เราเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มใช้ชีวิต เพิ่งจบมามีงานทำ จากที่โลกสวยมาเจอโลกที่แสนโหดร้าย อยากจะมาแชร์ข้อคิด สิ่งที่ตกตะกอนระหว่างใช้ชีวิต เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นในการใช้ชีวิต
1. ตอบแทนดูแลพ่อแม่ พ่อแม่ท่านทำงานหนัก คอยดูแลเรามาตลอด มันถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับไปดูแลพ่อแม่ครอบครัวก่อนจะสายไป มีหลายคนต้องไปทำงานในที่ห่างไกล นานๆครั้งกลับบ้านที หลายคนพยามยามสร้างชีวิตคู่ ตามหาความรัก ละเลยรักแท้ที่อยู่ที่บ้าน มีข้อคิดอยากจะฝากไว้ อย่ามัวแต่สร้างครอบครัว จนลืมครอบครัวที่สร้างเรามา
2. โซเชี่ยลมีเดีย เถียงไม่ได้เลยว่ายุคสมัยนี้ โซเชียลมีเดียเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน การใช้มันก็เป็นสำคัญ เพราะว่ามันเป็นดาบสองคม ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง คิดก่อนโพสทุกครั้ง อย่าบ่านเรื่องหัวหน้า เจ้านาย ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานในนั้น ถึงแม้มันจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวก็ตาม
3. ชีวิตมักมีหลายทางเลือกเสมอ ทุกช่วงชีวิตที่มีให้เราเดิน ไม่ได้มีทางเลือกเดียว ในช่วงชีวิตที่ตกต่ำที่สุด ก็ยังมีทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้นเสมอ อย่าไปคิดเสียใจว่าทำไมตอนนั้นเราเลือกแบบนั้น แทนที่จะเลือกแบบนี้ ณ เหตุการณ์สภาพแวดล้อมในตอนนั้นเราตัดสินใจดีที่สุดแล้วแหละ
4. การทำงาน จะเจอสังคมใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน จะเจอคนเห็นแก่ตัวจำนวนมากขึ้น จนคิดว่าแบบนี้ก็ได้หรอ สังคมที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง คบกันเพื่อประโยชน์แบบที่เคยเรียนสมัยประถมเรียกว่ากาฝาก (+,-) จนต้องกลับมานั่งคิดว่าทำไมถึงโดนเอาเปรียบขนาดนี้ จนสุดท้ายปลงละคิดซะว่าทำบุญให้เพื่อนร่วมโลก ปิดทองหลังพระต่อไป อีกอันเรื่องเพื่อนร่วมงาน ให้คิดว่าทุกคนศักศรีเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อน แม่บ้าน กระทั่งภารโรง เจอกันก็ยิ้มทักทาย สร้างมิตรดีกว่าศัตรู
5. การใช้ชีวิตไม่ได้มีแค่มุมเดียว เราอาจจะใช้ชีวิตเป็นเด็กเรียนขยันเรียน แต่เพื่อนหลายคนกลับใช้ชีวิตเที่ยวเล่นสนุกสนาน หัดออกจากกรอบและเปิดโลกใหม่ ลองไปสัมผัสสังคมแบบนั้นบ้าง(ลองนะ ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบนั้นทุกวัน) ใครหลายคนอาจใช้ชีวิตคุ้มกว่าเรา อย่ามองคนที่ใช้ชีวิตต่างออกไปเป็นคนไม่ดี
6. วางแผนให้มาก ด้นสดให้เป็น การใช้ชีวิตทุกวันให้เหมือนกับที่แผนวางไว้ แต่ไม่จำเป็นเสมอไป หากเมื่อไรเกิดผิดแผน เราก็จำเป็นต้องแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้
7. กฎแห่งกรรม อย่างที่บอกในข้อก่อนๆ ใครทำไรไม่ดี อย่าไปสนใจ ธรรมชาติจะลงโทษมันเอง
8. การเลือกคู่ อันนี้ยาก แล้วแต่สเปค แต่ควรเลือกจากภายในไม่ใช่ภายนอก เลือกคนที่สามารถต่อยอดเราได้ ไม่ใช่คบคนที่พาแต่ไปล่มจม เศรษฐกิจที่ข้าวยากหมากแพง ไม่ได้บอกให้หาคนรวยนะ แต่ให้เลือกคนที่พร้อมสู้ชีวิตและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
9. มีงานประจำและควรทำอาชีพเสริม เดียวนี้การมีรายได้ทางเดียวเป็นสิ่งที่คิดผิด คิดว่ามีงานมั่นคงจะมีรายได้ทางเดียวก็พอไม่ได้ ควรจะต้องมีรายได้หลายๆทาง ล้มลุกคลุกคลานลองทำธุรกิจใหม่ๆ ขายของนิดหน่อย เราจะได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น มีเงินแล้วไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ควรแบ่งส่วนเงินเก็บและต่อยอดมูลค่าเงินนั้น ไม่ใช่แค่ว่าจะฝากประจำหรือเอาฝังดิน
10. ลงทุนสุขภาพ หัดลงทุนสุขภาพตั้งแต่อายุน้อยโดยไม่ใช่การลงทุนในประกันนะ แต่คือการออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา อย่าหักโหมทำงานหนักไป เพราะตอนแก่มาจะรู้ว่ามัวแต่ทำงานหาเงิน สุดท้ายจะรู้ว่าสุขภาพที่ดีเงินซื้อไม่ได้
One life, live it
ตกตะกอนตอนใช้ชีวิต
1. ตอบแทนดูแลพ่อแม่ พ่อแม่ท่านทำงานหนัก คอยดูแลเรามาตลอด มันถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับไปดูแลพ่อแม่ครอบครัวก่อนจะสายไป มีหลายคนต้องไปทำงานในที่ห่างไกล นานๆครั้งกลับบ้านที หลายคนพยามยามสร้างชีวิตคู่ ตามหาความรัก ละเลยรักแท้ที่อยู่ที่บ้าน มีข้อคิดอยากจะฝากไว้ อย่ามัวแต่สร้างครอบครัว จนลืมครอบครัวที่สร้างเรามา
2. โซเชี่ยลมีเดีย เถียงไม่ได้เลยว่ายุคสมัยนี้ โซเชียลมีเดียเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน การใช้มันก็เป็นสำคัญ เพราะว่ามันเป็นดาบสองคม ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง คิดก่อนโพสทุกครั้ง อย่าบ่านเรื่องหัวหน้า เจ้านาย ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานในนั้น ถึงแม้มันจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวก็ตาม
3. ชีวิตมักมีหลายทางเลือกเสมอ ทุกช่วงชีวิตที่มีให้เราเดิน ไม่ได้มีทางเลือกเดียว ในช่วงชีวิตที่ตกต่ำที่สุด ก็ยังมีทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้นเสมอ อย่าไปคิดเสียใจว่าทำไมตอนนั้นเราเลือกแบบนั้น แทนที่จะเลือกแบบนี้ ณ เหตุการณ์สภาพแวดล้อมในตอนนั้นเราตัดสินใจดีที่สุดแล้วแหละ
4. การทำงาน จะเจอสังคมใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน จะเจอคนเห็นแก่ตัวจำนวนมากขึ้น จนคิดว่าแบบนี้ก็ได้หรอ สังคมที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง คบกันเพื่อประโยชน์แบบที่เคยเรียนสมัยประถมเรียกว่ากาฝาก (+,-) จนต้องกลับมานั่งคิดว่าทำไมถึงโดนเอาเปรียบขนาดนี้ จนสุดท้ายปลงละคิดซะว่าทำบุญให้เพื่อนร่วมโลก ปิดทองหลังพระต่อไป อีกอันเรื่องเพื่อนร่วมงาน ให้คิดว่าทุกคนศักศรีเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อน แม่บ้าน กระทั่งภารโรง เจอกันก็ยิ้มทักทาย สร้างมิตรดีกว่าศัตรู
5. การใช้ชีวิตไม่ได้มีแค่มุมเดียว เราอาจจะใช้ชีวิตเป็นเด็กเรียนขยันเรียน แต่เพื่อนหลายคนกลับใช้ชีวิตเที่ยวเล่นสนุกสนาน หัดออกจากกรอบและเปิดโลกใหม่ ลองไปสัมผัสสังคมแบบนั้นบ้าง(ลองนะ ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบนั้นทุกวัน) ใครหลายคนอาจใช้ชีวิตคุ้มกว่าเรา อย่ามองคนที่ใช้ชีวิตต่างออกไปเป็นคนไม่ดี
6. วางแผนให้มาก ด้นสดให้เป็น การใช้ชีวิตทุกวันให้เหมือนกับที่แผนวางไว้ แต่ไม่จำเป็นเสมอไป หากเมื่อไรเกิดผิดแผน เราก็จำเป็นต้องแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้
7. กฎแห่งกรรม อย่างที่บอกในข้อก่อนๆ ใครทำไรไม่ดี อย่าไปสนใจ ธรรมชาติจะลงโทษมันเอง
8. การเลือกคู่ อันนี้ยาก แล้วแต่สเปค แต่ควรเลือกจากภายในไม่ใช่ภายนอก เลือกคนที่สามารถต่อยอดเราได้ ไม่ใช่คบคนที่พาแต่ไปล่มจม เศรษฐกิจที่ข้าวยากหมากแพง ไม่ได้บอกให้หาคนรวยนะ แต่ให้เลือกคนที่พร้อมสู้ชีวิตและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
9. มีงานประจำและควรทำอาชีพเสริม เดียวนี้การมีรายได้ทางเดียวเป็นสิ่งที่คิดผิด คิดว่ามีงานมั่นคงจะมีรายได้ทางเดียวก็พอไม่ได้ ควรจะต้องมีรายได้หลายๆทาง ล้มลุกคลุกคลานลองทำธุรกิจใหม่ๆ ขายของนิดหน่อย เราจะได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น มีเงินแล้วไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ควรแบ่งส่วนเงินเก็บและต่อยอดมูลค่าเงินนั้น ไม่ใช่แค่ว่าจะฝากประจำหรือเอาฝังดิน
10. ลงทุนสุขภาพ หัดลงทุนสุขภาพตั้งแต่อายุน้อยโดยไม่ใช่การลงทุนในประกันนะ แต่คือการออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา อย่าหักโหมทำงานหนักไป เพราะตอนแก่มาจะรู้ว่ามัวแต่ทำงานหาเงิน สุดท้ายจะรู้ว่าสุขภาพที่ดีเงินซื้อไม่ได้
One life, live it