เมื่อเกลี่ย จะให้ความรู้สึกเหมือนทาแป้งเลย มันจะลื่นๆ สีออกเลือดฝาด จริงๆเค้ามีหลายสี แต่เราไปแล้วเหลือสีนี้สีเดียว
ราคา: จำไม่ได้ แต่ถูกกว่าตัวบน
ซื้อที่: matsumoto
ตัวที่ 4
Kiss Me heroine make long and curl mascara (super water proof)
เราชอบมาสคาร่าตัวนี้มาก ปกติเราใช้มาสคาร่าตัวอื่น จะรู้สึกแสบตาแต่ตัวนี้ไม่เลย
งอน เด้ง กันน้ำ ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน ล้างออกก็ง่าย ตัวนี้แนะนำเลยค่ะ
หัวแปรงนางมีขนาดพอดีๆ ใช้ง่าย ปัดขนตาล่างได้ ไม่เลอะ
ราคา: ประมาณ 300 นิดๆ บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ตัวที่ 5
KATE eyebrow color ตัวนี้เป็นมาสคาร่าคิ้ว ราคาไม่แพง แต่คุณภาพดีมากๆ สีสวย
ตัวนี้เราใช้มาซักพักแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นราคาจะถูกกว่าที่ไทย ถ้าไปที่นู้นก็น่าซื้อนะคะ
สีสวย ติดทน ตัวแปรงก็ทำออกมาค่อนข้างดี
ราคา: ประมาณ 200 บาท
ซื้อที่: matsumoto
ตัวที่ 6
dejavu lasting-fine เป็น eyeliner ที่ถึกทน มากสำหรับสาวหนังตามันแบบเรา
ปกติเราใช้มิสทีน คิดว่าทนแล้ว แต่ค่ำๆก็แอบมีแพนด้าใต้ตา แต่ตัวนี้ไม่มีเลย ไม่มีซักนิดเดียว ถูกใจมากๆ
ขนาดหัวแปรงกำลังดี กรีดแล้วเส้นคม สีดำสนิท
ราคา: จำไม่ได้ น่าจะประมาณ 300 กว่าๆ บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ตัวที่ 7
D.UP silky liquid eyeliner สี brown black
ตัวนี้ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ แต่เห็นสัญลักษณ์ cosme 2016 แล้วหยิบมาเลยค่ะ ไม่ต้องคิด 55555
ลองเทสที่มือแล้ว นางก็โออยู่นะ
ราคา: ประมาณ 40ุ6 บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ตัวที่ 8
Brow Lash Ex เป็นดินสอเขียนคิ้ว และอีกด้านเป็นแบบเจลมีสี
ติดทน เว้นแต่เอามือไปถูๆนาง อาจมีติดมือมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด
ด้านดินสอ ไม่นิ่มแต่ก็เขียนไม่ยาก
ด้านเจล สีกำลังดี ไม่อ่อนไม่เข้ม จนเกินไป
ราคา: ประมาณ 270 บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ตัวที่ 9
Integrate Gracy เป็นดินสอเขียนคิ้ว
เนื้อนุ่ม เขียนง่าย และสีก็สวย
ราคา: จำไม่ได้ แต่ไม่แพงค่ะ
ซื้อที่: matsumoto
ตัวที่ 10
Anna Sui Protective Beauty Balm เบอร์ 00 เป็นเบสม่วง
มี SPF50+ PA++++ ปริมาณ 26g
ใช้ไม่ต้องเยอะนะคะ บีบออกมาทีละนิดก็พอ
เมื่อเกลี่ยจะรู้สึกเหมือนแป้ง และเนียนไปกับผิว ไม่รู้เพื่อนๆจะเห็นรึเปล่าแต่มันขาวขึ้นจริงๆนะ texture ละมุนมาก
ราคา: จำไม่ได้ แต่ถูกกว่าที่ไทยแน่นอน เพราะได้ภาษีคืน
ซื้อที่: Isetan ชินจูกุ (พนักงานน่ารักมากๆ บริการดี)
ตัวที่ 11
Biore eye remover
ตัวนี้ใช้ดีมาก เพียงแค่เช็ดเบาๆ มาสคาร่า อายไลเนอร์ ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย
สะอาดหมดจด ไม่ต้องเสียเวลาเช็ดหลายๆรอบอีกต่อไป
ราคา: จำไม่ได้ แต่ไม่แพงค่ะ
ซื้อที่: matsumoto
สำหรับใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วจะซื้อเครื่องสำอาง ดูสัญลักษณ์ cosme ที่เป็นมงกุฎสีทองไว้นะคะ ซื้อมาโอกาสผิดหวังน้อยมากๆค่ะ
[CR] รีวิวเครื่องสำอางญี่ปุ่น 2017 พร้อมราคา (ไปญี่ปุ่นซื้อเครื่องสำอางอะไรดี)
ทั้งหมดนี่เป็นเครื่องสำอางที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น ได้ลองใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
ปล.2 ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว จขกท.มีผิวหน้ามัน ขาดน้ำ และก่อนจะลงผลิตภัณฑ์ต่างๆอาจมีผลิตภัณฑ์ตัวช่วยเช่น ไพร์เมอร์ (จขกท.ใช้ไพร์เมอร์ทาตาของNars) ความคงทนของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นจึงขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เราใช้ด้วย
ราคา: ประมาณ 945 บาท (รวมภาษี) ถ้าเราไปซื้อในห้าง เราสามารถนำพาสปอตไปขอคืนภาษีได้ค่ะ
ซื้อที่: Isetan ชินจูกุ (พนักงานน่ารักมากๆ)
จากที่ลองใช้ ติดทน แต่งหน้าไปเรียนตอน 9 โมงเช้า ตอน 5 โมงเย็น แก้มก็ยังอยู่นะคะ
ราคา: ประมาณ 500 บาท (ไม่รวมภาษีนะคะ)
ซื้อที่: matsumoto
ราคา: จำไม่ได้ แต่ถูกกว่าตัวบน
ซื้อที่: matsumoto
เราชอบมาสคาร่าตัวนี้มาก ปกติเราใช้มาสคาร่าตัวอื่น จะรู้สึกแสบตาแต่ตัวนี้ไม่เลย
งอน เด้ง กันน้ำ ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน ล้างออกก็ง่าย ตัวนี้แนะนำเลยค่ะ
ราคา: ประมาณ 300 นิดๆ บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ราคา: ประมาณ 200 บาท
ซื้อที่: matsumoto
ปกติเราใช้มิสทีน คิดว่าทนแล้ว แต่ค่ำๆก็แอบมีแพนด้าใต้ตา แต่ตัวนี้ไม่มีเลย ไม่มีซักนิดเดียว ถูกใจมากๆ
ราคา: จำไม่ได้ น่าจะประมาณ 300 กว่าๆ บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ลองเทสที่มือแล้ว นางก็โออยู่นะ
ราคา: ประมาณ 40ุ6 บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ติดทน เว้นแต่เอามือไปถูๆนาง อาจมีติดมือมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด
ราคา: ประมาณ 270 บาท
ซื้อที่: ดองกี้
ราคา: จำไม่ได้ แต่ไม่แพงค่ะ
ซื้อที่: matsumoto
ราคา: จำไม่ได้ แต่ถูกกว่าที่ไทยแน่นอน เพราะได้ภาษีคืน
ซื้อที่: Isetan ชินจูกุ (พนักงานน่ารักมากๆ บริการดี)
ตัวนี้ใช้ดีมาก เพียงแค่เช็ดเบาๆ มาสคาร่า อายไลเนอร์ ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย
สะอาดหมดจด ไม่ต้องเสียเวลาเช็ดหลายๆรอบอีกต่อไป
ราคา: จำไม่ได้ แต่ไม่แพงค่ะ
ซื้อที่: matsumoto
สำหรับใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วจะซื้อเครื่องสำอาง ดูสัญลักษณ์ cosme ที่เป็นมงกุฎสีทองไว้นะคะ ซื้อมาโอกาสผิดหวังน้อยมากๆค่ะ