ลูกสาวมีอาการเป็นไตขึ้นที่หน้าอกข้างเดียว ตอนอายุ 7.3 ปี (ปีที่แล้ว) ได้พาไปหาหมอที่ รพ รัฐ คลีนิคพิเศษแห่งหนึ่งค่ะ ครั้งแรกที่ไป คุณหมอดูประวัติการเจริญเติบโต และให้เอ็กซเรย์กระดูก และตรวจค่าฮอร์โมน ผลที่ได้คือ อายุกระดูก 7.10 ปี ค่าฮอร์โมน 4.1 ค่ะ คุณหมอไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ แต่นัด follow up 2-3 เดือนครั้งค่ะ ทุก ๆ ครั้งดูเหมือนว่า หน้าอกน้องจะยุบลงไปเรื่อย ๆ จน ต้นเดือน มี.ค 60 ไปพบคุณหมอตามนัดอีกครั้ง ครั้งนี้ หน้าอกยุบไปแล้วค่ะ คุณแม่สบายใจมาก จนผ่านไป 2 อาทิตย์ ประมาณ กลางเดือน มี.ค 60 ลูกบ่นเจ็บนม เลยลองจับดู ปรากฏว่า น้องมีไตขึ้นอีกข้างที่ไม่เคยเป็น คุณแม่เลยพาน้องไปหาหมออีกรอบ คราวนี้ หมอบอกว่า มีหน้าอกขึ้นมาจริง ๆ ทั้ง 2 ข้าง แต่ก็ให้ติดตามผลอีก 1.5 เดือน ค่ะ เพราะคุณหมอหวังว่ามันจะยุบไปเองอีก แต่ตลอดเวลา 1.5 เดือน แม่เฝ้าสังเกตุ ดูเหมือนว่า หน้าอกจะไม่ยุบลงและยังเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อย ๆ ไปหาหมอมาครั้งล่าสุด ตอนนี้น้องอายุ 8.3 ปี สูง 135 หนัก 30.5 ค่ะ คุณหมอบอกว่าจริงๆ น้องก็ตามเกณฑ์ แต่ก็เร็วไปนิดนึง คุณหมอถามว่า แม่จะฉีดยาไหม ต้องฉีดเดือนละ 1 เข็ม เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ค่าใช้จ่ายต่อเข็มประมาณ 6,000 บาท ถ้าฉีด หมอจะให้ตรวจค่าฮอร์โมน และ เอ็กซเรย์กระดูกอีกครั้งค่ะ แต่ถ้าไม่ฉีด ก็ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด เพราะช่วยประหยัด ค่าใช้จ่าย (การเจาะเลือดครั้งนึงประมาณ 6-7 พันบาท) รบกวนขอคำแนะนำ ค่ะ
1.ถ้าไม่ฉีดยา จะทำให้น้องมีโอกาสสูงได้น้อยลง เราจะคำนวณได้ยังไงค่ะว่าน้องจะสูงได้ประมาณเท่าไร
2.ถ้าฉีดยา
2.1) มีผลข้างเคียงอะไรกับสุขภาพของน้องในอนาคตไหมคะ
2.2) การฉีดยาช่วยอะไรได้บ้างค่ะ
2.3) การฉีดยาจะทำให้น้องชะลอการมีประจำเดือน ทำให้มีโอกาสสูงขึ้นได้เรื่อย ๆ จนกว่าประจำเดือนจะมาถูกต้องไหมคะ
2.4) เมื่อหยุดฉีดยาประจำเดือนจะมาใช่ไหมคะ
2.5) ระหว่างรอการเจาะเลือด และ ฉีดยาชะลอการเป็นสาวก่อนวัย มีสิทธิ์ที่น้องจะมีประจำเดือนมาไหมค่ะ เกรงว่าจะแก้ไขไม่ทันค่ะ
เราจะรู้ได้ไงค่ะว่า หลังจากน้องมีหน้าอกแล้ว ประจำเดือนจะมาเมื่อไร
2.ุ6) แม่จำเป็นต้องพาไปหาหมอคนที่ 2 เพื่อขอ 2nd opinion ไหมคะ
3.สามารถใช้สิทธิ์บัตรทอง ได้ไหมคะ พอดีถามคุณหมอ คุณหมอบอกว่าน้องเริ่มมาเป็นไตอีกครั้งหลังจาก 8 ปี ซึ่งประกันไม่คุ้มครองค่ะ
4.การใช้สิทธิ์บัตรทองรักษา กับการจ่ายเงินรักษาเอง ยาฉีดเป็นชนิดเดียวกันไหมคะ

ขอบคุณล่วงหน้ามาก ๆ ค่ะ สำหรับทุกคำแนะนำ