เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้าชายเราค่ะ ขอเรียกว่าน้า อ นะคะ
เริ่มต้นคือแม่เรามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน รวมตัวแม่เราด้วย แต่ยายเราป่วยตายตั้งแต่แม่เราอายุ 12 ขวบ แม่เราเป็นพี่คนโต เลยต้องรับผิดชอบเลี้ยงน้องทั้งหมด โดยที่ตาเราก็หายไปจากบ้าน แม่เรากับน้องคนรองต้องผลัดกันไปรับจ้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงน้องอีก 3 คน รวมถึงน้า อ คนนี้ด้วย จนตอนหลังทวดเรามารับไปอยู่ด้วย และน้าคนรองก็ป่วยตายไป น้าอีกคนชื่อ ก ย้ายไปอยู่ กทม กับบ้านเจ้านายท่านหนึ่ง และตาเราก็กลับมารับลูกๆ ที่เหลือ 3 คนมาอยู่ด้วย จนแม่เราแต่งงานไป ที่เหลืออยู่กับตาเราก็คือน้าผู้หญิงคนหนึ่งกับ น้า อ น้า อ ก่อเรื่องเรื่อยมา ตั้งแต่เอาวัวไปเลี้ยงในสวนยางอาแปะ พออาแปะมาบอกตา ตาก็เตือนน้า อ แล้วน้า อ ก็เลยเอาตะปูไปตอกหน้ายางอาแปะ จนหน้ายางเค้าพัง และมีดกรีดยางก็พัง
อยู่มาวันหนึ่งมีโจรปล้นบ้านตา และคนในบ้านทุกคนถูกยิงตาย ยกเว้นน้า อ ที่ถูกยิงที่เอว มีคนเข้าไปช่วย และพาไปรักษาตัวที่ รพ จังหวัด จนกระทั่งแม่เราจัดการงานศพตาและครอบครัวเสร็จ น้า ก ลงมาจาก กทม รับน้า อ ไปรักษาต่อที่ รพ รามาฯ แม่เราขายที่ของตาแปลงหนึ่งเพื่อเอาเงินไปรักษาน้า อ หลังจากดีขึ้น น้า อ ออกจาก รพ เจ้านายของน้า ก ให้เข้ามาอยู่ที่บ้านทำงานเป็นคนเปิดประตู นั่งกดรีโมทเปิดปิด น้า อ ขาเป๋ และมีแผลที่ต้องคอยรักษาป้องกันการปลายเป็นแผลติดเชื้อ แต่น้า อ กินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยว คบเพื่อนแย่ พากันไปป่วนคนทั้งในบ้านและนอกบ้าน จนกระทั่งเจ้านายน้า ก ทนไม่ไหว น้า ก จึงส่งน้า อ มาอยู่กับแม่เรา
น้า อ มาอยู่กับแม่เราตั้งแต่ พศ. 2532 เริ่มต้นก็ให้อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่น้า อ ออกจากบ้านแต่เช้า และกลับเข้าบ้าน 3-4 ทุ่ม ไปเที่ยวที่ไหนไม่รู้ แม่รอเปิดประตูไม่ไหว แถมฉี่ใส่กระโถนและเอาไว้ใต้เตียง เหม็นไปหมด เสื้อผ้าใส่แล้วกองไว้ในห้องน้ำ ทับๆ กัน เปียก เหม็น จนแม่เราต้องให้น้า อ ลงไปอยู่บ้านหลังล่าง เป็นบ้านเล็กที่ห่างจากบ้านเราไม่ถึง 10 ก้าว น้า อ ก็ยังเที่ยวๆ เหมือนเดิม รับจ้างทำปืน จนพ่อเราเตือนว่าไม่ดี ด่าพ่อเราอีก (ที่บ้านนี้เป็นที่พ่อเรานะ) เวลาไปเป็นตายร้ายดีที่ไหน มืดคำไม่กลับบ้าน พ่อเราออกไปตามเพราะเป็นห่วง แต่ไม่เคยมีความดี
ตลอดระยะเวลามีแต่เรื่อง เช่น ไปตีผึ้ง จุดไฟแล้วก็เผาสวนชาวบ้านเขาไปด้วย จนแม่เราต้องไปเคลียร์ ไปเที่ยวงาน เที่ยวไปชักปืน ตำรวจจับ พ่อเราต้องไปประกันอะไรอีกมากมาย มีแต่เรื่อง จนกระทั่งเราเรียนจบ เราไปทำงานต่างประเทศ น้า อ ก็ยังทำตัวแย่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม่เราให้เงินเดือน 3000 บาททุกเดือน เป็นค่ากินค่าใช้อะไรก็ตาม จนกระทั่งไม่ได้ออกจากห้องตัวเองเลย 2 วัน และมีคนมาเปิดห้องเจอว่าป่วยหนักมาก จึงเอาตัวไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าแผลที่เป็นมานาน ที่ตัวน้า อ ไม่รักษาตัวเลย มันเกิดการติดเชื้อ หมอเปิดออกมาแล้วเหม็นมาก และหมอบอกว่าต้องตัดขาทิ้งข้างนึง ตอนนั้นพี่สาวเราต้องคอยวิ่งไปวิ่งกลับ รพ ตลอดเวลา ทั้งที่มีลูกเล็กต้องดูแล แม่เราดูแลพ่อเราที่แก่มากอยู่ที่บ้าน (พ่อเราเสียหลังจากนั้น 2 ปี) น้า ก ขึ้นๆ ลงๆ กทม มาเต็มตัวไม่ได้ เพราะเจ้านายน้า ก ก็แก่มากและป่วย จนบ้านเราตัดสินใจจ้างคนเฝ้า ตกวันละเป็นพัน ระหว่างนั้นแม่เราไปเปิดห้องน้า อ แม่เล่าว่ามีหนอนตัวเบ้อเร่อเลย ฉี่ใส่ขวดวางไว้ใต้เตียง เสื้อผ้าใส่แล้วไม่ซักกองในตะกร้า หยากไย่ ขยะ แม่เราขนออกมาเผาทิ้งหมด แล้วจัดการทำห้องให้ใหม่ ปูกระเบื้อง ซื้อเตียง ทำห้องน้ำ กะว่าน้า อ กลับมาจาก รพ จะได้อยู่สบาย และหวังว่าเค้าคงสำนึกแล้ว เพราะเขาเฉียดตายมาแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดราว 2 แสน
จนกระทั่งน้า อ กลับมาจาก รพ น้า ก ซื้อรถเข็นส่งมาจาก กทม น้า อ มีแผลที่ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน พี่สาวเราจัดการให้หมด แถมทำความสะอาดห้อง ล้างส้วม แต่หลังๆ ก็ไม่ยอมอาบน้ำ พอพี่เรามาทำแผลให้ก็ต้องรอ แม่เราทำกับข้าวส่งให้กินทุกวัน จะกินขนมหลานเราก็คอยไปซื้อมาให้ พี่สาวเราติดต่อจนกระทั่งน้า อ ได้ขาเทียมมาใส่ หลังจากได้ขาเทียมก็จับมอร์เตอร์ไซค์ แล้วก็เข้าลูปเดิม เที่ยวๆๆๆๆ ไม่สนใจทำแผล ปล่อยห้องให้รกเหม็น จนวันหนึ่งแม่เราไปงานศพ กลับมาเจอว่าน้า อ ใช้ปืนลมยิงหมาข้างบ้านตาย แม่เราโมโหมาก ต้องไปขอโทษเพื่อนบ้าน แม่มาถามน้า อ ว่าเป็นบ้าอะไร ทำไปทำไม น้า อ ว่าหนวกหู จะดูทีวี แม่เราปรี๊ดมากบอกว่านี่เพื่อนบ้าน เราต้องมี อยู่คนเดียวได้เหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้ คิด มีสมองบ้างมั้ย น้า อ ไม่พอใจ ไม่พูดกับแม่เรา ตั้งแต่วันนั้นแม่เรางดจ่ายเงินเดือน
แต่...ไม่พูดกับแม่เรา แต่ก็ยังอาศัยในบ้านที่เป็นของแม่เรา ใช้น้ำใช้ไฟ แต่ไม่พูดกับเจ้าของบ้าน เดินผ่านเจ้าของบ้านก็ทำคอแข็ง ตอนนี้เรากลับมาอยู่บ้านกับแม่แล้ว แม่เราสร้างรั้วบ้านเพราะไม่อยากให้หมาบ้านเรากับบ้านข้างๆ ไฝว้กัน น้า อ กลับมาจากเที่ยวดึกๆ ทุกวัน หลานชายเราคอยวิ่งเปิดรั้วให้ เพราะความที่ใส่ขาเทียมก็ไม่ค่อยมีแรงเย่อนัก ช่วง 1-2 ปีนี้ บังเอิญมีคนมาอ้างว่าเขานามสกุลเดียวกับแม่เรา เป็นญาติกันแน่ๆ เป็นคนตำบลถัดไป แต่บ้านเราเฉยๆ เพราะมันอาจแค่บังเอิญ สำเนียงก็คนละสำเนียง แถมสืบไปแล้วก็ไม่เจอบรรพบุรุษร่วมกัน แต่น้า อ เกิดอยากนับญาติ ก็ไปขลุกอยู่บ้านเขา และคงจะไปโม้ว่ามีสวนยาง มีสมบัติ จนวันนึงแม่เราไปเจอตาคนที่อ้างว่านามสกุลเดียวกับเรา ถามแม่เราว่าน้า อ ไปไหน แม่เราว่าไม่รู้ เขาเที่ยวกลับมืดทุกวัน ตาคนนั้นบอกว่า เออดี ถ้าน้า อ ตาย แม่เราจะได้ฮุบสมบัติของน้า อ สบาย แม่เราอึ้งว่า น้า อ มีสมบัติอะไรให้ฮุบ และตาคนนี้เผือกอะไร
ผ่านมาเป็นเดือน จนเมื่อเช้าแม่เราเรียกน้า อ จากนอกห้อง ถามว่าไปพูดอะไร ทำไมตาคนนั้นพูดแบบนี้ น้า อ จะคบใคร ทำอะไรก็เรื่องของน้า อ แต่อย่ามายุ่ง อย่ามาลามปามถึงแม่ น้า อ ตอบกลับมาว่า เออ พูด 2-3 คำก็รู้เรื่องแล้ว พล่าม _่าไรนักหนา ไปเลยไป ออกไปเลย แม่เราเลยสวนกลับไปว่า นี่บ้านชั้น ชั้นไม่ไปไหน คนที่ควรไปคือแกมั้ย แล้วแม่เราก็ไปบ้านพี่สาว จนสาย น้า อ ก็ออกจากบ้านไป แล้วเพิ่งกลับเข้ามาตอนค่ำๆ คือว่าขนาดนี้แล้วยังจะมาอยู่ในบ้านเค้าอีกเหรอ และเรารู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
อยากทราบว่าเราสามารถไล่เค้าออกไปจากบ้านได้ยังไงบ้าง ใครมีคำแนะนำบ้างคะ
ขอบคุณค่ะ
ต้องการไล่คนออกจากบ้าน...ทำได้ไหมคะ
เริ่มต้นคือแม่เรามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน รวมตัวแม่เราด้วย แต่ยายเราป่วยตายตั้งแต่แม่เราอายุ 12 ขวบ แม่เราเป็นพี่คนโต เลยต้องรับผิดชอบเลี้ยงน้องทั้งหมด โดยที่ตาเราก็หายไปจากบ้าน แม่เรากับน้องคนรองต้องผลัดกันไปรับจ้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงน้องอีก 3 คน รวมถึงน้า อ คนนี้ด้วย จนตอนหลังทวดเรามารับไปอยู่ด้วย และน้าคนรองก็ป่วยตายไป น้าอีกคนชื่อ ก ย้ายไปอยู่ กทม กับบ้านเจ้านายท่านหนึ่ง และตาเราก็กลับมารับลูกๆ ที่เหลือ 3 คนมาอยู่ด้วย จนแม่เราแต่งงานไป ที่เหลืออยู่กับตาเราก็คือน้าผู้หญิงคนหนึ่งกับ น้า อ น้า อ ก่อเรื่องเรื่อยมา ตั้งแต่เอาวัวไปเลี้ยงในสวนยางอาแปะ พออาแปะมาบอกตา ตาก็เตือนน้า อ แล้วน้า อ ก็เลยเอาตะปูไปตอกหน้ายางอาแปะ จนหน้ายางเค้าพัง และมีดกรีดยางก็พัง
อยู่มาวันหนึ่งมีโจรปล้นบ้านตา และคนในบ้านทุกคนถูกยิงตาย ยกเว้นน้า อ ที่ถูกยิงที่เอว มีคนเข้าไปช่วย และพาไปรักษาตัวที่ รพ จังหวัด จนกระทั่งแม่เราจัดการงานศพตาและครอบครัวเสร็จ น้า ก ลงมาจาก กทม รับน้า อ ไปรักษาต่อที่ รพ รามาฯ แม่เราขายที่ของตาแปลงหนึ่งเพื่อเอาเงินไปรักษาน้า อ หลังจากดีขึ้น น้า อ ออกจาก รพ เจ้านายของน้า ก ให้เข้ามาอยู่ที่บ้านทำงานเป็นคนเปิดประตู นั่งกดรีโมทเปิดปิด น้า อ ขาเป๋ และมีแผลที่ต้องคอยรักษาป้องกันการปลายเป็นแผลติดเชื้อ แต่น้า อ กินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยว คบเพื่อนแย่ พากันไปป่วนคนทั้งในบ้านและนอกบ้าน จนกระทั่งเจ้านายน้า ก ทนไม่ไหว น้า ก จึงส่งน้า อ มาอยู่กับแม่เรา
น้า อ มาอยู่กับแม่เราตั้งแต่ พศ. 2532 เริ่มต้นก็ให้อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่น้า อ ออกจากบ้านแต่เช้า และกลับเข้าบ้าน 3-4 ทุ่ม ไปเที่ยวที่ไหนไม่รู้ แม่รอเปิดประตูไม่ไหว แถมฉี่ใส่กระโถนและเอาไว้ใต้เตียง เหม็นไปหมด เสื้อผ้าใส่แล้วกองไว้ในห้องน้ำ ทับๆ กัน เปียก เหม็น จนแม่เราต้องให้น้า อ ลงไปอยู่บ้านหลังล่าง เป็นบ้านเล็กที่ห่างจากบ้านเราไม่ถึง 10 ก้าว น้า อ ก็ยังเที่ยวๆ เหมือนเดิม รับจ้างทำปืน จนพ่อเราเตือนว่าไม่ดี ด่าพ่อเราอีก (ที่บ้านนี้เป็นที่พ่อเรานะ) เวลาไปเป็นตายร้ายดีที่ไหน มืดคำไม่กลับบ้าน พ่อเราออกไปตามเพราะเป็นห่วง แต่ไม่เคยมีความดี
ตลอดระยะเวลามีแต่เรื่อง เช่น ไปตีผึ้ง จุดไฟแล้วก็เผาสวนชาวบ้านเขาไปด้วย จนแม่เราต้องไปเคลียร์ ไปเที่ยวงาน เที่ยวไปชักปืน ตำรวจจับ พ่อเราต้องไปประกันอะไรอีกมากมาย มีแต่เรื่อง จนกระทั่งเราเรียนจบ เราไปทำงานต่างประเทศ น้า อ ก็ยังทำตัวแย่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม่เราให้เงินเดือน 3000 บาททุกเดือน เป็นค่ากินค่าใช้อะไรก็ตาม จนกระทั่งไม่ได้ออกจากห้องตัวเองเลย 2 วัน และมีคนมาเปิดห้องเจอว่าป่วยหนักมาก จึงเอาตัวไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าแผลที่เป็นมานาน ที่ตัวน้า อ ไม่รักษาตัวเลย มันเกิดการติดเชื้อ หมอเปิดออกมาแล้วเหม็นมาก และหมอบอกว่าต้องตัดขาทิ้งข้างนึง ตอนนั้นพี่สาวเราต้องคอยวิ่งไปวิ่งกลับ รพ ตลอดเวลา ทั้งที่มีลูกเล็กต้องดูแล แม่เราดูแลพ่อเราที่แก่มากอยู่ที่บ้าน (พ่อเราเสียหลังจากนั้น 2 ปี) น้า ก ขึ้นๆ ลงๆ กทม มาเต็มตัวไม่ได้ เพราะเจ้านายน้า ก ก็แก่มากและป่วย จนบ้านเราตัดสินใจจ้างคนเฝ้า ตกวันละเป็นพัน ระหว่างนั้นแม่เราไปเปิดห้องน้า อ แม่เล่าว่ามีหนอนตัวเบ้อเร่อเลย ฉี่ใส่ขวดวางไว้ใต้เตียง เสื้อผ้าใส่แล้วไม่ซักกองในตะกร้า หยากไย่ ขยะ แม่เราขนออกมาเผาทิ้งหมด แล้วจัดการทำห้องให้ใหม่ ปูกระเบื้อง ซื้อเตียง ทำห้องน้ำ กะว่าน้า อ กลับมาจาก รพ จะได้อยู่สบาย และหวังว่าเค้าคงสำนึกแล้ว เพราะเขาเฉียดตายมาแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดราว 2 แสน
จนกระทั่งน้า อ กลับมาจาก รพ น้า ก ซื้อรถเข็นส่งมาจาก กทม น้า อ มีแผลที่ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน พี่สาวเราจัดการให้หมด แถมทำความสะอาดห้อง ล้างส้วม แต่หลังๆ ก็ไม่ยอมอาบน้ำ พอพี่เรามาทำแผลให้ก็ต้องรอ แม่เราทำกับข้าวส่งให้กินทุกวัน จะกินขนมหลานเราก็คอยไปซื้อมาให้ พี่สาวเราติดต่อจนกระทั่งน้า อ ได้ขาเทียมมาใส่ หลังจากได้ขาเทียมก็จับมอร์เตอร์ไซค์ แล้วก็เข้าลูปเดิม เที่ยวๆๆๆๆ ไม่สนใจทำแผล ปล่อยห้องให้รกเหม็น จนวันหนึ่งแม่เราไปงานศพ กลับมาเจอว่าน้า อ ใช้ปืนลมยิงหมาข้างบ้านตาย แม่เราโมโหมาก ต้องไปขอโทษเพื่อนบ้าน แม่มาถามน้า อ ว่าเป็นบ้าอะไร ทำไปทำไม น้า อ ว่าหนวกหู จะดูทีวี แม่เราปรี๊ดมากบอกว่านี่เพื่อนบ้าน เราต้องมี อยู่คนเดียวได้เหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้ คิด มีสมองบ้างมั้ย น้า อ ไม่พอใจ ไม่พูดกับแม่เรา ตั้งแต่วันนั้นแม่เรางดจ่ายเงินเดือน
แต่...ไม่พูดกับแม่เรา แต่ก็ยังอาศัยในบ้านที่เป็นของแม่เรา ใช้น้ำใช้ไฟ แต่ไม่พูดกับเจ้าของบ้าน เดินผ่านเจ้าของบ้านก็ทำคอแข็ง ตอนนี้เรากลับมาอยู่บ้านกับแม่แล้ว แม่เราสร้างรั้วบ้านเพราะไม่อยากให้หมาบ้านเรากับบ้านข้างๆ ไฝว้กัน น้า อ กลับมาจากเที่ยวดึกๆ ทุกวัน หลานชายเราคอยวิ่งเปิดรั้วให้ เพราะความที่ใส่ขาเทียมก็ไม่ค่อยมีแรงเย่อนัก ช่วง 1-2 ปีนี้ บังเอิญมีคนมาอ้างว่าเขานามสกุลเดียวกับแม่เรา เป็นญาติกันแน่ๆ เป็นคนตำบลถัดไป แต่บ้านเราเฉยๆ เพราะมันอาจแค่บังเอิญ สำเนียงก็คนละสำเนียง แถมสืบไปแล้วก็ไม่เจอบรรพบุรุษร่วมกัน แต่น้า อ เกิดอยากนับญาติ ก็ไปขลุกอยู่บ้านเขา และคงจะไปโม้ว่ามีสวนยาง มีสมบัติ จนวันนึงแม่เราไปเจอตาคนที่อ้างว่านามสกุลเดียวกับเรา ถามแม่เราว่าน้า อ ไปไหน แม่เราว่าไม่รู้ เขาเที่ยวกลับมืดทุกวัน ตาคนนั้นบอกว่า เออดี ถ้าน้า อ ตาย แม่เราจะได้ฮุบสมบัติของน้า อ สบาย แม่เราอึ้งว่า น้า อ มีสมบัติอะไรให้ฮุบ และตาคนนี้เผือกอะไร
ผ่านมาเป็นเดือน จนเมื่อเช้าแม่เราเรียกน้า อ จากนอกห้อง ถามว่าไปพูดอะไร ทำไมตาคนนั้นพูดแบบนี้ น้า อ จะคบใคร ทำอะไรก็เรื่องของน้า อ แต่อย่ามายุ่ง อย่ามาลามปามถึงแม่ น้า อ ตอบกลับมาว่า เออ พูด 2-3 คำก็รู้เรื่องแล้ว พล่าม _่าไรนักหนา ไปเลยไป ออกไปเลย แม่เราเลยสวนกลับไปว่า นี่บ้านชั้น ชั้นไม่ไปไหน คนที่ควรไปคือแกมั้ย แล้วแม่เราก็ไปบ้านพี่สาว จนสาย น้า อ ก็ออกจากบ้านไป แล้วเพิ่งกลับเข้ามาตอนค่ำๆ คือว่าขนาดนี้แล้วยังจะมาอยู่ในบ้านเค้าอีกเหรอ และเรารู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
อยากทราบว่าเราสามารถไล่เค้าออกไปจากบ้านได้ยังไงบ้าง ใครมีคำแนะนำบ้างคะ
ขอบคุณค่ะ