชย์แบงค์จะไม่ปล่อยให้กู้ในระยะยาว ทางแบงค์จึงแนะนำผมว่าให้สร้างเป็นอาคารที่อยู่อาศัยดีกว่า โดยจะสามารถผ่อนจ่ายกับแบงค์ในระยะยาวได้ ผมจึงตกลงและทำการยื่นแบบ BOQ โดยการก่อสร้างนั้นจะยังไม่มีการกั้นห้อง โดยเป็นการสร้างหน้าบ้านแบบโล่งๆไว้ จนการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อแบงค์มาตรวจสอบในงวดสุดท้ายผ่าน ผมจึงทำการกั้นห้องไว้เพื่อเช่า โดยสร้างผนังมวลเบา และห้องน้ำในตัว บ้านและห้องแถวจึงแล้วเสร็จตามการวางแผนที่ว่าไว้
จนผ่านมาได้ราวๆสองปี และกำลังจะเข้าสู่ปีที่สาม ห้องเช่าก็มีคนแวะเวียนมาเช่าย้ายเข้าย้ายออกกันไปตามปรกติ แต่ก็ยังเต็มทุกห้อง
เงินจากการเช่าก็นำมาใช้จ่ายเพื่อการผ่อนชำระแบงค์ (ตกเดือนละ 22,000 บาท) เมื่อวันนี้ตอนเที่ยง มีเจ้าหน้าที่เทศบาลมาแจ้ง
บอกว่าการสร้างอาคารแบบนี้ผิดกฏหมาย เพราะตอนแรกทางเทศบาลแจ้งว่าแต่แรกบ้านผมถูกแจ้งเป็นอาคารที่อยู่อาศัย ไม่ใช่อาคารพาณิชย์ จึงไม่สามารถให้คนอื่นมาเช่าได้ ให้ทำการรื้อถอนหรืออย่างไรไม่ทราบ ไม่งั้นเทศบาลจะฟ้อง รายละเอียดจับใจความได้เท่านี้เพราะผมทำงานไม่ได้อยู่เฝ้าบ้าน แม่ผมบอกรายละเอียดมาประมาณนี้
ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มีขั้นตอนในการแจ้งเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายอย่างไร ผมสงสัยว่าทำไมเทศบาลจึงไม่แจ้งผมตอนที่ผมไปยื่นแบบบ้านเพื่อขออนุญาติในการสร้าง และการเสียภาษีรายได้จากการเช่าให้กับเทศบาล เทศบาลก็เรียกเก็บปีละ 12,000 บาท มันคืออะไรครับ? ทำไมถึงเรียกเก็บถ้าไม่อนุญาติให้ทำ
ขอรบกวนผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบคำถามนี้ให้ด้วยครับ เพราะภรรยาเครียดมาก รวมถึงตัวผมเองเช่นกัน