[CR] แบ็คแพ็คลัดเลาะเมืองโบราณ กับทริปมัลลิ_กาญจน์นะจ๊ะ

สวัสดีจ้า สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกคนนะคะ มือใหม่หัดแชร์อย่างเรา ขอฝากเนื้อฝากตัวแฟนๆพันทิปทุกคนด้วยนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ ซึ่งมีโอกาสได้จัดทริป และเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีกับเพื่อนๆ ทั้งหมด 7 คนด้วยกัน โดยใช้งบประมาณเพียงแค่ 2,260 บาท ซึ่งทริปนี้บอกเลย Hipster มากจ้า ได้อะไรมา Hipster งั้นหรอคะ อิอิ ก็การแบกเป้แบบ Backpacker ของเราบวกกับการนั่งรถไฟฟรีไงล่ะค่ะ พูดแล้วก็ตื่นเต้น เชื่อว่าคนอ่านก็คงตื่นเต้นเหมือนกันแล้วสินะ งั้น เราไปเริ่มเดินทางกันเลยจ้า
วันแรก เวลา 18.30 น. เราก็มารวมตัวกันที่สถานีรถไฟอุดรธานีกันค่ะ อุ๊ยย ลืมกระซิบบอกนะคะ ว่าเรา เป็นสาวอุดรธานีคร้าาาา เป็นการเดินทางที่ครึกครื้น คึกคัก ไม่เหงานะคะ ที่นั่งก็เต็มจ้า แต่...ทางเราสบายมาก จองที่นั่งไว้ล่วงหน้าตั้งแต่บ่ายสามโมงแล้วจ้า อิอิ ถึงเวลา 19.19 น. เวลารถไฟออก เราก็ออกเดินทางกันเลย เจอกันที่กรุงเทพฯพรุ่งนี้เช้านะคะ

วันที่สองเวลา 05.50 น. เราเดินทางถึงสถานีรถไฟสามเสนค่ะ ลงที่นี่น่าจะสะดวกในการต่อรถตุ๊กๆไปที่สถานีรถไฟธนบุรีมากกว่าค่ะ และนั่นก็เป็นความจริง 55555+ ค่ารถตุ๊กๆถูกมาก หาร 7 คน คนละ 30 บาทจ้า คุณลุงก็ใจดีมาก เราก็ต่อรถตุ๊กๆไปที่สถานีรถไฟธนบุรีอย่างที่กล่าวมาค่ะ

ถึงสถานีรถไฟธนบุรี เวลา 06.40 น. ถึงแล้วก็แลกตั๋วรถไฟฟรีเหมือนเดิมจ้า เวลาเหลือเยอะมาก กว่าจะถึงรอบรถไฟไปสถานีน้ำตก จ.กาญจนบุรี เราก็ใช้เวลาที่เหลือ ล้างหน้าแปลงฟันที่ห้องน้ำในสถานีรถไฟและก็หาอะไรอร่อยๆทานแถวๆสถานีรถไฟค่ะ

แล้วเราก็ไปเจอร้านข้าวต้มอร่อยๆ ซึ่งอยู่ทางตรงข้ามกับสถานีรถไฟพอดีค่ะ ชื่อว่าร้านโจ๊กหมูธนบุรี รสชาติพอใจ ราคาพอจ่ายค่ะ

ถึงรอบรถไฟออกแล้วจ้า เวลา 07.50 น. เดินทางไปสถานีรถไฟถ้ำกระแซกันเล๊ยยย


ผ่านไปสองชั่วโมงข้าวต้มก็เริ่มย่อยแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ รถไฟขบวนนี้ มีก๋วยเตี๋ยวแห้ง 10 บาทขายจ้า

ใครมาแล้วไม่ได้ชิม ถือว่า ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้นะคะ อร่อยมากขอบอก ห้ามพลาดเด็ดขาด!!!
เวลา 11.25 น. เราก็ได้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟถ้ำกระแซแล้วจ้า ในขณะเดียวกันนั้นเราก็เดินทางผ่านทางรถไฟสายมรณะด้วยนะคะ เป็นอะไรที่พีคมากกกก บรรยากาศสวยงาม แต่แอบมองข้างล่างมันก็เสียวๆเหมือนกันนะคะ

ถ้ำกระแซ คือสถานีสุดท้ายที่เราจะลงค่ะ เพราะว่าเป็นสถานีที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านริมแคว แพริมน้ำรีสอร์ท ซึ่งเป็นที่พักของเราในวันนี้นั่นเองค่ะ นี่คือภาพที่พักที่มองจากฝั่งถ้ำกระแซค่ะ

ระหว่างที่รอเรือของที่พักมารับ เราก็แวะกราบสักการะขอพรพระสักหน่อย เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางของเราในครั้งนี้ค่ะ

แต่สำหรับใครที่หิวข้าวนะคะ ก็มีร้านอาหารถ้ำกระแซที่อยู่ใกล้ๆกับถ้ำกระแซนะคะ แต่ทางเราไม่ได้เข้าไปทานนะคะ อิ่มก๋วยเตี๋ยวรถไฟมาซะแล้ว จัดไปซะเยอะ อิอิ
เวลา 12.00 น. ก็ถึงเวลาเรือมารับเราข้ามแม่น้ำแควน้อยไปยังที่พักแล้วจ้า ทางที่พักเองบริการรับ-ส่ง ฟรีนะคะ

ใช้เวลาเดินทาง 5 นาทีเอง ก็ถึงที่พักแล้ววว 12.05 เช็คอินกันเล๊ยยยยยยย

ห้องพักที่เราจองไว้ เป็นห้องพักที่เป็นแพนะคะ ห้องแพพัดลม 1 ห้องพักได้ 4 คน คิดเป็นรายหัวค่ะ หัวละ 400 บาท รวมอาหารเช้าด้วย ถือว่าถูกมาก แลกกับรรยากาศดีๆ มองเห็นทางรถไฟสายมรณะไปอี๊กกกกกก ฟินเวอร์

เอาล่ะหลังจากเช็คอินแล้ว เราก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปสถานที่ต่อไปซึ่งเป็นไฮไลค์ของทริปนี้ไปอีก  **ลืมบอกไป ห้องน้ำสำหรับห้องพักแบบแพ เป็นห้องน้ำรวมนะคะ อยู่ข้างบน ไม่ได้อยู่ในตัวแพจ้า
เวลา 15.00 น. เราก็ออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของทริปนี้ และเป็นไฮไลค์ของทริปด้วย นั่นก็คือเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 นั่นเองเจ้าค่า ทางเราก็เดินทางไปที่นั่นโดยรถเหมานะคะ ซึ่งเป็นรถที่ทางที่พักแนะนำมาให้เรานั่นเอง รถก็มีสภาพเหมือนรถสายที่วิ่งตามบ้านเรานี่เองล่ะค่ะ ราคาเหมาวันนี้ก็ 1,000 บาท หาร ตั้ง 7 คน ตกคนละ 143 บาทเองค่ะ ไม่รอช้าแล้วค่ะตื่นเต้นมาก ไปกันเลย

เวลา 15.30 น. เราก็เดินทางถึงเมืองมัลลิกาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า ได้ยินข่าวมาว่า ต้องเปลี่ยนชุดไทย สวยๆ เป็นคุณหญิงในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเนอะ เราก็จัดสิคะ มาถึงที่แล้ว ไม่ยอมเสียโอกาสแน่นอน ต้องเช่าค่ะ ชุดละ 200 บาท สำหรับผู้หญิงนะคะ ผู้ชาย 150 ค่ะ รอคิวเปลี่ยนชุด อิอิ

แล้วก็มาจ่ายค่าเข้าชม สำหรับค่าเข้าชม เราก็ได้สำรองไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ ที่ต้องสำรองไว้ล่วงหน้าเพราะเรารวมค่าเข้าชม พร้อมกับทานสำรับเย็น และชมการแสดงด้วยนะคะ ราคาปกติ 700 บาทค่ะ แต่พอดี เราเป็นลูกค้า AIS เราก็เลยใช้สิทธิตามที่เรามี ก็ลดไปตั้ง 15% เหลือแค่ 595 บาทเองค่ะ เริดไปอี๊กกกกกก
ตอนนี้ทางเราก็เปลี่ยนชุดเป็นคุณหญิงเรียบร้อยแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงหรืออิเย็นก็ไม่รู้นะคะ 55555+ ไม่รอช้ารีบเช้าไปข้างในกันเลยจ้า
เราก็เที่ยวๆ ชมๆ เก็บภาพไปไม่หยุดไม่หย่อน สวยงามจริงๆ ได้มาหลายร้อยภาพเลยทีเดียว เดี๋ยวไปดูภาพบรรยากาศข้างในกันเลยจ้า

จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ก็ได้เวลาทานสำรับเย็นแล้วล่ะคร้า ไม่รอช้าแล้ว หิวหนักมาก เดี๋ยวเอาภาพมาฝากเลยแล้วกันจ้า

เวลา 20.00 น. เราก็เสร็จสิ้นทริปในวันนี้ อาหารอร่อยมาก มีความเป็นสมัยรัชกาลที่ 5 การแสดงมีความเป็นไทย ถือได้ว่า ซึมซับเอาบรรยากาศ และภาพลักษณ์ในสมัยนั้นมาเต็มๆเลยล่ะค่ะ เฮ้อออออ ถึงเวลาเดินทางกลับที่พักแล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ ฝันดีค่ะ

วันที่สามเวลา 05.30 น. เสียงสายน้ำไหล บวกกับเสียงรถไฟขบวนแรก ปลุกเราแต่เช้าตรู่เลย อือหือออออออออ อากาศดีมาก เราก็ไปอาบน้ำแต่งตัวมานั่งชมวิวทางรถไฟสายมรณะเพลินๆ รออาหารเช้ากันค่ะ โลกสวยมากกกกกกกกก

กองทัพต้องเดินด้วยท้องเจ้าค้า นี่คือหน้าตาอาหารเช้าของเรา จัดเต็มไปเลย ไม่โจ๊ก ไม่อเมริกันทั้งนั้น ต้องได้เดินทางอีกยาว ต้องรองท้องแน่นๆไปเลย

เวลา 09.00 น. เช็คเอ้าท์ พร้อมเดินทางต่อไปสถานที่ต่อไป พร้อมรถเหมาคู่ใจ วันนี้เหมาราคาเต็มวัน 1,500 บาท หาร 7 คน ตกคนละ 215 บาทจ้า พร้อมแล้วไปกันเล๊ยยย

เวลา 09.50 น. ก็เดินทางมาถึงสถานที่แรกจ้า สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ เป็นสุสานทหารนานาชาติที่เสียชีวิตในขณะที่มีสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีค่าเข้าชมน๊า
เวลา 10.30 น. เราก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่ 2 ของวันนี้ คือพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆในสมัยสงครามโลก และจำลองเหตุการณ์สำคัญต่างๆในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วยค่ะ มีค่าเข้าชม 40 บาทนะคะ

เวลา 11.00 น. เราก็เดินไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ เราก็เดินเก็บภาพไป เพลินๆ ท่าโพสต์ของเราทำชาวต่างชาติ ต้องยกนิ้วเลยล่ะค่ะ 55555+

เที่ยงแล้ว ไม่รอช้าจ้า ตรงไปที่แพอาหาร ริมสะพานข้ามแม่น้ำแควเลยจ้า แพอาหารนี้มีชื่อว่า โฟลทติ้งค่ะ มีรายการอาหารแบบอลาคลาส และก็แบบบุฟเฟ่ต์หัวละ 200 บาทค่ะ ทางเราก็ไปแบบ งงๆ เราก็จัดอลาคลาสไปเลยจ้า หลากหลายเมนู เช็คบิลแล้วก็ตกคนละ 180 บาทเองค่ะ 7 คน

ท้องอิ่ม เที่ยวครบ ก็ถึงเวลา ที่ต้องเดินทางกลับแล้วล่ะค่ะ เราก็มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟกาญจนบุรีโดยเร็ว เดี๋ยวจะแลกตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพฯไม่ทัน แต่สถานีรถไฟก็อยู่ไม่ไกลกันนักค่ะกับร้านอาหาร ใช้เวลาเดินทางแป้บเดียว เดินทางมาถึงสถานีรถไฟกาญจนบุรีเป็นที่เรียบร้อย ในเวลา 13.50 น. แลกตั๋วเป็นที่เรียบร้อย รอเวลารถออกจ้า 14.25 น.
เวลา 17.00 น. เราก็เดินทางถึงสถานีรถไฟธนบุรี เราตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปที่ขนส่งหมอชิตค่ะ หารกันก็ตก คนละ 50 บาท คันละ 4 คน ถึงขนส่งหมอชิตแล้ว เรานั่งรถร่วม บขส. ของชาญทัวร์ ราคาตั๋วก็ 380 บาท เหลือเวลาประมาณ 20 นาที ราก็เดินทางไปขึ้นรถรอเลย .. รถออกแล้ว เราก็เดินทางกลับอุดรธานี ถึงอุดรเวลา 06.30 น. โดยสวัดิภาพจ้า ขอจบทริปนี้ ด้วยคำว่าขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ แล้วแชร์บอกต่อๆกันด้วยนะคะ Thank You


ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้
1.    ค่ารถตุ๊กๆจากสถานีรถไฟสามเสน-สถานีรถไฟธนบุรี คนละ 30.-
2.    ค่าที่พักคนละ 400.-
3.    ค่ารถเหมาวันแรก และวันที่สอง คนละ 143+215= 385.-
4.    ค่าเข้าชมเมืองมัลลิกา 595.-
5.    ค่าเช่าชุดเข้าเมืองมัลลิกา 200.-
6.    ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 คนละ 40.-
7.    ค่าอาหารกลางวันที่แพอาหารโฟล์ทติ้ง คนละ 180.-
8.     ค่ารถแท็กซี่ คนละ 50
9.    ค่ารถทัวร์ คนละ 380.-
**รวม 2,260.- ค่าใช้จ่ายนี้ ไม่รวมค่าใช่จ่ายส่วนตัว หรือค่าของฝากต่างๆ**
ชื่อสินค้า:   (ทางรถไฟสายมรณะ - ถ้ำกะแซ - บ้านริมแคว แพริมน้ำรีสอร์ท - เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 - สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก - พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่2 - สะพานข้ามแม่น้ำแคว 3คืน 4วัน)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่