อันนี้กระทู้เรื่องเล่าสยองขวัญเรื่องแรกของผมเลย
เหตุเกิดวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาตีสี่กว่าๆ
เกริ่นก่อนหน้านั้นผมเล่นสงกรานต์กับพี่ๆเพื่อนๆจนถึงห้าทุ่มแล้วไปเที่ยวผับต่อ
(แต่ผมไม่ดื่มเหล้านะครับไม่ต้องกลัวว่าผมจะหลอนจากสุรา)
ปิดตีสอง ก็ไปหาไรกิน จะมีร้านข้าวต้มแถวไนท์วัดบูรณ์ร้านนึงที่ปิดตีสี่
พวกผมก็นั่งกินกันจนร้านปิด และเลยเวลาลีลากว่าจะกลับได้ก็เกือบตีสี่ครึ่ง
ทีนี้ขากลับผมต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อนสองคน เพราะมาด้วยกัน
ปกติผมขับมอเตอร์ไซค์จะสวมหมวกกันน็อคตลอด แต่ตอนนั้นคิดว่าดึกมากแล้วคงไม่เป็นไร(อย่าเอาอย่างผมนะครับ)
เลยไม่ได้สวม
มาเข้าเรื่องกันเลยครับ
ผมขับไปกับเพื่อนกลับปกติ ไปทางเส้นหลังย่าโม แต่ทีนี้ผมเอะใจ เฮ้ย ใครวะยังมาเปิดเพลงเล่นสงกรานต์กันตอนนี้ นี่มันดึกมากแล้วนะ
เสียงแว่วๆเข้าเป็นจังหวะกลองยาวที่แบบคนไทยเล่นในสมัยก่อนและสมัยปัจจุบันที่ยังคงมีอยู่
แต่พอผมหยุดรถก็ไม่ได้ยินเสียงนั้น และขับหันหน้าตะแคงข้างก็ไม่ได้ยิน เพราะผมอยากจะฟังชัดๆว่ามาจากใหน เพราะขับหน้าตรงลมเข้าหูได้ยินไม่ค่อยชัด ผมเลยหันไปถามเพื่อนว่า เฮ้ย ได้ยินจังหวะกลองยาวมั้ย ใครยังเล่นยังเปิดเพลงเต้นตอนนี้วะ
เพื่อนผมตอบกลับมาว่า ใช่เสียง ม๊ง ม๊งตุ้มม๊งตุ้มม๊งตุ้มม๊ง มั้ย ผมเลย ขนลุกมาตลอดทางเลยครับ ผมบอกใช่ ทำไม ได้ยินเหมือนกรู
ทำไมบอกจังหวะถูก มันบอก กรูได้ยินเหมือนกัน แล้วเชื่อมั้ยครับ ขับมาจากหลังย่าโมมาสุดแถวห้าแยกนิ้งหน่อง เสียงถึงจะหายไป
ตอนแรกผมนึกว่าหูแว่ว เพราะผมไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคนึกว่าเสียงลม แต่มันไม่ใช่ครับ
เพราะเสียงที่ได้ยินมันมากกว่ากลองยาวมีจังหวะฉาบปนเข้ามาด้วยแล้วเป็นเสียงที่แบบ ต่อเนื่องเป็นจังหวะที่ดูสนุกสนานมาก
เกิดมาผมก็พึ่งเคยเจออะไรแบบนี้ ไม่คิดว่าจะได้เจอ เพื่อนผมก็บอกว่า มันก็เป็นเวลาของเค้า เค้าก็อยากฉลองบ้าง
โห เพื่อนยิ่งพูดผมยิ่งขนลุก น้ำตาไหล เพราะกลัว 5555
พอถึงบ้าน ผมไม่ปิดไฟนอนเลยครับ หลอนไม่หาย
ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ที่เล่ามานั้นเป็นประสบการณ์จริงครับ อาจจะไม่สนุกนะครับเพราะผมเล่าแบบดิบๆ555
อยากให้ไปลองดูครับ เพื่อคืนนี้เค้ายังฉลองกันอยู่ก็เป็นได้
เมื่อสงกรานต์โคราช ไม่ได้มีแค่คนเท่านั้นที่เล่น
อันนี้กระทู้เรื่องเล่าสยองขวัญเรื่องแรกของผมเลย
เหตุเกิดวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาตีสี่กว่าๆ
เกริ่นก่อนหน้านั้นผมเล่นสงกรานต์กับพี่ๆเพื่อนๆจนถึงห้าทุ่มแล้วไปเที่ยวผับต่อ
(แต่ผมไม่ดื่มเหล้านะครับไม่ต้องกลัวว่าผมจะหลอนจากสุรา)
ปิดตีสอง ก็ไปหาไรกิน จะมีร้านข้าวต้มแถวไนท์วัดบูรณ์ร้านนึงที่ปิดตีสี่
พวกผมก็นั่งกินกันจนร้านปิด และเลยเวลาลีลากว่าจะกลับได้ก็เกือบตีสี่ครึ่ง
ทีนี้ขากลับผมต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อนสองคน เพราะมาด้วยกัน
ปกติผมขับมอเตอร์ไซค์จะสวมหมวกกันน็อคตลอด แต่ตอนนั้นคิดว่าดึกมากแล้วคงไม่เป็นไร(อย่าเอาอย่างผมนะครับ)
เลยไม่ได้สวม
มาเข้าเรื่องกันเลยครับ
ผมขับไปกับเพื่อนกลับปกติ ไปทางเส้นหลังย่าโม แต่ทีนี้ผมเอะใจ เฮ้ย ใครวะยังมาเปิดเพลงเล่นสงกรานต์กันตอนนี้ นี่มันดึกมากแล้วนะ
เสียงแว่วๆเข้าเป็นจังหวะกลองยาวที่แบบคนไทยเล่นในสมัยก่อนและสมัยปัจจุบันที่ยังคงมีอยู่
แต่พอผมหยุดรถก็ไม่ได้ยินเสียงนั้น และขับหันหน้าตะแคงข้างก็ไม่ได้ยิน เพราะผมอยากจะฟังชัดๆว่ามาจากใหน เพราะขับหน้าตรงลมเข้าหูได้ยินไม่ค่อยชัด ผมเลยหันไปถามเพื่อนว่า เฮ้ย ได้ยินจังหวะกลองยาวมั้ย ใครยังเล่นยังเปิดเพลงเต้นตอนนี้วะ
เพื่อนผมตอบกลับมาว่า ใช่เสียง ม๊ง ม๊งตุ้มม๊งตุ้มม๊งตุ้มม๊ง มั้ย ผมเลย ขนลุกมาตลอดทางเลยครับ ผมบอกใช่ ทำไม ได้ยินเหมือนกรู
ทำไมบอกจังหวะถูก มันบอก กรูได้ยินเหมือนกัน แล้วเชื่อมั้ยครับ ขับมาจากหลังย่าโมมาสุดแถวห้าแยกนิ้งหน่อง เสียงถึงจะหายไป
ตอนแรกผมนึกว่าหูแว่ว เพราะผมไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคนึกว่าเสียงลม แต่มันไม่ใช่ครับ
เพราะเสียงที่ได้ยินมันมากกว่ากลองยาวมีจังหวะฉาบปนเข้ามาด้วยแล้วเป็นเสียงที่แบบ ต่อเนื่องเป็นจังหวะที่ดูสนุกสนานมาก
เกิดมาผมก็พึ่งเคยเจออะไรแบบนี้ ไม่คิดว่าจะได้เจอ เพื่อนผมก็บอกว่า มันก็เป็นเวลาของเค้า เค้าก็อยากฉลองบ้าง
โห เพื่อนยิ่งพูดผมยิ่งขนลุก น้ำตาไหล เพราะกลัว 5555
พอถึงบ้าน ผมไม่ปิดไฟนอนเลยครับ หลอนไม่หาย
ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ที่เล่ามานั้นเป็นประสบการณ์จริงครับ อาจจะไม่สนุกนะครับเพราะผมเล่าแบบดิบๆ555
อยากให้ไปลองดูครับ เพื่อคืนนี้เค้ายังฉลองกันอยู่ก็เป็นได้