หวัดดีครับ ทุกท่าน ครั้งนี้ ผมขอ share วิธีการแก้ปัญหา พัดลมหมุนไม่ไหว เนื่องด้วยความฝืดแกนใบพัดครับ
พัดลมตัวนี้ของผมใช้ใน shop (ชื่อ Shop เด็กสร้างบ้าน ไว้มีโอกาศ จะรีวิว บ้าน ทำเองคนเดียว มีผู้ช่วยคนนึงให้ดูครับ) มีฝุ่นเยอะมาก อายุใช้งานก็ไม่มาก สังเกตุว่า มันหมุน ช้าลงๆ เรื่อยๆทุกวัน จนเบอร์ 3 เหลือความแรงต่ำกว่าเบอร์ 1 อีก
ตอนนั้นเลยถอดใบพัดออกดู จับแกนจะทดลองหมุน มันร้อนมากๆ แถมยังฝืดสุดๆด้วย คงเพราะความฝืดตรงบูชแน่ๆ เลยเอาน้ำมันสเปรย์พ่นใส่ตรงบูช ก็หมุนดีขึ้นแค่สามวัน ก็ฝืดเหมือนเดิมอีก เลยตัดสินใจ รื้อออกมาละกัน ถึงตรงนี้ "รู้ว่าเสี่ยง (พัง) แต่คงต้องขอลอง" เครื่องมือระดับพื้นฐาน พอจะ DIY. หรือ งัดแงะ ได้ครับ
บางกรณี ก็มีบอกว่ามันไม่หมุน หรือหมุนช้าเพราะ C เสื่อม แต่ถ้า C เสื่อม ช่วยกระดิกใบมัน มันก็น่าจะหมุนต่อได้นะ แต่ของผม เพราะมันฝืดนะ ไม่ใช่เพราะ C เสื่อม(ผมคิดว่างั้นนะ)
พัดลมรุ่นนี้นะครับ ผมขอข้ามไปถึงขั้นตอนการแก้ปัญหาความฝืดเลยนะครับ เพราะจะเน้นตรงนี้ และมีแนวทางที่ว่า แก้ไขให้กลับมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่
ถอดคลัชและเฟืองส่ายหน้าออกมาก่อนครับ
ถอดแยกชิ้น ฝาประกับหลังขดลวดออกมา จะเห็นส่วนที่เพลาหมุนอยู่บนบูช มีรอยไหมสีดำๆน่าจะเป็นคราบไหม้ของสารหล่อลื่นคุณภาพต่ำ
เมื่อดึงเพลาออกมานิดนึง จะเห็นตรงบูชด้านติดใบพัด ก็เช่นกัน เป็นคราบรอยไหมสีดำ นี่คือสาเหตุ " ยิ่งร้อนยิ่งไหม้ ยิ่งไหม้ยิ่งฝืด ยิ่งฝืดยิ่งร้อน "
จัดการถอดสลักใบพัดออก หาน๊อตตัวเล็กเท่าสลัก ยาวสักหน่อย มาตอกออก(ถึงตรงนี้ไม่ได้ถ่ายภาพนะครับ มือเลอะแล้ว ทำคนเดียว) แล้วชักแกนเพลาออกมาจากขดลวดและฝาประกับหน้าขดลวดครับ เอาแกนเพลามาขัดคราบไหม้ออก โดยฉีกกระดาษทรายกว้างสัก 1 ซม. ยาว 4 ซม.ใช้เบอร์ละเอียดมากๆ ประมาณ 1500 ขึ้นนะครับ เอากระดาษทราย มาพันรอบรอยไหม้ หมุนๆขัดๆ ฉีดสเปรย์น้ำมันใส่บ้าง จนคราบไหม้หมดไปทั้งสองด้าน
ถึงคิวของการจัดการกะ บูช ( ที่จริงตอนซื้อ คนขายบอกผมว่ารุ่นนี้เป็น Bearing นะ แต่ทำไมมันคือบูชก็ไม่รู้ ) ถ้าไม่อยากลำบากมาก เอากระดาษทรายพันตะเกียบ แล้วปั่นหมุนให้กระดาษทรายเข้าไปขัดคราบไหม้ในรูบูชออกก็ได้นะครับ แต่ผมอยากรื้อให้ถึงเนื้อในมันเลย เลย "แงะ" มันออกมาครับ
งัดถ้วยอัดแหวนสปริงกดบูชออกมาครับ
จะเจอบูช และ ผ้าสักหลาด เอาไว้เก็บสารหล่อลื่นให้เพลาแบบ ชุบแว๊กมา เมื่อเพลาร้อน สารหล่อลื่นจะละลายลงมาเติมให้เพลาและบูช แต่มันจะเข้าไปสู่จุดที่เพลาต้องการหรือเปล่านั้นอีกเรื่องนึง แต่ตามทฤษฎี ว่าไว้งั้น ออกแบบมาดีจริงๆ สู้เอาเทียนไขไปยัดไว้บนบูชยังได้เรื่องซะกว่านะ
นี่ละ หน้าตา "บูช" ลูกกลมๆมีรู สามารถ "Alignment" เพลาได้ด้วยตัวเอง
เอากระดาษทรายมาพันตะเกียบไว้ สอดเข้าไปในรูบูช แล้วปั่นให้คราบไหม้สีดำๆ ออกให้หมด ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายภาพอีกเช่นเคย คงนึกภาพออกกันนะครับ
เบ้าบูช ที่จริงมันน่าจะใส่ Bearing ได้ไม่ยากนะ แต่มันคงทำให้ทุนในการสร้างสูงขึ้นอีกมากมาย เขาจึงใส่ลูกตุ้มมาให้ ถ้ามันพังอีกที ผมจะโมใส่แบริ่งให้ดูนะ
ประกอบบูชกลับ เอาผ้าสักหลาด ชุบจารบีไว้หน่อย ตาม "ทฤษฎี" ที่เขาได้ให้มา เอาแหวนสปริงกดบูชวางลงไป
ใส่ถ้วยกดแหวนเข้าไป ตรงนี้ผมกดอยู่พักใหญ่ กดฝั่งนี้ ปลิ้นออกฝั่งนู้น หลายรอบ ชักอารมณ์เสียละ เดินไปเอาขวดน้ำยาบ้วนปากมาทาบกะถ้วย เฮ๊ยมันพอดีเลยนี่หว่า >>> เทน้ำยาบ้วนปากใส่ขวดอื่นไว้ เอาปากขวดน้ำยาบ้วนปาก อัดถ้วยกดแหวนเข้าไป ตบตูดขวดเบาๆ ถ้วยกดแหวนก็เข้าที่ละ ทำอีกข้างนึงก็แบบนี้
ประกอบทุกอย่างกลับเข้าที่ โดยในรูบูช และแกนเพลาตรงที่ขัดรอยไหม้ออก ต้องทาจารบีไว้ด้วย
รวมไปถึง เฟืองส่ายหน้าทุกส่วน ทุกจุดหมุน ทาไว้ด้วยนะครับ คงอีกน๊านนน..นาน...ไส้ในพัดลมนี้ กว่าจะได้ออกมาเจอโลกภายนอกอีกครั้ง คงเดินเครื่องยาวไป
>>> เมื่อประกอบกลับหมดแล้ว ทดลองเดินเครื่องกัน แค่กดออกตัวเบอร์1 ก็หมุนวี๊ด.. แร๊งง... แรงแบบไม่เคนสัมผัสได้มาก่อนเลย ฮ่าๆๆ กดเบอร์ 2 -3 ซิ โอ้ววว..ลดๆๆด่วน ลมมันแรงไป ฮ่าๆๆ ดีใจกับความเสี่ยงที่มาถูกทาง ดีใจกับการได้ " คืนสภาพ " ของใช้ ให้กลับมาใช้งานได้ดีด้วยตัวเราเอง โดยมีแนวทางที่ไม่ค่อยเหมือนใคร คือ ไม่ถึงที่สุด ไม่ซื้ออะไหล่
เกือบเดือนผ่านมาแล้วครับ ยังใช้งานบ่อยๆแค่เบอร์ 2 ถ้าเบอร์ 3 มันแรงจนเสียงลมวิ๊วๆ รำคาญหู
ส่วนเรื่องถ้า C เสื่อม กดเปิดแล้วไม่หมุน แต่ถ้าช่วยเขี่ยใบให้มันกระดิกนิดนึง แล้วมันหมุนต่อได้ และทดสอบแล้ว ว่าแกนเพลาไม่ฝืด นั้นคือ อาการของ C เสื่อมครับ
ผมรู้ไม่มากครับ คร่าวๆแค่นี้ ผิดหรือถูก ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ยินดีรับฟังและนำไปปรับแก้เสมอครับ
จบ Share problem solving เท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ
problem solve : แก้ไขปัญหาพัดลมไม่หมุน หมุนช้ากว่าเดิม เพราะความฝืดที่แกนเพลาครับ
พัดลมตัวนี้ของผมใช้ใน shop (ชื่อ Shop เด็กสร้างบ้าน ไว้มีโอกาศ จะรีวิว บ้าน ทำเองคนเดียว มีผู้ช่วยคนนึงให้ดูครับ) มีฝุ่นเยอะมาก อายุใช้งานก็ไม่มาก สังเกตุว่า มันหมุน ช้าลงๆ เรื่อยๆทุกวัน จนเบอร์ 3 เหลือความแรงต่ำกว่าเบอร์ 1 อีก
ตอนนั้นเลยถอดใบพัดออกดู จับแกนจะทดลองหมุน มันร้อนมากๆ แถมยังฝืดสุดๆด้วย คงเพราะความฝืดตรงบูชแน่ๆ เลยเอาน้ำมันสเปรย์พ่นใส่ตรงบูช ก็หมุนดีขึ้นแค่สามวัน ก็ฝืดเหมือนเดิมอีก เลยตัดสินใจ รื้อออกมาละกัน ถึงตรงนี้ "รู้ว่าเสี่ยง (พัง) แต่คงต้องขอลอง" เครื่องมือระดับพื้นฐาน พอจะ DIY. หรือ งัดแงะ ได้ครับ
บางกรณี ก็มีบอกว่ามันไม่หมุน หรือหมุนช้าเพราะ C เสื่อม แต่ถ้า C เสื่อม ช่วยกระดิกใบมัน มันก็น่าจะหมุนต่อได้นะ แต่ของผม เพราะมันฝืดนะ ไม่ใช่เพราะ C เสื่อม(ผมคิดว่างั้นนะ)
พัดลมรุ่นนี้นะครับ ผมขอข้ามไปถึงขั้นตอนการแก้ปัญหาความฝืดเลยนะครับ เพราะจะเน้นตรงนี้ และมีแนวทางที่ว่า แก้ไขให้กลับมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่
ถอดคลัชและเฟืองส่ายหน้าออกมาก่อนครับ
ถอดแยกชิ้น ฝาประกับหลังขดลวดออกมา จะเห็นส่วนที่เพลาหมุนอยู่บนบูช มีรอยไหมสีดำๆน่าจะเป็นคราบไหม้ของสารหล่อลื่นคุณภาพต่ำ
เมื่อดึงเพลาออกมานิดนึง จะเห็นตรงบูชด้านติดใบพัด ก็เช่นกัน เป็นคราบรอยไหมสีดำ นี่คือสาเหตุ " ยิ่งร้อนยิ่งไหม้ ยิ่งไหม้ยิ่งฝืด ยิ่งฝืดยิ่งร้อน "
จัดการถอดสลักใบพัดออก หาน๊อตตัวเล็กเท่าสลัก ยาวสักหน่อย มาตอกออก(ถึงตรงนี้ไม่ได้ถ่ายภาพนะครับ มือเลอะแล้ว ทำคนเดียว) แล้วชักแกนเพลาออกมาจากขดลวดและฝาประกับหน้าขดลวดครับ เอาแกนเพลามาขัดคราบไหม้ออก โดยฉีกกระดาษทรายกว้างสัก 1 ซม. ยาว 4 ซม.ใช้เบอร์ละเอียดมากๆ ประมาณ 1500 ขึ้นนะครับ เอากระดาษทราย มาพันรอบรอยไหม้ หมุนๆขัดๆ ฉีดสเปรย์น้ำมันใส่บ้าง จนคราบไหม้หมดไปทั้งสองด้าน
ถึงคิวของการจัดการกะ บูช ( ที่จริงตอนซื้อ คนขายบอกผมว่ารุ่นนี้เป็น Bearing นะ แต่ทำไมมันคือบูชก็ไม่รู้ ) ถ้าไม่อยากลำบากมาก เอากระดาษทรายพันตะเกียบ แล้วปั่นหมุนให้กระดาษทรายเข้าไปขัดคราบไหม้ในรูบูชออกก็ได้นะครับ แต่ผมอยากรื้อให้ถึงเนื้อในมันเลย เลย "แงะ" มันออกมาครับ
งัดถ้วยอัดแหวนสปริงกดบูชออกมาครับ
จะเจอบูช และ ผ้าสักหลาด เอาไว้เก็บสารหล่อลื่นให้เพลาแบบ ชุบแว๊กมา เมื่อเพลาร้อน สารหล่อลื่นจะละลายลงมาเติมให้เพลาและบูช แต่มันจะเข้าไปสู่จุดที่เพลาต้องการหรือเปล่านั้นอีกเรื่องนึง แต่ตามทฤษฎี ว่าไว้งั้น ออกแบบมาดีจริงๆ สู้เอาเทียนไขไปยัดไว้บนบูชยังได้เรื่องซะกว่านะ
นี่ละ หน้าตา "บูช" ลูกกลมๆมีรู สามารถ "Alignment" เพลาได้ด้วยตัวเอง
เอากระดาษทรายมาพันตะเกียบไว้ สอดเข้าไปในรูบูช แล้วปั่นให้คราบไหม้สีดำๆ ออกให้หมด ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายภาพอีกเช่นเคย คงนึกภาพออกกันนะครับ
เบ้าบูช ที่จริงมันน่าจะใส่ Bearing ได้ไม่ยากนะ แต่มันคงทำให้ทุนในการสร้างสูงขึ้นอีกมากมาย เขาจึงใส่ลูกตุ้มมาให้ ถ้ามันพังอีกที ผมจะโมใส่แบริ่งให้ดูนะ
ประกอบบูชกลับ เอาผ้าสักหลาด ชุบจารบีไว้หน่อย ตาม "ทฤษฎี" ที่เขาได้ให้มา เอาแหวนสปริงกดบูชวางลงไป
ใส่ถ้วยกดแหวนเข้าไป ตรงนี้ผมกดอยู่พักใหญ่ กดฝั่งนี้ ปลิ้นออกฝั่งนู้น หลายรอบ ชักอารมณ์เสียละ เดินไปเอาขวดน้ำยาบ้วนปากมาทาบกะถ้วย เฮ๊ยมันพอดีเลยนี่หว่า >>> เทน้ำยาบ้วนปากใส่ขวดอื่นไว้ เอาปากขวดน้ำยาบ้วนปาก อัดถ้วยกดแหวนเข้าไป ตบตูดขวดเบาๆ ถ้วยกดแหวนก็เข้าที่ละ ทำอีกข้างนึงก็แบบนี้
ประกอบทุกอย่างกลับเข้าที่ โดยในรูบูช และแกนเพลาตรงที่ขัดรอยไหม้ออก ต้องทาจารบีไว้ด้วย
รวมไปถึง เฟืองส่ายหน้าทุกส่วน ทุกจุดหมุน ทาไว้ด้วยนะครับ คงอีกน๊านนน..นาน...ไส้ในพัดลมนี้ กว่าจะได้ออกมาเจอโลกภายนอกอีกครั้ง คงเดินเครื่องยาวไป
>>> เมื่อประกอบกลับหมดแล้ว ทดลองเดินเครื่องกัน แค่กดออกตัวเบอร์1 ก็หมุนวี๊ด.. แร๊งง... แรงแบบไม่เคนสัมผัสได้มาก่อนเลย ฮ่าๆๆ กดเบอร์ 2 -3 ซิ โอ้ววว..ลดๆๆด่วน ลมมันแรงไป ฮ่าๆๆ ดีใจกับความเสี่ยงที่มาถูกทาง ดีใจกับการได้ " คืนสภาพ " ของใช้ ให้กลับมาใช้งานได้ดีด้วยตัวเราเอง โดยมีแนวทางที่ไม่ค่อยเหมือนใคร คือ ไม่ถึงที่สุด ไม่ซื้ออะไหล่
เกือบเดือนผ่านมาแล้วครับ ยังใช้งานบ่อยๆแค่เบอร์ 2 ถ้าเบอร์ 3 มันแรงจนเสียงลมวิ๊วๆ รำคาญหู
ส่วนเรื่องถ้า C เสื่อม กดเปิดแล้วไม่หมุน แต่ถ้าช่วยเขี่ยใบให้มันกระดิกนิดนึง แล้วมันหมุนต่อได้ และทดสอบแล้ว ว่าแกนเพลาไม่ฝืด นั้นคือ อาการของ C เสื่อมครับ
ผมรู้ไม่มากครับ คร่าวๆแค่นี้ ผิดหรือถูก ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ยินดีรับฟังและนำไปปรับแก้เสมอครับ
จบ Share problem solving เท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ