สวัสดีค่ะ “พี่หยอดวัดยาง” มาอีกแล้ว... คราวนี้จะพาไปเที่ยวจังหวัด Chiba ประเทศญี่ปุ่นกัน...
"GOOD DAY IN CHIBA" หนึ่งวันดีดีที่ จังหวัดชิบะ
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง... ก่อนไปเที่ยวกัน จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางกันเลย...
ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวใหญ่ค่ะ หรือพูดง่ายๆคือ เป็นทริปที่เราต้องตามใจบุพการีนั่นเอง 5555
อะไรที่เป็นสไตล์เรา แบบลุยๆ มันส์ๆ อาจจะต้องต๊ะไว้ก่อน...
มาเริ่มกันที่เรื่องการเดินทาง ทริปนี้ใช้บริการสายการบิน NokScoot ค่ะ (แต่ Operated โดยสายการบิน Scoot)
จริงๆแล้วเท่าที่เคยหาข้อมูลมา แอบกังวลอยู่เล็กน้อย ด้วยหลายๆคนเคยโดนเท โดนดีเลย์ กันมา...
แต่สำหรับทริปนี้ ทุกอย่างโอเคค่ะ ตรงเวลาเป๊ะ...
Flight ที่เราบินครั้งนี้คือ TZ292 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง 00.45 AM ถึง สนามบิน Narita 08.50 AM ชิวๆเริ่มเที่ยวได้เลย...ไม่เสียเวลา
เมื่อถึงวันเดินทางนัดกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่สนามบินดอนเมืองตอนเวลาประมาณ 21.30 น. ค่ะ
นัดกันเร็วหน่อย เพราะเราเดินทางกันช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพอดี... ขนาดไปล่วงหน้ากันขนาดนี้ แต่ยังต้องไปต่อคิว check-in ยาวเหยียด
ดีแล้วที่เผื่อไว้เวลาไว้เยอะค่ะ
Check-in เรียบร้อย ก็ไปเข้าขั้นตอนผ่าน Immigration กันต่อเลย... โชคดีอีกต่อที่คนต่อคิวน้อยมว๊ากกก (มากจนไม่น่าเชื่อจริงๆค่ะ)
แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะเพราะพ่อแม่เราจะได้มีเวลาช๊อปปิ้งใน King Power กันได้แบบรัวรัว !!
อย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เป็นทริปครอบครัว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับแก๊งค์บุพการีที่รัก ก็คงจะเป็นการ shopping นี่แหละค่ะ
ในฐานะลูกที่ดีแบบเราก็เลยแพลนที่ช๊อปไว้ให้ละลายทรัพย์เพียบ... เริ่มตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องกันเลย !!
ที่สนามบินดอนเมืองก็มี King Power นะรู้ยัง...
และที่นี่แหละค่ะคือสวรรค์ของ
“นักเดินทาง” ที่ควบตำแหน่ง
“นักช๊อป” ในคนเดียว 555
แล้วยิ่งเป็นสินค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free แล้วล่ะก็... คำนี้เหมือนเป็นคำที่สะกดจิตให้ต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปเดินชมสินค้าที่มีอยู่ละลานตาไปหมด...
ทั้งเครื่องสำอาง ขนม น้ำหอม นาฬกา และอื่นๆอีกมากมาย
ถึงจะไม่ใหญ่โตเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็มากพอที่จะให้ขาช๊อปทั้งหลายได้ละลายทรัพย์ช่วงรอขึ้นเครื่องได้ค่ะ
ส่วนตัวชอบนะที่ดอนเมืองมี King Power เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไปช็อปที่ King Power รางน้ำ
เราสามารถมารับของที่สนามบินดอนเมืองได้แล้วเช่นกันที่ Pick Up Counter ซึ่งอยู่ติดกับโซนร้านขายสินค้าปลอดภาษีค่ะ
อ่อ... ใครมีโปรแกรมเดินทาง ก็ลองจิ้มเข้าไปดู Promotion ดีๆของ King Power ได้ที่
http://story.kingpower.com/th/category/promotion-th/
เผื่อว่าจะได้เจอส่วนลดเจ๋งๆ ให้เราไว้ช็อปได้ชิวๆนะ
#รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ
เอาล่ะ บุพการีช๊อปกันเพลิดเพลินแล้วใกล้เวลาเดินทาง ไปรอที่ Gate รอพนักงานเรียกขึ้นเครื่อง
Flight BANGKOK-NARITA ของสายการบิน Scoot นี้ใช้เครื่อง Dreamliner 787 ค่ะ
ดีงามพระรามแปดจริงๆ เครื่องใหญ่นั่งสบาย หลับไปยาวๆ ตื่นมาก็ถึงญี่ปุ่นแล้วค๊า
เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งแรกที่ทำก็คือ การรับรถที่จองไว้ค่ะ
สำหรับทริปนี้ แพลนไว้จะไปหลายต่อหลายที่ค่ะ ใช้การเดินทางโดยรถยนต์
ลูกๆอย่างเราต้องเลือกสิ่งที่สะดวกสบายที่สุดเพื่อบุพการีเสมอ 555
เลยเช่ารถขับเป็นสารถี และ navigator พาคณะไปตามสถานที่ต่างๆ ในหลายๆเมือง ตาม concept
เช่ารถขับ - นอนหลับขอแบบสบาย - ตื่นสายๆออกตามหาซากุระ - แวะไหว้พระขอพร - ไม่รีบร้อนชิวๆทุ่งดอกไม้ - และที่พลาดไม่ได้คือช๊อปปิ้ง !!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับใครที่อยากลองเช่ารถขับเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ลองเข้าไปอ่านในวิธีการจองง่ายๆ ตามลิงค์นี้นะคะ
https://ppantip.com/topic/36333707/comment14
สำหรับกระทู้นี้เราจะเน้นเที่ยวแบบ One-day trip ในจังหวัด Chiba กันค่ะ
เกริ่นถึงจังหวัด Chiba กันหน่อยดีกว่า จังหวัด Chiba เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจตั้งอยู่มากมายค่ะ
และยังเป็นที่ตั้งของสนามบิน Narita อีกด้วย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะของจังหวัด Chiba นี้เหมือนเป็นติ่งห้อยลงมาในมหาสมุทรแปซิฟิก
ดูดีๆจะทีรูปร่างคล้ายกับเจ้าหมาน้องพันธุ์ชิบะยืนหันหน้าไปทางซ้าย
หากเราบินมาลงที่สนามบิน Narita ในช่วงเช้า เราสามารถขับรถไปเที่ยวจุดต่างๆในจังหวัด Chiba ได้ค่ะ
แล้วตกเย็นๆค่อยขับรถเข้าโตเกียว มาดูกันว่าในระยะเวลา (เกือบๆ) 1 วันนั้น เราได้ขับรถไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ...
ที่หมายแรกเมื่อมาถึงญี่ปุ่นทริปนี้...เราไปไหว้พระกันก่อนเลยค่ะ
Narita-san Shinshō-ji วัดนาริตะซัง ชินโชจิ
วัดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่แห่งเมือง Narita ในจังหวัด Chiba ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Narita
ด้วยระยะทางเพียง 6 กิโลเมตร ขับรถแป๊ปๆไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
เมื่อไปถึงเราจะเห็นประตู Somon Gate ประตูวัดใหญ่มากๆ สร้างจากไม้โบราณ
และด้วยความที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาค่ะ พอเราเดินเข้ามาก็จะเจอกับบันไดให้เราได้ออกกำลังขากันนิดหน่อย
จากนั้นก็จะเจอกับประตูอีกหนึ่งด่านมีโคมกระดาษแดงชื่อว่า Nimon Gate
เมื่อเดินไปถึงด้านบนก็จะพบกับอาคารหลักตะหง่านอยู่ด้านหน้าที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นซึ่งสร้างจากไม้ได้สวยงามมากๆ
ข้างๆกันจะมีเจดีย์สามชั้นสีแดง เด่นเป็นสง่า มีชื่อว่า Great Pagoda of Peace ค่ะ นี่อาจจะเป็นอีกสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้ก็ว่าได้
วัดนี้เปิดทุกวัน ตลอดเวลา ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ
ด้านหน้าวัดจะเป็นถนนกึ่งคนเดิน (คือเดินต้องระวังรถนิดนึง) ชื่อว่าถนนโอโมเตะซังโดะ (Omotesando street) ค่ะ
ซึ่งเป็นถนนที่มีของขายเยอะแยะมากมาย เท่าที่เห็นส่วนมากจะเป็นร้านของฝาก และร้านขายอาหารแห้งที่เราสามารถซื้อกลับไปฝากเพื่อนๆได้
แต่ Hilight ที่ห้ามพลาดก็คือ
ร้านข้าวหน้าปลาไหล Kawatoyo เปิดบริการ 10.00-17.00 น.
ความเด็ดของร้านนี้คือ เราสามารถชมวิธีการปรุงเมนูนี้ได้ตั้งแต่แล่ปลา เสียบไม้ และย่าง คือยั่วน้ำลายจริงๆ!!
แต่คิวก็ยาวเหยียดเช่นกัน ถ้าใครพอมีเวลาก็ลองต่อคิวดูนะคะ (คราวนี้เวลามีน้อย...อด!)
พิกัด Naritasan Shinshō-ji Temple
1 Narita, Narita-shi, Chiba-ken 286-0023, Japan
+81 476-22-2111
https://goo.gl/maps/s4NP8YwjNnm
เราพาไปเที่ยววัดมาแล้วแห่งนึง อย่างเพิ่งเบื่อนะ พามาเที่ยวอีกหนึ่งวัด ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Unseen ของจังหวัด Chiba ก็ว่าได้...
Nokogiri-yama, Nihon-ji วัดนิฮอนจิบนภูเขาโนโคกิริ
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมือง Futtsu ค่ะ มีอายุกว่า 1,300 ปี นับเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต
เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปแกะสลักจากหินที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีชื่อว่า "The Daibutsu of Nihon-ji"
มีความสูง 31 เมตร (อันดับ 2 อยู่ที่วัด Todai-ji เมือง Nara ความสูง 18 เมตร และอันดับ 3 อยู่ที่วัด Kotoku-in ที่เมือง Kamakura ความสูง 13 เมตร)
บริเวณวัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ชื่อว่า Nokogiri ซึ่งแต่ละจุดของวัดจะกระจายอยู่ตามมุมต่างๆบนเขาค่ะ
คือบอกก่อนว่าใครจะมาชมวัดนี้กำลังขาต้องดีระดับนึงเลยทีเดียว
เพราะเราต้องเดินขึ้นเดินลงเขาเพื่อชมความสวยงามของจุดต่างๆที่ซ่อนอยู่
ระหว่างทางเดินร่มรื่นมากๆ (เหมือนเดินอยู่ในป่านิดๆ) และรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ด้วยในเวลาเดียวกัน
นอกจากพระใหญ่ Daibutsu แล้ววัด Nihon-ji แห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินขนาดเล็กใหญ่หรือ TOKAI ARHATS อีก 1,500 องค์
มีพระรูปเจ้าแม่กวนอิม และยังมีจุดชมวิวที่เราสามารถมองเห็นวิว Tokyo Bay เบื้องล่างได้ด้วยค่ะ
(อันนี้เราไม่ได้เดินไปนะคะ เวลาไม่พอ เสียดายอย่างมาก)
สำหรับการเดินทางไปยังวัด Nihon-ji นี้ ใช้เวลาขับรถจากตัวเมือง Narita ประมาณ 1 ชม. ลงมาทางตอนล่างของจังหวัด Chiba
ถ้าใช้ GPS ให้ใส่เบอร์โทร 0439-69-2314 ได้เลย จะนำไปยังที่จอดรถที่ใกล้กับพระใหญ่ที่สุด (ไม่ต้องเดินขึ้นลงเขาให้เหนื่อยจนเกินไป)
ค่าเข้าชมคนละ 600 JPY
หรือถ้าใครอยากขึ้นไปชมจุดชมวิวก่อนและค่อยๆเดินเลาะเขาลงมา ก็แนะนำให้ไปขึ้น Nokogiri-yama Ropeway ค่ะ
รวมๆแล้วที่นี่ สวยงามนะคะ เหมือนได้ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่คน local นิยมมากัน... มีสเน่ห์ในตัวเอง
แนะนำว่าควรมีเวลาเยอะหน่อยถ้าอยากจะเดินชมให้ครบทุกจุด และอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับผู้ใหญ่ซักเท่าไหร่ เพราะต้องเดินขึ้นลงเขาเยอะมาก อาจจะปวดข้อพาลหมดแรงกันได้ง่ายๆ แต่ถ้าฟิตพอก็อยากแนะนำให้มานะคะ ^^
ตามไปอ่านต่อกันที่คอมเม้นด้านล่างนะคะ... ปิ้วววว
[CR] เที่ยวรัวรัว : Good Day in CHIBA วันดีดีที่ จังหวัดชิบะ
"GOOD DAY IN CHIBA" หนึ่งวันดีดีที่ จังหวัดชิบะ
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง... ก่อนไปเที่ยวกัน จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางกันเลย...
ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวใหญ่ค่ะ หรือพูดง่ายๆคือ เป็นทริปที่เราต้องตามใจบุพการีนั่นเอง 5555
อะไรที่เป็นสไตล์เรา แบบลุยๆ มันส์ๆ อาจจะต้องต๊ะไว้ก่อน...
มาเริ่มกันที่เรื่องการเดินทาง ทริปนี้ใช้บริการสายการบิน NokScoot ค่ะ (แต่ Operated โดยสายการบิน Scoot)
จริงๆแล้วเท่าที่เคยหาข้อมูลมา แอบกังวลอยู่เล็กน้อย ด้วยหลายๆคนเคยโดนเท โดนดีเลย์ กันมา...
แต่สำหรับทริปนี้ ทุกอย่างโอเคค่ะ ตรงเวลาเป๊ะ...
Flight ที่เราบินครั้งนี้คือ TZ292 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง 00.45 AM ถึง สนามบิน Narita 08.50 AM ชิวๆเริ่มเที่ยวได้เลย...ไม่เสียเวลา
เมื่อถึงวันเดินทางนัดกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่สนามบินดอนเมืองตอนเวลาประมาณ 21.30 น. ค่ะ
นัดกันเร็วหน่อย เพราะเราเดินทางกันช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพอดี... ขนาดไปล่วงหน้ากันขนาดนี้ แต่ยังต้องไปต่อคิว check-in ยาวเหยียด
ดีแล้วที่เผื่อไว้เวลาไว้เยอะค่ะ
Check-in เรียบร้อย ก็ไปเข้าขั้นตอนผ่าน Immigration กันต่อเลย... โชคดีอีกต่อที่คนต่อคิวน้อยมว๊ากกก (มากจนไม่น่าเชื่อจริงๆค่ะ)
แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะเพราะพ่อแม่เราจะได้มีเวลาช๊อปปิ้งใน King Power กันได้แบบรัวรัว !!
อย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เป็นทริปครอบครัว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับแก๊งค์บุพการีที่รัก ก็คงจะเป็นการ shopping นี่แหละค่ะ
ในฐานะลูกที่ดีแบบเราก็เลยแพลนที่ช๊อปไว้ให้ละลายทรัพย์เพียบ... เริ่มตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องกันเลย !!
ที่สนามบินดอนเมืองก็มี King Power นะรู้ยัง...
และที่นี่แหละค่ะคือสวรรค์ของ “นักเดินทาง” ที่ควบตำแหน่ง “นักช๊อป” ในคนเดียว 555
แล้วยิ่งเป็นสินค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free แล้วล่ะก็... คำนี้เหมือนเป็นคำที่สะกดจิตให้ต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปเดินชมสินค้าที่มีอยู่ละลานตาไปหมด...
ทั้งเครื่องสำอาง ขนม น้ำหอม นาฬกา และอื่นๆอีกมากมาย
ถึงจะไม่ใหญ่โตเหมือนที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็มากพอที่จะให้ขาช๊อปทั้งหลายได้ละลายทรัพย์ช่วงรอขึ้นเครื่องได้ค่ะ
ส่วนตัวชอบนะที่ดอนเมืองมี King Power เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไปช็อปที่ King Power รางน้ำ
เราสามารถมารับของที่สนามบินดอนเมืองได้แล้วเช่นกันที่ Pick Up Counter ซึ่งอยู่ติดกับโซนร้านขายสินค้าปลอดภาษีค่ะ
อ่อ... ใครมีโปรแกรมเดินทาง ก็ลองจิ้มเข้าไปดู Promotion ดีๆของ King Power ได้ที่
http://story.kingpower.com/th/category/promotion-th/
เผื่อว่าจะได้เจอส่วนลดเจ๋งๆ ให้เราไว้ช็อปได้ชิวๆนะ #รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ
เอาล่ะ บุพการีช๊อปกันเพลิดเพลินแล้วใกล้เวลาเดินทาง ไปรอที่ Gate รอพนักงานเรียกขึ้นเครื่อง
Flight BANGKOK-NARITA ของสายการบิน Scoot นี้ใช้เครื่อง Dreamliner 787 ค่ะ
ดีงามพระรามแปดจริงๆ เครื่องใหญ่นั่งสบาย หลับไปยาวๆ ตื่นมาก็ถึงญี่ปุ่นแล้วค๊า
เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งแรกที่ทำก็คือ การรับรถที่จองไว้ค่ะ
สำหรับทริปนี้ แพลนไว้จะไปหลายต่อหลายที่ค่ะ ใช้การเดินทางโดยรถยนต์
ลูกๆอย่างเราต้องเลือกสิ่งที่สะดวกสบายที่สุดเพื่อบุพการีเสมอ 555
เลยเช่ารถขับเป็นสารถี และ navigator พาคณะไปตามสถานที่ต่างๆ ในหลายๆเมือง ตาม concept
เช่ารถขับ - นอนหลับขอแบบสบาย - ตื่นสายๆออกตามหาซากุระ - แวะไหว้พระขอพร - ไม่รีบร้อนชิวๆทุ่งดอกไม้ - และที่พลาดไม่ได้คือช๊อปปิ้ง !!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับกระทู้นี้เราจะเน้นเที่ยวแบบ One-day trip ในจังหวัด Chiba กันค่ะ
เกริ่นถึงจังหวัด Chiba กันหน่อยดีกว่า จังหวัด Chiba เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจตั้งอยู่มากมายค่ะ
และยังเป็นที่ตั้งของสนามบิน Narita อีกด้วย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะของจังหวัด Chiba นี้เหมือนเป็นติ่งห้อยลงมาในมหาสมุทรแปซิฟิก
ดูดีๆจะทีรูปร่างคล้ายกับเจ้าหมาน้องพันธุ์ชิบะยืนหันหน้าไปทางซ้าย
หากเราบินมาลงที่สนามบิน Narita ในช่วงเช้า เราสามารถขับรถไปเที่ยวจุดต่างๆในจังหวัด Chiba ได้ค่ะ
แล้วตกเย็นๆค่อยขับรถเข้าโตเกียว มาดูกันว่าในระยะเวลา (เกือบๆ) 1 วันนั้น เราได้ขับรถไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ...
ที่หมายแรกเมื่อมาถึงญี่ปุ่นทริปนี้...เราไปไหว้พระกันก่อนเลยค่ะ
Narita-san Shinshō-ji วัดนาริตะซัง ชินโชจิ
วัดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่แห่งเมือง Narita ในจังหวัด Chiba ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Narita
ด้วยระยะทางเพียง 6 กิโลเมตร ขับรถแป๊ปๆไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
เมื่อไปถึงเราจะเห็นประตู Somon Gate ประตูวัดใหญ่มากๆ สร้างจากไม้โบราณ
และด้วยความที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาค่ะ พอเราเดินเข้ามาก็จะเจอกับบันไดให้เราได้ออกกำลังขากันนิดหน่อย
จากนั้นก็จะเจอกับประตูอีกหนึ่งด่านมีโคมกระดาษแดงชื่อว่า Nimon Gate
เมื่อเดินไปถึงด้านบนก็จะพบกับอาคารหลักตะหง่านอยู่ด้านหน้าที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นซึ่งสร้างจากไม้ได้สวยงามมากๆ
ข้างๆกันจะมีเจดีย์สามชั้นสีแดง เด่นเป็นสง่า มีชื่อว่า Great Pagoda of Peace ค่ะ นี่อาจจะเป็นอีกสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้ก็ว่าได้
วัดนี้เปิดทุกวัน ตลอดเวลา ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ
ด้านหน้าวัดจะเป็นถนนกึ่งคนเดิน (คือเดินต้องระวังรถนิดนึง) ชื่อว่าถนนโอโมเตะซังโดะ (Omotesando street) ค่ะ
ซึ่งเป็นถนนที่มีของขายเยอะแยะมากมาย เท่าที่เห็นส่วนมากจะเป็นร้านของฝาก และร้านขายอาหารแห้งที่เราสามารถซื้อกลับไปฝากเพื่อนๆได้
แต่ Hilight ที่ห้ามพลาดก็คือ ร้านข้าวหน้าปลาไหล Kawatoyo เปิดบริการ 10.00-17.00 น.
ความเด็ดของร้านนี้คือ เราสามารถชมวิธีการปรุงเมนูนี้ได้ตั้งแต่แล่ปลา เสียบไม้ และย่าง คือยั่วน้ำลายจริงๆ!!
แต่คิวก็ยาวเหยียดเช่นกัน ถ้าใครพอมีเวลาก็ลองต่อคิวดูนะคะ (คราวนี้เวลามีน้อย...อด!)
พิกัด Naritasan Shinshō-ji Temple
1 Narita, Narita-shi, Chiba-ken 286-0023, Japan
+81 476-22-2111
https://goo.gl/maps/s4NP8YwjNnm
เราพาไปเที่ยววัดมาแล้วแห่งนึง อย่างเพิ่งเบื่อนะ พามาเที่ยวอีกหนึ่งวัด ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Unseen ของจังหวัด Chiba ก็ว่าได้...
Nokogiri-yama, Nihon-ji วัดนิฮอนจิบนภูเขาโนโคกิริ
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมือง Futtsu ค่ะ มีอายุกว่า 1,300 ปี นับเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต
เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปแกะสลักจากหินที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีชื่อว่า "The Daibutsu of Nihon-ji"
มีความสูง 31 เมตร (อันดับ 2 อยู่ที่วัด Todai-ji เมือง Nara ความสูง 18 เมตร และอันดับ 3 อยู่ที่วัด Kotoku-in ที่เมือง Kamakura ความสูง 13 เมตร)
บริเวณวัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ชื่อว่า Nokogiri ซึ่งแต่ละจุดของวัดจะกระจายอยู่ตามมุมต่างๆบนเขาค่ะ
คือบอกก่อนว่าใครจะมาชมวัดนี้กำลังขาต้องดีระดับนึงเลยทีเดียว
เพราะเราต้องเดินขึ้นเดินลงเขาเพื่อชมความสวยงามของจุดต่างๆที่ซ่อนอยู่
ระหว่างทางเดินร่มรื่นมากๆ (เหมือนเดินอยู่ในป่านิดๆ) และรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ด้วยในเวลาเดียวกัน
นอกจากพระใหญ่ Daibutsu แล้ววัด Nihon-ji แห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินขนาดเล็กใหญ่หรือ TOKAI ARHATS อีก 1,500 องค์
มีพระรูปเจ้าแม่กวนอิม และยังมีจุดชมวิวที่เราสามารถมองเห็นวิว Tokyo Bay เบื้องล่างได้ด้วยค่ะ
(อันนี้เราไม่ได้เดินไปนะคะ เวลาไม่พอ เสียดายอย่างมาก)
สำหรับการเดินทางไปยังวัด Nihon-ji นี้ ใช้เวลาขับรถจากตัวเมือง Narita ประมาณ 1 ชม. ลงมาทางตอนล่างของจังหวัด Chiba
ถ้าใช้ GPS ให้ใส่เบอร์โทร 0439-69-2314 ได้เลย จะนำไปยังที่จอดรถที่ใกล้กับพระใหญ่ที่สุด (ไม่ต้องเดินขึ้นลงเขาให้เหนื่อยจนเกินไป)
ค่าเข้าชมคนละ 600 JPY
หรือถ้าใครอยากขึ้นไปชมจุดชมวิวก่อนและค่อยๆเดินเลาะเขาลงมา ก็แนะนำให้ไปขึ้น Nokogiri-yama Ropeway ค่ะ
รวมๆแล้วที่นี่ สวยงามนะคะ เหมือนได้ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่คน local นิยมมากัน... มีสเน่ห์ในตัวเอง
แนะนำว่าควรมีเวลาเยอะหน่อยถ้าอยากจะเดินชมให้ครบทุกจุด และอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับผู้ใหญ่ซักเท่าไหร่ เพราะต้องเดินขึ้นลงเขาเยอะมาก อาจจะปวดข้อพาลหมดแรงกันได้ง่ายๆ แต่ถ้าฟิตพอก็อยากแนะนำให้มานะคะ ^^
ตามไปอ่านต่อกันที่คอมเม้นด้านล่างนะคะ... ปิ้วววว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น