สวัสดีค่าทุกคนนน
เนื่องจากวันที่ 28 มีนา - 6 เมษา 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า คราวที่แล้วได้ไป uss มาแล้วรู้สึกไม่สะใจ บวกกับคราวที่แล้วที่ไปญี่ปุ่นฟูจิไม่ชัดเลย เปิดไอจีก็มีแต่คนไปญี่ปุ่น เห็นแล้วทนไม่ได้ต้องไปบ้าง
เป้าหมายหลักในครั้งนี้เป็น USJ Osaka กับ Fuji ค่ะ
ปล. เรื่องเทคนิคพิชิต USJ จะอยู่ใน day 3 นะคะ จขกท. จะพยายามทยอยเขียนให้เร็วที่สุดเพื่อทุกคนนะค้าาา
ตั๋วเครื่องบิน : เราหาใน skyscanner เจอไฟล์ทที่พอดีของสายการบิน Hongkong Airline เป็นแบบ full service ด้วยยยนะยูวว
ที่นั่งคือแบบกว้างสบายเฟร่ออ มีจอให้ดูหนังด้วย หนังก็อัพเดตใหม่ (มีซับอังกฤษ) แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงประมาณ3 - 4 ชั่วโมง ตั๋วเราราคา14,000บาท ซึ่งสำหรับเราโอเคน้าา พนักงานก็บริการดี แนะนำนะค้าาาทุกคนนน
ที่พัก : @Osaka
เราเดินทางไปกันทั้งหมด 3คน เลยอยากได้ที่พักกว้างๆหน่อย เลยลองหาที่พักจากเว็บ www.airbnb.com
คือบับว่าเว็บนี้มันดีมากก มันแบบตอบโจทย์คนที่ไปหลายคนแล้วไม่อยากจ่ายแพงและต้องการพื้นที่ ประมาณว่างกเล็กน้อย 5555
เว็บนี้จะมีห้องหรืออพาร์ทเม้นมาเปิดให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าพักนานเป็นอาทิตย์เป็นเดือน เค้ามีส่วนลดให้ด้วยนะเออ
ที่พักที่เราจอง คืนละ 2,243 บาท นอนได้ 4 คน เดินทางสถานี namba 7นาทีถึง คือดียยยยย์
แปะรูปให้ดูเด้อออ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประมาณนี้ คือดีจิงๆ แล้วเจ้าของห้องก็น่ารักมากก ให้คำแนะนำช่วยเหลือตลอด
@Fuji, Kawaguchiko
เราพักที่โรงแรม Hotel MYSTAYS Fuji ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กลับ Fuji q highland
เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน สะอาด มีออนเซนรวม (แยกชายหญิงเด้อออ)
ถ้านั่งรถไฟมาลงสถานี fuji q highland ก็จะใกล้ที่สุดนะจ้ะทุกคน เดินประมาณ 10นาทีก็จะถึงโรงแรมค่า
ส่วนที่พักระหว่างตอนที่อยู่โตเกียว เรานอนที่บ้านพี่ที่รู้จัก เลยไม่เสียค่าที่พัก ประหยัดไปได้เยอะเลยย อิอิ
การเดินทาง : เมื่อไม่นานมานี้ มีงานททท เราก็ไปเดินดูเล่น ก็มีพวกเอเจนซี่มาขายตั๋วpassต่างๆ เช่น
1. Kansai pass
เป็นตั๋วที่สามารถขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถบัส ซึ่งใช้ได้พื้นที่ครอบคลุมในภูมิภาคคันไซ
เดี๋ยวจะใส่ลิ้งคให้ลองศึกษาข้อมูลดูในสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.his-bkk.com/th/article/kansai_thru_pass.php
ซึ่งมันมีเป็นแบบ 2 days pass / 3 days pass
เราว่ามันเหมาะสำหรับคนที่จะไปแบบ เกียวโต นารา โกเบ โอซาก้า เพราะมันครอบคลุมพื้นที่นั้น
แต่!!! ขึ้นรถไฟสาย JR ไม่ได้นาจาาาาา
2. JR pass
เป็น pass แบบเหมา ที่นั่งรถไฟ บัส เรือ ที่เป็นของ JR ได้ทั้งหมดทั่วประเทศเลยทีเดียว
มีแบบ 7,14,21 วัน รายละเอียดในสปอยจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.japanrailpass.net/th/about_jrp.html
3. บัตร Pasmo กับ Suica
ถ้าใครคิดว่าซื้อแบบเป็น pass เหมารวมละไม่คุ้ม ก็ซื้อบัตรนี้ละก็เติมเงินเข้าไป เอาใช้ขึ้นรถไฟ รถบัส หรือซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ
(อารมณ์ประมาณบัตร Rabbit บ้านเรา) จากที่เราลองศึกษามา ตอนนี้บัตรนี้สามารถใช้ได้ทั่วประเทศแล้ว
ซึ่งสำหรับเราเองนั้น ด้วยความเอ๋อ เราไม่ได้ซื้อบัตรอะไรตามที่บอกข้างบนนั้นเลย55555 เพิ่งจะมาซื้อ pasmo ก่อนกลับ 1วัน และค้นพบว่ามันลำบากมากถ้าคุณไม่ซื้อบัตรนี้ จึงบอกทุกคน ขอวอนให้ซื้อ pasmo หรือ suica สักอย่างนึงเถอะค่ะ เพื่อความสบายในชีวิต
ส่วนใครที่ต้องนั่ง
shinkansen เช่นเรานั้น สามารถซื้อได้ที่ JR Ticket Office ที่มีอยู่ตามสถานีต่างๆ
วิธีซื้อคือ เข้าเว็บ hyperdia เช็ครอบ เวลา เสร็จแล้วก็ไปยื่นให้จนท.จัดการให้ก็เป็นเสร็จ
แต่!!! shinkansen มันมี2แบบ คือ Reserved กับ Non-Reserved
ความแตกต่างคือ
- Reserved คือ เราเลือกเวลาที่นั่งอย่างแน่นอน แบบว่าได้ไปแน่ สบายแน่ ไม่ตกแน่ (ถ้าคุณตรงเวลา)
- Non-Reserved คือ ไม่ระบเวลา ไม่ระบุที่นั่ง ไปรอบไหนก็ได้ในวันนั้น ราคาถูกว่านิดหน่อย
แต่เพื่อความสบายใจ จองให้มันจบๆไปเถอะค่ะ เพราะตอนที่เรานั่งมา แอบเหลือบไปเห็นขบวนข้างๆ ตู้ Non-Reserved เหมือนจะอนุญาติให้สูบบุหรี่ด้วย ซึ่งไม่โอเครรรรค่ะคุณ
เสียตังเพิ่มมานิดหน่อย ได้ความสบายใจ ร่างกายแข็ง เราก็ยอมเถอะค่ะ
หรือถ้าใครเกิดเหตุการณ์เอ๋อแบบเรา คือ ตอนแรกคิดว่าไม่จองที่นั่งก็ถูกดี ละเพิ่งมาสำนึกขึ้นได้ว่าจองจะดีกว่า ก็สามารถนำตั๋วไปเปลี่ยนเป็นแบบจองแล้วจ่ายเงินเพิ่มได้ค่ะ
บัตร USJ และ Express pass : ถ้าใครคิดจะไปอยู่แล้ว เราแนะนำให้ซื้อบัตรเข้าไปเลยจากที่นี่ จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อที่นู่นให้เสียเวลา
เราซื้อบัตรกับ H.I.S ซึ่งพอซื้อปุ้ป เค้าจะให้กระดาษA4 ที่มีบาร์โค้ดมาให้ แนะนำเก็บให้พ้นมือเด็กเพราะบาร์โค้ดห้ามเปียกจ้าาาา
เราต้องสแกนบาร์โค้ดนั้นเพื่อเข้าพาร์ค
ส่วนบัตร Express จะต้องจากในเว็บของ usj ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็น "ภาษาญี่ปุ่นนนนน" จ้าาาาา
ดังนั้น ถ้าใครมีเพื่อนอ่านออกก็ดีไป แต่ใครที่อ่านไม่ได้ พวกเอเจนซี่เค้ามีรับจอง ราคา 200 (ค่าจอง)
ซึ่ง pass จะมีแบบ pass 4 / pass 7 แต่ละอันเค้าก็จะระบุมาเลยว่าเราใช้อันไหนได้บ้าง แต่สำหรับเรา ราคาก็แรงอยู่ทีเดียว
เราจึงแนะนำทุกคนที่ยังอยากจะประหยัดอยู่นิดนึงว่า "คุณไม่จำเป็นต้องมี express คุณก็เล่นตัวเด็ดๆครบได้ค่ะ"
ดังนั้นสรุปเลย คือ ถ้าใครต้องการความแน่นอน ว่องไว ก็ควรซื้อค่ะ แต่ถ้าใครเป็นสายประหยัด มีความอึด ถึก ทน ก็ไม่จำเป็นจ้าาาา
หลังจากที่เราเตรียมตัวหาข้อมูลกันพร้อมแล้ว เราก็เริ่มเดินทางไปด้วยกันเลยค่าาาาาาา
JAPAN go go !!
[CR] USJ เล่นครบ no express ''ทริป JAPAN 2017'' : ญี่ปุ่น10 วันไปไหนบ้าง มาดูกัน!!
เนื่องจากวันที่ 28 มีนา - 6 เมษา 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า คราวที่แล้วได้ไป uss มาแล้วรู้สึกไม่สะใจ บวกกับคราวที่แล้วที่ไปญี่ปุ่นฟูจิไม่ชัดเลย เปิดไอจีก็มีแต่คนไปญี่ปุ่น เห็นแล้วทนไม่ได้ต้องไปบ้าง
เป้าหมายหลักในครั้งนี้เป็น USJ Osaka กับ Fuji ค่ะ
ปล. เรื่องเทคนิคพิชิต USJ จะอยู่ใน day 3 นะคะ จขกท. จะพยายามทยอยเขียนให้เร็วที่สุดเพื่อทุกคนนะค้าาา
ตั๋วเครื่องบิน : เราหาใน skyscanner เจอไฟล์ทที่พอดีของสายการบิน Hongkong Airline เป็นแบบ full service ด้วยยยนะยูวว
ที่นั่งคือแบบกว้างสบายเฟร่ออ มีจอให้ดูหนังด้วย หนังก็อัพเดตใหม่ (มีซับอังกฤษ) แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงประมาณ3 - 4 ชั่วโมง ตั๋วเราราคา14,000บาท ซึ่งสำหรับเราโอเคน้าา พนักงานก็บริการดี แนะนำนะค้าาาทุกคนนน
ที่พัก : @Osaka
เราเดินทางไปกันทั้งหมด 3คน เลยอยากได้ที่พักกว้างๆหน่อย เลยลองหาที่พักจากเว็บ www.airbnb.com
คือบับว่าเว็บนี้มันดีมากก มันแบบตอบโจทย์คนที่ไปหลายคนแล้วไม่อยากจ่ายแพงและต้องการพื้นที่ ประมาณว่างกเล็กน้อย 5555
เว็บนี้จะมีห้องหรืออพาร์ทเม้นมาเปิดให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าพักนานเป็นอาทิตย์เป็นเดือน เค้ามีส่วนลดให้ด้วยนะเออ
ที่พักที่เราจอง คืนละ 2,243 บาท นอนได้ 4 คน เดินทางสถานี namba 7นาทีถึง คือดียยยยย์
แปะรูปให้ดูเด้อออ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประมาณนี้ คือดีจิงๆ แล้วเจ้าของห้องก็น่ารักมากก ให้คำแนะนำช่วยเหลือตลอด
@Fuji, Kawaguchiko
เราพักที่โรงแรม Hotel MYSTAYS Fuji ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กลับ Fuji q highland
เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน สะอาด มีออนเซนรวม (แยกชายหญิงเด้อออ)
ถ้านั่งรถไฟมาลงสถานี fuji q highland ก็จะใกล้ที่สุดนะจ้ะทุกคน เดินประมาณ 10นาทีก็จะถึงโรงแรมค่า
ส่วนที่พักระหว่างตอนที่อยู่โตเกียว เรานอนที่บ้านพี่ที่รู้จัก เลยไม่เสียค่าที่พัก ประหยัดไปได้เยอะเลยย อิอิ
การเดินทาง : เมื่อไม่นานมานี้ มีงานททท เราก็ไปเดินดูเล่น ก็มีพวกเอเจนซี่มาขายตั๋วpassต่างๆ เช่น
1. Kansai pass
เป็นตั๋วที่สามารถขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถบัส ซึ่งใช้ได้พื้นที่ครอบคลุมในภูมิภาคคันไซ
เดี๋ยวจะใส่ลิ้งคให้ลองศึกษาข้อมูลดูในสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งมันมีเป็นแบบ 2 days pass / 3 days pass
เราว่ามันเหมาะสำหรับคนที่จะไปแบบ เกียวโต นารา โกเบ โอซาก้า เพราะมันครอบคลุมพื้นที่นั้น
แต่!!! ขึ้นรถไฟสาย JR ไม่ได้นาจาาาาา
2. JR pass
เป็น pass แบบเหมา ที่นั่งรถไฟ บัส เรือ ที่เป็นของ JR ได้ทั้งหมดทั่วประเทศเลยทีเดียว
มีแบบ 7,14,21 วัน รายละเอียดในสปอยจ้า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. บัตร Pasmo กับ Suica
ถ้าใครคิดว่าซื้อแบบเป็น pass เหมารวมละไม่คุ้ม ก็ซื้อบัตรนี้ละก็เติมเงินเข้าไป เอาใช้ขึ้นรถไฟ รถบัส หรือซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ
(อารมณ์ประมาณบัตร Rabbit บ้านเรา) จากที่เราลองศึกษามา ตอนนี้บัตรนี้สามารถใช้ได้ทั่วประเทศแล้ว
ซึ่งสำหรับเราเองนั้น ด้วยความเอ๋อ เราไม่ได้ซื้อบัตรอะไรตามที่บอกข้างบนนั้นเลย55555 เพิ่งจะมาซื้อ pasmo ก่อนกลับ 1วัน และค้นพบว่ามันลำบากมากถ้าคุณไม่ซื้อบัตรนี้ จึงบอกทุกคน ขอวอนให้ซื้อ pasmo หรือ suica สักอย่างนึงเถอะค่ะ เพื่อความสบายในชีวิต
ส่วนใครที่ต้องนั่ง shinkansen เช่นเรานั้น สามารถซื้อได้ที่ JR Ticket Office ที่มีอยู่ตามสถานีต่างๆ
วิธีซื้อคือ เข้าเว็บ hyperdia เช็ครอบ เวลา เสร็จแล้วก็ไปยื่นให้จนท.จัดการให้ก็เป็นเสร็จ
แต่!!! shinkansen มันมี2แบบ คือ Reserved กับ Non-Reserved
ความแตกต่างคือ
- Reserved คือ เราเลือกเวลาที่นั่งอย่างแน่นอน แบบว่าได้ไปแน่ สบายแน่ ไม่ตกแน่ (ถ้าคุณตรงเวลา)
- Non-Reserved คือ ไม่ระบเวลา ไม่ระบุที่นั่ง ไปรอบไหนก็ได้ในวันนั้น ราคาถูกว่านิดหน่อย
แต่เพื่อความสบายใจ จองให้มันจบๆไปเถอะค่ะ เพราะตอนที่เรานั่งมา แอบเหลือบไปเห็นขบวนข้างๆ ตู้ Non-Reserved เหมือนจะอนุญาติให้สูบบุหรี่ด้วย ซึ่งไม่โอเครรรรค่ะคุณ
เสียตังเพิ่มมานิดหน่อย ได้ความสบายใจ ร่างกายแข็ง เราก็ยอมเถอะค่ะ
หรือถ้าใครเกิดเหตุการณ์เอ๋อแบบเรา คือ ตอนแรกคิดว่าไม่จองที่นั่งก็ถูกดี ละเพิ่งมาสำนึกขึ้นได้ว่าจองจะดีกว่า ก็สามารถนำตั๋วไปเปลี่ยนเป็นแบบจองแล้วจ่ายเงินเพิ่มได้ค่ะ
บัตร USJ และ Express pass : ถ้าใครคิดจะไปอยู่แล้ว เราแนะนำให้ซื้อบัตรเข้าไปเลยจากที่นี่ จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อที่นู่นให้เสียเวลา
เราซื้อบัตรกับ H.I.S ซึ่งพอซื้อปุ้ป เค้าจะให้กระดาษA4 ที่มีบาร์โค้ดมาให้ แนะนำเก็บให้พ้นมือเด็กเพราะบาร์โค้ดห้ามเปียกจ้าาาา
เราต้องสแกนบาร์โค้ดนั้นเพื่อเข้าพาร์ค
ส่วนบัตร Express จะต้องจากในเว็บของ usj ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็น "ภาษาญี่ปุ่นนนนน" จ้าาาาา
ดังนั้น ถ้าใครมีเพื่อนอ่านออกก็ดีไป แต่ใครที่อ่านไม่ได้ พวกเอเจนซี่เค้ามีรับจอง ราคา 200 (ค่าจอง)
ซึ่ง pass จะมีแบบ pass 4 / pass 7 แต่ละอันเค้าก็จะระบุมาเลยว่าเราใช้อันไหนได้บ้าง แต่สำหรับเรา ราคาก็แรงอยู่ทีเดียว
เราจึงแนะนำทุกคนที่ยังอยากจะประหยัดอยู่นิดนึงว่า "คุณไม่จำเป็นต้องมี express คุณก็เล่นตัวเด็ดๆครบได้ค่ะ"
ดังนั้นสรุปเลย คือ ถ้าใครต้องการความแน่นอน ว่องไว ก็ควรซื้อค่ะ แต่ถ้าใครเป็นสายประหยัด มีความอึด ถึก ทน ก็ไม่จำเป็นจ้าาาา
JAPAN go go !!