ถ้าพลาดจากเที่ยวบินเพราะกระเป๋าที่โหลดมาไม่ผ่านsecurity แต่พอตรวจสอบแล้วไม่เจออะไรนี่ใครต้องรับผิดชอบคะ?
สวัสดีค่ะ ขอลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบก่อนนะคะ มีรายละเอียดค่อนข้าวยาวนะบอกไว้ก่อน
หากใครไม่สะดวกก็อ่านสรุปในสปอยล์ได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เราและเพื่อนรวมกัน4คน มีบินไปเที่ยวที่เลห์โดยสายการบิน Jetairways โดยต้องแวะเปลี่ยนเครื่องและดรอปกระเป๋าใหม่ที่เดลี
- สองคนผ่านเข้าเกทปกติ คนสุดท้ายถูกดักหน้าเกทห้ามขึ้นเครื่องโดยสตาฟแจ้งว่ากระเป๋าที่โหลดไว้ไม่ผ่านความปลอดภัยของสนามบิน
คนที่สามจึงยอมไม่บินเพื่ออยู่ช่วยเหลือกัน
- เมื่อตรวจค้นกระเป๋าแล้วไม่เจอสิ่งแปลกปลอมหรือของต้องห้ามใดๆ
- เรากับเพื่อนอีกคนที่ขึ้นเครื่องมาก่อน บินไปถึงเลห์โดยปราศจากกระเป๋าสัมภาระ
- สายการบินดำเนินการเรื่องตั๋วใหม่ให้ในวันรุ่งขึ้น แต่ตอนมาติดต่อที่เคาท์เตอร์กลับไม่ได้รับการประสานงานให้จนตกเครื่องอีกรอบ
- หลังจากวันนั้น สายการบินไม่มีความสามารถในการหาตั๋วให้เพื่อนที่ตกเครื่องเดินทางต่อมายังเลห์ได้ และไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออื่นใดอีกเลย แจ้งว่าไม่ใช่ความผิดของสายการบิน เป็นการทำตามหน้าที่เท่านั้น
ข้อสังเกต
- ช่วงที่เดินทางไฟล์ทไปเลห์เพิ่งสามารถบินได้ไม่กี่วัน เนื่องจากก่อนหน้ามีปัญหายกเลิกเที่ยวบินเพราะหิมะตก ทำให้มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างจนมีการOverbookedเยอะมาก
- ทำไมเลขที่นั่งจึงมีความซ้ำซ้อนกันระหว่างของเพื่อนคนที่ไม่ได้ไปต่อกับผู้โดยสารที่เจอOverbookedของวันก่อน
- ตอนตกเครื่อง ตรวจสอบสถานะไปทางสำนักงานที่ไทย แจ้งเพียงว่าบุ้คกิ้งเรามีหนึ่งคนตกเครื่องเพราะมาสาย และสามคนได้ไปต่อ ซึ่งแตกต่างจากความเป็นจริง
**สรุปทริปนี้ตกเครื่องอยู่เดลีสองราย กระเป๋าไม่ไปเลห์ทั้งหมด ได้รับความเดือดร้อนตลอดทริป สำนักงานสายการบินที่เดลี ออกเอกสารมาให้ขอรีฟันตอนกลับไทยแล้ว เป็นค่าตั๋วไปกลับในประเทศของสองผู้โดยสารที่ตกเครื่องเท่านั้น
อยากทราบว่ากรณีที่เราเจอนี้ เป็นความรับผิดชอบของใครคะ?
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เรามีกำหนดการไปเที่ยวเมืองเลห์ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 8-16 เม.ย. 60
เราเดินทางกันทั้งหมด4คน โดยจองเที่ยวบินของสายการบิน jetairways ซึ่งต้องแวะเปลี่นเครื่องที่เดลี
(รวม4ไฟลท์ คือ Bkk-Delhi ,Delhi-Leh ,Leh-Delhi,Delhi-Bkk)
8 เม.ย.60 ที่กรุงเทพฯ เราเช็คอินและโหลดกระเป๋าหน้าเคาท์เตอร์jetairways ในช่วงที่จะปิดเคาท์เตอร์พอดี
ได้รับ boardingpass ของทั้งสองไฟล์ทและกระเป๋าผ่านเครื่องแสกนแล้ว โดยติดมี Domestic Tag พร้อมโหลดเรียบร้อย
(ตอนนั้นไม่ได้ตรวจสอบว่ากระเป๋าทั้งหมดถูกโหลดในชื่อเดียวกัน) ก็รีบผ่านตม. แล้ววิ่งไปขึ้นเครื่องทันเวลา
พอไปถึงที่เดลี ก็ผ่านเข้าตม. ไปรับกระเป๋าจากสายพานเพื่อรอเปลี่ยนเครื่องต่อ
9 เม.ย.60 ก่อนเกทเปิด1ชม. เราดรอปกระเป๋าไว้ที่ Transit desk (ไม่มีเครื่องตรวจกระเป๋า) ตอนที่ส่งกระเป๋า
ในช่อง Transit ทางStaffไม่ได้แจ้งถึงความผิดปกติใดๆ พอไปถึงเกทเป็นกรุ๊ปท้ายๆ เรากับเพื่อนอีกคนผ่านเกทตามปกติ
ที่เหลืออีกสองคนก็เดินตามกันมา
*ปัญหาเกิดตรงเพื่อนคนสุดท้ายถูกห้ามขึ้นเครื่องและแจ้งว่ากระเป๋าที่โหลดมาไม่ผ่านความปลอดภัยนะ
มีพาวเวอแบงก์อยู่ประมาณนี้ อีกคนที่ผ่านมาแล้วจึงอยู่ช่วยกันเคลียร์ ในตอนนั้นเรากับเพื่อนอีกคนเดินนำไปก่อนแล้ว
จึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
- Staff แจ้งเพื่อนว่าจะเรียกเราที่ขึ้นเครื่องไปแล้วมาให้ แต่ไม่ได้มีการไปแจ้งให้ทราบแต่อย่างใด
จนกระทั่งเครื่องลงปลายทางที่เลห์ เราถึงได้ทราบเรื่องจากคนไทยที่ขึ้นเครื่องตามหลังเรามา และจาก Staff Jetairways
ที่เราไปสอบถามเรื่องกระเป๋ากับเพื่อนที่ตกเครื่องเอง จึงได้ให้รหัสกระเป๋าเพื่อเปิดตรวจสอบ
ทางStaffแจ้งว่าหลังจากตรวจสอบแล้ว เพื่อนและกระเป๋าจะตามมาในวันรุ่งขึ้น
***สรุปในวันแรก(9 เม.ย.60) จากกรุ๊ป4คน กลายเป็นเรากับเพื่อนอีกคนอยู่ที่เลห์ และเพื่อนอีก2คนยังตกค้างอยู่เดลีพร้อมกระเป๋าทั้งหมด4ใบ
- ฝั่งเราที่อยู่เลห์ ไกด์พาไปติดต่อสอบถามกับสายการบินเรื่องออกตั๋วใหม่ให้เพื่อนตามมาในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อย
แต่ตอนนั้นเราไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนทางฝั่งเดลีได้เลย เนื่องจากทั้งเมืองไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตและเบอร์โทรของฝั่งเดลี
- ส่วนทางฝั่งเดลี หลังจากถูกดักไว้หน้าเกท(49) ก็ถูกพาไปรอกระเป๋าอีกเกท(37) รอรหัสจากเราเพื่อเปิดกระเป๋าตรวจสอบ (เวลาประมาณ1ชม.)
เมื่อตรวจสอบกระเป๋าแล้วไม่พบสิ่งแปลกปลอมหรือความปกติของกระเป๋าแต่อย่างใด
ทางสายการบินไม่ได้อธิบายให้ความกระจ่างในการปฏิบัติตนของผู้โดยสารกรณีที่เกิดเหตุการณ์นี้เลย
แจ้งเพียงว่าเป็นการทำตามหน้าที่ และจะหาไฟล์ทให้ในวันรุ่งขึ้น แล้วพาเพื่อนออกมานอกเกทและให้เอกสาร 1ใบ
แทนBoardingPass พร้อมเบอร์ติดต่อของSupervisorท่านหนึ่ง เพื่อนำมายื่นกับเคาท์เตอร์ให้ออกตั๋วในวันรุ่งขึ้นได้เลย
ในช่วงระยะที่กว่าจะเคลียร์เรื่องตรวจกระเป๋าและได้กระเป๋าของทุกคนมาครบทั้ง4ใบนั้นแล้วเสร็จในเวลาเที่ยงวัน
ใช้เวลาประมาณกว่า6ชม. นับจากเวลาที่เครื่องออกจากเดลีไปแล้ว
หลังจากนั้น Staff ก็พาไปพบเจ้าหน้าที่ประจำเล้าจ์ เพื่อแสดงตัวและยืนยันให้พักผ่อนอยู่ในเล้าจ์ได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันนั้น
จนถึงตีสองของวันรุ่งขึ้น (10เม.ย.60) ในระหว่างที่พักอยู่ที่เล้าจ์จะต้องมีปัญหาในการเข้าออกห้องน้ำมาก เพราะเอกสารที่สายการบินให้
ไม่ครอบคลุมและไม่เป็นสากลพอ
10 เม.ย. 60 ประมาณตีสองครึ่ง เพื่อนเราออกจากเล้าจ์เพื่อมาติดต่อเรื่องตั๋วใหม่ที่เคาท์เตอร์ ยื่นเอกสารที่สายการบินให้ไว้
รออยู่หน้าเคาเตอร์จนเกือบตีสี่ Staffmี่เคาท์เตอร์ ไม่ได้ดำเนินการใดๆให้ เมื่อเห็นว่าเวลากระชั้นชิด เพื่อนจึงได้ออกมาโทรหา
Supervisorที่ให้เบอร์ติดต่อไว้เอง แต่ได้รับการตอบกลับมาว่า มาสายเกินไปที่นั่งเต็มแล้ว ไม่สามารถหาตั๋วให้เราได้
ทั้งนี้สายการบินได้เสนอทางเลือก หากต้องการไปเลห์ให้ได้ในวันนี้ ให้ลองไปซื้อตั๋วใหม่ของสายการบินอื่นเองหรือ
ให้มารอตั๋วอีกในวันรุ่งขึ้น เพื่อนเราเลือกตัวเลือกแรกก่อน รีบหาแท็กซี่ แบกสัมภาระทั้งหมด ไปยังอีกเทอมินัลเอง
โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากJetairways แต่ก็ไม่สามารถหาตั๋วได้อีกเช่นกัน ทุกสายการบินที่นั่งเต็มหมด
จึงได้ย้อนกลับไปที่Jetairwaysใหม่
ทางสายการบินแจ้งเพียงว่าให้มาลองดูใหม่ในวันพรุ่งนี้ ไม่มีความช่วยเหลืออื่นใดถึงเพื่อนเราเลย ต้องหาที่พักเอง
แบกสัมภาระที่ถูกกักไว้ทั้งหมดเอง เช่ารถแท้กซี่ไปดำเนินการทุกอย่างเองทั้งหมด
11 เม.ย. 60 มีเพื่อนชาวอินเดียมาช่วยร้องเรียนให้สายการบินหาตั๋วให้ใหม่หรือให้สายการบินเสนอการช่วยเหลืออื่นใด
แต่สายการบินก็แจ้งว่าเที่ยวบินเต็มทุกวัน ไม่สามารถหาที่นั่งให้ได้ และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากสายการบินอีกเลย
12 เม.ย. 60 Jet ไม่มีเที่ยวบินไปยังเลห์ แต่เพื่อนเราก็ไปติดต่อเผื่อได้ตั๋วของสายการบินอื่นหรือของJetเองในวันรุ่งขึ้น
13 เม.ย.60 ก็ไปติดต่ออีก แต่สายการบินก็แจ้งว่าที่นั่งเต็มเช่นเคย กว่า5วันที่เหนื่อยมาเลยยอมแพ้ ตัดสินใจแยกกันเที่ยว
แล้วค่อยกลับมาเจอกันที่เดลีก่อนกลับไทยแทน เพื่อนที่ตกค้างอยู่เดลีจึงขอเอกสารเกี่ยวกับการชดเชยการพลาดต่อเที่ยวบิน
จากสายการบินไว้เพื่อนำกลับมายื่นร้องเรียนที่ไทย
จากการทำตามหน้าที่ของสายการบินสำหรับกรณีเรานั้น ทำให้เราได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก สองคนที่ได้บินไปเลห์โดยไม่มี
กระเป๋าสัมภาระ ไม่มีเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็น ไม่มียารักษาโรคประจำตัว จำเป็นต้องจัดหาใหม่ทั้งหมด ส่วนฝั่งที่ตกค้างอยู่ที่เดลี
มีความยากลำบากกว่ามาก ไม่มีการเตรียมตัวเพื่อมาอยู่ที่เดลี เพราะแพลนเพื่อเดินทางมายังเลห์เท่านั้น ไม่มีที่พักไม่มีเสื้อผ้าที่
สามารถใช้ได้เหมาะสมกับสภาพอากาศ จำเป็นต้องซื้อใหม่เช่นกัน และทุกครั้งที่ไปติดต่อกับสายการบินเพื่อออกตั๋วให้ใหม่
เพื่อนเราก็ต้องแบกสัมภาระทั้งหมดไปด้วยทุกครั้งด้วยความหวังว่าจะมีตั๋วให้เดินทางไปยังเลห์
...ความพีคของเราก็ยังไม่สิ้นสุดนะคะ
16 เม.ย. 60 ไฟล์ทขากลับ เราที่เดินทางจากเลห์ ก็ได้boardingpass อะไรตามปกติ แต่เพื่อนฝั่งเดลี พอมาติดต่อตอนแรก
เจ้าหน้าที่ออกตั๋วแจ้งว่า ตั๋วกลับไทยถูกยกเลิกไปแล้วอัตโนมัติ เพราะไม่ได้เดินทางในไฟล์ทเดลี-เลห์,เลห์-เดลี
เราก็เริ่มโวยวายกันละ อะไรมันจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนั้น รอสักพักหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงพิมพ์เอกสารและให้ไปคุยกับsupervisor
ที่เคาเตอร์เอง ถ้ามีที่นั่งว่างจะได้ไป ปรากฎว่าได้ตั๋วกลับไทยมาอย่างราบรื่นซะอย่างนั้น ต้องขอบคุณSupervisorคนนั้นมาก
(เพิ่งทราบตอนหลังว่าเป็นเรื่องปกติที่จะยกเลิกเที่ยวบินที่เหลือหลังจากNoshowสำหรับไฟล์ทบินทรานสิท)
ตอนนั้นพอได้ตั๋วแล้วคือรีบเดินรีบผ่านตม.ไปรอหน้าเกทขึ้นเครื่องเลย กลัวจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก นับว่าโชคยังดีอยู่บ้าง
ที่เราเผื่อเวลามาถึงสนามบินเยอะ ดีใจมากจะได้กลับสู่บ้านเราสักที
พอเรากลับมาถึงไทยจึงได้ติดต่อไปทางสำนักงานJetairways ที่ไทย ทางสำนักงานแจ้งว่าจะได้เงินชดเชยในส่วนค่าตั๋วเที่ยวบิน
ไปกลับในประเทศตามเอกสารได้ที่มาจากอินเดียเท่านั้น
"เรารู้สึกว่าการชดเชยที่สายการบินให้มันเทียบไม่ได้กับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราสูญเสียไปในทริปนี้ได้เลย ทุกอย่างผิดแผนหมด
เราเสียเงิน เสียแรง เสียเวลา เราไม่สามารถเดินทางไปถึงปลายทางอย่างที่ตั้งใจไว้ วางแผนมากว่าครึ่งปี ทุกคนมีหน้าที่การงานก็ลางาน
เพื่อมาท่องเที่ยวที่เลห์ จองเที่ยวบินและที่พักเรียบร้อยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ค่าที่พักที่ชำระมาก่อน ค่าที่พักที่ต้องเสียเพิ่มเอง ค่าเดินทาง
ติดต่อเรื่องตั๋วเรื่องความรับผิดชอบของสายการบินและค่าเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นที่ต้องเพิ่มขึ้นมา
เราทุกคนต่างได้รับความยากลำบากในการเดินทางมาอินเดียโดยสายการบิน Jetairways ณ ตอนนี้คือรู้สึกเสียใจและผิดหวังมาก
ที่ไว้วางใจเลือกใช้บริการของสายการบินนี้
เราเข้าใจในส่วนการทำงานของสายการบินที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ การทำไปตามหน้าที่ของเขา เราเองเข้าใจดี
แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดใดๆ ทางสายการบินควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ของเขาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเราซึ่งเป็นผู้โดยสารที่ชำระเงินซื้อบริการมาอย่างครบถ้วนมากกว่านี้ มากกว่าที่เราได้เจอมา
หรือหากเราเข้าใจผิดไปในประเด็นใด รบกวนช่วยแนะนำให้เราเข้าใจได้ถูกต้องทีนะคะ เพื่อที่คราวหน้าเราจะได้ระวังไม่ให้มีข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้อีก การเดินทางไปเทียวอินเดียครั้งแรกของเรา เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไปอีกนานเลยค่ะ "
[ขอคำปรึกษา] ถ้าพลาดจากเที่ยวบินเพราะกระเป๋าที่โหลดมาไม่ผ่านsecurity ใครต้องรับผิดชอบคะ?
สวัสดีค่ะ ขอลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบก่อนนะคะ มีรายละเอียดค่อนข้าวยาวนะบอกไว้ก่อน
หากใครไม่สะดวกก็อ่านสรุปในสปอยล์ได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เรามีกำหนดการไปเที่ยวเมืองเลห์ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 8-16 เม.ย. 60
เราเดินทางกันทั้งหมด4คน โดยจองเที่ยวบินของสายการบิน jetairways ซึ่งต้องแวะเปลี่นเครื่องที่เดลี
(รวม4ไฟลท์ คือ Bkk-Delhi ,Delhi-Leh ,Leh-Delhi,Delhi-Bkk)
8 เม.ย.60 ที่กรุงเทพฯ เราเช็คอินและโหลดกระเป๋าหน้าเคาท์เตอร์jetairways ในช่วงที่จะปิดเคาท์เตอร์พอดี
ได้รับ boardingpass ของทั้งสองไฟล์ทและกระเป๋าผ่านเครื่องแสกนแล้ว โดยติดมี Domestic Tag พร้อมโหลดเรียบร้อย
(ตอนนั้นไม่ได้ตรวจสอบว่ากระเป๋าทั้งหมดถูกโหลดในชื่อเดียวกัน) ก็รีบผ่านตม. แล้ววิ่งไปขึ้นเครื่องทันเวลา
พอไปถึงที่เดลี ก็ผ่านเข้าตม. ไปรับกระเป๋าจากสายพานเพื่อรอเปลี่ยนเครื่องต่อ
9 เม.ย.60 ก่อนเกทเปิด1ชม. เราดรอปกระเป๋าไว้ที่ Transit desk (ไม่มีเครื่องตรวจกระเป๋า) ตอนที่ส่งกระเป๋า
ในช่อง Transit ทางStaffไม่ได้แจ้งถึงความผิดปกติใดๆ พอไปถึงเกทเป็นกรุ๊ปท้ายๆ เรากับเพื่อนอีกคนผ่านเกทตามปกติ
ที่เหลืออีกสองคนก็เดินตามกันมา
*ปัญหาเกิดตรงเพื่อนคนสุดท้ายถูกห้ามขึ้นเครื่องและแจ้งว่ากระเป๋าที่โหลดมาไม่ผ่านความปลอดภัยนะ
มีพาวเวอแบงก์อยู่ประมาณนี้ อีกคนที่ผ่านมาแล้วจึงอยู่ช่วยกันเคลียร์ ในตอนนั้นเรากับเพื่อนอีกคนเดินนำไปก่อนแล้ว
จึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
- Staff แจ้งเพื่อนว่าจะเรียกเราที่ขึ้นเครื่องไปแล้วมาให้ แต่ไม่ได้มีการไปแจ้งให้ทราบแต่อย่างใด
จนกระทั่งเครื่องลงปลายทางที่เลห์ เราถึงได้ทราบเรื่องจากคนไทยที่ขึ้นเครื่องตามหลังเรามา และจาก Staff Jetairways
ที่เราไปสอบถามเรื่องกระเป๋ากับเพื่อนที่ตกเครื่องเอง จึงได้ให้รหัสกระเป๋าเพื่อเปิดตรวจสอบ
ทางStaffแจ้งว่าหลังจากตรวจสอบแล้ว เพื่อนและกระเป๋าจะตามมาในวันรุ่งขึ้น
***สรุปในวันแรก(9 เม.ย.60) จากกรุ๊ป4คน กลายเป็นเรากับเพื่อนอีกคนอยู่ที่เลห์ และเพื่อนอีก2คนยังตกค้างอยู่เดลีพร้อมกระเป๋าทั้งหมด4ใบ
- ฝั่งเราที่อยู่เลห์ ไกด์พาไปติดต่อสอบถามกับสายการบินเรื่องออกตั๋วใหม่ให้เพื่อนตามมาในวันรุ่งขึ้นเรียบร้อย
แต่ตอนนั้นเราไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนทางฝั่งเดลีได้เลย เนื่องจากทั้งเมืองไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตและเบอร์โทรของฝั่งเดลี
- ส่วนทางฝั่งเดลี หลังจากถูกดักไว้หน้าเกท(49) ก็ถูกพาไปรอกระเป๋าอีกเกท(37) รอรหัสจากเราเพื่อเปิดกระเป๋าตรวจสอบ (เวลาประมาณ1ชม.) เมื่อตรวจสอบกระเป๋าแล้วไม่พบสิ่งแปลกปลอมหรือความปกติของกระเป๋าแต่อย่างใด
ทางสายการบินไม่ได้อธิบายให้ความกระจ่างในการปฏิบัติตนของผู้โดยสารกรณีที่เกิดเหตุการณ์นี้เลย
แจ้งเพียงว่าเป็นการทำตามหน้าที่ และจะหาไฟล์ทให้ในวันรุ่งขึ้น แล้วพาเพื่อนออกมานอกเกทและให้เอกสาร 1ใบ
แทนBoardingPass พร้อมเบอร์ติดต่อของSupervisorท่านหนึ่ง เพื่อนำมายื่นกับเคาท์เตอร์ให้ออกตั๋วในวันรุ่งขึ้นได้เลย
ในช่วงระยะที่กว่าจะเคลียร์เรื่องตรวจกระเป๋าและได้กระเป๋าของทุกคนมาครบทั้ง4ใบนั้นแล้วเสร็จในเวลาเที่ยงวัน
ใช้เวลาประมาณกว่า6ชม. นับจากเวลาที่เครื่องออกจากเดลีไปแล้ว
หลังจากนั้น Staff ก็พาไปพบเจ้าหน้าที่ประจำเล้าจ์ เพื่อแสดงตัวและยืนยันให้พักผ่อนอยู่ในเล้าจ์ได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันนั้น
จนถึงตีสองของวันรุ่งขึ้น (10เม.ย.60) ในระหว่างที่พักอยู่ที่เล้าจ์จะต้องมีปัญหาในการเข้าออกห้องน้ำมาก เพราะเอกสารที่สายการบินให้
ไม่ครอบคลุมและไม่เป็นสากลพอ
10 เม.ย. 60 ประมาณตีสองครึ่ง เพื่อนเราออกจากเล้าจ์เพื่อมาติดต่อเรื่องตั๋วใหม่ที่เคาท์เตอร์ ยื่นเอกสารที่สายการบินให้ไว้
รออยู่หน้าเคาเตอร์จนเกือบตีสี่ Staffmี่เคาท์เตอร์ ไม่ได้ดำเนินการใดๆให้ เมื่อเห็นว่าเวลากระชั้นชิด เพื่อนจึงได้ออกมาโทรหา
Supervisorที่ให้เบอร์ติดต่อไว้เอง แต่ได้รับการตอบกลับมาว่า มาสายเกินไปที่นั่งเต็มแล้ว ไม่สามารถหาตั๋วให้เราได้
ทั้งนี้สายการบินได้เสนอทางเลือก หากต้องการไปเลห์ให้ได้ในวันนี้ ให้ลองไปซื้อตั๋วใหม่ของสายการบินอื่นเองหรือ
ให้มารอตั๋วอีกในวันรุ่งขึ้น เพื่อนเราเลือกตัวเลือกแรกก่อน รีบหาแท็กซี่ แบกสัมภาระทั้งหมด ไปยังอีกเทอมินัลเอง
โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากJetairways แต่ก็ไม่สามารถหาตั๋วได้อีกเช่นกัน ทุกสายการบินที่นั่งเต็มหมด
จึงได้ย้อนกลับไปที่Jetairwaysใหม่
ทางสายการบินแจ้งเพียงว่าให้มาลองดูใหม่ในวันพรุ่งนี้ ไม่มีความช่วยเหลืออื่นใดถึงเพื่อนเราเลย ต้องหาที่พักเอง
แบกสัมภาระที่ถูกกักไว้ทั้งหมดเอง เช่ารถแท้กซี่ไปดำเนินการทุกอย่างเองทั้งหมด
11 เม.ย. 60 มีเพื่อนชาวอินเดียมาช่วยร้องเรียนให้สายการบินหาตั๋วให้ใหม่หรือให้สายการบินเสนอการช่วยเหลืออื่นใด
แต่สายการบินก็แจ้งว่าเที่ยวบินเต็มทุกวัน ไม่สามารถหาที่นั่งให้ได้ และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากสายการบินอีกเลย
12 เม.ย. 60 Jet ไม่มีเที่ยวบินไปยังเลห์ แต่เพื่อนเราก็ไปติดต่อเผื่อได้ตั๋วของสายการบินอื่นหรือของJetเองในวันรุ่งขึ้น
13 เม.ย.60 ก็ไปติดต่ออีก แต่สายการบินก็แจ้งว่าที่นั่งเต็มเช่นเคย กว่า5วันที่เหนื่อยมาเลยยอมแพ้ ตัดสินใจแยกกันเที่ยว
แล้วค่อยกลับมาเจอกันที่เดลีก่อนกลับไทยแทน เพื่อนที่ตกค้างอยู่เดลีจึงขอเอกสารเกี่ยวกับการชดเชยการพลาดต่อเที่ยวบิน
จากสายการบินไว้เพื่อนำกลับมายื่นร้องเรียนที่ไทย
จากการทำตามหน้าที่ของสายการบินสำหรับกรณีเรานั้น ทำให้เราได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก สองคนที่ได้บินไปเลห์โดยไม่มี
กระเป๋าสัมภาระ ไม่มีเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็น ไม่มียารักษาโรคประจำตัว จำเป็นต้องจัดหาใหม่ทั้งหมด ส่วนฝั่งที่ตกค้างอยู่ที่เดลี
มีความยากลำบากกว่ามาก ไม่มีการเตรียมตัวเพื่อมาอยู่ที่เดลี เพราะแพลนเพื่อเดินทางมายังเลห์เท่านั้น ไม่มีที่พักไม่มีเสื้อผ้าที่
สามารถใช้ได้เหมาะสมกับสภาพอากาศ จำเป็นต้องซื้อใหม่เช่นกัน และทุกครั้งที่ไปติดต่อกับสายการบินเพื่อออกตั๋วให้ใหม่
เพื่อนเราก็ต้องแบกสัมภาระทั้งหมดไปด้วยทุกครั้งด้วยความหวังว่าจะมีตั๋วให้เดินทางไปยังเลห์
...ความพีคของเราก็ยังไม่สิ้นสุดนะคะ
16 เม.ย. 60 ไฟล์ทขากลับ เราที่เดินทางจากเลห์ ก็ได้boardingpass อะไรตามปกติ แต่เพื่อนฝั่งเดลี พอมาติดต่อตอนแรก
เจ้าหน้าที่ออกตั๋วแจ้งว่า ตั๋วกลับไทยถูกยกเลิกไปแล้วอัตโนมัติ เพราะไม่ได้เดินทางในไฟล์ทเดลี-เลห์,เลห์-เดลี
เราก็เริ่มโวยวายกันละ อะไรมันจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนั้น รอสักพักหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงพิมพ์เอกสารและให้ไปคุยกับsupervisor
ที่เคาเตอร์เอง ถ้ามีที่นั่งว่างจะได้ไป ปรากฎว่าได้ตั๋วกลับไทยมาอย่างราบรื่นซะอย่างนั้น ต้องขอบคุณSupervisorคนนั้นมาก
(เพิ่งทราบตอนหลังว่าเป็นเรื่องปกติที่จะยกเลิกเที่ยวบินที่เหลือหลังจากNoshowสำหรับไฟล์ทบินทรานสิท)
ตอนนั้นพอได้ตั๋วแล้วคือรีบเดินรีบผ่านตม.ไปรอหน้าเกทขึ้นเครื่องเลย กลัวจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก นับว่าโชคยังดีอยู่บ้าง
ที่เราเผื่อเวลามาถึงสนามบินเยอะ ดีใจมากจะได้กลับสู่บ้านเราสักที
พอเรากลับมาถึงไทยจึงได้ติดต่อไปทางสำนักงานJetairways ที่ไทย ทางสำนักงานแจ้งว่าจะได้เงินชดเชยในส่วนค่าตั๋วเที่ยวบิน
ไปกลับในประเทศตามเอกสารได้ที่มาจากอินเดียเท่านั้น
"เรารู้สึกว่าการชดเชยที่สายการบินให้มันเทียบไม่ได้กับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราสูญเสียไปในทริปนี้ได้เลย ทุกอย่างผิดแผนหมด
เราเสียเงิน เสียแรง เสียเวลา เราไม่สามารถเดินทางไปถึงปลายทางอย่างที่ตั้งใจไว้ วางแผนมากว่าครึ่งปี ทุกคนมีหน้าที่การงานก็ลางาน
เพื่อมาท่องเที่ยวที่เลห์ จองเที่ยวบินและที่พักเรียบร้อยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ค่าที่พักที่ชำระมาก่อน ค่าที่พักที่ต้องเสียเพิ่มเอง ค่าเดินทาง
ติดต่อเรื่องตั๋วเรื่องความรับผิดชอบของสายการบินและค่าเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นที่ต้องเพิ่มขึ้นมา
เราทุกคนต่างได้รับความยากลำบากในการเดินทางมาอินเดียโดยสายการบิน Jetairways ณ ตอนนี้คือรู้สึกเสียใจและผิดหวังมาก
ที่ไว้วางใจเลือกใช้บริการของสายการบินนี้
เราเข้าใจในส่วนการทำงานของสายการบินที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ การทำไปตามหน้าที่ของเขา เราเองเข้าใจดี
แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดใดๆ ทางสายการบินควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ของเขาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเราซึ่งเป็นผู้โดยสารที่ชำระเงินซื้อบริการมาอย่างครบถ้วนมากกว่านี้ มากกว่าที่เราได้เจอมา
หรือหากเราเข้าใจผิดไปในประเด็นใด รบกวนช่วยแนะนำให้เราเข้าใจได้ถูกต้องทีนะคะ เพื่อที่คราวหน้าเราจะได้ระวังไม่ให้มีข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้อีก การเดินทางไปเทียวอินเดียครั้งแรกของเรา เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไปอีกนานเลยค่ะ "