ตามธรรมเนียมของพันทิป ก็ต้องมีการเกริ่นกันโดนคอมเมนมาม่ากันก่อนเลยว่านี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ผิดพลาด เผลอไผลไปประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาา

สำหรับลิสต์รายชื่อสินค้าหรือบริการต่างๆเราจะลิสต์เอาไว้ให้ท้ายบทความนะคะ เพราะเข้าใจดีว่าเจ้าสาวไม่ได้มีเวลามาก บางท่านอยากมาอ่านเพื่อหารายชื่อของหรือบริการบางอย่าง ก็จะได้พุ่งไปที่ตรงนั้นง่ายๆเลย
หัวข้อที่เราจะพูดถึงมีตามนี้เลยค่ะ
งบ
ฤกษ์
พิธีการ
ตารางเวลา
สถานที่
ชุด
ช่างภาพ
แต่งหน้าทำผม
พรีเวดดิ้ง
การ์ดงานแต่ง
ทีมตกแต่งสถานที่
D.I.Y
แหวน
อยากฝากว่าที่เจ้าสาว
ลิสต์บริการและของที่ใช้ในงาน

อะเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ งานแต่งเราจัดวันที่ 12 ธันวาคม 2559 ผ่านพ้นช่วงเวลาวันที่ 13 ตุลาคมมาได้ไม่นาน เกือบจะต้องเลื่อนไปเสียแล้ว แต่ทางผู้ใหญ่เห็นว่าผ่านมาพอสมควร และเราก็ไม่ได้มีการร้องแรกแหกกระเชอในขบวนขันหมาก น่าจะพอไปได้อยู่ ก็เลยจัดกันตามนั้นค่ะ

เรากับแฟนวางแผนว่าจะจัดงานแต่งตั้งแต่ปลายปี 2558 ก็วางกันมาปีหนึ่งเต็มๆ บวกกับเก็บตังค์กันด้วย 555 เลยอยากจะมาแชร์ให้ว่าที่เจ้าสาวทุกๆท่านได้ใช้เป็นข้อมูลจัดงานแต่งของตัวเองนะคะ
4 อย่างแรกที่เราให้ความสำคัญสุดเลยคือ
-งบ  
-จำนวนแขก
-ฤกษ์
-สถานที่

งบ
การกำหนดตัวเลขเอาไว้ในใจทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น อะไรที่มันไม่ได้อยู่ในงบก็ไม่เอาเข้ามา หรือทำเองได้ก็ทำ  แต่ก็แอบเป็นดาบสองคมอยู่เหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะการที่เราต้องจัดเอง แล้วเราลืมเผื่องบสำหรับการทำพลาดเอาไว้ ทำให้เราเจ็บตัว ถลอกปอกเปิกกันไปเล็กน้อย เดี๋ยวจะเม้าท์ให้ฟังค่ะ

สำหรับจำนวนแขกเราไม่มีวิธีการคำนวนพิสดารอะไรมากมาย ไม่ค่อยถูกชะตากับตัวเลขอยู่แล้ว555
แค่ดูคร่าวๆว่าพ่อๆแม่ๆ และตัวเรามีแขกที่อยากเชิญคนละเท่าไหร่ แล้วมาเฉลี่ยๆให้แต่ละคนได้ปริมาณใกล้ๆกัน ซึ่งแขกเราอยู่ที่ 300 ท่าน ถือว่ากลางๆค่ะ แต่วันงานมาจริงก็ประมาณ 250-270ท่าน เป็นปกติของงานแต่งที่คนจะมาเยอะกว่าหรือน้อยกว่าอยู่แล้วอะเนอะ ทำใจเอาไว้เลยนะจ๊ะว่าที่เจ้าสาว แต่เราอยากให้ถือคติว่า เหลือดีกว่าขาดค่ะ ขาดแล้วชุลมุนวุ่นวายแน่นอน


ฤกษ์
พอได้งบเสร็จเราก็หาฤกษ์กันเลย ซึ่งเดี๋ยวนี้หาไม่ยาก เปิดหาตามอากู๋ก็ได้ละ มาแล้ว! ฤกษ์งานแต่งปี...ซึ่งมันก็ทำให้เราคิดว่า เฮ้ย! อย่างนี้ทุกคู่ก็ใช้ฤกษ์เดียวกันหมดสิ ถึงจะไปหาพระก็อาจจะได้ไม่ต่างกันมาก อย่ากระนั้นเลย เราเอาฤกษ์ที่มันเหมาะกับเราที่สุดก็แล้วกัน ซึ่งก็ได้มาค่ะ วันที่ 12 เดือน 12 จำง่ายดี แถมเลขสวย 555 (ไม่เห็นจะเป็นฤกษ์ตรงไหนเล๊ยย) ที่สำคัญมันเป็นวันจันทร์ ถือว่าเป็นฤกษ์ดี เป็นวันต้นสัปดาห์ เป็นการเริ่มต้นใหม่ และยังเป็นวันหยุดชดเชยด้วย โชคดี 3 ชั้นเลยแล้วกัน คิดเองเออเองเสร็จสรรพหมดเลยค่ะ 555
ซึ่งเราคิดเอาไว้กับพ่อแม่และแฟนเลยว่าจะไม่ขอแหกขึ้ตาตื่นแต่เช้า ตี3 ตี4 เพื่อมาแต่งหน้า และเข้าพิธีให้ทันฤกษ์เด็ดขาด เข็ดมากกับการไปงานแต่งญาติแล้วตื่นเช้าขนาดนั้น เราเลยกำหนดช่วงเวลาเป็นงานพิธีบ่าย เลี้ยงเย็น ชิลให้ถึงที่สุด แต่สุดท้ายวันงานก็ตื่น 6 โมงเช้าอยู่ดี ตื่นมาเตรียมงานกัน ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเวลาที่พอรับได้ ไม่เช้ามืดเกิ๊นน


พิธีการ
ด้วยความที่ฝั่งเจ้าบ่าวเป็นลูกครึ่งไทย-จีนแท้ๆ ส่วนเราเป็นลูกเสี้ยว มีไทยอยูนิดเดียว แต่พ่อแม่เราอยากให้ทำพิธีแบบไทยๆ เราก็เลยต้องทำการประนีประนอม ผสมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน บอกเลยว่านั่งหาข้อมูลยิ่งกว่าทำรายงานวิชาประวัติศาสตร์ ขุดไปถึงรากเหง้าของพิธีกันเลยทีเดียวว่ามีอะไรบ้าง สุดท้ายแล้ว เอาจริงๆนะคะ ไปถามผู้ปกครองดีกว่าค่ะสาวๆ ว่าท่านๆอยากได้อะไร อะไรตัดออกได้บ้าง ต้องถามบ่อยๆแล้วลองเอาพิธีการต่างๆไปนั่งเล่าให้ฟัง ว่าขาดตกอะไรไปไหม แรกๆพ่อๆแม่ๆก็จะแบบ
พ่อแม่: ยังไงก็ได้ พิธีไม่ต้องเยอะ
เรา: (กระหยิ่มยิ้มย่อง หวานหมูละเรา พิธีน้อยๆไม่ต้องเยอะแยะเหนื่อยเตรียมของ)
ไปๆมาๆ
พ่อแม่:อ้าวทำไมไม่มีรับตัวเจ้าสาว? ทำไมไม่มีดอกไม้ติดอกเสื้อ?
เรา:โอ้วววมาย Y_Y อยากร้องไห้วันละสามเวลา ทำไมไม่บอกหนูตั้งแต่ตอนแรกที่ถามค่าาา
แต่พอเราผ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ก็อยากบอกว่า ว่าที่เจ้าสาวทุกท่านคะ ทำใจร่มๆและใช้ความอดทนให้มากเนอะ เพราะท่านพ่อท่านแม่ก็อยากให้ลูกๆออกมาดูดีที่สุดในวันสำคัญของเราอะคะ ท่านก็จะมีอะไรเพิ่มเติมแบบนี้เป็นปกติ

ซึ่งเอาจริงๆแล้วพิธีการต่างๆมันไม่มีผิดมีถูกนะคะ จากการหาข้อมูลมา สุดท้ายคืออยู่ที่ความชอบหรือวัฒนธรรมของแต่ละบ้านเลยค่ะ ลองดูลำดับพิธีการของเราดูนะคะ เราตัดอะไรไปค่อนข้างเยอะ เหลือแต่ที่พ่อแม่ต้องการเอาไว้จริงๆ สาวๆคนไหนจะเอาไปประยุกต์ก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ เราเอาตารางมาใส่ให้ดูคร่าวๆตามนี้เลยค่าา (ปล.ตรงนี้ยาวหน่อยน่าา เลื่อนข้ามไปอ่านหัวข้อถัดไปได้ค่ะ กลัวเบื่อกันก่อน 555)

13:50 พิธีกรกล่าวเปิดเวที
ตรงนี้ให้พิธีกรกล่าวนำว่าจะทำอะไรบ้าง อธิบายคร่าวๆว่าวันนี้จะเป็นพิธีผสมไทยจีน ซึ่งจะไม่เหมือนไทยหรือจีนร้อยเปอร์เซ็นเป๊ะๆเลย เพื่อป้องกันญาติหรือแขกท่านใดไม่ให้เข้าใจผิด แล้วเกิดลุกขึ้นมาโต้เถียงกันกลางงาน อันนี้อาจจะฟังดูเวอร์ไปนะคะ แต่พี่ๆเขาเตือนมา ว่าเคยมีกรณีญาติขึ้นไปเถียงกับพิธีกรมาแล้ว กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ

14:09 เคลื่อนขบวนขันหมาก
ตอนแรกเราจะใช้ขันหมากปลอม ไปๆมาๆราคาพอๆกัน ข้าวตอกดอกไม้ที่ต้องใช้โรยก็ไม่มีให้ ต้องหาเอาเอง แถมยังต้องเอาไปคืนอีก เสียค่ารถค่าน้ำมัน เอาขันหมากจริงไปเลยนี่แหละคุ้มสุดละ แล้วก็มาส่งให้เช้าวันนั้นตามที่นัดเอาไว้เป๊ะๆ เราใช้ของ Flowers Skill งานละเอียดมากกกก เลือกสีพานได้ตามใจ เราสั่งเป็นพานเอก ซึ่งจะมี 5 พานด้วยกัน แล้วก็สั่งมาลัยคล่องคอบ่าวสาว 1 คู่ และพวงมาลัยไหว้ผู้ใหญ่ไป 8 พวง ราคารวมคือ 13200 บาท
ส่วนพานขันหมากโท เราผสมเอาพานขันหมากจีนมาใช้ค่ะ โดยสั่งจาก บ.อั่งกี่ ร้านทำขนมเทศกาลจีนชื่อดัง ดีเกินคาดตรงที่ผู้ใหญ่ชมว่าเอากลับไปกินแล้วอร่อยมาก แป้งไม่แห้งติดคอ ตอนมาส่งก็มาตามนัดเช่นกันค่ะ ไม่มีเบี้ยว ซึ่งเราสั่งไปทั้งหมด 6 อย่างด้วยกัน เช่น ขนมมงคล 9 อย่าง 1 คู่ เป็นต้นค่ะ คุณหวานเป็นคนที่เราติดต่อด้วย นางจะตอบไลน์ช้าหน่อยแต่ครบถ้วนดีค่ะ สรุปราคาที่ 6320 บาททั้งเซ็ต  



แล้วก็มีเช่าอุปกรณ์เพิ่มอีกเล็กน้อยเช่น ประตูเงินประตูทองที่ทำจากดอกรักประดิษฐ์ ดอกไม้สดติดอกแขก VIP จากร้าน Weddingceleb ในหน้าเฟซบุ๊ค คุณแนนเจ้าของร้านตื่นมาแต่เช้าเอาของมาให้เองและรอรับกลับเองเลยค่ะ ประทับใจมากๆ

14:15 รับตัวเจ้าสาว
ตอนไปรับก็มีดอกไม้มารับตัวด้วยค่ะ ซึ่งเราก็ทำเองอีกแล้ว 555 เราเห็นแบบต่างประเทศแล้วสวยดี เป็นดอกกล้วยไม้สีขาว แต่ถ้าเป็นดอกสดนี่ราคาเหยียบห้าพัน เกินงบไปไกล เราก็เลยใช้ดอกไม้ประดิษฐ์จากจตุจักเอามาห่อกระดาษสาแทน ก็พอเนียนๆไปได้

14:20 พิธีหมั้น
พิธีหมั้นก็ตามธรรมเนียมค่ะ แจงหรือไม่แจงสินสอดก็ได้ เราใส่สคริปต์เพิ่มให้พิธีกรบรรยายความหมายของข้าวตอกดอกไม้แต่ละอย่างว่าหมายถึงอะไรบ้าง จะได้ไม่เงียบเกินไปค่ะ

14:40 พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่แบบไทย
เรามีพิธีรับไหว้ผู้ใหญ่สองแบบคือ ไทยกับจีน แบบไทยเราเชิญญาติฝ่ายเจ้าสาวมานั่งทีละคู่ ซึ่งเราเชิญมาเฉพาะญาติสายตรงตามที่พ่อแม่เราต้องการ คือเป็นพี่น้องกับพ่อแม่เราโดยตรง และญาติผู้ใหญ่เช่นย่ากับยาย มารับไหว้เรา โดยเราจะยกพานพวงมาลัยไหว้และให้ของรับไหว้แก่ท่าน ซึ่งของรับไหว้เราเป็นข้าวจากโครงการหลวงมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงค่ะ กก.ละประมาณ 100 บาท เราซื้อถุงผ้าโปร่งมาใส่และแปะสติ๊กเกอร์ให้ดูสวยงาม

15:00 พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่แบบจีน
ก็จะเป็นการยกน้ำชาให้กับญาติผู้ใหญ่ทีละคู่ค่ะ ให้ศีลให้พรกัน แล้วก็ให้ซองหรือสิ่งของแทนใจตามแต่ละท่าน ส่วนเราก็ให้ของรับไหว้เหมือนกับตอนไหว้ผู้ใหญ่ฝั่งไทยค่ะ

15:30 พิธีรดน้ำสังข์
ตั่งรดน้ำสังข์มีพร้อมจากสถานที่ค่ะ ส่วนด้ายแฝดมงคลกับเครื่องเจิมหน้าผาก (ดินสอพอง+น้ำอบไทย) เราไปหาซื้อเอามาเตรียมไว้ก่อนหน้าแล้วค่ะ (ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของแฟนก็นำไปเข้าพิธีมงคลให้พระท่านประสาทพรให้เรียบร้อย เพราะงานเราไม่ได้มีพิธีสงฆ์ในงานจ้า)

16:00 พักเปลี่ยนชุด

18:00-21:00 พิธีเลี้ยงเย็น
ก็จะมีการถ่ายรูปต้อนรับแขก เปิดพรีเซ็นเตชั่นที่เราสองคนถ่ายกันเอง ตัดต่อกันเอง แล้วก็เชิญแขกคนสำคัญขึ้นอวยพร ก่อนที่จะจบด้วยพิธีแลกแหวนแบบฝรั่งน่ารักๆ มีกล่าวคำในใจกันเล็กน้อยด้วย 555 พี่ช่างภาพแนะนำให้เราใช้ไฟเย็นให้แขกถือยืนเรียงรายสองข้างทาง เพื่อให้เราเดินลงไปกัน พอถ่ายออกมาแล้วสวยมากๆ ดูโรแมนติกดี
เราแอบแถมท้ายด้วยกันเล่นเกมส์กับแขกนิดหน่อย โดยก่อนเริ่มงานเราให้เพื่อนเจ้าบ่าวแอบเอากระดาษเขียนชื่อเราสองคนไปแปะใต้เก้าอี้ตามโต๊ะต่างๆ 10 แผ่น แล้วให้แขกหาว่าอยู่เก้าอี้ใคร แล้วก็เชิญเขาออกมาบนเวที ตอบคำถามเพื่อเช็คว่ารู้จักเราดีแค่ไหน จนเหลือคนสุดท้ายก็ได้รางวัลไป
สรุปจบประมาณ 21:30 เวลากำลังดี ผู้ใหญ่บอกว่าไม่เหนื่อยเกินไป

สถานที่
เราจัดที่สนามกอล์ฟธนาซิตี้ค่ะ เพราะราคาไม่สูงและสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ แต่ไม่แนะนำให้เจ้าสาวรุ่นต่อไป ไปจัดที่นี่นะคะ เพราะผู้ใหญ่ที่มีอำนาจของสถานที่ไม่ให้ความร่วมมือ และไม่คิดคำนึงถึงคำว่างานแต่ง ที่มีครั้งเดียวในชีวิตคนๆหนึ่งเลยค่ะ บอกเลยว่าหัวข้อสถานที่นี่เป็นกระทู้ดราม่า ยำยำไวไว ได้ดีมาก ไว้จะมาตั้งกระทู้แฉโดยเฉพาะนะคะ เอาเป็นว่าถ้าอยากให้งานราบรื่น ไม่ต้องปวดหัวร้องไห้ทุกๆ2 เดือน ก็แนะนำให้ไปจัดที่อื่นนะคะสาวๆ

ชุด
ด้วยความที่เราไม่ใช่ไซต์มาตรฐาน คือตัวเล็กมาก (สูง 156 หนัก 40 กก) ไม่ได้จะอวดว่าตัวเล็กแล้วดีนะคะ มันกลายเป็นความลำบากที่หาชุดเจ้าสาวสำหรับคนไซต์นี้แล้วออกมาดูดียากมากกกก จนเราตัดสินใจสั่งตัดค่ะ เราสั่งจากร้าน Furic ของพี่แดง อยู่แถวนาคนิวาส โดยได้แบบมาจาก Rikidala ซึ่งก็ออกมาสวยสมใจทุกประการ ราคาตัดอยู่ที่ 5000-10000 บาท ไม่รวมผ้าลูกไม้นะคะ ผ้าลูกไม้เราได้ผู้ใหญ่ที่เคารพและรู้จักพาไปซื้อที่ร้าน Gandhi คันธี พาหุรัดค่ะ ซึ่งเราโชคดีไปตอนที่เขากำลังลดราคาพอดี แบบ 50-80% กันเลยทีเดียว สาวๆที่อยากไปหาผ้ามาตัดเองลองไปช่วงกลางๆปีดูนะคะ เห็นว่าลดทุกกลางปีค่ะ
คะแนนชุดเจ้าสาว 10/10

ส่วนชุดไทยของเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวเราเช่าจากร้าน Lovely Home Studio ย่านพัฒนาการค่ะ พี่ไพเจ้าของร้านบริการด้วยความเต็มใจทุกครั้งที่ไป
ชุดเราเช่าที่ 2500 เพื่อนเจ้าสาวชุดละ 500 นะคะถ้าจำไม่ผิด มีการซักแห้งให้ก่อนเป็นอย่างดี
คะแนนชุดไทย(ของเพื่อนและเจ้าสาว) 10/10

สำหรับรองเท้าเราสั่งตัด (อีกแล้ว) จากร้าน Debuter Tailor made shoes ทาง IG ค่ะ เพราะว่าเราใส่เบอร์ 34-35 หารองเท้ายากยิ่งกว่าหาชุดอี๊กก จึงจำใจต้องตัดเอาค่ะ เจ้าของร้านชื่อคุณหนู เอาใจใส่และตามงานให้ไวมาก แบบรองเท้าเราเลือกที่ใส่สบายและสามารถใส่ได้อีกหลายๆโอกาสค่ะ นัยว่าซื้อแล้วก็ต้องเอาให้คุ้มค่า 555
คะแนนรองเท้า 10/10