ห้ามนั่งแคป+กระบะท้ายพ่นพิษ! เต้นรถมือ2น่วม ขายรถกระบะยากขึ้น! สร้างหนี้เสียจำนวนมาก

SpringNewsTV‏ @SpringNews_TV
เต๊นท์รถมือสองวอนรัฐผ่อนปรน เหตุขายรถกระบะยากขึ้น!

วันที่ 16 เม.ย. 60 — ไม่เพียงประชาชนเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อน จากการประกาศมาตรการห้ามนั่งแค็บ นั่งท้ายกระบะ แต่ผู้ประกอบการเต๊นท์รถมือสอง รวมถึงบริษัทไฟแนนซ์ ออกมาระบุว่า มาตรการนี้กำลังจะทำให้ราคากลางในตลาดร่วง และจะกระทบต่อวงการรถมือสองและสร้างหนี้เสียจำนวนมาก ติดตามจากรายงานของทีมข่าวสปริงนิวส์

รถกระบะมือสอง จอดเรียงรายรอการจำหน่ายภายในเต๊นท์รถมือสอง ย่าน จ.นครปฐม ยอดขายที่ลดลงกว่าร้อยละ 50 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเต๊นท์รถมือสองยอมรับเป็นผลพวงมาจากการประกาศมาตรการห้ามนั่งแค็บ นั่งท้ายกระบะ เพื่อลดปัจจัยเลี่ยงความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนถนนของ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

"นายวิชัย สุวรรณศิลา"​ ผู้ประกอบการเต๊นท์รถมือสอง บอกว่า การขายลดลง เพราะซื้อไปทำหลายอย่าง แต่ประกาศบังคับทันทีทันใด คนที่จะซื้อก็ยังลังเล ส่วนตัวไม่ไปประมูลมาเพิ่มแล้ว เพราะมันขายไม่ได้

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเต๊นท์รถมือสอง บอกกับสถานีข่าวสปริงนิวส์อีกว่า มาตรการนี้ไม่เพียงกระทบประชาชนผู้ครอบครอง แต่ยังกระทบทั้งระบบการขายรถกระบะ ไม่ว่าจะเป็นป้ายแดง หรือรถมือสอง

ขณะที่ นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ระบุว่า ผลกระทบจากมาตรการที่ออกมาคล้ายคลึงกับโครงการรถคันแรก เมื่อรถกระบะที่ครอบครองอยู่ใช้ประโยชน์ได้เพียงอย่างเดียว หลายคนอาจจะขายรถ ส่งผลต่อราคากลางปรับลดลง และท้ายที่สุด รถกระบะจะขายไม่ได้ราคา

การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พุทธศักราช 2555 มาตรการรัดเข็มขัดนิรภัย ที่นั่งรถกระบะถูกผู้บังคับใช้กฎหมายตีความว่า ไม่มีเข็มขัดไม่สามารถนั่งได้ รวมถึงการขนคนท้ายรถกระบะ โดยอ้างอิงจากเจตนารมณ์ว่า พื้นที่เหล่านี้ไม่ถูกออกแบบให้คนนั่ง แต่ถูกออกแบบเพื่อใช้ขนของ และเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้วิถีชีวิตเปลี่ยน

ทั้งนี้ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง อยากให้รัฐบาลทบทวนถึงผลกระทบ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ปัจจัยหลัก คือ ผู้ขับขี่ ซึ่งควรออกมาตรการควบคุมผู้ขับขี่มากกว่า เพราะหากเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีการนี้ ไม่เพียงส่งผลต่อผู้ใช้งาน ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์อีกด้วย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
http://www.springnews.co.th/th/programme/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9C%E0%B9%88/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่