ปกติ การลงทุนในหุ้น จะได้ผลตอบแทนคืนมาได้ 2 ทาง คือ capital gain (ส่วนต่างราคาหุ้น) และ Dividend (เงินปันผล) ใช่มั้ยครับ
ถ้าลงทุนแบบ VI คือ เน้นเลือกหุ้นพื้นฐานดี แล้วถือยาวๆ อย่างนี้ ผลตอบแทน ก็จะได้เฉพาะแค่เงินปันผล อย่างเดียว จนกว่าจะขายหุ้น ใช่มั้ยครับ
ทีนี้ เท่าที่ผมศึกษาหุ้นทุกตัวใน ตลท. สังเกตได้ว่า หุ้นขนาดกลาง ถึงใหญ่ ที่พื้นฐานดี และเป็นที่นิยมในหมู่ VI มักจะจ่ายปันผลน้อย เช่น 1-5% ต่อปี เช่น cpall , ptt , scb (เทียบกับหุ้นขนาดเล็ก-กลางที่พื้นฐานดี แต่ไม่ค่อยนิยม หลายๆหุ้นจะให้ปันผลมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี ก็น้อย นั่นคือ ต้องมีจำนวนหุ้นมากๆ จึงจะได้ปันผลมาก และตราบเท่าที่ไม่ขาย ก็ย่อมไม่ได้รับ capital gain
ผมเลยสงสัยว่า คนลงทุนแบบ VI จะได้ผลตอบแทนมากๆได้อย่างไร ถ้ากินแค่เงินปันผล ถ้าจะได้ผลตอบแทนมาก ก็ต้องซื้อจำนวนหุ้นมากๆ นั่นคือ เอาเงินไปคาเอาไว้กับหุ้นตัวนั้นๆยาวๆหลายๆๆๆปี ถ้าคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย หากเล่นแนวนี้ กว่าจะได้ผลตอบแทนมากก็คงอีกนานนนนนนนน
ลงทุนแบบ VI ได้ผลกำไรเป็นเม็ดเงินอย่างไรบ้างครับ
ถ้าลงทุนแบบ VI คือ เน้นเลือกหุ้นพื้นฐานดี แล้วถือยาวๆ อย่างนี้ ผลตอบแทน ก็จะได้เฉพาะแค่เงินปันผล อย่างเดียว จนกว่าจะขายหุ้น ใช่มั้ยครับ
ทีนี้ เท่าที่ผมศึกษาหุ้นทุกตัวใน ตลท. สังเกตได้ว่า หุ้นขนาดกลาง ถึงใหญ่ ที่พื้นฐานดี และเป็นที่นิยมในหมู่ VI มักจะจ่ายปันผลน้อย เช่น 1-5% ต่อปี เช่น cpall , ptt , scb (เทียบกับหุ้นขนาดเล็ก-กลางที่พื้นฐานดี แต่ไม่ค่อยนิยม หลายๆหุ้นจะให้ปันผลมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี ก็น้อย นั่นคือ ต้องมีจำนวนหุ้นมากๆ จึงจะได้ปันผลมาก และตราบเท่าที่ไม่ขาย ก็ย่อมไม่ได้รับ capital gain
ผมเลยสงสัยว่า คนลงทุนแบบ VI จะได้ผลตอบแทนมากๆได้อย่างไร ถ้ากินแค่เงินปันผล ถ้าจะได้ผลตอบแทนมาก ก็ต้องซื้อจำนวนหุ้นมากๆ นั่นคือ เอาเงินไปคาเอาไว้กับหุ้นตัวนั้นๆยาวๆหลายๆๆๆปี ถ้าคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย หากเล่นแนวนี้ กว่าจะได้ผลตอบแทนมากก็คงอีกนานนนนนนนน