อยากจะแชร์ประสบการณ์ และอยากตั้งคำถามให้หายสงสัย
เรื่องมีอยู่ว่า ....
เมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนแพลนจะไปเที่ยวมาเลเซียแบบBackpackกัน โดยการนั่งรถจากหาดใหญ่ไปกัวลาลัมเปอร์
ได้ซื้อตั๋วรถจากบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ ขอสงวนชื่อบริษัท เป็นตั๋วรอบเช้า ราคาประมาณ 500 บาท
ก่อนขึ้นรถก็ยื่นพาสปอต เขียนใบผ่านเข้าออกประเทศตามปกติ จนถึงเวลาขึ้นรถ ก็ขึ้นรถออกเดินทางตามปกติ เป็นรถบัสปรับอากาศชั้นเดียว ไม่มีห้องน้ำ
เหตุมาเกิดตรงที่ด่านสะเดา
พอรถบัสถึงด่านสะเดา ผดส.ก็จะต้องลงจากรถ เพื่อลงไปตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอนปกติ (ทิ้งกระเป๋าไว้บนรถ)
พอผ่านด่าน ตม.เสร็จ อ้าว ตกใจ รถบัสที่นั่งมาหายไป ไม่เห็นจอดอยู่หน้าด่าน
ทำไงดี เริ่มกังวล เพราะเป็นครั้งแรกที่ข้ามด่านที่นี่
เลยไปถามป้าที่นั่งรถบัสมาด้วยกัน สังเกตดูป้าที่นั่งรถมาด้วยกัน ไม่ตื่นเต้นอะไร (มารู้ทีหลังว่าป้าข้ามไปทำงานที่ฝั่งมาเล)
ป้าบอกให้ยืนรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวจะมีรถมารับ
ผมถามว่าแล้วรถบัสไปไหน ทำไมต้องมีรถอื่นมารับ
ป้าบอกว่า ข้ามด่านตรงนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ใจเย็นๆ ไม่ต้องตกใจ
จะให้ผมใจเย็นไดยังไง เพราะผมไม่ได้อยู่ฝั่งไทยแล้ว ข้ามมาฝั่งมาเลแล้ว หาคนไทยช่วยก็ไม่ได้ ในใจผมเริ่มกังวล ว่าจะโดนอะไรรึเปล่า ทั้งเป็นห่วงกระเป๋าที่อยู่บนรถบัส มือไม้มันสั่นๆไปหมด
สักพักก็มีรถ Honda Jazz สีขาว มารับ ป้าบอกว่า คันนี้แหละ ขึ้นเลย
ผมมองหน้ากันกับเพื่อน ในใจผมคิดไปถึงว่า เขาจะเอาเราไปไหน ทำไมต้องขึ้น
แต่สุดท้ายก้ตัดสินใจขึ้นรถไป สักพักคนขับ(คนมาเล)หันมาถามว่า "มะ บอกให้จ่ายคนละเท่าไหร่"
หืออออ จ่ายค่าอะไร ในใจคิดว่าตัวเองโดนจับไปเรียกค่าไถ่แล้วตอนนั้น
ผมเลยหันไปกระซิบป้าข้างๆ "ค่าอะไรครับป้า"
ป้าบอก "ค่าอุ้มผ่านแดน 500บาท"
เห้ยยยย ทำไมต้องจ่าย ผมมาเที่ยว มาแบบถูกต้องนะ (ตะโกนในใจ)
สรุปคือ ต้องจ่ายไป เพราะในเวลานั้นคือกลัวมาก ติดต่อใครไม่ได้ เพราะสัญญาณมือถือเครือข่ายไทยใช่ไม่ได้
คำถามคือ
ทำไมบริษัททัวร์ที่ขายตั๋ว ไม่แจ้งให้เรารู้ก่อนว่าต้องจ่ายเงินตรงด่านนี้อีก
บริษัททัวร์รู้เห็นด้วยหรือหรือไม่
เหตุเกิดที่ฝั่งมาเล จะร้องเรียนกับใครได้
สุดท้ายนี้ที่มาเล่าให้ฟัง ก็แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ และฝากเตือนคนที่ชอบไปเที่ยวกันไว้หน่อย หรือใครเคยเจอเหตุการณแบบนี้ หรือคล้ายๆแบบนี้
ก็เอามาแชร์กันได้ครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้คนที่ชอบเดินทางได้ระวังตัวกันมากขึ้น
แชร์ประสบการณ์โดนอุ้ม ที่ด่านสะเดา
เมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนแพลนจะไปเที่ยวมาเลเซียแบบBackpackกัน โดยการนั่งรถจากหาดใหญ่ไปกัวลาลัมเปอร์
ได้ซื้อตั๋วรถจากบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ ขอสงวนชื่อบริษัท เป็นตั๋วรอบเช้า ราคาประมาณ 500 บาท
ก่อนขึ้นรถก็ยื่นพาสปอต เขียนใบผ่านเข้าออกประเทศตามปกติ จนถึงเวลาขึ้นรถ ก็ขึ้นรถออกเดินทางตามปกติ เป็นรถบัสปรับอากาศชั้นเดียว ไม่มีห้องน้ำ
พอรถบัสถึงด่านสะเดา ผดส.ก็จะต้องลงจากรถ เพื่อลงไปตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอนปกติ (ทิ้งกระเป๋าไว้บนรถ)
พอผ่านด่าน ตม.เสร็จ อ้าว ตกใจ รถบัสที่นั่งมาหายไป ไม่เห็นจอดอยู่หน้าด่าน
ทำไงดี เริ่มกังวล เพราะเป็นครั้งแรกที่ข้ามด่านที่นี่
เลยไปถามป้าที่นั่งรถบัสมาด้วยกัน สังเกตดูป้าที่นั่งรถมาด้วยกัน ไม่ตื่นเต้นอะไร (มารู้ทีหลังว่าป้าข้ามไปทำงานที่ฝั่งมาเล)
ป้าบอกให้ยืนรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวจะมีรถมารับ
ผมถามว่าแล้วรถบัสไปไหน ทำไมต้องมีรถอื่นมารับ
ป้าบอกว่า ข้ามด่านตรงนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ใจเย็นๆ ไม่ต้องตกใจ
จะให้ผมใจเย็นไดยังไง เพราะผมไม่ได้อยู่ฝั่งไทยแล้ว ข้ามมาฝั่งมาเลแล้ว หาคนไทยช่วยก็ไม่ได้ ในใจผมเริ่มกังวล ว่าจะโดนอะไรรึเปล่า ทั้งเป็นห่วงกระเป๋าที่อยู่บนรถบัส มือไม้มันสั่นๆไปหมด
สักพักก็มีรถ Honda Jazz สีขาว มารับ ป้าบอกว่า คันนี้แหละ ขึ้นเลย
ผมมองหน้ากันกับเพื่อน ในใจผมคิดไปถึงว่า เขาจะเอาเราไปไหน ทำไมต้องขึ้น
แต่สุดท้ายก้ตัดสินใจขึ้นรถไป สักพักคนขับ(คนมาเล)หันมาถามว่า "มะ บอกให้จ่ายคนละเท่าไหร่"
หืออออ จ่ายค่าอะไร ในใจคิดว่าตัวเองโดนจับไปเรียกค่าไถ่แล้วตอนนั้น
ผมเลยหันไปกระซิบป้าข้างๆ "ค่าอะไรครับป้า"
ป้าบอก "ค่าอุ้มผ่านแดน 500บาท"
เห้ยยยย ทำไมต้องจ่าย ผมมาเที่ยว มาแบบถูกต้องนะ (ตะโกนในใจ)
สรุปคือ ต้องจ่ายไป เพราะในเวลานั้นคือกลัวมาก ติดต่อใครไม่ได้ เพราะสัญญาณมือถือเครือข่ายไทยใช่ไม่ได้
ทำไมบริษัททัวร์ที่ขายตั๋ว ไม่แจ้งให้เรารู้ก่อนว่าต้องจ่ายเงินตรงด่านนี้อีก
บริษัททัวร์รู้เห็นด้วยหรือหรือไม่
เหตุเกิดที่ฝั่งมาเล จะร้องเรียนกับใครได้
สุดท้ายนี้ที่มาเล่าให้ฟัง ก็แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ และฝากเตือนคนที่ชอบไปเที่ยวกันไว้หน่อย หรือใครเคยเจอเหตุการณแบบนี้ หรือคล้ายๆแบบนี้
ก็เอามาแชร์กันได้ครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้คนที่ชอบเดินทางได้ระวังตัวกันมากขึ้น