'IFEC อยากมีกำไรเดือนละ 100 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 1.2 พันล้านบาท นั่นเป็น เป้าหมายของเรา ผมอยากบอกนักลงทุนว่า เรากำลังทำฝันให้เป็นจริง แม้วันนี้ผมจะถือหุ้น 8% (ลดลงจากการเพิ่มทุน) แต่อนาคตมีแผนจะเก็บเพิ่มเป็น 20% ระหว่างทางถ้ามีคนมาซื้อหุ้นจนขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งแล้วมีแนวทางเหมือนกัน ผมยินดีจับมือทำงานต่อ แต่ถ้าไม่ผมคงต้องหลีกทาง'

หมอวิชัยให้สัมภาษณ์ กรุงเทพธุรกิจ 28 สิงหาคม 2558

เรามาดูความจริงในวันที่ 24 เมษายน 2560 กันนะครับ

1. กำไรปีละ 1,200 ล้านบาท ปัจจุบันความจริงคือ ไม่กล้าปิดงบการเงินเพราะถลุงเงินกู้กันจนขาดทุนยับเยิน
2. ณ. สิงหาคม2558 หมอวิชัยมีหุ้น 8% หมอวิชัยประกาศสัญญาประชาคมว่า " ถ้ามีคนมาซื้อหุ้นจนขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งแล้วมีแนวทางเหมือนกัน ผมยินดีจับมือทำงานต่อ แต่ถ้าไม่ผมคงต้องหลีกทาง "                                           
ปัจจุบันความจริงหมอวิชัยทะยอยทิ้งหุ้นหนี จนถือหุ้นเหลือเพียง 3 % และใช้ทุกวิถีทางในการยื้อให้ตนและพวกอยู่ในตำแหน่งกรรมการบริษัท ไม่ยินยอมให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เข้ามาบริหาร จนถูกฟ้องคดีอาญา 11 คดี คดีแพ่ง 4 คดี และคดีล้มละลาย 1 คดี ผู้ถือหุ้น IFEC คงต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อถือหมอวิชัยต่อไปอีกหรือไม่ !!     
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/660854