ไทย ไม่ให้คนไทย ไปเล่นพนันบ่อนเขมร จนเกิดผลกระทบทั้ง 2ประเทศ แม่ค้าขาดทุนรายละ 3 – 5 หมื่นบาท

กาสิโนพ่นพิษ! แม่ค้าช่องสายตะกูโวยขาดทุนยับ หลังไทย-เขมรตอบโต้ห้าม ปชช.ข้ามแดน (ชมคลิป)
โดย MGR Online             
19 เมษายน 2560 18:57 น. (แก้ไขล่าสุด 19 เมษายน 2560 19:03 น.)

กาสิโนพ่นพิษ! แม่ค้าช่องสายตะกูโวยขาดทุนยับ หลังไทย-เขมรตอบโต้ห้าม ปชช.ข้ามแดน (ชมคลิป)
กาสิโนพ่นพิษ! พ่อค้าแม่ค้าตลาดชายแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โวยเดือดร้อนหนัก สินค้า ผัก ผลไม้ อาหาร ขายไม่ได้เน่าเสียจำนวนมาก ขาดทุนรายละ 3 – 5 หมื่นบาท วันนี้ (19 เม.ย.)

        บุรีรัมย์ - กาสิโนพ่นพิษ! พ่อค้าแม่ค้าตลาดชายแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ โวยเดือดร้อนหนัก สินค้า ผัก ผลไม้ อาหารขายไม่ได้เน่าเสียจำนวนมาก ขาดทุนรายละ 3-5 หมื่น หลัง จนท.ไทยห้ามคนนอกพื้นที่ผ่านแดนเข้ากาสิโนเขมร และกัมพูชา ตอบโต้สั่งห้าม ปชช.ข้ามแดนมาซื้อสินค้าฝั่งไทย ขณะหลายร้านปิดหยุดขายชั่วคราว วอนภาคส่วนเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข
      
       วันนี้ (19 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้า อาหาร ผัก ผลไม้ และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไปจำหน่ายบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กว่า 140 ราย กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถขายสินค้าและอาหารได้
      
       หลังจากเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศไทยห้ามคนนอกพื้นที่ อ.บ้านกรวด ผ่านแดนเข้าไปท่องเที่ยวซื้อสินค้าและเล่นการพนันในกาสิโน “สายตะกูรีสอร์ท แอนด์ กาสิโน” (SAITAKU RESORT AND CACINO) ฝั่งช่องจุ๊บโกกี ต.อัมปึล อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นข้อตกลงของทั้งสองฝั่งกรณีที่มีการเปิดบ่อนกาสิโนจะอนุญาตให้เฉพาะคนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด เข้าได้เท่านั้น จนกว่าจะมีการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวรจึงจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปได้
      
       ขณะที่ล่าสุดทางฝั่งประเทศกัมพูชาได้มีมาตรการตอบโต้โดยสั่งห้ามประชาชนของตัวเองข้ามมาซื้อสินค้ายังฝั่งไทยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ทั้งอาหารสด ผัก และผลไม้ ที่พ่อค้าแม่ค้าตลาดฝั่งไทยสั่งมาไว้จำหน่ายให้กับชาวกัมพูชา ขายไม่ได้เน่าเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เหลือต้องยอมขายให้กับคนไทยในราคาถูกว่าปกติ เพราะหากเก็บไว้แล้วขายไม่ออกจะเน่าเสียหายขาดทุนมากกว่านี้
      
       ทั้งนี้ แม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้ง อาหาร ผัก ผลไม้ เน่าเสียหายแล้วรายละ 3 0,000-50,000 บาท ขณะพ่อค้าแม่ค้าหลายรายต้องปิดร้านชั่วคราวเพราะขายไม่ได้ทำให้ไม่มีทุนซื้อของ ต้องหยุดรอความชัดเจนจึงจะกลับมาเปิดร้านใหม่อีกครั้ง

กาสิโนพ่นพิษ! แม่ค้าช่องสายตะกูโวยขาดทุนยับ หลังไทย-เขมรตอบโต้ห้าม ปชช.ข้ามแดน (ชมคลิป)

        นางศรีเกษม เผือกคล้าย อายุ 58 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นทอด ไก่ทอด ตลาดช่องสายตะกู กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยห้ามไม่ให้คนนอกพื้นที่ อ.บ้านกรวด ผ่านแดนเข้าไปเที่ยวชมกาสิโนและซื้อสินค้าฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. 2560 และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางฝั่งกัมพูชาได้สั่งห้ามไม่ให้คนของตัวเองข้ามมาซื้อสินค้ายังตลาดฝั่งไทยเช่นเดียวกัน กลายเป็นปัญหามาเป็นเวลาร่วม 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้การค้าขายเงียบเหงาเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวกัมพูชา ส่งผลให้สินค้า โดยเฉพาะอาหารสด หมู ไก่ เนื้อ ที่สั่งมาไว้จำหน่ายกว่า 30,000 บาท เพราะคาดว่าเป็นช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์จะขายดี เหมือนกับเมื่อกับปีที่ผ่านมา ที่ขายได้วันละ 40,000-50,000 บาท แต่กลับเกิดสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวขึ้นทำให้อาหารเริ่มเน่าเสีย และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดให้ทั้งสองฝั่งข้ามไปมาซื้อขายสินค้ากันได้ตามปกติเมื่อใด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าด้วย

เช่นเดียวกับนางสุวิภา เสาเปรีย อายุ 52 ปี แม่ค้าขายผลไม้บอกว่า หลังจากฝั่งไทยจำกัดให้เฉพาะคนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ผ่านแดนเข้าไปยังกาสิโน และซื้อสินค้าของฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้คนจากต่างอำเภอ และต่างจังหวัดหลายพันคนไม่สามารถเข้าได้ ต้องเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง
      
       ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางฝั่งกัมพูชาสั่งห้ามไม่ให้คนของตัวเองข้ามมาซื้อของฝั่งไทยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยที่สั่งของมาไว้ขายให้ชาวกัมพูชาขายไม่ได้เน่าเสียขาดทุน ตนลงทุนซื้อผลไม้มาไว้ขายกว่า 50,000 บาท แต่ต้องไปขายในราคาถูกให้คนไทย และบางส่วนเน่าเสีย
      
       จากกรณีดังกล่าวจึงอยากให้ทางการของทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจาหาทางออกและแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งไทยและกัมพูชาโดยเร็วด้วย

ภาพพ่อค้าแม่ค้า
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000039630
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่