[CR] แวะน้ำตก ดำน้ำ ดูปะการัง ณ พังงา (อุทยานแห่งชาติศรีพังงาและหมู่เกาะสุรินทร์)



สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกคน


ไม่มีอะไรมากแค่...ร่างกายต้องการทะเล พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางไปที่จ.พังงา 4วัน 3 คืน โดยมีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 7 ชีวิต


กระทู้นี้จะพาทุกคนไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ณ อุทยานแห่งชาติศรีพังงา และหมู่เกาะสุรินทร์กันนะค้าบบบ


และนี่เป็นกระทู้แรกของพวกเรา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


ก่อนอื่นเลยเราขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า "ทริปคนหลงทางกับวันเสาร์ที่หายไป..." มันหลงทางยังไงแล้ววันเสาร์ที่หายไปเกิดอะไรขึ้น !!!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


***************************************************************************************************


Day 1 : ศุกร์ที่ 7 เมษายน
           เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 8 โมงเช้า โดยใช้เส้นทางถนนพระราม2 ออกสู่ถนนเพชรเกษม โดยรถยนต์ส่วนตัว ที่นำรถส่วนตัวไปเนื่องจากว่า ขากลับจากพังงาแล้ว พวกเรากะจะแวะเที่ยวกันต่อตามจังหวัดต่างๆ จุดมุ่งหมายของการเดินทางในวันนี้คือ Monkey dive yolo hostel  ที่เขาหลัก  เพื่อที่วันรุ่งขึ้นเราจะไปขึ้น Speed boat ที่ท่าเรือทับละมุ ไปหมู่เกาะสุรินทร์   สภาพแวดล้อมโดยรอบมีแต่ป่าและภูเขา มีบ้านเรือนบ้างแต่น้อยมากๆ ระหว่างทางก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์ข้างทางมากๆ เพราะเหมือนเรามาอยู่ท่ามกลางภูเขาโอบล้อม กว่าเราจะเดินทางถึงที่พักก็ปาเข้าไป ทุ่มกว่าแล้ว แถมฝนยังตกหนักอีก  เลยเข้าพี่พักเพื่อเตรียมตัวไปท่าเรือในวันพรุ่งนี้


ออกเดินทางจากถนนพุทธบูชา สู่ถนนพระราม 2 เพื่อออกสู่ถนนเพชรบุรี


11 โมงกว่า เพิ่งจะใกล้ถึงจ.ประจวบฯ หนทางอีกยาวไกล T^T


บรรยากาศระหว่างการเดินทาง...


เวลาประมาณ 19.00 น. ถึงที่หมาย ช่วงนี้พายุเข้าทำให้ฝนตกหนัก เราก็ได้แต่ภาวนาว่าพรุ่งนี้ท้องฟ้าจะแจ่มใสเถอะ !! สาธุ~ บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติ ทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ผับบาร์ เยอะแยะเลยยยยย


Day 2 : เสาร์ที่ 8 เมษายน
           ในที่สุดก็จะได้ไปเกาะแล้วววววว เย่ !!! พวกเราตื่นกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อที่จะไปขึ้นเรือเวลา 9 โมง เราติดต่อเช่าเรือ Speed boat และที่พักที่เกาะกับเจ้าหน้าที่ที่อช.มส (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์) โดยที่พักเราห่างจากท่าเรือทับละมุ แค่ 13 กิโลเมตรเอง

เป็นวันเสาร์ที่อากาศดีเหมาะกับการดำน้ำจริงๆ
  
           พอกระโดดขึ้นรถ สมาชิกผู้ร่วมชะตากรรมคนหนึ่ง ก็พูดขึ้นว่า เฮ้ย !!! จะไปหมู่เกาะสุรินทร์ พี่ที่อช.มส ก็โทรมาตามว่าถึงไหนกันแล้ว
เราก็ตอบไปว่า ใกล้ถึงท่าเรือแล้ว พี่เขาก็ถามต่ออีกว่าอยู่แถวๆไหน เราก็บอกไปว่าเขาหลัก กำลังไปท่าเรือที่ทับละมุ พี่เขาก็ตกใจรีบบอกใหญ่เลยว่า ไม่ใช่น้อง!!! ท่าเรือที่ต้องมาขึ้นอยู่ที่คุระบุรี!!! ช็อคกันทั้งรถเลยค่ะทีนี้ เจอกัน 9 โมงนะ  อ้าวเฮ้ยยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา คือเราเกิดความเข้าใจผิดเล็กน้อย (เรียกว่าโง่ก็ได้ กระทู้อื่นมีทำไมไม่ศึกษาดูก่อน) ซึ่งไอ้ท่าเรือที่ว่าเนี่ยมันอยู่ห่างจากที่พักไป 100 กว่ากิโลเมตรนู้นนนนนนน 9 โมง เหยียบมิดไมล์ก็ไปไม่ทันนนนน ส่วนท่าเรือทับละมุน่ะ มันไว้สำหรับไปสิมิลันค่าาาาาา
           ทำยังไงดีล่ะทีนี้ เรือก็จองไปแล้ว ที่พักก็จองไปแล้ว เราเลยโทรไปหาพี่ที่อช.มส พี่เขาใจดีมาก เขาบอกจะเลื่อนวันให้เป็นพรุ่งนี้  อ้าว....แล้ววันนี้เราจะทำอะไรล่ะ เราเลยปรึกษากับพี่ที่อช.มส ว่าแถวคุระบุรีมีที่ไหนน่าเที่ยวไหม เขาเลยแนะนำให้ไป  อุทยานแห่งชาติศรีพังงา เขาบอกว่าที่นั่นมีน้ำตกสวยมากกกกกกกกกกก  พวกเราเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนไปน้ำตกแทนทะเลก่อนละกัน  นี่แหละที่ว่าทำไม วันเสาร์ถึงหายไป....
           ก่อนจะมุ่งหน้าสู่อุทยาน เราก็ขอเติมพลังกันก่อนนนน ระหว่างทางจะมีร้านข้าวแกงปักษ์ใต้อยู่ร้านหนึ่ง ร้านนี้อาหารทุกอย่างน่ากินทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น ปลายิ้มทอด ต้มพริกซี่โครงหมู ต้มหมูชะมวง ฯลฯ รสชาดก็จะเน้นรสจัดคือเผ็ดนำ และก็จะมีเครื่องเคียงพวกผักต่างๆเอาไว้กินคู่กับข้าวแกง  โดยปกติแล้วพวกผักก็จะมีแตงกวา มะเขือเปราะ ใบโหระพา แต่ที่นี่มีใบกาหยีด้วย !!! เกิดมาก็เพิ่งรู้จักเพิ่งเคยกินนี่แหละ เพื่อนที่เป็นคนใต้บางคนยังไม่รู้เลยมันคือใบอะไร...ชื่อกลางของมันคือใบมะม่วงหิมพานต์นั่นเอง ใครที่มาร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ที่อยู่ภาคใต้แนะนำว่าลองหาชิมดูค้าบบบบ ใบมีกลิ่นหอมอ่อนๆ  รสชาติฟาดๆนิดๆ กินกับข้าวแกงโคตรเข้ากัน * *

ต้มหมูชะมวง ใบชะมวงจะมีรสชาดออกเปรี้ยวนิดๆ อร่อยไปอีกแบบ


และนี่คือโฉมหน้าของใบกาหยี !!!

       เวลาประมาณ 10.30 เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติศรีพังงาแล้ววววว

บรรยากาศภายในอุทยานแห่งชาติศรีพังงา
  
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ      ชาวไทย –ผู้ใหญ่ 20 บาท  เด็ก 10 บาท
                                ชาวต่างชาติ –ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
หากนำรถเข้าไปจะต้องเสียค่าจอดรถ 30 บาทต่อคัน
    พี่เจ้าหน้าที่ๆอุทยานเขาบอกว่าเดินไปประมาณ 500 เมตรจากที่จอดรถก็จะเจอน้ำตก เราก็นึกว่าจอดรถตรงที่ทำการอุทยานแล้วเดินเข้าไปอีก 500 เมตรจะถึง ทีไหนได้พอเดินไปประมาณ 500 เมตรดันเจอลานจอดรถ เอ้าทีนี้ก็ต้องเดินต่อสิครัช สรุปแล้วกว่าจะเดินถึงน้ำตกปาไปกิโลกว่า อ้อ !! อยากจะบอกว่าสภาพป่าที่นี่เป็นลักษณะป่าดิบชื้นและยังคงความอุดมสมบูรณ์มากๆด้วย

ลักษณะเป็นป่าดิบชื้น ระหว่างทางมีต้นไผ่แซมเป็นระยะๆ ร่มรื่น~~

         แน่นอนมาถึงนี่ก็เพราะจะมาชมน้ำตกที่เขาบอกกันว่าสวย ซึ่งมีชื่อว่าน้ำตกตำหนัง เป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูง  สวยจริงสมคำล่ำลือ แถมน้ำยังใสและออกเป็นสีเขียวมรกตอีกด้วย ขากลับออกมาจากอุทยานได้ยินเสียงชะนีร้องดังลั่นป่าเลย เสียดายไม่เห็นตัวเป็นๆ ขากลับโชคดีไม่ต้องเดินเป็นกิโลกลับมาที่รถ เพราะมีพี่ใจดีเขาอาสาไปส่งตรงที่ทำการอุทยาน

น้ำตกตำหนัง น้ำใสมากกกกกกก


แถวนี้ปลาพลวงเพียบเลยจ้าาาา !!!


ปลาพลวงเยอะแบบนี้แสดงว่าแหล่งน้ำที่นี่ อุดมสมบูรณ์จริงๆ


บรรยากาศโดยรอบน้ำตก รู้สึกเหมือนถูกโอบกอดด้วยภูเขา * *


    หลังจากออกมาจากอุทยานแห่งชาติศรีพังงา เราก็มุ่งหน้าต่อไปที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์  เพื่อไปหาพี่นกเจ้าหน้าที่ๆนั่น พร้อมกับหาที่พักอีก 1 คืนรอขึ้นเรือพรุ่งนี้เช้า

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

    โดยที่พักไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย พักในอุทยานนั่นแหละ ห้องพักราคาคืนละ 800 บาท สำหรับนอนได้ 2 คนและมีชุดเครื่องนอนเสริมให้อีก 2 ที่  มาทริปนี้งบน้อยประหยัดได้ก็ประหยัดดีกว่า เราเลยนอนรวมกันเลย 7 คน เพราะห้องใหญ่และกว้างพอสมควร...หลังจากได้ที่พักแล้วเราก็เดินออกมาเพื่อทำตามเสียงเรียกร้องของท้องสิครัช  กินข้าวกันดีกว่า แถวนั้นมีร้านอาหารตามสั่งเยอะแยะ ราคาก็แพงกว่าปกตินิดหน่อย แต่ถ้าใครสั่งพวกของทะเล หมึก กุ้ง อะไรพวกนี้รับรองว่า สดมว๊ากกกกกกก

ยำทะเล หนึ่งในอาหารมื้อกลางวันของพวกเรา หูยยยย เด็ดมาก

        ระหว่างช่วงเดินหาร้านกินข้าวเราก็สังเกตเห็นว่า แถวๆนี้จะมีแพปลาอยู่เยอะมาก มีเรือประมงจอดเต็มไปหมด เราเลยขอเจ้าของแพปลาแวะเข้าไปดูซะหน่อย ตอนแรกเรากะว่าจะขอติดเรือเขาออกไปหาปลาด้วย แต่น่าเสียดายที่เจ้าของแพปลาบอกว่าคืนนี้ไม่ได้ออกเดินเรือหาปลาเพราะเป็นคืนเดือนหงาย  เย็นวันนั้นเราเลยต้องเปื่อยต่อไป นับถอยหลังว่าเมื่อไหร่จะถึงพรุ่งนี้เช้าสักที

ท่าเรือไว้จอดเรือเล็ก ซึ่งมีไว้ปั่นไฟให้เรือใหญ่อีกที ในการออกหาปลาแต่ละครั้ง
ชื่อสินค้า:   เที่ยวจังหวัดพังงา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่