เลห์ – ลาดัก
ทำไมต้องเลห์ – ลาดัก ใครๆก็ไปกัน 
ขอขอบคุณพี่ๆคนไทยที่ให้คำแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวในแต่ละที่มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ว่าด้วยเรื่องของการเดินทาง เคสของเรา
1. ก่อนจะมาที่นี่แนะนำดูรีวิวเยอะๆ จะช่วยคุณได้มาก
2. เรื่องตั๋วเราซื้อของ air india ผ่าน skycanner ได้มาในราคา 13500 แบบไปกลับ น้ำหนักกระเป๋า 30 ก.ก. + อาหาร
ขาไปรอทรานซิส 17 ชม ขากลับ ทรานซิส 1.30 ชม แต่เครื่องดีเลย์ครึ่งชั่วโมงบอกเลยว่าไม่แนะนำให้จองแบบเรา เห็นกะของถูกเกือบตกเครื่อง ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นเด๋วเล่าให้ฟัง
3. เรื่องวีซ่า อันนี้ขอผ่านนะคะ เราจ้างยื่น เรายื่นวีซ่าแบบออนไลน์ (จ้างบริษัททำ ค่าวีซ่า 1800 + ค่าบริการ 500) ได้มาแบบง่ายดาย
เริ่มวันเดินทาง เที่ยวบินของเราคือ 8.45 เรามาถึงก่อน 06.00 น. เข้าแถวรอเช็คอิน (อันนี้ของแนะนำให้มาถึงก่อนเวลา 3 ชั่วโมงนะคะ) ใบอิมมิเกชั่นเจ้าหน้าที่จะแจกให้บนเครื่องบิน บินสี่ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงนิวเดลี เดินตามเขาไป ก็ไปถึงตม. เนื่องเราจากเราเป็นวีซาแบบออนไลน์ต้องเดินไปสุดทางเดิน จะมีเค้าเตอร์ที่ที่เขียนว่า E-visa ยืนเข้าแถวรอตรงนี้ ถ้าโชคดีหน่อยก็ไว แต่เรานี่ยืนเข้าแถวไปชั่วโมงครึ่ง ตม.ที่นี่ช้ามาก ทำใจรอเลยค่ะ หลังจากผ่านตม.ก็มารับกระเป๋า
ใบต.ม. เข้าประเทศของอินเดีย
เราทรานซิส 17 ชม. จึงตัดสินใจ ออกมาพักห้องพักด้านนอก โดยจองห้องพักผ่าน agoda ปรากฎว่าโรงแรมที่จองไว้เต็ม เจ้าหน้าที่ของโรงแรมจึงให้ไปพักกับโรงแรมในเครือพันธมิตรของเขา ซึ่งใกล้สนามบินมาก กว่าจะไปถึงโรงแรมอีกที่ทำให้แผนการเที่ยวในเดลี รวนไปหมด ตั้งใจจะไป วัดอัคชาดัม อินเดียเกท แล้วก็ตลาดจันพาท แบบชิลล์ๆ ตัดมาถึงความจริงที่เป็นคือ รถแท็กซี่ขับผ่านอินเดียเกท ชมแบบชะโงกทัวร์ ถึงวัดอัคชาดัมเกือบหกโมงด้านในอลังการมาก ควรมาเป็นอย่างยิ่ง เดินชมได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องออกมานั่งรถไฟฟ้าไปตลาดจันพาท จากนั้นก็นั่งตุ๊กๆกลับที่พัก มาถึงอินเดียถ้าไม่โดนพาอ้อมเท่ากับมาไม่ถึงอินเดียนะคะ
เที่ยวบินจาก เดลี ไป เลห์ ของเราคือ 05.55 ด้วยความที่คิดว่าอินเดียอะไรก็ไม่แน่นอน เราเลยออกจากโรงแรมตั้งแต่ตีสองครึ่ง เผื่อเวลาไว้เยอะเถอะค่ะเชื่อเรา เที่ยวบินของเราอยู่ที่ terminal 3 ก่อนเข้าประตูจะมีเจ้าหน้าที่ประจำประตูอยู่ กรุณายื่นพาสปอร์ต พร้อมเที่ยวบินให้เจ้าหน้าที่ดู ไม่งั้นเข้าไปด้านในไม่ได้
ขาไปเลห์ เราได้ที่นั่ง ฝั่ง A คือด้านซ้ายของเครื่อง บอกเลยว่าฟินสุดๆ เพราะคุณจะได้เห็นทิวเขาหิมะแบบไม่ย้อนแสง นั่งเพลิน 1.20 ชม บอกเลยว่าอย่าหลับเด็ดขาด สวยจริงๆ
ใบ permit กรอกเข้าเลห์
พอถึงสนามบินจะมีรถบัสมารับไปส่งที่ตัวอาคาร เข้ามาด้านในจะมีคุณป้าเจ้าหน้าที่แจกใบ permit ให้เขียนก่อนเข้าเลห์
กรอกรายละเอียดครบก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ออกมาเจอกับแซม
เอเจ้นที่เราติดต่อไว้จากเฟสบุ๊ค เราใช้บริการของบริษัท Mountain View Trek & Tour
เนื่องจากมีเพื่อนสอบถามกันมา เราขอแจ้งลิงค์ แซมในนี้เลยนะคะ ติดต่อเองได้เลย เราไม่ได้มีส่วนได้เสียแต่อย่างใด
ทริปนี้เราไปกันสี่คน ทัวร์ที่เราเหมาไว้มีรายละเอียดตามนี้
รถ : innova +น้ำมัน
ที่พักตลอดการเดินทาง+ฟรีอาหารเช้า
Innerline Permit in Ladakh
ของจำเป็นตลอดการเดินทาง------- หน้ากากปิดจมูก เนื่องจากฝุ่นเยอะมาก
----------- ครีมกันแดด หมวก แว่นตากันแดด อากาศหนาวมาก แต่แดดนี่แรงระดับสิบ อย่าถามว่าร้อนไหม ฉันตอบเลยว่าไหม้.....
----------- ยาแก้แพ้อากาศ Diamox ควรทานไปก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันนะคะ อย่าลองของเพราะถ้าเป็นขึ้นมานี่จะไม่สนุกนะคะ
ทริปเราไม่มีใครดื้อ ปลอดภัยจาก อาการแพ้ความสูงกันทุกคน ผลข้างเคียงของยาคือ ฉี่บ่อย ปลายมือชา
----------- เงินควรแลกไปจากไทยเลยนะคะ เรทดีกว่าแลกที่สนามบินในเดลี
----------- น้ำจิ้ม มาม่า ทั้งหลาย พกไปเถอะค่ะ ไม่เสียหายหรอก ช่วยชีวิตได้ดีเลยทีเดียว
----------- ทุกวันของการเดินทางควรมีขนม หรือ ขนมปัง ติดตัวเสมอๆนะคะ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
กล้องที่ใช้ในทริปนี้ Panasonic gf 9
[CR] หนีเที่ยวไม่บอกแม่ ตอน สงกรานต์นี้ที่ ***leh ladakh*** india
2. เรื่องตั๋วเราซื้อของ air india ผ่าน skycanner ได้มาในราคา 13500 แบบไปกลับ น้ำหนักกระเป๋า 30 ก.ก. + อาหาร
ขาไปรอทรานซิส 17 ชม ขากลับ ทรานซิส 1.30 ชม แต่เครื่องดีเลย์ครึ่งชั่วโมงบอกเลยว่าไม่แนะนำให้จองแบบเรา เห็นกะของถูกเกือบตกเครื่อง ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นเด๋วเล่าให้ฟัง
3. เรื่องวีซ่า อันนี้ขอผ่านนะคะ เราจ้างยื่น เรายื่นวีซ่าแบบออนไลน์ (จ้างบริษัททำ ค่าวีซ่า 1800 + ค่าบริการ 500) ได้มาแบบง่ายดาย
เริ่มวันเดินทาง เที่ยวบินของเราคือ 8.45 เรามาถึงก่อน 06.00 น. เข้าแถวรอเช็คอิน (อันนี้ของแนะนำให้มาถึงก่อนเวลา 3 ชั่วโมงนะคะ) ใบอิมมิเกชั่นเจ้าหน้าที่จะแจกให้บนเครื่องบิน บินสี่ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงนิวเดลี เดินตามเขาไป ก็ไปถึงตม. เนื่องเราจากเราเป็นวีซาแบบออนไลน์ต้องเดินไปสุดทางเดิน จะมีเค้าเตอร์ที่ที่เขียนว่า E-visa ยืนเข้าแถวรอตรงนี้ ถ้าโชคดีหน่อยก็ไว แต่เรานี่ยืนเข้าแถวไปชั่วโมงครึ่ง ตม.ที่นี่ช้ามาก ทำใจรอเลยค่ะ หลังจากผ่านตม.ก็มารับกระเป๋า
เที่ยวบินจาก เดลี ไป เลห์ ของเราคือ 05.55 ด้วยความที่คิดว่าอินเดียอะไรก็ไม่แน่นอน เราเลยออกจากโรงแรมตั้งแต่ตีสองครึ่ง เผื่อเวลาไว้เยอะเถอะค่ะเชื่อเรา เที่ยวบินของเราอยู่ที่ terminal 3 ก่อนเข้าประตูจะมีเจ้าหน้าที่ประจำประตูอยู่ กรุณายื่นพาสปอร์ต พร้อมเที่ยวบินให้เจ้าหน้าที่ดู ไม่งั้นเข้าไปด้านในไม่ได้
ขาไปเลห์ เราได้ที่นั่ง ฝั่ง A คือด้านซ้ายของเครื่อง บอกเลยว่าฟินสุดๆ เพราะคุณจะได้เห็นทิวเขาหิมะแบบไม่ย้อนแสง นั่งเพลิน 1.20 ชม บอกเลยว่าอย่าหลับเด็ดขาด สวยจริงๆ
กรอกรายละเอียดครบก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ออกมาเจอกับแซม
เอเจ้นที่เราติดต่อไว้จากเฟสบุ๊ค เราใช้บริการของบริษัท Mountain View Trek & Tour
เนื่องจากมีเพื่อนสอบถามกันมา เราขอแจ้งลิงค์ แซมในนี้เลยนะคะ ติดต่อเองได้เลย เราไม่ได้มีส่วนได้เสียแต่อย่างใด
รถ : innova +น้ำมัน
ที่พักตลอดการเดินทาง+ฟรีอาหารเช้า
Innerline Permit in Ladakh
ของจำเป็นตลอดการเดินทาง------- หน้ากากปิดจมูก เนื่องจากฝุ่นเยอะมาก
----------- ครีมกันแดด หมวก แว่นตากันแดด อากาศหนาวมาก แต่แดดนี่แรงระดับสิบ อย่าถามว่าร้อนไหม ฉันตอบเลยว่าไหม้.....
----------- ยาแก้แพ้อากาศ Diamox ควรทานไปก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันนะคะ อย่าลองของเพราะถ้าเป็นขึ้นมานี่จะไม่สนุกนะคะ
ทริปเราไม่มีใครดื้อ ปลอดภัยจาก อาการแพ้ความสูงกันทุกคน ผลข้างเคียงของยาคือ ฉี่บ่อย ปลายมือชา
----------- เงินควรแลกไปจากไทยเลยนะคะ เรทดีกว่าแลกที่สนามบินในเดลี
----------- น้ำจิ้ม มาม่า ทั้งหลาย พกไปเถอะค่ะ ไม่เสียหายหรอก ช่วยชีวิตได้ดีเลยทีเดียว
----------- ทุกวันของการเดินทางควรมีขนม หรือ ขนมปัง ติดตัวเสมอๆนะคะ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
กล้องที่ใช้ในทริปนี้ Panasonic gf 9