การเดินทางที่ใช้บริการรถโดยสาร เราก็เคยเจอมาหลายครั้งกับการบริการของรถ แต่ไม่เคยรู้สึกเสียเปรียบและเสียดายเท่ากับครั้งนี้เลย
เราเข้าใจในกฎเกณฑ์ของการกลับบ้านช่วงเทศกาลนะ แต่คุณไม่ควรทำกับเราแบบนี้เลย
ผมเดินทางมาจากปากเซ ข้ามแดนมาต่อรถที่ช่องเม็กและมาต่อรถที่ บขส อุบลราชธานี มีคนมากมายต่างกรูกันเข้ามาเพื่อลากเราไปซื้อตั๋วโดยสารเข้ากรุงเทพฯ เราตัดสินใจเดินดูแล้วมีแต่รอบ ค่ำๆ อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาถามว่าไปไหน เราก็ตอบว่าไปหมอชิตครับ เขาก็พาเราไปซื้อตั๋วนะ เขาบอกเป็นรถปรับอากาศชั้น 1 รอบ 16.00 น. เราก็เคยนั่งมาหลายรอบนะ รถปรับอากาศชั้น 1 นี่นะ ถือว่าดีอยู่ จึงตัดสินใจซื้อในราคา 470 กว่าบาท
แต่สิ่งที่เราได้คือ งง บัตรโดยสารทำไมไม่มีข้อมูลอะไรเลย เลยถามเขา เขาบอกออกมาให้แบบนี้ให้ไปรอที่ช่อง 1 เอานะ เมื่อสักครู่เห็นรถอยู่ก็โอเครอยู่ จึงเดินไปรอรถที่ช่อง 1
ขณะที่เราซื้อตั๋วเป็นเวลา 15.00 น. จึงรอรถต่อไปอีก 1 ชม.
16.00 น. ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รถยังไม่มาและไม่มีใครมาแจ้งอะไร คนก็รอกันเต็ม มีแต่รถที่เข้ามาจากรุงเทพฯมาอุบล เห็นรถแล้วชื่นใจ
16.15 น. มีผู้ชายคนนึงโทรตามหารถ ว่าทำไมยังไม่เข้าชานชาลา หลังจากวางสาย เขาแจ้งว่า รถกำลังเข้ามา กำลังเติมแก๊ส เช็คเครื่องยนต์ เราก็ดีใจ จะได้ขึ้นรถสักที
16.30 น. เราเข้ามาจอดที่ชานชาลา ทุกคนก็งงกับรถที่เข้ามาจอด แล้วทำไมถึงไม่ใช่รถของอุบลแอร์หละ แต่เขาบอกว่าคันนี้หละ เราจึงขึ้นรถ เพราะถ้าเราขึ้นช้า มีหวังไม่มีที่นั่งแน่ๆ เนื่องจากไม่ได้ระบุที่นั่ง เคยเจอมา ถ้าขึ้นช้ามีหวังนั่งหลังสุดติดห้องน้ำแน่ๆ
17.00 น. รถก็ยังไม่ได้ออก เนื่องจากมีคนขึ้นรถมาเกินจำนวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตรวจบนรถแล้วพบว่ามีเก้าอี้เสริม เขาแจ้งไม่ปลอดภัย เพราะไม่มีที่คาดเข็มขัด จึงรื้อเก้าอี้ลง และให้คนที่นั่งเก้าอี้เสริมลงไปข้างล่าง ไม่ใช่สิ ดูเหมือนเขาเอาไปซ่อนใต้รถ เพราะว่าทันทีที่รถออก คนเหล่านั้นก็เข้ามาอีกครั้งและมายืนรอด้านหลัง
มีผู้โดยสารหลายคนบ่นว่าที่คาดเข็มขัดใช้งานไม่ได้ ถ้าตำรวจตรวจจับเขาจะไม่จ่ายนะ ตำรวจได้แต่มองแล้วบอกไม่เป็นรัย
ของผมก็เหมือนกัน คาดเอาผ่านๆไป
17.30 น. รถแล่นมาจอดที่ปั้มเติมแก๊สเขาบอกให้ทุกคนลงจากรถ เพราะเขาจะเติมแก๊สและเช็คเครื่องยนต์
คือแล้วก่อนหน้านี่ที่บอกเราว่ารถมาช้าเพราะเติมแก๊สกับเช็คเครื่องอยู่คืออะไร เขาไม่สนใจผู้โดยสารเลย ดูแต่ละคนสิ รอกลับบ้านกันน่าสงสาร
อีกทั้งเขาก็คุยกันอย่างสนุกสนานไม่สนใจคนที่รอเลย หลังจากนั้นก็เอาเก้าอี้เสริมขึ้นมาต่อเติมใหม่ให้คนนั่ง
17.50 น. รถออกจากปั้ม ทุกคนต่างรีบขึ้นรถไปนั่งที่เดิม
18.30 น. รถจอดอีกครั้ง เราเลยสงสัยว่ารถจอดทำไม ไม่มีอะไรครับ เขาอยากได้ไก่ย่าง ของกิน เลยแวะจอดซื้อ
หลังจากได้ไก่ย่างเรียบร้อยแล้ว รถก็แล่นออกไป ไม่กี่อึดใจ รถก็จอดอีกครั้ง เขาแวะซื้อน้ำปั่นครับ
คือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่รถจอดแบบนี้
19.00 น. รถจอดอีกครั้งแวะรับผู้โดยสารระหว่างทาง เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ฟังผู้โดยสารท่านอื่นบ่นเช่นกัน
ในรถเขาก็เปิดไฟตามอารมณ์ครับ อยากเปิดซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วแต่ชอบ ไม่สนใจว่าจะต้องเปิดยังไง ก็ใช่สิ เราเสียเงินไปแล้วนี่
หลังจากปิดไฟได้สักพัก พวกแมลงต่างๆก็ออกมาครับ เดินเล่นเต็มรถเลย
เราก็ไม่รู้จะทำไงครับ ได้แต่ทำใจ ในรถไม่มีผ้าห่มให้ อีกทั้งแอร์ก็ไม่เย็นครับ เหมือนนั่งรถเมล์เลย
เรามีตั๋วอาหารนะ แต่ก้ไม่ได้ใช้ เพราะเขาไม่บอกอะไรเลย พอถึงโคราชเราจะลง นึกว่าถึงที่ทานอาหาร เขาก็ไม่ให้ลง และรับคนกลุ่มใหม่แทนคนกลุ่มเก่าที่ลงรถไป มาแวะอีกครั้งที่ร้านค้าแห่งนึง น่าจะเป็นที่พักทานอาหาร เราก็ลงไปเข้าห้องน้ำ และขึ้นมานอนเลย ภาวนาให้ถึงกรุงเทพฯไวๆ จะได้หมดสิ้นกันสักที เราเดินทางจาก อุบลราชธานี ถึง กรุงเทพฯ 04.30 น. รถจอดริมถนนหน้าหมอชิต เราไม่คิดอะไรมาก รีบลงครับ และคิดในใจว่า อย่าได้เจอกันอีกเลยครับ
ปล. ไม่ได้อยากได้อะไรนะครับ แต่อยากแชร์ว่าผู้บริโภคเจออะไรมาบ้าง เราได้คุ้มกับที่เราเสียไปหรือเปล่า หรือการบริการแบบนี้ควรมีต่อไป
[CR] ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย กับ อุบลแอร์
เราเข้าใจในกฎเกณฑ์ของการกลับบ้านช่วงเทศกาลนะ แต่คุณไม่ควรทำกับเราแบบนี้เลย
ผมเดินทางมาจากปากเซ ข้ามแดนมาต่อรถที่ช่องเม็กและมาต่อรถที่ บขส อุบลราชธานี มีคนมากมายต่างกรูกันเข้ามาเพื่อลากเราไปซื้อตั๋วโดยสารเข้ากรุงเทพฯ เราตัดสินใจเดินดูแล้วมีแต่รอบ ค่ำๆ อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาถามว่าไปไหน เราก็ตอบว่าไปหมอชิตครับ เขาก็พาเราไปซื้อตั๋วนะ เขาบอกเป็นรถปรับอากาศชั้น 1 รอบ 16.00 น. เราก็เคยนั่งมาหลายรอบนะ รถปรับอากาศชั้น 1 นี่นะ ถือว่าดีอยู่ จึงตัดสินใจซื้อในราคา 470 กว่าบาท
แต่สิ่งที่เราได้คือ งง บัตรโดยสารทำไมไม่มีข้อมูลอะไรเลย เลยถามเขา เขาบอกออกมาให้แบบนี้ให้ไปรอที่ช่อง 1 เอานะ เมื่อสักครู่เห็นรถอยู่ก็โอเครอยู่ จึงเดินไปรอรถที่ช่อง 1
ขณะที่เราซื้อตั๋วเป็นเวลา 15.00 น. จึงรอรถต่อไปอีก 1 ชม.
16.00 น. ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รถยังไม่มาและไม่มีใครมาแจ้งอะไร คนก็รอกันเต็ม มีแต่รถที่เข้ามาจากรุงเทพฯมาอุบล เห็นรถแล้วชื่นใจ
16.15 น. มีผู้ชายคนนึงโทรตามหารถ ว่าทำไมยังไม่เข้าชานชาลา หลังจากวางสาย เขาแจ้งว่า รถกำลังเข้ามา กำลังเติมแก๊ส เช็คเครื่องยนต์ เราก็ดีใจ จะได้ขึ้นรถสักที
16.30 น. เราเข้ามาจอดที่ชานชาลา ทุกคนก็งงกับรถที่เข้ามาจอด แล้วทำไมถึงไม่ใช่รถของอุบลแอร์หละ แต่เขาบอกว่าคันนี้หละ เราจึงขึ้นรถ เพราะถ้าเราขึ้นช้า มีหวังไม่มีที่นั่งแน่ๆ เนื่องจากไม่ได้ระบุที่นั่ง เคยเจอมา ถ้าขึ้นช้ามีหวังนั่งหลังสุดติดห้องน้ำแน่ๆ
17.00 น. รถก็ยังไม่ได้ออก เนื่องจากมีคนขึ้นรถมาเกินจำนวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตรวจบนรถแล้วพบว่ามีเก้าอี้เสริม เขาแจ้งไม่ปลอดภัย เพราะไม่มีที่คาดเข็มขัด จึงรื้อเก้าอี้ลง และให้คนที่นั่งเก้าอี้เสริมลงไปข้างล่าง ไม่ใช่สิ ดูเหมือนเขาเอาไปซ่อนใต้รถ เพราะว่าทันทีที่รถออก คนเหล่านั้นก็เข้ามาอีกครั้งและมายืนรอด้านหลัง
มีผู้โดยสารหลายคนบ่นว่าที่คาดเข็มขัดใช้งานไม่ได้ ถ้าตำรวจตรวจจับเขาจะไม่จ่ายนะ ตำรวจได้แต่มองแล้วบอกไม่เป็นรัย
ของผมก็เหมือนกัน คาดเอาผ่านๆไป
17.30 น. รถแล่นมาจอดที่ปั้มเติมแก๊สเขาบอกให้ทุกคนลงจากรถ เพราะเขาจะเติมแก๊สและเช็คเครื่องยนต์
คือแล้วก่อนหน้านี่ที่บอกเราว่ารถมาช้าเพราะเติมแก๊สกับเช็คเครื่องอยู่คืออะไร เขาไม่สนใจผู้โดยสารเลย ดูแต่ละคนสิ รอกลับบ้านกันน่าสงสาร
อีกทั้งเขาก็คุยกันอย่างสนุกสนานไม่สนใจคนที่รอเลย หลังจากนั้นก็เอาเก้าอี้เสริมขึ้นมาต่อเติมใหม่ให้คนนั่ง
17.50 น. รถออกจากปั้ม ทุกคนต่างรีบขึ้นรถไปนั่งที่เดิม
18.30 น. รถจอดอีกครั้ง เราเลยสงสัยว่ารถจอดทำไม ไม่มีอะไรครับ เขาอยากได้ไก่ย่าง ของกิน เลยแวะจอดซื้อ
หลังจากได้ไก่ย่างเรียบร้อยแล้ว รถก็แล่นออกไป ไม่กี่อึดใจ รถก็จอดอีกครั้ง เขาแวะซื้อน้ำปั่นครับ
คือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่รถจอดแบบนี้
19.00 น. รถจอดอีกครั้งแวะรับผู้โดยสารระหว่างทาง เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ฟังผู้โดยสารท่านอื่นบ่นเช่นกัน
ในรถเขาก็เปิดไฟตามอารมณ์ครับ อยากเปิดซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วแต่ชอบ ไม่สนใจว่าจะต้องเปิดยังไง ก็ใช่สิ เราเสียเงินไปแล้วนี่
หลังจากปิดไฟได้สักพัก พวกแมลงต่างๆก็ออกมาครับ เดินเล่นเต็มรถเลย
เราก็ไม่รู้จะทำไงครับ ได้แต่ทำใจ ในรถไม่มีผ้าห่มให้ อีกทั้งแอร์ก็ไม่เย็นครับ เหมือนนั่งรถเมล์เลย
เรามีตั๋วอาหารนะ แต่ก้ไม่ได้ใช้ เพราะเขาไม่บอกอะไรเลย พอถึงโคราชเราจะลง นึกว่าถึงที่ทานอาหาร เขาก็ไม่ให้ลง และรับคนกลุ่มใหม่แทนคนกลุ่มเก่าที่ลงรถไป มาแวะอีกครั้งที่ร้านค้าแห่งนึง น่าจะเป็นที่พักทานอาหาร เราก็ลงไปเข้าห้องน้ำ และขึ้นมานอนเลย ภาวนาให้ถึงกรุงเทพฯไวๆ จะได้หมดสิ้นกันสักที เราเดินทางจาก อุบลราชธานี ถึง กรุงเทพฯ 04.30 น. รถจอดริมถนนหน้าหมอชิต เราไม่คิดอะไรมาก รีบลงครับ และคิดในใจว่า อย่าได้เจอกันอีกเลยครับ
ปล. ไม่ได้อยากได้อะไรนะครับ แต่อยากแชร์ว่าผู้บริโภคเจออะไรมาบ้าง เราได้คุ้มกับที่เราเสียไปหรือเปล่า หรือการบริการแบบนี้ควรมีต่อไป