วันนี้เราจะมาพบกับน้ำหอมแบรนด์ดัง Dunhill จากอังกฤษกันครับ
Dunhill นั้นผลิตสินค้ามาหลากหลายประเภทตั้งแต่บุหรี่ ไฟแช็ค
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายต่างๆ หรือกระทั่งน้ำหอม แต่น้ำหอมของDunhill
นั้นแนวหลายๆตัวมักจะออกไปทางมหาชนเข้าถึงง่ายหน่อย หลายๆกลิ่นดมแล้ว
มักจะตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย จนถึงขั้นน้ำหอมตามตลาดนัดเอากลิ่นไปทำ
เลียนแบบขายกันเช่น Dunhill Desire Blue
แต่กระนั้นช่วงปี2015เป็นต้นมา Dunhill ได้แตกรุ่นน้ำหอมออกมาอีกหนึ่งไลน์
นั้นก็คือ Icon ถึงปัจจุบันก็มีมาแล้ว 3 กลิ่นด้วยกันและแต่ละกลิ่นก็มี
ความโดดเด่น ซับซ้อนมากขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าไลน์Iconค่อนข้างฉีกแนว
Dunhill ตัวเก่าๆมาพอสมควร และกลิ่นที่จะมากล่าวถึงในวันนี้ก็จะเป็นกลิ่นแรกของไลน์เลยครับ
Dunhill Icon
- The Scent : อย่างแรกที่ผมรู้สึกชอบและอยากจะกล่าวก่อนที่จะไปเข้าถึงเรื่องกลิ่นกัน
ก็คือเรื่องของขวดครับ คือขวดมันหนักมาก บวกกับลักษณะลวดลายแบบหนามเล็กๆสีเงิน
มันทำให้รู้สึกว่ามันดูดีดูพรีเมี่ยมขึ้นมาทันที่ ประมาณว่าน้ำหอมกลิ่นดีชัวร์แค่จับขวดก็รู้สึกได้
และเมื่อได้ดมกลิ่นแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ กลิ่นดีจริงๆและค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับจมูกผมด้วย
เพราะกลิ่นเปิดนั้นมาเต็มกับความสดชื่นนวลๆของดอกส้มNelori ตัดกันอย่างเข้าขากับมะกรูดช่ำๆ
ได้เป็นอย่างดี แต่ลิ้มรสความสดชื่นได้แค่วูบเดียวเท่านั้นแหละครับ กลิ่นไหม้ๆ smokyก็ลอยมาแตะจมูก
ตรงนี้แหละที่ผมรู้สึกแปลกใจในแนวกลิ่นที่เค้าทำ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ คือมันดีมาก ผมชอบมาก
เพราะไม่เคยได้กลิ่นสดชื่นแนวนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากกลิ่นแนวsmokyเข้ามา สักพักมันเริ่มจางลง
แห้งลงมีความเป็นธรรมชาติ earthyพอสมควร น่าจะได้มาจากกลิ่นหญ้าแฝกแห้งๆและlavender
กลิ่นช่วงท้ายนั้นกลมกล่อมเหลือเกินเพราะมีทั้งความสดชื่นแบบหวานช่ำแต่ก็ไม่ซ้ำใครเพราะ
กลิ่นสดชื่นมีมิติที่เพิ่มขึ้นกับกลิ่นแนวsmokyแห้งๆ ทำให้เป็นน้ำหอมแนวสดชื่นทีดูมีคลาส หรูหรามีระดับทีเดียว
- Unique : ถูกใจมากครับ ส่วนตัวไม่ค่อยได้กลิ่นสดชื่นแนวนี้เท่าไหร่ ใครอยากใช้น้ำหอมหน้าร้อน
ที่กลิ่นไม่ซ้ำใคร กลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรพิจารณาครับ
- Longevity : มันมาพลาดตรงนี้แหละครับ สำหรับผิวผมกลิ่นนี้อยู่ได้ไม่นานก็จางเสียแล้ว
มากสุดก็4-5ชั่วโมงเท่านั้นเอง ถ้าทำได้ดีกว่านี้ คงได้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นลูกรักของผมแน่ๆ
(สำหรับท่านอื่นกลิ่นอาจจะติดนานก็ได้นะครับ ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน)
- Projection : ปานกลางครับ ช่วงต้นทำได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากชม.แรกก็เริ่มติดผิวแล้วครับ
แต่ถ้าอากาศร้อนๆ กลิ่นก็ตีขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ขยับครับ
- Versatility : เหมาะกับช่วงกลางวันครับ สำหรับผมมองว่ามันเหมาะกับวัยทำงานซะมากกว่า
ออกแนวoffice scent เพราะกลิ่นสดชื่นไม่ทำร้ายใคร แต่ก็ยังดูมีคลาส มีระดับพอให้เหมาะกับ
การใส่ไปทำงานได้ครับ
[CR] pERFuME MY OWn [8] รีวิวน้ำหอม Dunhill Icon
Dunhill นั้นผลิตสินค้ามาหลากหลายประเภทตั้งแต่บุหรี่ ไฟแช็ค
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายต่างๆ หรือกระทั่งน้ำหอม แต่น้ำหอมของDunhill
นั้นแนวหลายๆตัวมักจะออกไปทางมหาชนเข้าถึงง่ายหน่อย หลายๆกลิ่นดมแล้ว
มักจะตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย จนถึงขั้นน้ำหอมตามตลาดนัดเอากลิ่นไปทำ
เลียนแบบขายกันเช่น Dunhill Desire Blue
แต่กระนั้นช่วงปี2015เป็นต้นมา Dunhill ได้แตกรุ่นน้ำหอมออกมาอีกหนึ่งไลน์
นั้นก็คือ Icon ถึงปัจจุบันก็มีมาแล้ว 3 กลิ่นด้วยกันและแต่ละกลิ่นก็มี
ความโดดเด่น ซับซ้อนมากขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าไลน์Iconค่อนข้างฉีกแนว
Dunhill ตัวเก่าๆมาพอสมควร และกลิ่นที่จะมากล่าวถึงในวันนี้ก็จะเป็นกลิ่นแรกของไลน์เลยครับ
Dunhill Icon
- The Scent : อย่างแรกที่ผมรู้สึกชอบและอยากจะกล่าวก่อนที่จะไปเข้าถึงเรื่องกลิ่นกัน
ก็คือเรื่องของขวดครับ คือขวดมันหนักมาก บวกกับลักษณะลวดลายแบบหนามเล็กๆสีเงิน
มันทำให้รู้สึกว่ามันดูดีดูพรีเมี่ยมขึ้นมาทันที่ ประมาณว่าน้ำหอมกลิ่นดีชัวร์แค่จับขวดก็รู้สึกได้
และเมื่อได้ดมกลิ่นแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ กลิ่นดีจริงๆและค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับจมูกผมด้วย
เพราะกลิ่นเปิดนั้นมาเต็มกับความสดชื่นนวลๆของดอกส้มNelori ตัดกันอย่างเข้าขากับมะกรูดช่ำๆ
ได้เป็นอย่างดี แต่ลิ้มรสความสดชื่นได้แค่วูบเดียวเท่านั้นแหละครับ กลิ่นไหม้ๆ smokyก็ลอยมาแตะจมูก
ตรงนี้แหละที่ผมรู้สึกแปลกใจในแนวกลิ่นที่เค้าทำ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ คือมันดีมาก ผมชอบมาก
เพราะไม่เคยได้กลิ่นสดชื่นแนวนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากกลิ่นแนวsmokyเข้ามา สักพักมันเริ่มจางลง
แห้งลงมีความเป็นธรรมชาติ earthyพอสมควร น่าจะได้มาจากกลิ่นหญ้าแฝกแห้งๆและlavender
กลิ่นช่วงท้ายนั้นกลมกล่อมเหลือเกินเพราะมีทั้งความสดชื่นแบบหวานช่ำแต่ก็ไม่ซ้ำใครเพราะ
กลิ่นสดชื่นมีมิติที่เพิ่มขึ้นกับกลิ่นแนวsmokyแห้งๆ ทำให้เป็นน้ำหอมแนวสดชื่นทีดูมีคลาส หรูหรามีระดับทีเดียว
- Unique : ถูกใจมากครับ ส่วนตัวไม่ค่อยได้กลิ่นสดชื่นแนวนี้เท่าไหร่ ใครอยากใช้น้ำหอมหน้าร้อน
ที่กลิ่นไม่ซ้ำใคร กลิ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรพิจารณาครับ
- Longevity : มันมาพลาดตรงนี้แหละครับ สำหรับผิวผมกลิ่นนี้อยู่ได้ไม่นานก็จางเสียแล้ว
มากสุดก็4-5ชั่วโมงเท่านั้นเอง ถ้าทำได้ดีกว่านี้ คงได้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นลูกรักของผมแน่ๆ
(สำหรับท่านอื่นกลิ่นอาจจะติดนานก็ได้นะครับ ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน)
- Projection : ปานกลางครับ ช่วงต้นทำได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากชม.แรกก็เริ่มติดผิวแล้วครับ
แต่ถ้าอากาศร้อนๆ กลิ่นก็ตีขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ขยับครับ
- Versatility : เหมาะกับช่วงกลางวันครับ สำหรับผมมองว่ามันเหมาะกับวัยทำงานซะมากกว่า
ออกแนวoffice scent เพราะกลิ่นสดชื่นไม่ทำร้ายใคร แต่ก็ยังดูมีคลาส มีระดับพอให้เหมาะกับ
การใส่ไปทำงานได้ครับ