ผมมองว่า 1 องุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน 2. เป็นการหาพวกหรือหากลุ่มแนวร่วมทางสังคมแบบหนึ่ง

คือ คนเราโดยปกติ เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะมีแนวโน้มที่จะอ้วนง่ายขึ้นอยู่แล้วเนื่องจากการเผาผลาญจะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น คนที่อายุ 40+ ก็จะอ้วนกว่า 30+ โดยเฉลี่ย กลุ่ม 30+ ก็จะอ้วนกว่า 20+ โดยเฉลี่ย ซึ่งคนที่อายุมากขึ้น ก็จะมีประสบการณ์การทำงานมากขึ้น และโดยมากก็จะมีรายได้มากกว่าคนที่อายุน้อยกว่าอยู่แล้ว อันนี้ก็อาจจะเป็นที่มาของการสรุปว่า ผู้ชายอ้วนมีรายได้มากกว่าผู้ชายผอม (โดยเฉลี่ย) ซึ่งแน่นอน ถ้าคุมปัจจัยโดยเปรียบเทียบที่อายุเท่ากัน มันก็จะไม่จริง เพราะรายได้มันแปรผันกับช่วยอายุไม่ใช่ความอ้วนผอม (โดยเฉลี่ยนะ)

และจากการที่เมื่อคนเราอายุเลย 20-25 ขึ้นไป ก็จะอ้วนง่ายขึ้น เพราะการเผาผลาญลดลง ยิ่งการใช้ชีวิต กิน เที่ยว ประกอบกับรายได้ที่มากขึ้น ก็มีกำลังในการบริโภค กิน เที่ยว มากขึ้น การที่จะควบคุมดูแล หุ่น หรือ ร่างกายให้ยังฟิต ยังเฟิร์ม จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และการดูแลเรื่องพวกนี้ ต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมาก ในสังคมเราก็ยังมีคนกลุ่มน้อยที่สามารถทำได้ มันก็เลยเป็นเรื่องปกติที่คนกลุ่มน้อยกลายเป็นของแปลก และกลุ่มชาวสีม่วงเอง ก็เป็นกลุ่มที่มีส่วนน้อยในสังคมเช่นเดียวกัน จึงมักจะโดนสังคมส่วนใหญ่ เหมาเอาว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่ (แต่ก็เป็นกลุ่มที่ Intersect กัน)  

และอีกอย่างหนึ่งคือ ในสังคมของเราส่วนใหญ่ ยังแยกระหว่าง metro sexual กับ homo sexual ไม่ออก ยังมีคนอีกมากในสังคมที่มีค่านิยมที่ว่า ผู้ชายจะต้องซก ๆ ผิวหยาบ ๆ กร้าน ไม่ทาครีม ไม่ทากันแดด พุงพลุ้ย ๆ ไม่ต้องดูแลตัวเอง ไม่สนใจภาพลักษณ์ตัวเอง และยังมีอีกหลายคนที่มีความคิดในการดูถูกผู้หญิงว่า ผู้หญิงเลือกผู้ชายแค่ที่เงินเท่านั้นไม่ได้สนใจหน้าตา ดังนั้น จะมีคนจำนวนมากมีความคิดที่ว่า ผู้ชายไม่จำเป็นต้องดูดีหรอก ขอแค่มีเงินก็มีผู้หญิงมาชอบแล้ว ไม่เหมือนเกย์ที่ต้องดูดีเพราะว่าเกย์ไม่ได้ชอบที่เงินแต่ชอบที่หน้าตา แล้วก็พลันเหมาผู้ชายที่ดูดี เป็นเกย์ไปซะทั้งหมด (ซึ่งเป็นความคิดที่ไร้สาระมาก ๆ)

แล้วก็มีผู้ชายบางคนที่จริงๆ  แล้วก็อยากหุ่นดี อยากดูดี อยากหล่อ แต่ตัวเองไม่สามารถทำได้ ไม่มีความอดทน ไม่มีวินัยเพียงพอ ก็เลยพยายามหาพวก แล้วผลักไสคนกลุ่มน้อยที่สามารถทำได้ ไปเป็นกลุ่มเกย์บ้างอะไรบ้าง เพื่อลบปมที่ตัวเองไม่สามารถทำได้

ลึก ๆ แล้วทุกคน ไม่มีใครไม่อยากดูดี ไม่มีใครไม่อยากหล่อ ไม่มีใครไม่อยากสวย ถึงบางคนบอกอยากรวยมากกว่า แต่รวยแล้วก็อยากหล่ออยากสวยด้วยเหมือนกัน (ไม่งั้นคลีนิคศัลยกรรมคงไม่รวยกันขนาดนี้ หมอศัลยกรรม หมอความงาม คนไม่รวยอู้ฟู่ขนาดซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้มาเก็บได้เต็มบ้านขนาดนี้) แต่ในบรรดาคนที่ยังไม่หล่อ ไม่สวย บางคน ก็เลือกที่จะมองคนหล่อ คนสวย แล้วเก็บมาเป็นแรงผลักดัน พยายามทำให้ไปได้ยังจุด ๆ นั้น แต่บางคน ก็เลือกที่จะหาจุดยืนให้ตัวเอง หาเหตุผลปลอบใจตัวเอง โดยการผลักใส คนหล่อไปเป็นเกย์บ้าง ผู้ชายขายน้ำบ้าง ผล้กใส ผู้หญิงสวย ๆ ไปเป็นเมียน้อยบ้าง เด็กเสี่ยบ้าง เป็นเลสเบี้ยนบ้าง เพื่อหาเหตุผลให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดที่ตัวเองทำไม่ได้แบบนั้น

กลุ่มเพศที่สาม ก็เหมือนคนทั่วไปนี่แหละ มีทั้งแบบหล่อดูดี  มีซิกแพค หรือ แก่ อ้วน พุงพลุ้ย ก็มีทั้งนั้นปะปนกันไป คนจะเป็นเกย์มันไม่เกี่ยวว่าต้องหน้าตาดี หุ่นล่ำแล้วถึงจะเป็นเกย์ได้ แล้วคนทีเป็นเกย์ ก็ไม่ได้ดูดี หรือสามารถจะฟิตหุ่นหล่อล่ำได้ทุกคน ก็มีคนที่ทำไม่ได้เหมือนผู้ชายปกตินี่แหละ
ดังนั้นเลิกเอาเรื่องพวกนี้มาเหยียดกันได้แล้ว จะผู้ชายแท้ หรือไม่แท้ ก็มีทั้งที่ดูดี และดูไม่ดีทั้งนั้น คุณเลือกได้ว่าจะให้ตัวคุณเป็นแบบไหน จะให้หล่อเท่ห์หุ่นดี หรือจะให้อ้วนพุงพลุ้ย เลือกเอา อย่าเอาความไม่มีวินัย ไม่พยายาม ไม่อดทน ของตัวเอง ไปโยนเป็นความผิดของคนอื่น