ผู้ถือหุ้น บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ยิ้มรับมติปันผลเป็นเงินสดอย่างพร้อมเพรียงในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" ระบุภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ต่อจากนี้ยังขยายตัวตามงานภาครัฐและเอกชน พร้อมตอกย้ำรายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 5-5.2 พันล้านบาท หลังตุนงานไว้ในมือแล้วกว่า 1.6 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าหางานใหม่ๆ เพิ่ม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2559 เป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2559 ในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อ ปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 27 เมษายน 2560 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 ประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560
"ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในรูปของเงินสดดังกล่าว เกิดจากการที่เราได้มุ่งมั่นและทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอในอนาคต โดยธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจโทรคมนาคมของบริษัทฯ ในปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเริ่มทยอยเห็นความชัดเจนของการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ส่งผลให้ปีนี้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย” นายสมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ จากการที่เศรษฐกิจภายในประเทศมีทิศทางฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากการเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งในส่วนของโครงการนำสายไฟลงใต้ดินและโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนภาคเอกชนที่จะเห็นการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และโครงการศูนย์การค้าต่างๆ ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติม และน่าจะผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 5-5.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเติบโตที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 3.9 พันล้านบาท และธุรกิจติดตั้งเสาโทรคมนาคมประมาณ 1.3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ๆ จากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟรางคู่ และสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อต่อยอดงานในมือให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีงานอยู่ในมือรวมทั้งสิ้น 1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจเทรดดิ้ง 900 ล้านบาท และธุรกิจติดตั้งเสาโทรคมนาคม 700 ล้านบาท
By Share2Trade
ผถห.CSS เทคะแนนเสียงรับมติปันผล มั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้ผ่านฉลุยแตะ 5 พันลบ.
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2559 เป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2559 ในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อ ปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 27 เมษายน 2560 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 ประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560
"ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในรูปของเงินสดดังกล่าว เกิดจากการที่เราได้มุ่งมั่นและทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอในอนาคต โดยธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจโทรคมนาคมของบริษัทฯ ในปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเริ่มทยอยเห็นความชัดเจนของการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ส่งผลให้ปีนี้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย” นายสมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ จากการที่เศรษฐกิจภายในประเทศมีทิศทางฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากการเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งในส่วนของโครงการนำสายไฟลงใต้ดินและโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนภาคเอกชนที่จะเห็นการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และโครงการศูนย์การค้าต่างๆ ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติม และน่าจะผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 5-5.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเติบโตที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 3.9 พันล้านบาท และธุรกิจติดตั้งเสาโทรคมนาคมประมาณ 1.3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ๆ จากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟรางคู่ และสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อต่อยอดงานในมือให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีงานอยู่ในมือรวมทั้งสิ้น 1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจเทรดดิ้ง 900 ล้านบาท และธุรกิจติดตั้งเสาโทรคมนาคม 700 ล้านบาท