สวัสดีค่ะ อยากจะมารีวิวอัพเดท ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการไปเที่ยวเกาะแสมสาร สัตหีบ จ.ชลบุรี จ้า
เพราะก่อนหน้าที่เราจะไปเที่ยว หาดูรีวิวต่างๆ ซึ่งเก่าไปบ้างแล้ว ราคาก็มีเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นค่ะ เลยอยากจะมาอัพเดท เพื่อเป็นแนวทางให้กับท่านที่อยากจะไปเที่ยวบ้าง
โอเคเริ่มเรื่องราวกันเลยจ้า 😀
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษา เราไปพักที่พัทยาก่อน 1 คืน ตัดสินใจกันกับครอบครัว ว่าจะไปเที่ยวไหน เพราะไหนๆ พี่เขาก็หยุดแล้ว เราเลยค้นหาข้อมูลในเว็บ หาที่ดำน้ำเอาแบบใกล้ๆ ไม่ต้องไกลมาก เลยมาเจอเป็นที่เกาะแสมสาร
เอาล่ะ!!
ก็เลยตกลงไปที่เกาะแสมสาร สัตหีบ ใกล้สุดละ
เปิดหาเส้นทางการเดินทาง เขาบอกให้ไปที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ขอเส้นทางใน google map ได้เลย
แล้วเราก็โทรไปถามข้อมูล ว่าต้องไปถึงกี่โมง ยังไง
เว็บไซต์
http://www.tis-museum.org/
เบอร์โทร 038432471 และ 038432475
ถามเจ้าหน้าที่ว่าคนเยอะไหม เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงเทศกาลคนจะเยอะมาก ให้มาถึงตั้งแต่เช้า มารับบัตรคิวได้ตอน 6 โมงเช้า และซื้อตั๋วได้ประมาณ 7 โมงเช้า
เราเลยตัดสินใจเดินทางไว เพราะกลัวจะไม่ได้คิว เลยเดินทางออกจากพัทยาล้อหมุนไปตอนตี 5 วันจันทร์ที่ 17 เมษา
ไปถึงก็เช้าพอดี ประมาณ 6 โมงเช้า ไม่ได้ขับรถเร็วมาก
ภาพบรรยากาศริมฝั่ง (ภาพมืดไปหน่อยถ่ายย้อนแสง กล้องมือถือ ภาพทุกภาพที่ถ่ายในกระทู้ เป็นกล้องมือทั้งหมดนะ อาจไม่สวย แต่ก็สื่อให้มองภาพได้)
แล้วเข้าไปหยิบบัตรคิวกับพี่ทหารได้เลย ได้คิวที่ 53 54 55 56 57 ไป 5 คน ก็ต้องหยิบบัตรคิวมา 5 ใบ
ในที่นี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดที่ดูแลจัดการ รวมในเกาะด้วย
แล้วก็ไปหาข้าวกินกันระหว่างรอซื้อบัตรคิว ตรงใกล้ๆ ท่าเรือ ราคาข้าวอยู่ที่ 50-55-60 บาท ประมาณนี้
แนะนำให้สั่งพวกเนื้อสัตว์นะ เพราะถ้าสั่งไข่เจียว คือไข่เจียวเปล่าไม่มีหมู ไม่มีเนื้อสัตว์ คือจานละ 50 บาท
สั่งเป็นกระเพราทะเลคุ้มกว่า 55 บาท ยังมีปลาหมึกกุ้ง 😀
ตรงร้านขายข้าวก็จะมีมินิมาร์ทด้วย สามารถซื้อของกินนำเข้าไปในเกาะได้ หรือไปซื้อทีเดียวในเกาะก็มีขาย ไม่ต้องหิ้วไปให้เกะกะ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน
7 โมงเช้าก็ไปเข้าคิวซื้อบัตรอีกรอบ
*ราคาการเดินทางข้ามเกาะแสมสาร
- ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท
- เด็กตั้งแต่ 3ปีขึ้นไปไม่เกิน 18ปีบริบูรณ์คนละ 220 บาท ( อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
- ชาวต่างชาติทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คนละ 600 บาท
..ของเรามีผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 1 คน (300+300+300+300+220 =1,420 บาท)
บัตรข้ามเรือ
เรือออกจากท่าเรือ ประมาณ 8.30 น. เกาะแสมสารอยู่ใกล้ฝั่ง มองไปก็เห็นอยู่ แต่ก็ต้องรอเรือข้ามตามเวลา
ได้เวลาก็ทะยอยเดินกันไปขึ้นเรือ เราไปกันเที่ยวแรก เพราะอุตส่าห์บากบั่นมาแต่มืด หุหุ
คือเรือแบบนี้ คนเต็มก็ออกมั๊ง หรือออกตามเวลาไม่แน่ใจ
ใช้เวลาเดินเรือประมาณไม่ถึง 10 นาที เพราะเรือแล่นไม่เร็ว ต้องใส่เสื้อชูชีพด้วย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ริมฝั่งน้ำใสมากๆ เห็นปลาสลิดหินลายบั้งว่ายไปมาอยู่ในน้ำเลย
มุมถ่ายจากบนเรือไปยังฝั่งทางเดินมาท่าเรือ
ไปกันเลย!!!! นั่นไงเกาะแสมสารอยู่ข้างหน้าเราแล้ว
มาถึงคิวแรกไม่มีนักท่องเที่ยวในเกาะเลย
ก่อนอื่นขอแชะกับเสาหน่อยจะได้รู้ว่ามาถึงแล้ว😀
เมื่อถึงเกาะ ลำดับแรกนักท่องเที่ยวทุกคนควรจะไปฟังพี่ทหารบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับเกาะ และนักท่องเที่ยวว่าต้องทำอะไร ยังไงบ้าง ใช้เวลาบรรยายประมาณ 5 นาที
ดูริมหาดสิสวยเชียว นี่คือหาดเทียน สามารถเล่นน้ำได้เป็นเวลา พี่ทหารบอกวันนี้เล่นได้ถึง 10 โมงเช้า เพราะน้ำลงจะเล่นไม่ได้ และมีการจำกัดพื้นที่ในการเล่นจะมีทุ่นกั้นไว้ เพื่อไม่ให้ออกไปเล่นนอกทุ่นจะเกิดอันตรายได้
มีร้านขายของ 1 ร้าน พอได้ซื้อกินแก้หิวได้
มีเสื้อชูชีพบริการให้ฟรี ในขณะเล่นน้ำต้องใส่ทุกคน ทุกครั้ง เพือความปลอดภัย
มีห้องน้ำ และที่สำหรับล้างตัว (ย้ำ) ล้างตัวนะ ไม่ใช่อาบน้ำ เพราะน้ำจืดมีจำกัด ต้องใช้กันอย่างประหยัด
มีต้นไม้ให้ร่มเงานั่งเล่นได้บริเวณริมหาดเทียน
แต่เราจะไปดำน้ำ ต้องนั่งรถไปอีกหาดนึงคนละมุมกับหาดเทียน เราต้องไปกันที่หาดลูกลม
ใช้รถโดยสารเท่านั้น ไม่ให้เดินไปเอง
ต่อแถวรอขึ้นรถไปหาดลูกลม
มีรถกระบะ และรถแบบนี้(เขาเรียกรถอะไร รถรางหรือเปล่าไม่แน่ใจ) 😃
ถึงคิวเราแล้ว(หน้าชื่นตาบานกันมาก)😉 ได้นั่งรถกระบะ ใช้เวลาเดินทางประมาณไม่ถึง 5 นาที
ถึงแล้วหาดลูกลม แชะเก็บหลักฐานการมาถึงแล้ว
ภาพบรรยากาศช่วงที่มาถึง
เมื่อมาถึงแล้ว ใครจะไปดำน้ำหรือไปนั่งเรือท้องกระจกดูปลา
**ต้องไปแจ้งชื่อกับพี่ทหาร เขาจะจัดเป็นนักท่องเที่ยวชุดๆ
แล้วจะคอยเรียกไปเรื่อยๆ ตามลำดับ ใครมาก่อนได้ไปก่อน
*ดำน้ำดูปลา ต้องใส่ชูชีพสีส้มเท่านั้น
*นั่งเรือท้องกระจก ต้องใส่ชูชีพสีเขียวเท่านั้น
และเล่นน้ำต้องใส่เสื้อชูชีพด้วยนะ ใส่ทุกคน ทุกกรณี
จุดแจ้งชื่อ
ราคาค่าบริการ
ดำน้ำดูปลา คนละ 50 บาท (มีอุปกรณ์ให้)
นั่งเรือท้องกระจกคนละ 20 บาท
จะมีเสื่อ เตียงผ้าใบ โต๊ะ สำหรับให้เช่าด้วย
เสื่อผืนละ 20 บาท
เตียงผ้าใบตัวละ 20 บาท
โต๊ะ ตัวละ 40 บาท
และก็มีล็อคเกอร์ให้เช่าเก็บของ ช่องละ 20 บาท
มีร้านขายน้ำ อาหาร ขนม สามารถเลือกซื้อตามใจชอบ มีให้เลือกไม่มากนะ 555
เมื่อถึงคิวเรา เราคิวชุดที่ 3 ไปรับอุปกรณ์ดำน้ำ
แล้วจะมีพี่ทหารสอนวิธีการใช้งานแบบละเอียดยิ๊บเลย
คือสอนจนให้ได้ ได้ทุกคน ใครไม่ได้สอนตัวต่อตัวเลย
สอนดำ สอนลอยตัว ก่อนไปดำน้ำจริง
สองคนแม่ลูกนี้ไม่มีปัญหา เพิ่งไปดำน้ำดูปลาที่เกาะช้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 555 ยังมาดำที่นี่ต่ออีก
เมื่อฝึกเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อคิว รอเรือได้เลย เราชุดที่ 3
นั่งเรือยางไปนิดเองจุดดำน้ำ มองไปก็เห็นตรงเกาะ
ใช้เวลาดำน้ำดูปลารอบละ 30 นาทีเท่านั้น
จุดที่ดำ ปลาไม่เยอะเท่าไร แต่มีปลาการ์ตูนสีส้ม (นีโม่) ให้ดู ที่แรกก็มองไม่เห็น พี่ทหารมาชี้ให้ดูว่านี่ไง อยู่ตรงนี้ไง
เลยดำดู
เอ้ย!!! มีจริงๆ ด้วย ตัวนิดเดียว น่ารักดุ๊กดิ๊กมากๆ แต่มีไม่เยอะนะ น่าจะรวมแล้ว บริเวณนี้ไม่เกิน 10 ตัว
มีหอยเม้น แหลมๆ
ปลาสลิดหินลายบั้ง
หอยมือเสือ ตัวใหญ่ (แอบได้ยินคนข้างๆ เรียก แต่มันเหมือนมือเสือจริงๆ)
มีปะการังสวยงาม
***** ขออภัย ไม่มีภาพตอนไปดำน้ำ ภาพใต้น้ำ เพราะไม่มีกล้องดำน้ำ มือถือเอาใส่ล๊อคเกอร์ไว้ กลัวเปียก เพราะถ้าเอาไปต้องวางไว้บนโป๊ะลอยน้ำตรงจุดดำ ซึ่งพี่ทหารบอกว่าเสี่ยงหาย ไม่เอาไปจะดีกว่า
เมื่อครบ 30 นาทีผ่านไป จนท. เรียกขึ้นโป๊ะ นั่งเรือกลับหาด เป็นอันจบการดำน้ำ
ต่อไปเรามาหาอาหารรองท้องกันดีกว่า ที่นี่ราคาาหารไม่แพงนะ ราคาปกติเหมือนแฟล่งท่องเที่ยวทั่วไป บนฝั่ง ไม่ได้บวกเพิ่มแต่อย่างใด
ส้มตำอาหารประจำชาติ ไปไหนต้องมี
ตำป่าจานละ 60 บาท อย่างเยอะ
ไก่ทอดชิ้นละ 20 บาท รสชาติดีเลยละ
แล้วก็ซื้อหมูกระจก ห่อละ 20 บาท มาคลุกกับส้มตำ
เฉาก๋วยเย็นรสชาติดีนะ อร่อยเลยล่ะ
เห็นมีข้าวไข่เจียว ทอดใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ จานละ 35 บาท
ข้าวกระเพราไข่ดาวจานละ 35 บาท
มีมะพร้าวน้ำหอมขาย ลูกละ 50 บาท
อาหารมีประมาณนี้
เมื่ออิ่มท้องก็ลุยต่อ ไปเล่นน้ำริมหาดได้เลย
เล่นน้ำต้องใส่ชูชีพด้วย มีช่วงแรกไปเล่นน้ำ
เราไม่ได้ใส่ ไม่รู้ว่าต้องใส่
จนท. เดินมาใกล้ๆ แล้วบอกว่า เล่นน้ำใส่ชูชีพด้วยนะครับ
เราเลยเดินขึ้นไปหยิบมาใส่ เพื่อทำตามระเบียบของเขา
แต่ที่สังเกตุนะ ที่นี่จะไม่ใช้นกหวีดเป่า ไม่ตะโกน ไม่ใช้โทรโข่ง ในขณะเตือนนักท่องเที่ยว ก็ดีนะ เหมือนให้เกียรติ และอาจไม่อยากให้ส่งเสียงดังหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
เล่นน้ำริมหาด น้ำใสมากนะ แต่หินค่อนข้างคม ถ้าเอาเท้าไปเหยียบก็อาจทิ่มเท้าบ้าง เพราะก็โดนมาหลายแผลอยู่ แต่แผลเล็กๆ นะ เล่นแบบฮาร์ดคอร์ไปหน่อย
เล่นน้ำเพลินๆ
เล่นน้ำนานละ ไปพายเรือบ้างดีกว่า
ค่าเช่าไม้พาย ชั่วโมงละ 100 บาท
แต่ไม้พายไม่พอ รอไปก่อน เอามือพายไปพลางๆ
อ่ะมาละ ไม้พายมาละ ไปพายโล้ด พายยากนะ ไม่เคยพายแบบ 2 ข้างไม้พาย
ลองพาย 2 ข้างไม่รุ่ง งั้นขอพายข้างเดียวแบบพายงัด ที่เคยพายละกัน
พายเรือครบชั่วโมงนี่คือแบบร้อนมากเลย ต้องเอาน้ำราดตัวตลอดให้เปียกๆ
แล้วก็เล่นน้ำต่ออีกแป๊บนึง เล่นไปเล่นมา ชักแสบหน้าแฮะ
หน้าไหม้จ้า แดงเลย
ครีมกันแดด ทาไปรอบเดียวตอนแรก และขี้เกียจทาซ้ำอีก
เห้อ!!! เล่นไม่กี่ชั่วโมงหน้าพังอย่างแรง!!
ภาพบรรยากาศช่วงบ่ายๆ
ต่อ👇👇
[CR] ดำน้ำดูปลาการ์ตูน ปะการัง เกาะแสมสาร สัตหีบ ช่วงสงกรานต์ 2560
เพราะก่อนหน้าที่เราจะไปเที่ยว หาดูรีวิวต่างๆ ซึ่งเก่าไปบ้างแล้ว ราคาก็มีเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นค่ะ เลยอยากจะมาอัพเดท เพื่อเป็นแนวทางให้กับท่านที่อยากจะไปเที่ยวบ้าง
โอเคเริ่มเรื่องราวกันเลยจ้า 😀
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษา เราไปพักที่พัทยาก่อน 1 คืน ตัดสินใจกันกับครอบครัว ว่าจะไปเที่ยวไหน เพราะไหนๆ พี่เขาก็หยุดแล้ว เราเลยค้นหาข้อมูลในเว็บ หาที่ดำน้ำเอาแบบใกล้ๆ ไม่ต้องไกลมาก เลยมาเจอเป็นที่เกาะแสมสาร
เอาล่ะ!!
ก็เลยตกลงไปที่เกาะแสมสาร สัตหีบ ใกล้สุดละ
เปิดหาเส้นทางการเดินทาง เขาบอกให้ไปที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ขอเส้นทางใน google map ได้เลย
แล้วเราก็โทรไปถามข้อมูล ว่าต้องไปถึงกี่โมง ยังไง
เว็บไซต์ http://www.tis-museum.org/
เบอร์โทร 038432471 และ 038432475
ถามเจ้าหน้าที่ว่าคนเยอะไหม เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงเทศกาลคนจะเยอะมาก ให้มาถึงตั้งแต่เช้า มารับบัตรคิวได้ตอน 6 โมงเช้า และซื้อตั๋วได้ประมาณ 7 โมงเช้า
เราเลยตัดสินใจเดินทางไว เพราะกลัวจะไม่ได้คิว เลยเดินทางออกจากพัทยาล้อหมุนไปตอนตี 5 วันจันทร์ที่ 17 เมษา
ไปถึงก็เช้าพอดี ประมาณ 6 โมงเช้า ไม่ได้ขับรถเร็วมาก
ภาพบรรยากาศริมฝั่ง (ภาพมืดไปหน่อยถ่ายย้อนแสง กล้องมือถือ ภาพทุกภาพที่ถ่ายในกระทู้ เป็นกล้องมือทั้งหมดนะ อาจไม่สวย แต่ก็สื่อให้มองภาพได้)
แล้วเข้าไปหยิบบัตรคิวกับพี่ทหารได้เลย ได้คิวที่ 53 54 55 56 57 ไป 5 คน ก็ต้องหยิบบัตรคิวมา 5 ใบ
ในที่นี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดที่ดูแลจัดการ รวมในเกาะด้วย
แล้วก็ไปหาข้าวกินกันระหว่างรอซื้อบัตรคิว ตรงใกล้ๆ ท่าเรือ ราคาข้าวอยู่ที่ 50-55-60 บาท ประมาณนี้
แนะนำให้สั่งพวกเนื้อสัตว์นะ เพราะถ้าสั่งไข่เจียว คือไข่เจียวเปล่าไม่มีหมู ไม่มีเนื้อสัตว์ คือจานละ 50 บาท
สั่งเป็นกระเพราทะเลคุ้มกว่า 55 บาท ยังมีปลาหมึกกุ้ง 😀
ตรงร้านขายข้าวก็จะมีมินิมาร์ทด้วย สามารถซื้อของกินนำเข้าไปในเกาะได้ หรือไปซื้อทีเดียวในเกาะก็มีขาย ไม่ต้องหิ้วไปให้เกะกะ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน
7 โมงเช้าก็ไปเข้าคิวซื้อบัตรอีกรอบ
*ราคาการเดินทางข้ามเกาะแสมสาร
- ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท
- เด็กตั้งแต่ 3ปีขึ้นไปไม่เกิน 18ปีบริบูรณ์คนละ 220 บาท ( อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
- ชาวต่างชาติทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คนละ 600 บาท
..ของเรามีผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 1 คน (300+300+300+300+220 =1,420 บาท)
บัตรข้ามเรือ
เรือออกจากท่าเรือ ประมาณ 8.30 น. เกาะแสมสารอยู่ใกล้ฝั่ง มองไปก็เห็นอยู่ แต่ก็ต้องรอเรือข้ามตามเวลา
ได้เวลาก็ทะยอยเดินกันไปขึ้นเรือ เราไปกันเที่ยวแรก เพราะอุตส่าห์บากบั่นมาแต่มืด หุหุ
คือเรือแบบนี้ คนเต็มก็ออกมั๊ง หรือออกตามเวลาไม่แน่ใจ
ใช้เวลาเดินเรือประมาณไม่ถึง 10 นาที เพราะเรือแล่นไม่เร็ว ต้องใส่เสื้อชูชีพด้วย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ริมฝั่งน้ำใสมากๆ เห็นปลาสลิดหินลายบั้งว่ายไปมาอยู่ในน้ำเลย
มุมถ่ายจากบนเรือไปยังฝั่งทางเดินมาท่าเรือ
ไปกันเลย!!!! นั่นไงเกาะแสมสารอยู่ข้างหน้าเราแล้ว
มาถึงคิวแรกไม่มีนักท่องเที่ยวในเกาะเลย
ก่อนอื่นขอแชะกับเสาหน่อยจะได้รู้ว่ามาถึงแล้ว😀
เมื่อถึงเกาะ ลำดับแรกนักท่องเที่ยวทุกคนควรจะไปฟังพี่ทหารบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับเกาะ และนักท่องเที่ยวว่าต้องทำอะไร ยังไงบ้าง ใช้เวลาบรรยายประมาณ 5 นาที
ดูริมหาดสิสวยเชียว นี่คือหาดเทียน สามารถเล่นน้ำได้เป็นเวลา พี่ทหารบอกวันนี้เล่นได้ถึง 10 โมงเช้า เพราะน้ำลงจะเล่นไม่ได้ และมีการจำกัดพื้นที่ในการเล่นจะมีทุ่นกั้นไว้ เพื่อไม่ให้ออกไปเล่นนอกทุ่นจะเกิดอันตรายได้
มีร้านขายของ 1 ร้าน พอได้ซื้อกินแก้หิวได้
มีเสื้อชูชีพบริการให้ฟรี ในขณะเล่นน้ำต้องใส่ทุกคน ทุกครั้ง เพือความปลอดภัย
มีห้องน้ำ และที่สำหรับล้างตัว (ย้ำ) ล้างตัวนะ ไม่ใช่อาบน้ำ เพราะน้ำจืดมีจำกัด ต้องใช้กันอย่างประหยัด
มีต้นไม้ให้ร่มเงานั่งเล่นได้บริเวณริมหาดเทียน
แต่เราจะไปดำน้ำ ต้องนั่งรถไปอีกหาดนึงคนละมุมกับหาดเทียน เราต้องไปกันที่หาดลูกลม
ใช้รถโดยสารเท่านั้น ไม่ให้เดินไปเอง
ต่อแถวรอขึ้นรถไปหาดลูกลม
มีรถกระบะ และรถแบบนี้(เขาเรียกรถอะไร รถรางหรือเปล่าไม่แน่ใจ) 😃
ถึงคิวเราแล้ว(หน้าชื่นตาบานกันมาก)😉 ได้นั่งรถกระบะ ใช้เวลาเดินทางประมาณไม่ถึง 5 นาที
ถึงแล้วหาดลูกลม แชะเก็บหลักฐานการมาถึงแล้ว
ภาพบรรยากาศช่วงที่มาถึง
เมื่อมาถึงแล้ว ใครจะไปดำน้ำหรือไปนั่งเรือท้องกระจกดูปลา
**ต้องไปแจ้งชื่อกับพี่ทหาร เขาจะจัดเป็นนักท่องเที่ยวชุดๆ
แล้วจะคอยเรียกไปเรื่อยๆ ตามลำดับ ใครมาก่อนได้ไปก่อน
*ดำน้ำดูปลา ต้องใส่ชูชีพสีส้มเท่านั้น
*นั่งเรือท้องกระจก ต้องใส่ชูชีพสีเขียวเท่านั้น
และเล่นน้ำต้องใส่เสื้อชูชีพด้วยนะ ใส่ทุกคน ทุกกรณี
จุดแจ้งชื่อ
ราคาค่าบริการ
ดำน้ำดูปลา คนละ 50 บาท (มีอุปกรณ์ให้)
นั่งเรือท้องกระจกคนละ 20 บาท
จะมีเสื่อ เตียงผ้าใบ โต๊ะ สำหรับให้เช่าด้วย
เสื่อผืนละ 20 บาท
เตียงผ้าใบตัวละ 20 บาท
โต๊ะ ตัวละ 40 บาท
และก็มีล็อคเกอร์ให้เช่าเก็บของ ช่องละ 20 บาท
มีร้านขายน้ำ อาหาร ขนม สามารถเลือกซื้อตามใจชอบ มีให้เลือกไม่มากนะ 555
เมื่อถึงคิวเรา เราคิวชุดที่ 3 ไปรับอุปกรณ์ดำน้ำ
แล้วจะมีพี่ทหารสอนวิธีการใช้งานแบบละเอียดยิ๊บเลย
คือสอนจนให้ได้ ได้ทุกคน ใครไม่ได้สอนตัวต่อตัวเลย
สอนดำ สอนลอยตัว ก่อนไปดำน้ำจริง
สองคนแม่ลูกนี้ไม่มีปัญหา เพิ่งไปดำน้ำดูปลาที่เกาะช้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 555 ยังมาดำที่นี่ต่ออีก
เมื่อฝึกเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อคิว รอเรือได้เลย เราชุดที่ 3
นั่งเรือยางไปนิดเองจุดดำน้ำ มองไปก็เห็นตรงเกาะ
ใช้เวลาดำน้ำดูปลารอบละ 30 นาทีเท่านั้น
จุดที่ดำ ปลาไม่เยอะเท่าไร แต่มีปลาการ์ตูนสีส้ม (นีโม่) ให้ดู ที่แรกก็มองไม่เห็น พี่ทหารมาชี้ให้ดูว่านี่ไง อยู่ตรงนี้ไง
เลยดำดู
เอ้ย!!! มีจริงๆ ด้วย ตัวนิดเดียว น่ารักดุ๊กดิ๊กมากๆ แต่มีไม่เยอะนะ น่าจะรวมแล้ว บริเวณนี้ไม่เกิน 10 ตัว
มีหอยเม้น แหลมๆ
ปลาสลิดหินลายบั้ง
หอยมือเสือ ตัวใหญ่ (แอบได้ยินคนข้างๆ เรียก แต่มันเหมือนมือเสือจริงๆ)
มีปะการังสวยงาม
***** ขออภัย ไม่มีภาพตอนไปดำน้ำ ภาพใต้น้ำ เพราะไม่มีกล้องดำน้ำ มือถือเอาใส่ล๊อคเกอร์ไว้ กลัวเปียก เพราะถ้าเอาไปต้องวางไว้บนโป๊ะลอยน้ำตรงจุดดำ ซึ่งพี่ทหารบอกว่าเสี่ยงหาย ไม่เอาไปจะดีกว่า
เมื่อครบ 30 นาทีผ่านไป จนท. เรียกขึ้นโป๊ะ นั่งเรือกลับหาด เป็นอันจบการดำน้ำ
ต่อไปเรามาหาอาหารรองท้องกันดีกว่า ที่นี่ราคาาหารไม่แพงนะ ราคาปกติเหมือนแฟล่งท่องเที่ยวทั่วไป บนฝั่ง ไม่ได้บวกเพิ่มแต่อย่างใด
ส้มตำอาหารประจำชาติ ไปไหนต้องมี
ตำป่าจานละ 60 บาท อย่างเยอะ
ไก่ทอดชิ้นละ 20 บาท รสชาติดีเลยละ
แล้วก็ซื้อหมูกระจก ห่อละ 20 บาท มาคลุกกับส้มตำ
เฉาก๋วยเย็นรสชาติดีนะ อร่อยเลยล่ะ
เห็นมีข้าวไข่เจียว ทอดใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ จานละ 35 บาท
ข้าวกระเพราไข่ดาวจานละ 35 บาท
มีมะพร้าวน้ำหอมขาย ลูกละ 50 บาท
อาหารมีประมาณนี้
เมื่ออิ่มท้องก็ลุยต่อ ไปเล่นน้ำริมหาดได้เลย
เล่นน้ำต้องใส่ชูชีพด้วย มีช่วงแรกไปเล่นน้ำ
เราไม่ได้ใส่ ไม่รู้ว่าต้องใส่
จนท. เดินมาใกล้ๆ แล้วบอกว่า เล่นน้ำใส่ชูชีพด้วยนะครับ
เราเลยเดินขึ้นไปหยิบมาใส่ เพื่อทำตามระเบียบของเขา
แต่ที่สังเกตุนะ ที่นี่จะไม่ใช้นกหวีดเป่า ไม่ตะโกน ไม่ใช้โทรโข่ง ในขณะเตือนนักท่องเที่ยว ก็ดีนะ เหมือนให้เกียรติ และอาจไม่อยากให้ส่งเสียงดังหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
เล่นน้ำริมหาด น้ำใสมากนะ แต่หินค่อนข้างคม ถ้าเอาเท้าไปเหยียบก็อาจทิ่มเท้าบ้าง เพราะก็โดนมาหลายแผลอยู่ แต่แผลเล็กๆ นะ เล่นแบบฮาร์ดคอร์ไปหน่อย
เล่นน้ำเพลินๆ
เล่นน้ำนานละ ไปพายเรือบ้างดีกว่า
ค่าเช่าไม้พาย ชั่วโมงละ 100 บาท
แต่ไม้พายไม่พอ รอไปก่อน เอามือพายไปพลางๆ
อ่ะมาละ ไม้พายมาละ ไปพายโล้ด พายยากนะ ไม่เคยพายแบบ 2 ข้างไม้พาย
ลองพาย 2 ข้างไม่รุ่ง งั้นขอพายข้างเดียวแบบพายงัด ที่เคยพายละกัน
พายเรือครบชั่วโมงนี่คือแบบร้อนมากเลย ต้องเอาน้ำราดตัวตลอดให้เปียกๆ
แล้วก็เล่นน้ำต่ออีกแป๊บนึง เล่นไปเล่นมา ชักแสบหน้าแฮะ
หน้าไหม้จ้า แดงเลย
ครีมกันแดด ทาไปรอบเดียวตอนแรก และขี้เกียจทาซ้ำอีก
เห้อ!!! เล่นไม่กี่ชั่วโมงหน้าพังอย่างแรง!!
ภาพบรรยากาศช่วงบ่ายๆ
ต่อ👇👇