#ขาอ่อนป้ายกาว
รีวิวรองเท้าเมพสุดล้ำแห่งยุคจากแดนอาทิตย์อุทัย!!!
Shimano RC9 (S-PHYRE)
ตามธรรมเนียมรีวิวของเวปนี้เลย ขอฝากเพจกันหน่อย 55555
www.facebook.com/kwanjaikhaorn ขวัญใจขาอ่อน
หลังจากที่บอกไว้ตั้งแต่เริ่มทำเพจใหม่ๆแล้วว่าจะมารีวิว วันนี้ถึงเวลาอันสมควรละครับที่คู่บ่าวสาวจะได้...เย้ย ไม่ใช่!!!
ที่ผมจะมาป้ายกาวกันให้อ่าน ว่ารองเท้าคู่นี้มันมีดียังไง ทำไมหลายๆคนถึงแนะนำกันจัง
ท้าวความกันก่อน รองเท้ารุ่นนี้เริ่มขายเมื่อปีที่แล้ว(2016)ได้เข้ามาแทนที่รองเท้ารุ่นท้อปของเดิมอย่าง R-321 ซึ่ง RC9เนี่ยเปลี่ยนไปแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยคือ
1.ไม่มีสายรัดแบบตีนตุ๊กแก แฮ่!!!
2.ใช้ระบบล้อคจากยี่ห้อ BOAทำการเพิ่มความกระชับโดยการชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ
ยย...หมุนเบาๆพอ5555
3.พื้นรองเท้า(insole)ที่ติดมากับร้องเท้ารุ่นนี้อบไม่ได้นาจา แต่มาพร้อมกับแผ่นพลาสติกเล็กๆเท่าซูชิ5บาทถึง2แบบ สำหรับคนอุ้งเท้าเว้ามากกว่าปกติ
จริงๆรายละเอียดที่ต่างกันก็มีอีกเยอะ แต่ขี้เกียจพิมพ์5555 อยากรู้ลองGoogleเป็นภาษาอังกฤษเอาเอง มีบอกไว้เพียบ
อ้อ...อีกอย่างนึงที่พิเศษมากๆเลยก็คือถุงเท้าที่แถมมาพร้อมกับรองเท้า ซึ่งทางShimanoโม้ไว้ว่าช่วยให้การไหลเวียนของอากาศบริเวณนั้นดีขึ้น
แต่ที่ไม่โม้คือถุงเท้ารุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับ RC9โดยเฉพาะ โดยที่ตำแหน่งต่างๆของหลังเท้าจะรับกับลิ้นรองเท้าตรงนั้นพอดี ทำให้สติฟสุดๆ(เค้าว่ามางี้นะ ผมใส่แล้วก็แยกไม่ออก)
เข้าเรื่องกันเลยละกัน ก่อนที่จะน้ำลายท่วมปากไปมากกว่านี้ สาเหตุหลักๆที่ทำให้ผมซื้อRC9มาใช้เนี่ย ไม่ได้เพราะตัวผมอยากได้แต่แรกหรอกนะ เพราะRC7ที่ใช้อยู่เดิมมันก็ดีอยู่แล้ว
แต่คุณแฟนดันอยากได้(เป็นการเหนี่ยวไกความอยากได้ขั้นที่1) ผมเลยลองหาร้านที่มีRC9ขาย ปรากฎว่าร้านแถวบ้านดันมี จากนั้นเลยลองพาไปดูเล่นๆผมก็ไม่ได้อะไรไปหยิบๆมาจับดูเห็นมันสวยดี
ลองถามคนขายว่ามีSize 44มั้ย(sizeที่ผมใส่) คนขายบอกว่าก็คู่ที่จับอยู่นั่นแหละ ผมก็แบบ อ้าวหรอ... แล้วก็ซื้อของกลับบ้านตามปกติ(ยังไม่เสียตังค์5555)
จากนั้น2-3ถัดมา ผมก็เล่นเน็ตเล่นๆ ลองทักแบบกระซิบเบาๆไปถามพี่ๆในทีม2-3คนที่เค้าใช้อยู่ ว่ารุ่นนี้เป็นยังไงบ้าง ทุกคนบอกเหมือนกันหมดว่าดีมาก ใส่สบายมาก สติฟมาก
ไอ้สัสสส!!!! เมาดิวะ!!!! 555555555555(โดนป้ายกาวเต็มๆ)
ตกเย็นเลิกงานกำตังค์ไปหมื่นนิดๆบึ่งรถไปร้านจักรยานที่ไปดูมาเมื่อ2-3วันก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อรองราคากับเจ๊ภรรยาเจ้าของร้าน ได้ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่หมื่นถ้วนรวมคลีทก็ถอยมาตามระเบียบ(หมดตูดกันเลยทีเดียว)
จบพาร์ทสาเหตุที่ซื้อ 555555
มาต่อกันที่ประสิทธิภาพกันจริงๆละนะ(ละที่ผ่านมาบอกว่าเข้าเรื่องแล้ว ยังไม่ได้เริ่มอีกหรอ???)หลังจากตั้งคลีทแบบคร่าวๆแต่มีหลักการเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาซั่มกับบันได
สัมผัสแรก...
ไอ้สัสหลวม 555555
เพราะยังไม่ชินกับระบบการรัด2จุดหมุน ก้มตัวลงมาปรับนิดๆหน่อย ก็โอเค กระชับละ ลุยต่อได้(ปั่นบนเทรนเนอร์)ลองควงขาเบาๆเออว่ะ รู้สึกได้ว่ามันโล่งเท้าดีวุ้ยเพราะรองเท้าเดิมผมมันเป็นหน้าปกติ
แต่ตัวนี้มันเป็นตัวหน้ากว้าง(แต่ก็ไม่รู้ว่ากว้างกว่าปกติเท่าไหร่ ในสเป็คก็ไม่มีบอกไว้ บอกแต่ความยาว น่าจับมาตีก้นจริงๆ)ก็ควงขาเบาๆสบายๆไปเรื่อยๆ ลองสังเกตุอาการว่ามีอะไรเปลี่ยนไปจากRC7มั่ง
ผลปรากฎว่า แทบไม่ต่างกัน!!! ไอ้เชี่ย ใจแม่มเริ่มแป้วละสัสแพงกว่าตั้งเท้าตัว จะไม่ดีกว่าจริงๆหรอวะ บอกตัวเองเลิกคิดมาก ปั่นๆไปเหอะ บนเทรนเนอร์มันยังไม่ได้ปั่นหนักมาก ออกถนนค่อยว่ากัน
#ปั่นเบา
ถึงวันออกถนนจริง มาเลยครับ ตื่นเช้ามาสนามฟ้า(ตอนนั้นยังไม่ปิดปรับปรุงเพื่อมุ่งสู่สนามที่ดีกว่า)แต่งตัวใส่สายคาดหน้าอก ทาครีมกันแดดพร้อม ตี้ดsnapละบรรเลงมนต์เพลงร้อยรอบขากันเลยทีเดียว
ผลคือ ฟีลกู้ดมากๆ พอออกถนนจริง มันเริ่มแตกต่างแฮะ มีความรู้สึกมั่นแบนๆแข็งๆมั่นคง แต่ไม่กระด้าง ตัวล้อคทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม(RC7ก็ดีอยู่แล้ว)ปั่นๆไปคลายตัวน้อยมากๆถ้าเทียบกับRC7
ปั่นเรื่อยๆออกแรงกดเบาๆ เน้นรอบขาสูงๆ สำหรับผมๆพบว่า นี่แหละ รองเท้าที่ดีได้ทำหน้าที่มันอย่างสมบูรณ์แล้ว ใส่สบายเพราะพื้นที่เหลือเยอะ แข็ง สติฟ แต่ไม่กระด้างเท้าจนเจ็บหรือสร้างความรำคาญ
#จังหวะกระชากหรือยกSprint
พระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจังหวะแบบนี้แหละ ที่ RC9ให้ความรู้สึกดีกว่า RC7ชัดเจน คือ กระทืบปุ๊บ บันไดหมุนปั๊บ ขาจานข้างขวากวาดไปตามเข็มนาฬิกาอย่างรวดเร็วตามแรงกระทืบ
ต้องบอกว่า No Delay จริงๆ
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับพื้นFull Carbon Stiffness index 12 เลย เพราะว่ามันแข็งดีมากๆ มีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่กระชากแรงมันลงไปที่บันไดส่งผลให้ขาจานหมุนเต็มๆ
เทียบกับคู่เก่าซึ่งผมคิดว่าของเดิมก็ดีอยู่แล้ว ของใหม่นี่ดีกว่าขนาดที่ว่าลิงกังยังแยกออก แต่ผมไม่เคยเทียบกับยี่ห้ออื่นที่โด่งดังด้านความแข็งเช่น Bontนะครับ แต่เทียบกับSpecialized S-Works 2015ที่เคยใช้ต้องบอกเลยว่าพื้นแข็งไม่ต่างกันจริงๆ
#ขึ้นเขา
ที่ผ่านมาหลังจากจบงานดอยอินทนนท์ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ไปไต่เขาเลย นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ได้เพิ่งมานั่งพิมพ์นี่แหละ เพราะว่ารอข้อมูลส่วนนี้ก่อน5555
แน่นอนว่ารองเท้าที่พื้นแข็งๆอย่างนี้ ตามทฤษฎีมันก็ต้องขึ้นเขาดีเป็นธรรมดา แล้วมันก็ดีจริงๆอย่างที่ผมคิดไว้แต่แรก กดๆๆๆ บันไดก็หมุนๆๆๆ คล้ายๆจังหวะกระชาก แต่ต่างกันตรงที่ใช้แรงกับรอบขาที่น้อยกว่า
เพราะงั้น เมื่อขึ้นเขานานๆออกแรงกดเยอะๆ มันก็จะเกิดแรงที่บิดไปบิดมาอยู่ที่ตัวรองเท้านั่นแหละ ทำให้BOAค่อยๆคลายตัวออกทีละนิด แต่ไม่ได้คลายจนหลวมนะ นักปั่นก็แค่ก้มลงไปบิดๆก็จบแล้ว สบายๆ
ที่ชอบมากๆก็คือตรงบริเวณส้นเท้าวัสดุมันจะสากๆหน่อย ทำให้จังหวะดึงขาขึ้นมาข้อเท้ามันค่อนข้างนิ่ง น่าจะช่วยเซฟแรงไปได้เยอะพอสมควรเมื่อต้องปั่นไต่เขา ไต่ดอยนานๆ
สรุปเลยละกัน
#ข้อดี
สวย สติฟ เบาสบาย เท้ากว้างใส่สบาย รัดแน่นกระชับ และให้ความรู้สึกว่าเท้าเป็นหนึ่งเดียวกับจักรยาน
#ข้อที่ไม่ชอบ
ราคาแพง ถ้าเทียบกับตัวรองอย่าง RC7
#ช่วงป้ายกาว
ถ้าใครมองหารองเท้าตัวท้อปเน้นใส่สบายแล้วมีประสิทธิภาพสมราคาก็จิ้มตัวนี้เข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เลยครับ คุ้มแน่นอน
แต่สำหรับผู้ที่คำนึงถึงความคุ้มค่าต่อเม็ดเงินเป็นหลักผมมองว่า RC7ก็เพียงพอ(ราคา RC9คู่เดียวซื้อ RC7ได้สองคู่)
นั่งพิมพ์ไปเปิดแอร์เย็นๆชักจะง่วง ใครมีอะไรที่สงสัยหรือว่าอยากถามอะไรเพิ่มเติมก็ทักทายมาได้เลยนะครับ ผมตอบทุกคนอยู่แล้ว(เพราะคนตามไม่เยอะมาก ดูแลทั่วถึง55555)
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ ถูกบ้างผิดบ้างคละๆกันไป มีอะไรอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็เสนอมานะครับจะได้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
สวัสดีครับ
ขวัญใจขาอ่อน
[CR] รีวิวรองเท้า Shimano RC9 (S-PHYRE)
รีวิวรองเท้าเมพสุดล้ำแห่งยุคจากแดนอาทิตย์อุทัย!!!
Shimano RC9 (S-PHYRE)
ตามธรรมเนียมรีวิวของเวปนี้เลย ขอฝากเพจกันหน่อย 55555 www.facebook.com/kwanjaikhaorn ขวัญใจขาอ่อน
หลังจากที่บอกไว้ตั้งแต่เริ่มทำเพจใหม่ๆแล้วว่าจะมารีวิว วันนี้ถึงเวลาอันสมควรละครับที่คู่บ่าวสาวจะได้...เย้ย ไม่ใช่!!!
ที่ผมจะมาป้ายกาวกันให้อ่าน ว่ารองเท้าคู่นี้มันมีดียังไง ทำไมหลายๆคนถึงแนะนำกันจัง
ท้าวความกันก่อน รองเท้ารุ่นนี้เริ่มขายเมื่อปีที่แล้ว(2016)ได้เข้ามาแทนที่รองเท้ารุ่นท้อปของเดิมอย่าง R-321 ซึ่ง RC9เนี่ยเปลี่ยนไปแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยคือ
1.ไม่มีสายรัดแบบตีนตุ๊กแก แฮ่!!!
2.ใช้ระบบล้อคจากยี่ห้อ BOAทำการเพิ่มความกระชับโดยการชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ ยย...หมุนเบาๆพอ5555
3.พื้นรองเท้า(insole)ที่ติดมากับร้องเท้ารุ่นนี้อบไม่ได้นาจา แต่มาพร้อมกับแผ่นพลาสติกเล็กๆเท่าซูชิ5บาทถึง2แบบ สำหรับคนอุ้งเท้าเว้ามากกว่าปกติ
จริงๆรายละเอียดที่ต่างกันก็มีอีกเยอะ แต่ขี้เกียจพิมพ์5555 อยากรู้ลองGoogleเป็นภาษาอังกฤษเอาเอง มีบอกไว้เพียบ
อ้อ...อีกอย่างนึงที่พิเศษมากๆเลยก็คือถุงเท้าที่แถมมาพร้อมกับรองเท้า ซึ่งทางShimanoโม้ไว้ว่าช่วยให้การไหลเวียนของอากาศบริเวณนั้นดีขึ้น
แต่ที่ไม่โม้คือถุงเท้ารุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับ RC9โดยเฉพาะ โดยที่ตำแหน่งต่างๆของหลังเท้าจะรับกับลิ้นรองเท้าตรงนั้นพอดี ทำให้สติฟสุดๆ(เค้าว่ามางี้นะ ผมใส่แล้วก็แยกไม่ออก)
เข้าเรื่องกันเลยละกัน ก่อนที่จะน้ำลายท่วมปากไปมากกว่านี้ สาเหตุหลักๆที่ทำให้ผมซื้อRC9มาใช้เนี่ย ไม่ได้เพราะตัวผมอยากได้แต่แรกหรอกนะ เพราะRC7ที่ใช้อยู่เดิมมันก็ดีอยู่แล้ว
แต่คุณแฟนดันอยากได้(เป็นการเหนี่ยวไกความอยากได้ขั้นที่1) ผมเลยลองหาร้านที่มีRC9ขาย ปรากฎว่าร้านแถวบ้านดันมี จากนั้นเลยลองพาไปดูเล่นๆผมก็ไม่ได้อะไรไปหยิบๆมาจับดูเห็นมันสวยดี
ลองถามคนขายว่ามีSize 44มั้ย(sizeที่ผมใส่) คนขายบอกว่าก็คู่ที่จับอยู่นั่นแหละ ผมก็แบบ อ้าวหรอ... แล้วก็ซื้อของกลับบ้านตามปกติ(ยังไม่เสียตังค์5555)
จากนั้น2-3ถัดมา ผมก็เล่นเน็ตเล่นๆ ลองทักแบบกระซิบเบาๆไปถามพี่ๆในทีม2-3คนที่เค้าใช้อยู่ ว่ารุ่นนี้เป็นยังไงบ้าง ทุกคนบอกเหมือนกันหมดว่าดีมาก ใส่สบายมาก สติฟมาก
ไอ้สัสสส!!!! เมาดิวะ!!!! 555555555555(โดนป้ายกาวเต็มๆ)
ตกเย็นเลิกงานกำตังค์ไปหมื่นนิดๆบึ่งรถไปร้านจักรยานที่ไปดูมาเมื่อ2-3วันก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อรองราคากับเจ๊ภรรยาเจ้าของร้าน ได้ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่หมื่นถ้วนรวมคลีทก็ถอยมาตามระเบียบ(หมดตูดกันเลยทีเดียว)
จบพาร์ทสาเหตุที่ซื้อ 555555
มาต่อกันที่ประสิทธิภาพกันจริงๆละนะ(ละที่ผ่านมาบอกว่าเข้าเรื่องแล้ว ยังไม่ได้เริ่มอีกหรอ???)หลังจากตั้งคลีทแบบคร่าวๆแต่มีหลักการเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาซั่มกับบันได
สัมผัสแรก...
ไอ้สัสหลวม 555555
เพราะยังไม่ชินกับระบบการรัด2จุดหมุน ก้มตัวลงมาปรับนิดๆหน่อย ก็โอเค กระชับละ ลุยต่อได้(ปั่นบนเทรนเนอร์)ลองควงขาเบาๆเออว่ะ รู้สึกได้ว่ามันโล่งเท้าดีวุ้ยเพราะรองเท้าเดิมผมมันเป็นหน้าปกติ
แต่ตัวนี้มันเป็นตัวหน้ากว้าง(แต่ก็ไม่รู้ว่ากว้างกว่าปกติเท่าไหร่ ในสเป็คก็ไม่มีบอกไว้ บอกแต่ความยาว น่าจับมาตีก้นจริงๆ)ก็ควงขาเบาๆสบายๆไปเรื่อยๆ ลองสังเกตุอาการว่ามีอะไรเปลี่ยนไปจากRC7มั่ง
ผลปรากฎว่า แทบไม่ต่างกัน!!! ไอ้เชี่ย ใจแม่มเริ่มแป้วละสัสแพงกว่าตั้งเท้าตัว จะไม่ดีกว่าจริงๆหรอวะ บอกตัวเองเลิกคิดมาก ปั่นๆไปเหอะ บนเทรนเนอร์มันยังไม่ได้ปั่นหนักมาก ออกถนนค่อยว่ากัน
#ปั่นเบา
ถึงวันออกถนนจริง มาเลยครับ ตื่นเช้ามาสนามฟ้า(ตอนนั้นยังไม่ปิดปรับปรุงเพื่อมุ่งสู่สนามที่ดีกว่า)แต่งตัวใส่สายคาดหน้าอก ทาครีมกันแดดพร้อม ตี้ดsnapละบรรเลงมนต์เพลงร้อยรอบขากันเลยทีเดียว
ผลคือ ฟีลกู้ดมากๆ พอออกถนนจริง มันเริ่มแตกต่างแฮะ มีความรู้สึกมั่นแบนๆแข็งๆมั่นคง แต่ไม่กระด้าง ตัวล้อคทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม(RC7ก็ดีอยู่แล้ว)ปั่นๆไปคลายตัวน้อยมากๆถ้าเทียบกับRC7
ปั่นเรื่อยๆออกแรงกดเบาๆ เน้นรอบขาสูงๆ สำหรับผมๆพบว่า นี่แหละ รองเท้าที่ดีได้ทำหน้าที่มันอย่างสมบูรณ์แล้ว ใส่สบายเพราะพื้นที่เหลือเยอะ แข็ง สติฟ แต่ไม่กระด้างเท้าจนเจ็บหรือสร้างความรำคาญ
#จังหวะกระชากหรือยกSprint
พระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจังหวะแบบนี้แหละ ที่ RC9ให้ความรู้สึกดีกว่า RC7ชัดเจน คือ กระทืบปุ๊บ บันไดหมุนปั๊บ ขาจานข้างขวากวาดไปตามเข็มนาฬิกาอย่างรวดเร็วตามแรงกระทืบ
ต้องบอกว่า No Delay จริงๆ
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับพื้นFull Carbon Stiffness index 12 เลย เพราะว่ามันแข็งดีมากๆ มีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่กระชากแรงมันลงไปที่บันไดส่งผลให้ขาจานหมุนเต็มๆ
เทียบกับคู่เก่าซึ่งผมคิดว่าของเดิมก็ดีอยู่แล้ว ของใหม่นี่ดีกว่าขนาดที่ว่าลิงกังยังแยกออก แต่ผมไม่เคยเทียบกับยี่ห้ออื่นที่โด่งดังด้านความแข็งเช่น Bontนะครับ แต่เทียบกับSpecialized S-Works 2015ที่เคยใช้ต้องบอกเลยว่าพื้นแข็งไม่ต่างกันจริงๆ
#ขึ้นเขา
ที่ผ่านมาหลังจากจบงานดอยอินทนนท์ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ไปไต่เขาเลย นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ได้เพิ่งมานั่งพิมพ์นี่แหละ เพราะว่ารอข้อมูลส่วนนี้ก่อน5555
แน่นอนว่ารองเท้าที่พื้นแข็งๆอย่างนี้ ตามทฤษฎีมันก็ต้องขึ้นเขาดีเป็นธรรมดา แล้วมันก็ดีจริงๆอย่างที่ผมคิดไว้แต่แรก กดๆๆๆ บันไดก็หมุนๆๆๆ คล้ายๆจังหวะกระชาก แต่ต่างกันตรงที่ใช้แรงกับรอบขาที่น้อยกว่า
เพราะงั้น เมื่อขึ้นเขานานๆออกแรงกดเยอะๆ มันก็จะเกิดแรงที่บิดไปบิดมาอยู่ที่ตัวรองเท้านั่นแหละ ทำให้BOAค่อยๆคลายตัวออกทีละนิด แต่ไม่ได้คลายจนหลวมนะ นักปั่นก็แค่ก้มลงไปบิดๆก็จบแล้ว สบายๆ
ที่ชอบมากๆก็คือตรงบริเวณส้นเท้าวัสดุมันจะสากๆหน่อย ทำให้จังหวะดึงขาขึ้นมาข้อเท้ามันค่อนข้างนิ่ง น่าจะช่วยเซฟแรงไปได้เยอะพอสมควรเมื่อต้องปั่นไต่เขา ไต่ดอยนานๆ
สรุปเลยละกัน
#ข้อดี
สวย สติฟ เบาสบาย เท้ากว้างใส่สบาย รัดแน่นกระชับ และให้ความรู้สึกว่าเท้าเป็นหนึ่งเดียวกับจักรยาน
#ข้อที่ไม่ชอบ
ราคาแพง ถ้าเทียบกับตัวรองอย่าง RC7
#ช่วงป้ายกาว
ถ้าใครมองหารองเท้าตัวท้อปเน้นใส่สบายแล้วมีประสิทธิภาพสมราคาก็จิ้มตัวนี้เข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เลยครับ คุ้มแน่นอน
แต่สำหรับผู้ที่คำนึงถึงความคุ้มค่าต่อเม็ดเงินเป็นหลักผมมองว่า RC7ก็เพียงพอ(ราคา RC9คู่เดียวซื้อ RC7ได้สองคู่)
นั่งพิมพ์ไปเปิดแอร์เย็นๆชักจะง่วง ใครมีอะไรที่สงสัยหรือว่าอยากถามอะไรเพิ่มเติมก็ทักทายมาได้เลยนะครับ ผมตอบทุกคนอยู่แล้ว(เพราะคนตามไม่เยอะมาก ดูแลทั่วถึง55555)
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ ถูกบ้างผิดบ้างคละๆกันไป มีอะไรอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็เสนอมานะครับจะได้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
สวัสดีครับ
ขวัญใจขาอ่อน