เรื่องจากเราต้องการของเอกสารในการทำ วีซ่า tier4 ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เราจึงต้องมีการไปขอ Bank letter (Bank gaurantee)
เราได้ขอเอกสารครั้งแรกที่ธนาคารกสิกรสาขาใกล้บ้านซึ่งเป็นสาขาต่างจังหวัด ตอนแรกเราไม่ทราบว่าสถานทูตต้องการให้มีการระบุเลข บัญชี และต้องบอกว่ามีเงินฝากในบัญชีนี้มาอย่าง 28 วัน พอเราได้เอกสารมานำมาตรวจกับเอเจนซี่ก่อนไปยื่นที่สถานทูต ปรากฏว่าเอกสารไม่โอเค เพราะไม่ได้ระบุเลข บช ลงในเอกสาร พี่ที่เอเจนซี่จึงแนะนำว่าให้ไปธนาคารสาขาพาราก้อน เพราะที่สาขานี้พนักงานค่อนข้างจะรู้ว่าควรออกเอกสารอย่างไร เราก็เกินไปพาราก้อน สรุปพอถาม พนักงานบอกว่าปกติฟอร์มของธนาคารเป็นแบบนี้ เราจึงบอกให้ช่วยพิมเลข บช เพิ่มให้หน่อย เค้าก็ช่วยพิมให้แต่พอมาเช็คเอกสารอีกรอบ พบว่ายอดเงินรวมใน บช ที่ต้องให้สถานทูต รวมเป็นเงินสกุลยูโร ซึ่งมันต้องรวมเป็นเงินปอนด์ เราก็เริ่มที่จะอารมณ์เสีย ณ ตอนนั้นเพราะเสียเงินค่าธรรมเนียมหลายรอบมาก แต่ก็ไม่เป็นไร เลยจะไปขอทำใหม่ที่ ธนาคารกสิกร สาขาเซนทรัล พระราม2 พอไปสอบถามเค้าบอกว่า ไม่สามารถทำให้เราได้ ทำได้แค่ตามแบบฟอร์มเท่านั้น เราจึงขอร้องว่า ช่วยเติมปค่เลข บช ให้ใหม่ได้ไหม เพราะเห็นว่าที่พาราก้อนก็พิมเลข บช ให้ได้(เนื่องจากสถานทูตจะดูว่าเลขบช เราตรงกับ statement ที่เรายื่นไปมั้ย ดังนั้นจึงค่อนข้าฃสำคุญสำหรัลวีซ่าที่จะไปเรียนต่อ) ไม่งั้นวีซ่าเราอาจจะไม่ผ่านแต่ต้องจ่ายเงินค่าวีซ่าใหม่เป็น จำนวน 15,000 บาท พนักงานด้านบริการลูกค้า ช่องที่ 7 ก็บอกว่า ไม่ได้ทำได้ตามแบบฟอร์มเท่านั้น และก็ไม่ได้เอกสารเลยด้วยต้องมาเอาอีกวันหนึ่ง เราเลยปรึกษากับญาติ ญาติแนะนำให้ไปที่สาขา Central Embassy ซึ่งเราประทับใจมาก แค่บอกต้องการBank gaurantee ทำสำหรับทำวีซ่าไปเรีบนต่อที่อังกฤษ ก็สามารถทำตามที่ต้องการได้ และถูกต้อง เราจึงสงสัยว่า ธนาคารกสิกร มีมาตรการในการอบรมหรือเทรนพนักงานยังไง ทำไมบางสาขาถึงรู้ว่าต้องทำอย่างไร บางสาขาถึงไม่รุ้ว่าต้องทำยังไง ทำให้เรารู้สึกว่ามันยากในการขอเอกสารที่เราต้องไปใช้ในเรื่องสำคัญและต้องมานั่งจ่ายเงินค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนไปมา และรู้สึกเหนื่อยที่ต้องต้องไปมาหลายๆสาขากว่าจะได้เอกสารที่ต้องการ รบกวนกสิกรอบรมพนักงานให้มีความรู้เท่ากันทุกสาขาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ