ช่วงนี้พอจะมีเวลา ดูฟุตบอลไทยและเทศอยู่บ้าง ...
ปกติ เวลามีฟุตบอลไทยลีก เราจะใช้เวลาดูบอลไทยลีก ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ตอนดึกๆ มีบอลอังกฤษดู ก็จะเลือกดูคู่สำคัญๆ จะดูทุกคู่คงไม่ได้ เพราะเป็นเวลา อ่านหนังสือ
พอเปรียบเทียบนักเตะไทย กับยุโรป พอจะสรุป ข้อเสียนักเตะไทย ดังนี้
1) สัญชาตญานในการยิงประตู
ลูกโด่ง ลูกเซ็ตพีท หน้าเขตประตู ...
ผมเห็นนักเตะไทย ไม่กล้า ไม่แน่ใจ ที่จะซัลโวจังหวะเดียว
โดยส่วนใหญ่แล้ว สมองนักเตะไทย จะคิดเอาชัวร์เอาแน่นอนไว้ก่อน ด้วยการพักบอล แต่งบอล
พอแตะบอล มันไม่มีเวลาแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ถึงตัวและบล็อกอยู่ หรือไม่ประตูก็จ้องทันอยู่แล้ว
ดังนั้นนักเตะไทยจึงขาดโอกาส ในการทำประตู ... เพราะมัวแต่ตบ มัวแต่แต่ง เคล้าคลึงอยู่นั่นแหละ
ยกตัวอย่าง เกมส์ เมืองทอง อุลซาน ลูกที่ อดิศักดิ์ หลุดเดี่ยว
จังหวะประตูเข้ามาบีบ ลูกนั้นถ้า ชิพข้ามหัว ประตู้เลี้ยวกลับไม่ทันทันแน่นอน
แต่เลือกที่จะแตะหลบ ซึ่งเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจ ตัวบล็อกก็วิ่งมาทันแล้ว ...
การตัดสินใจให้เร็ว การฉวยโอกาส ยิงไม่ต้องคิดมาก นักเตะไทยยังขาด
ผมมองว่า อยู่ที่ใจ ต้องกล้าได้กล้าเสีย ประเภทซัดตูมเดียวไม่ต้องแต่ง หายากกับนักเตะไทย
2) ยักๆ ยักๆ ชอบฝืน ขี้เลี้ยง
ข้อเสียของนักเตะไทยอีกอย่าง คือ ชอบขืน ...
ผมเห็นนักเตะหลายๆ คนชอบโชว์เก๋า ฝืนเลี้ยงแหวก ไปข้างหน้า ทั้งๆ ที่น่าจะรีบส่งให้บอลมันเคลื่อนที่แทนคน
พอไปดูบอลอังกฤษ ยุโรป บอลมันเคลื่อนที่เร็ว ในขนะที่ คนไม่ต้องวิ่งมาก ....
แต่บอลไทย คนมักจะวิ่งไปกับบอลมาก .... สุดท้ายก็หมดแรง วิ่งไม่ครบ 90 นาที
ผมว่า ไทย น่าจะมีโครงการพัฒนา ฝึกกองหน้า โดยเฉพาะนะครับ ไม่งั้นดาวซัลโวไทยลีก ก็จะมีแต่ บราซิล ทุกๆ ปี
ยังดี ที่มุ้ย ธีรศิลป์ ตอนพีคๆ เบียดแซงนักเตะต่างชาติ เป็นดาวซัลโวสูงสุด แต่ก็เท่ากับ คลีตัน ซิลวา
เท่าที่ผมเห็นข้อเสีย ในเกมส์รุก หลักๆ มี 2 ข้อนี่แหละ
เปรียบเทียบกับ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ตอนพีคๆ .... หมอนี่จังหวะยิงไม่มีแต่ง เขาซัดตูมเดียวตลอด
คือการคำนวนจังหวะบอลตก แล้งบังคับทิศทาง เสมือนตีเบสบอล หรือ เตะตะกร้อ
ไม่ต้องรอให้บอลตกพื้น หรือ แตะบอลก่อนยิง
✤ ข้อเสียและ ข้อด้อย ของนักเตะไทย
ปกติ เวลามีฟุตบอลไทยลีก เราจะใช้เวลาดูบอลไทยลีก ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ตอนดึกๆ มีบอลอังกฤษดู ก็จะเลือกดูคู่สำคัญๆ จะดูทุกคู่คงไม่ได้ เพราะเป็นเวลา อ่านหนังสือ
พอเปรียบเทียบนักเตะไทย กับยุโรป พอจะสรุป ข้อเสียนักเตะไทย ดังนี้
1) สัญชาตญานในการยิงประตู
ลูกโด่ง ลูกเซ็ตพีท หน้าเขตประตู ...
ผมเห็นนักเตะไทย ไม่กล้า ไม่แน่ใจ ที่จะซัลโวจังหวะเดียว
โดยส่วนใหญ่แล้ว สมองนักเตะไทย จะคิดเอาชัวร์เอาแน่นอนไว้ก่อน ด้วยการพักบอล แต่งบอล
พอแตะบอล มันไม่มีเวลาแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ถึงตัวและบล็อกอยู่ หรือไม่ประตูก็จ้องทันอยู่แล้ว
ดังนั้นนักเตะไทยจึงขาดโอกาส ในการทำประตู ... เพราะมัวแต่ตบ มัวแต่แต่ง เคล้าคลึงอยู่นั่นแหละ
ยกตัวอย่าง เกมส์ เมืองทอง อุลซาน ลูกที่ อดิศักดิ์ หลุดเดี่ยว
จังหวะประตูเข้ามาบีบ ลูกนั้นถ้า ชิพข้ามหัว ประตู้เลี้ยวกลับไม่ทันทันแน่นอน
แต่เลือกที่จะแตะหลบ ซึ่งเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจ ตัวบล็อกก็วิ่งมาทันแล้ว ...
การตัดสินใจให้เร็ว การฉวยโอกาส ยิงไม่ต้องคิดมาก นักเตะไทยยังขาด
ผมมองว่า อยู่ที่ใจ ต้องกล้าได้กล้าเสีย ประเภทซัดตูมเดียวไม่ต้องแต่ง หายากกับนักเตะไทย
2) ยักๆ ยักๆ ชอบฝืน ขี้เลี้ยง
ข้อเสียของนักเตะไทยอีกอย่าง คือ ชอบขืน ...
ผมเห็นนักเตะหลายๆ คนชอบโชว์เก๋า ฝืนเลี้ยงแหวก ไปข้างหน้า ทั้งๆ ที่น่าจะรีบส่งให้บอลมันเคลื่อนที่แทนคน
พอไปดูบอลอังกฤษ ยุโรป บอลมันเคลื่อนที่เร็ว ในขนะที่ คนไม่ต้องวิ่งมาก ....
แต่บอลไทย คนมักจะวิ่งไปกับบอลมาก .... สุดท้ายก็หมดแรง วิ่งไม่ครบ 90 นาที
ผมว่า ไทย น่าจะมีโครงการพัฒนา ฝึกกองหน้า โดยเฉพาะนะครับ ไม่งั้นดาวซัลโวไทยลีก ก็จะมีแต่ บราซิล ทุกๆ ปี
ยังดี ที่มุ้ย ธีรศิลป์ ตอนพีคๆ เบียดแซงนักเตะต่างชาติ เป็นดาวซัลโวสูงสุด แต่ก็เท่ากับ คลีตัน ซิลวา
เท่าที่ผมเห็นข้อเสีย ในเกมส์รุก หลักๆ มี 2 ข้อนี่แหละ
เปรียบเทียบกับ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ตอนพีคๆ .... หมอนี่จังหวะยิงไม่มีแต่ง เขาซัดตูมเดียวตลอด
คือการคำนวนจังหวะบอลตก แล้งบังคับทิศทาง เสมือนตีเบสบอล หรือ เตะตะกร้อ
ไม่ต้องรอให้บอลตกพื้น หรือ แตะบอลก่อนยิง