จากกระทู้ที่แล้วเราแนะนำที่เที่ยวในย่านโตเกียวและใกล้เคียงไปนะคะ วันนี้จะมาแนะนำที่เที่ยวเพิ่มเติมค่ะ เราสนใจพวกสถาปัตยกรรมและงานออกแบบเป็นพิเศษ อาจจะฟังดูน่าเบื่อแต่ว่าพอไปดูจริงๆเราว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จัดแสดงงานนิทรรศการได้ดีและน่าสนใจมากๆและผู้คนให้ความสำคัญกับงานศิลปะและงานออกแบบมากพอสมควรค่ะ กระทู้ที่แล้วพูดถึงวันที่ 1- 4 ในโตเกียวไปแล้วนะคะ กระทู้นี่จะเล่าต่อเลยนะคะ ก่อนจะเล่าวันนี้ 5 ต่อ ขอแนะนำที่เที่ยวอีกที่ที่เคยไปในทริปก่อนๆที่เราคิดว่าเป็นที่ๆน่าสนใจมากๆก่อนน้า

กระทู้: 14 วัน 9 เมืองในประเทศญี่ปุ่น ฉบับโตแล้วทำอะไรก็ได้ part 1
https://ppantip.com/topic/36337349
กระทู้: matsumoto มีอะไรมากกว่าที่คิด ชมงานของศิลปิน Yayoi Kusama 14 วัน 9 เมืองในประเทศญี่ปุ่น ฉบับโตแล้วทำอะไรก็ได้ part 3
https://ppantip.com/topic/36340107

     สวนดอกไม้ที่ EBARAKI ที่นี่ดังมากๆๆเรื่องดอกไม้สีฟ้า แต่ตอนที่เราไปไม่ใช่ฤดูเลยอดเห็นดอกไม้สีฟ้า เราไปตอนปี 2015 ตอนนั้นไปกันสามคนเรากับอีกคนเป็นลูกทัวร์แล้วมีเพื่อนอีกคนนำทาง

     การเดินทางคร่าวๆคือนั่งรถไฟไปลงที่สถานี KATSUTA ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีจากโตเกียว และต่อรถบัส เบอร์ 1 หรือ 2 แต่ตอนเราไปพอออกมาจากสถานีรถไฟเป็นแบบนี้....ถนนเงียบมากและไร้ผู้คน รอเท่าไหร่ก็ไม่มีบัส เราเลยต้องยอมขึ้นแท็กซี่กัน

พอมาถึงก็ต้องซื้อบัตรผ่านประตู ในโบรชัวร์เราเห็นเค้ามีกิจกรรมปั่นจักรยานอะไรแบบนี้ด้วยแต่ช่วงที่เราไปอาจจะไม่ใช่ฤดูที่เค้ามาเที่ยวกันเลยดูเงียบเหงาเล็กน้อย เข้ามาแล้วเป็นแบบนี้
ช่วงที่เราไปมีเด็กมาทัศนศึกษา
ถึงไม่มีดอกไม้สีฟ้าแต่ยังมีสีแดง สีขาว และ สีชมพู
ภายในสวนใหญ่มากกกก มากกกมากกมากจริงๆใครจะมาที่นี่ต้องเตรียมขากันมาดีๆ

อันนี้เหมือนเป็นของเล่นเด็กที่พอไปกระโดดแล้วมันจะเด้งดึ๋งๆ
น้องไข่ที่เอาตัวเข้าไปนั่งได้

ที่นี่ค่อนข้างใช้เวลาเยอะ ควรออกจากโตเกียวแต่เช้า และ เช็ครอบรถไฟดีๆจาก Hyperdia เพราะวันนึงรถไฟวิ่งเส้นทางนี้เพียงไม่กี่รอบ และในสวนนี้ใช้เวลาเดินชมนานควรเผื่อเวลาไว้ทั้งวัน เหมาะสำหรับคนที่ไปเที่ยวหลายๆวันและมีเวลาเยอะ แต่ถ้าใครไม่มีเวลาก็แนะนำให้เที่ยวสไตล์คนเมืองในแบบ DAY 5 ดีกว่า


DAY 5: หลังจากที่เมื่อวานตอนเย็นมีเพื่อนมาเพิ่ม 1 คนทำให้สมาชิกเราครบแล้ววันนี้เราเลยแพลนกับว่าจะไปดูพวก museum ต่างๆในโตเกียว
โดยช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่มีงานแสดงของแบรนด์ issey miyake จัดอยู่ที่ the national art center tokyo และที่ 21_21design sight ก็มีแสดงงานเกี่ยวกับ zakka และ product design โดยสามารถเข้าไปดูในเว็บไซด์ของ museum ได้เลยว่าช่วยที่เราจะไปมีงานแสดงอะไรบ้าง
เริ่มต้นวันด้วยขนมปังปิ้ง...แต่ไหม้ จริงๆอันนี้คือขนมปังปิ้งที่ด้านในเป็นไส้เนยเต็มๆ เราซื้อจากเซเว่นแพคยึงมี 6 ก้อน คืออร่อยและดีมาก


ข้อดีอีกอย่างของการพัก airbnb คือบางที่มีครัวและอุปกรณ์ทำอาหารเช่น กระทะ จาน-ชาม เตาอบ บางที่มีเครื่องปรุงให้ด้วยซ้ำ ถ้าเราจะอยู่หลายๆวันเราสามารถประหยัดบางมื้อโดยการทำอาหารกินเองที่ห้องได้เลย

ที่แรกที่จะไปวันนี้คือ 21_21design sight การเดินทางคือสามารถนั่ง subway มาลงที่สถานี้ ROPPONGI ได้เลย

จากนั้นก็เดินไปตามป้าย tokyo midtown พอยิ่งใกล้จะมีป้ายของ 21_21design sight ให้เราเดินเข้าไปตามทางที่ดูเป็นสวนสาธรณะประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงแล้วววววว

ด้านนอกอาคารเป็นแบบนี้ เค้ามีป้ายบอกว่าห้ามเหยียบหญ้า
พอเข้ามาข้างในก็จะเป็นจุดขายบัตรเข้าชม เราจำราคาไม่ค่อยได้แต่ใครที่เป็นนักศึกษาควรพกบัตรไว้ค่ะได้ส่วนลดเยอะพอควรค่ะ หลังจากซื้อบัตรก็จะเดินเข้ามาตามทางจะผ่านร้านขายของที่ระลึกเพื่อเข้าชมนิทรรศการห้องแรก อาคารที่นี่ไม่ได้ใหญ่มากพอเดินวนทั่วแล้วจนถึงทางออกก็จะสามารถมาโผล่ที่ร้านขายของที่ระลึกได้เหมือนเดิม จะช้อปก่อนหรือช้อปทีหลังก็แล้วแต่เราเลย

ห้องแรกจะเป็นห้องที่ Display ของใช้ในรูปแบบต่างๆแยกตามหมวดหมู่การใช้งานค่ะ ซึ่งเราคิดว่ากาแร Displayแบบนี้ค่อนข้างทำให้งานดูสนุกและน่าสนใจมากๆสำหรับเรา
ที่มีมีวิธีใช้สื่อในการนำเสนอที่หลากหลาย สร้างความรู้สึกที่แปลกใหม่
นี่เป็นจอ led เปิด video ต่างๆ แต่ละจอฉายไม่เหมือนกัน
มีการฉาย info กราฟฟิกที่เป็นภาพเคลื่อนไหวลงบนผนักคอนกรีต
อันนี้เป็นห้องต่อมาห้องนี้จะเน้นการดิสเพลย์ของบนกำแพง และมีข้อมูลต่างให้อ่าน

ที่นี่ใช้เวลาเข้าชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง พอดูด้านในเสร็จก็สามารถออกมาถ่ายรูปเล่นข้างนอกได้บรรยากาศดี้ดี
แถวนี้มีร้านอาหารไม่มาก บางร้านดูราคาแพง บางร้านเปิดตอนกลางคืน สุดท้ายเราต้องกินราเม็งร้านนึงซึ่งอยู่หน้าทางเข้าสวน ซึ่งอร่อยมากและราคาไม่แพง ใครที่ไปก็ลองแวะชิมดูได้ เป็นร้านสไตล์ราเม็งญี่ปุ่นที่รีบนั่ง รีบกิน รีบไป

หลังจากมื้อเที่ยงเราก็เดินไป the national art center tokyo ออกมาจากสวนข้ามถนนไปแล้วเดินตรงยาวๆตามเส้นประสีแดง
เดินไปทางเส้นประสีฟ้าก็ได้เหมือนกันแต่ว่ามันจะอ้อมเล็กน้อย

ซึ่งในตอนนั้นมีงานของ issey miyake และงานแสดงภาพของ Renior เราสามารถซื้อบัตรแบบเลือกดูอันใดอันหนึ่ง หรือจะดูสองอันเลยก็ได้
ที่จำหน่ายบัตรจะเป็นห้องกระจกอยู่ด้านหน้า เข้าไปแล้วเห็นได้ทันทีพอซื้อตั๋วเสร็จก็เข้าไปในอาคาร มีร้านกาแฟบรรยากาศดีๆด้วย โซนนี้ไม่ต้องซื้อตั๋วก็เข้าได้

นิทรรศการห้ามนำขวดน้ำเข้าไปเด็ดขาด สามารถฝากไว้ก่อนเข้างานได้
ด้านในโชว์งานต่างๆทั้งชุดที่ตัดเย็บแล้วหรือแม้แต่ผ้า แนวความคิด และมี workshop ให้ลองเล่นกันด้วย
ก่อนถึงทางออกจะมีห้องฉายหนัง เป็นบริเวณโล่งๆแล้วกั้นผ้าเพื่อให้ทึบแสงแล้วฉายด้วยจอโปรเจคเตอร์ พอเราเปิดผ้ามาข้างในคนยืนดูกันแบบอัดแน่นมากๆ อารมณ์ประมาณว่าเป็นสารคดี สู้คนไม่ไหวเลยดูๆแปปนึงแล้วออกมาดีกว่า คือมันไม่ได้เบียดแบบไร้ระเบียบแต่มันแค่คนเยอะแล้วอึดอัดเฉยๆ
ห้องสุดท้ายเป็นโซนขายของที่ระรึก ถ้าออกมาแล้วจะเข้าไปใหม่ไม่ได้แล้ว

วันนี้เราแยกกับเพื่อนไปพักที่บ้านญาติเราที่อยู่ห่างออกไปจากโตเกียวประมาณ 45 นาที ส่วนเพื่อนๆก็ไปพักที่หอพักของเพื่อนคนไทยที่เรียนอยู่ญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน
อันนี้อาหารเช้าวันที่ 6 ของเรา มีไข่ดาว เบค่อน ขนมปังที่หน้าตาเหมือนครัวซองแต่ด้านในเป็นแป้งหนักๆ เต้าหู้นิ่มเย็น สลัด และชานม (ชานมลิปตันที่อยู่ในกล่องสีฟ้า อร่อยมากกก)
เท้กเจอร์ขนมปังเมื่อกินคู่กับไข่แดง

วันที่ 6 เรากับเพื่อนจะเปลี่ยนเมืองไปยังเมือง MATSUMOTO ซึ่งถือว่าเป็น hilight ที่สำคัญมากของทริปนี้ เดี๋ยวเรามาเขียนต่อน้า