มาอุ่นเครื่อง ก่อนที่จะได้ดูละครกันในวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนนี้ กันดีกว่าค่ะ
“กบ สุวนันท์-หนุ่ม ศรราม” เริ่มสร้างตำนานคู่จิ้น และจูงมือกันขึ้นแท่นพระ-นางยอดนิยม ตั้งแต่ปี 2536 เมื่อละคร “ผยอง” ผลงานเรื่องแรกของทั้งคู่ออกสู่สายตาแฟน ๆ และดังเป็นพลุแตกจาก “ดาวพระศุกร์” และ “สายโลหิต” จากนั้นก็ยังมีผลงานคู่กันตามมาอีกหลายเรื่อง ก่อนจะแยกไปเดินในเส้นทางของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ “น้ำเซาะทราย” จะได้รับกระแสตอบรับและมีผู้รอคอยชมมากที่สุด
“เจี๊ยบ โสภิตนภา” เคยร่วมงานกับช่อง 7 สีครั้งแรก ปี 2547 ในละคร “หัวใจห่อใบตอง” ในฐานะนางเอกหน้าใหม่ ก่อนกลับมาอีกครั้ง ในปี 2552 กับละคร “ล่องเรือหารัก” และในปีเดียวกันเธอพลิกบทบาท แสดงบทร้ายเป็นครั้งแรก กับละคร “รอยรักรอยบาป” ทำให้ชื่อของเธอได้เข้าชิงรางวัลในหลายสถาบัน รวมถึงรางวัลระดับอินเตอร์อย่าง ATA 2010 จนมาถึงปีนี้เธอได้กลับมารับบทสุดท้าทาย ในละคร “น้ำเซาะทราย” ซึ่งถือเป็นการกลับมาร่วมงานกับช่อง 7 สี อีกครั้งหลังจากหายไปนานกว่า 8 ปี
“น้ำเซาะทราย” เป็นนวนิยายจากปลายปากกาของ “กฤษณา อโศกสิน” เจ้าของรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ ที่ได้รับการรวมเล่มในปี 2512 จนกลายเป็นนวนิยายอมตะที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นละครและภาพยนตร์นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงในเรื่องได้อย่างล้นหลาม ส่วนเพลงประกอบละคร ก็เป็นบทเพลงอมตะที่มีเนื้อหาตรึงใจ และยังคงเป็นที่จดจำของผู้ชมตลอดมา
“น้ำเซาะทราย” เป็นนวนิยายสะท้อนสังคมและปัญหาครอบครัว โดยนำเสนอเรื่องตัณหา ราคะ และการทำผิดศีลธรรม จนนำมาซึ่งความล่มสลายของสถาบันครอบครัว ละครเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือน ข้อเตือนใจให้ทุกคนครองรักกันด้วยสติ ใช้ความดี และความถูกต้องเป็นสิ่งนำทาง
ละครเรื่อง “น้ำเซาะทราย” จะนำผู้ชมไปเรียนรู้ความรักหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างภีม วรรณรี และพุดกรอง ที่ต้องอยู่ในวังวนของกิเลส ตัณหา และการครอบครอง ll ความรักคือ การเสียสละ ของทวยหาญ รวมถึงความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค ของทิวและดลฤดี
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : CH7 Drama Society
อยากบอกให้รู้ก่อนดู...น้ำเซาะทราย
มาอุ่นเครื่อง ก่อนที่จะได้ดูละครกันในวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนนี้ กันดีกว่าค่ะ
“กบ สุวนันท์-หนุ่ม ศรราม” เริ่มสร้างตำนานคู่จิ้น และจูงมือกันขึ้นแท่นพระ-นางยอดนิยม ตั้งแต่ปี 2536 เมื่อละคร “ผยอง” ผลงานเรื่องแรกของทั้งคู่ออกสู่สายตาแฟน ๆ และดังเป็นพลุแตกจาก “ดาวพระศุกร์” และ “สายโลหิต” จากนั้นก็ยังมีผลงานคู่กันตามมาอีกหลายเรื่อง ก่อนจะแยกไปเดินในเส้นทางของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ “น้ำเซาะทราย” จะได้รับกระแสตอบรับและมีผู้รอคอยชมมากที่สุด
“เจี๊ยบ โสภิตนภา” เคยร่วมงานกับช่อง 7 สีครั้งแรก ปี 2547 ในละคร “หัวใจห่อใบตอง” ในฐานะนางเอกหน้าใหม่ ก่อนกลับมาอีกครั้ง ในปี 2552 กับละคร “ล่องเรือหารัก” และในปีเดียวกันเธอพลิกบทบาท แสดงบทร้ายเป็นครั้งแรก กับละคร “รอยรักรอยบาป” ทำให้ชื่อของเธอได้เข้าชิงรางวัลในหลายสถาบัน รวมถึงรางวัลระดับอินเตอร์อย่าง ATA 2010 จนมาถึงปีนี้เธอได้กลับมารับบทสุดท้าทาย ในละคร “น้ำเซาะทราย” ซึ่งถือเป็นการกลับมาร่วมงานกับช่อง 7 สี อีกครั้งหลังจากหายไปนานกว่า 8 ปี
“น้ำเซาะทราย” เป็นนวนิยายจากปลายปากกาของ “กฤษณา อโศกสิน” เจ้าของรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ ที่ได้รับการรวมเล่มในปี 2512 จนกลายเป็นนวนิยายอมตะที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นละครและภาพยนตร์นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงในเรื่องได้อย่างล้นหลาม ส่วนเพลงประกอบละคร ก็เป็นบทเพลงอมตะที่มีเนื้อหาตรึงใจ และยังคงเป็นที่จดจำของผู้ชมตลอดมา
“น้ำเซาะทราย” เป็นนวนิยายสะท้อนสังคมและปัญหาครอบครัว โดยนำเสนอเรื่องตัณหา ราคะ และการทำผิดศีลธรรม จนนำมาซึ่งความล่มสลายของสถาบันครอบครัว ละครเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือน ข้อเตือนใจให้ทุกคนครองรักกันด้วยสติ ใช้ความดี และความถูกต้องเป็นสิ่งนำทาง
ละครเรื่อง “น้ำเซาะทราย” จะนำผู้ชมไปเรียนรู้ความรักหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างภีม วรรณรี และพุดกรอง ที่ต้องอยู่ในวังวนของกิเลส ตัณหา และการครอบครอง ll ความรักคือ การเสียสละ ของทวยหาญ รวมถึงความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค ของทิวและดลฤดี
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : CH7 Drama Society