ตามกฏหมายการดื่มแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แล้วขับรถนั่นคือการกระทำผิด ผมไม่เคยโดนเป่าแต่สงสัยว่าผลที่ได้จากการวัดเชื่อถือได้แค่ไหน
ยกตัวอย่าง
- คนแรก น้ำหนักตัว 100 กิโล ดื่มเบียร์ 2 ขวดแล้วไม่เมา
- คนที่สอง น้ำหนักตัว 100 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วเมา
- คนที่สาม น้ำหนักตัว 50 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วไม่เมา
- คนที่สี่ น้ำหนักตัว 50 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วเมา
ตัวแปร คือ
- น้ำหนักตัว กับน้ำหนักตัวน้อยกับปริมาณเบียร์ที่ดื่ม
- คนที่ดื่มเป็นประจำกับไม่เคยดื่ม
มีบทความว่า ผู้ดื่มสุราควรระวังการดื่มโดยควรรู้ว่าสุราแต่ละประเภทมีปริมาณแอลกอฮอล์ ที่แตกต่างกัน เช่น เบียร์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 5 ดีกรี ปริมาณ 1 กระป๋อง (330 มิลลิลิตร) จะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือปริมาณการดื่มเบียร์ 1 ขวด (630 มิลลิลิตร) หรือเบียร์ 2 กระป๋อง
ทำให้สงสัยว่า สำหรับคนที่ดื่มเบียร์แค่ขวดเดียวแล้วเมาแต่เป่ามาไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าไม่ผิด กับอีกคนนึงดื่มเบียร์ 2 ขวดไม่เมาแต่เป่าแล้วเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าผิด
ขอบคุณครับ
สงสัยว่าการเป่าวัดแอลกอฮอล์มีความน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ
ยกตัวอย่าง
- คนแรก น้ำหนักตัว 100 กิโล ดื่มเบียร์ 2 ขวดแล้วไม่เมา
- คนที่สอง น้ำหนักตัว 100 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วเมา
- คนที่สาม น้ำหนักตัว 50 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วไม่เมา
- คนที่สี่ น้ำหนักตัว 50 กิโล ดื่มเบียร์ 1 ขวดแล้วเมา
ตัวแปร คือ
- น้ำหนักตัว กับน้ำหนักตัวน้อยกับปริมาณเบียร์ที่ดื่ม
- คนที่ดื่มเป็นประจำกับไม่เคยดื่ม
มีบทความว่า ผู้ดื่มสุราควรระวังการดื่มโดยควรรู้ว่าสุราแต่ละประเภทมีปริมาณแอลกอฮอล์ ที่แตกต่างกัน เช่น เบียร์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 5 ดีกรี ปริมาณ 1 กระป๋อง (330 มิลลิลิตร) จะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือปริมาณการดื่มเบียร์ 1 ขวด (630 มิลลิลิตร) หรือเบียร์ 2 กระป๋อง
ทำให้สงสัยว่า สำหรับคนที่ดื่มเบียร์แค่ขวดเดียวแล้วเมาแต่เป่ามาไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าไม่ผิด กับอีกคนนึงดื่มเบียร์ 2 ขวดไม่เมาแต่เป่าแล้วเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าผิด
ขอบคุณครับ