สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน วันนี้ผมจะมารีวิวสมาร์ทโฟน LG G6 เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อของเพื่อนๆหลายๆคนนะครับ เพราะตอนที่ผมซื้อนั้น แทบไม่มีรีวิว มีแค่ของคุณอุ้มเจ้าเดียว ผมเลยต้องไปนั่งดูรีวิวของต่างประเทศอีกทีนึงครับ
โดยเครื่องที่ผมใช้รีวิวนั้น เป็นเครื่องที่ผมใช้เอง และเป็นเครื่องนอกโมเดลเกาหลี นะครับซึ่งจะเป็นสเปกที่ท้อปสุด เมื่อเทียบกะโมเดลอื่นนะครัช
ปล. ผมมือใหม่ในการรีวิวนะครับ ถ้าผิดพลาดประการได้น้อมรับการแนะนำติชม จากเพื่อนๆครับ
ภาพเครื่อง LG G6 ที่ผมถ่ายนั้นบางทีอาจจะไม่ชัดเพราะผมใช้ กล้องหน้า Mac book ในการถ่ายครับ
1. หน้าจอกะบอดี้
เปิดมาด้วยหน้าจอก่อนเลยนะครับ ด้วยหน้าจอเป็นจอ IPS LCD มาพร้อมกับเทคโนโลยี Full vision 18:9 ขนาด 5.7 นิ้ว โดยมาพร้อมกับความละเอียด 1440 x 2880 pixel(QHD)
ซึ่งเมื่อผมเปิดกล่องและจับมันและสวยโคตร คือแม_ร่งลดขอบไปเกือบหมดขอบข้างจอจะเห็นว่าเหลือประมาณ 2 มิลลิเมตรนะครับ ถือว่าไม่ได้ลดสนิทนะ ส่วนขอบบนล่าง จะเหลืออยู่แค่ 6-7 มิลลิเมตรเท่านั้น(บนกะล่าง) ซึ่งสิ่งที่ได้มาคืออะไร ขนาดบอดี้ของเครื่องนั้นเองครับ ขนาดพอดีมือมาก สามารถใช้งานมือเดียวได้ตามสบายๆ ถือเหมาะมือ ง่ายต่อการพก แต่ได้มือถือจอใหญ่ 5.7 นิ้วมานั่นเอง เมื่อเทียบกับเครื่องที่มีขนาด จอ 5.5-6 นิ้วด้วยกันแล้วนั้นถือง่ายกว่ามาก ผมเคยใช้ Huawei mate 9 มาก่อน จัดว่าถือง่ายกะพกง่ายกว่าครับ
แถมการดูภาพดู หรือวีดีโอ 18: 9 ก็เต็มตาทะลุจอ ไม่ต้องมารำคาญขอบ หรือกวนใจเรื่องขอบครับ
ในส่วนของจอ IPS LCD ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้สีสดเวอร์เหมือน Amoled แต่ด้วยเทคโนโลยี Dolby vision และ HDR 10 แบบเดียวกับทีวีนั้น ทำให้ได้ภาพสวยคมชัด กับสีที่ไม่ซีดเลยแหละ
และจอก็มาพร้อมกับ Gorila glass 5 ครับ และจอมี Alway on display ก็คือ จะโชว์นาฬิกาหรือพวก notification อยู่ระหว่างปิดหน้าจอครับ
ด้านหลังจะเป็นดำเงา นะครับ เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ของผมจับวันแรกก็รอยนิ้วมือ เต็มเลย มีกล้องสองตัวนะครับ กับแฟลชนะครับ ด้านล่างของกล้องเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนะครับ ด้านล่างสุดมีโลโก้สกรีน G6 โดยด้านบนซ้าม มีสติ้กเกอร์แปะคำว่า Hi-Fi 32bit DAC อยู่ ซึ่งหมายความว่า โมเดลเกาหลีนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียง Quad DAC นะครับ ซึ่งผมจะบอกอีกทีว่ามันคืออะไรที่ตรงส่วนของระบบเสียงนะครับ
ตัวเครื่องเป็น Unibody ถอดแบตไม่ได้ครับ
2.การใช้งานทั่วไป
ในการใช้งานทั่วไป ตัวเครื่องมาพร้อมกับ CPU จับมังกร(Snapdragon) 821 2.34 Ghz GPU Adreno 530 และแรม 4 GB และพิเศษสำหรับเครื่องโมเดลเกาหลีคือ ได้ความจุ 64 GB ครับ
ซึ่งในส่วนนี้ ผมคิดว่ามันสามารถซัพพอร์ตการใช้งานระดับ Hi-End ได้อย่างสบายๆ เลยแหละ จากที่ผมใช้งานมาได้ 7 วัน ยังไม่พบปัญหา ค้าง หรือหน่วงนะครับ การเข้าออกแอป เร็วมาก การใช้งานมัลติวินโดว์ ถือว่าโอเคครับ ถึงจะยังไม่ได้แบ่งเป็น Layer เหมือน SS แต่ว่าด้วยคุณสมบัติของจอใหญ่การแบ่งครึ่งของหน้าจอก็สามารถทำให้มัลติวินโดว์ลื่นไหลเหมือนกัน และใช้สะดวกเหมือนกัน และสามารถแบ่งได้ด้วยว่า จะเอาจอไหนใหญ่ จอไหนเล็กครับ
ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือ ผมเคยใช้ Mate 9 หรือ S7 มาก่อนนั้น ผมว่ายังสู้สองเจ้านี้ไม่ได้ สองเจ้านี้ แค่โดนก็ติด แต่ของ LG G6 มันต้องโดนเต็มนิ้ว หรือ เกือบเต็มนิ้วครับ แค่เฉียดจะยังปลดล้อคไมไ่ด้นะ ถือว่ายังด้อยตรงนี้ครับ
แต่ที่ทดแทนกันได้ คือการทัชหรือเคาะสองครั้ง เพื่อเปิดปิดหน้าจอนั้น ผมว่าโอเคเลยแหละ มันช่วยถนอมปุ่มดี ผมว่า และสามารถเปิดปิดหน้าจอได้สะดวกดีครับ
3. กันน้ำกันฝุ่น
LG G6 มาพร้อมกับมาตรฐาน IP68 อยู่แล้วครับ ซึ่งง่ายๆ ก็คือสามารถใช้ในน้ำได้นั่นเอง ซึ่งตัวผมเองนั้นก็ได้ลองเรียบร้อยแล้ว เนื่องด้วยเป็นเครื่องนอก ไม่มีประกันอยุ่แล้วครับก็เลยเจิมเลย พบว่าใช้ในน้ำได้ตามปกติครับ แต่จะทัชไม่ได้นะ
4. ระบบเสียง
แน่นอนว่านอกจากจอที่เป็นตัวชูโรงแล้วนั้น สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ ระบบเสียง ที่เป็นตัวชูโรงเช่นกันครับ ในการเปิดเพลงด้วยลำโพงของเครื่องนั้น เสียงถือว่าดีมาก เมื่อเทียบกับ Mate 9 ที่ผมเคยใช้ เสียงเพราะ ใส และเสียงที่ดังขึ้นกว่ามาก ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีชัดดีครับ
แต่ที่ขาดไปไม่ได้เลยที่มาพร้อมกับ โมเดลเกาหลีคือ Quad DAC 32 bit ซึ่งมันคืออะไร มันคือ ระบบประมวลผลเสียงที่ดีที่สุดในมือถือตอนนี้ที่เทียบเท่า เครื่องเล่นเพลงชั้นนำของโลก(เค้าว่ายังงั้นนะ) ซึ่งจะสามารถควบคุมสมดุลเสียงซ้ายขวาได้อย่างดี และลด noise ในตัวเสียงได้ด้วย จะทำให้ได้เสียงที่คมชัดโคตรๆ เค้าว่ากันว่า เหมือนนั่งฟังดนตรีสด (ขนาดนั้นเชียว!!!) แต่จะต้องใช้โหมดนี้ระหว่างการใส่หูฟังเท่านั้นครับ ซึ่งหูฟังที่มากับเครื่องผม ว่ามันยังจัดการเสียงได้ไม่ค่อยดี มันดูแหลมๆ โล่งๆ เสียงเครื่องดนตรีผมว่ายังเฉยๆ
ผมเลยจัดหูฟังดีๆมาสักหน่อย AKG Y20U
หลังจากที่ลองใช้หูฟังนี้กับระบบ Quad DAC มันสุดยอดจริงๆครับ เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น เสียงนักร้อง แยกส่วนชัดเจน เสียงคมชัด มีความแน่นของเบส ความใสของเพลง แทบไม่มี Noise รบกวนเลย แถมเสีบไม่แหบแหลมด้วย ซึ่งสามารถแยกแยะได้ชัดเจนเลยว่าระบบ Quad DAC ระบบธรรมดาต่างกันอย่างไร Quad DAC ดึงมิติ จากการฟังเพลงได้สุดยอดจริงๆ เสียงคมชัดมากครับ
อันนี้ยกนิ้วให้ (นิ้วโป้งนะ ไม่ใช้นิ้วกลาง)
5. กล้องถ่ายรูป
LG G6 มากับกล้องคู่ (Dual camera) ซึ่งในเทคโนโลยีของกล้องคู่ผมพูดตรงๆว่าผมก็ไม่เชี่ยวชาญเท่าไร ที่ว่าตัวนึงจะแยกเก็บรายละเอียดภาพด้านหน้า อีกตัวจะเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆด้านหลัง เพื่อเพิ่มความสามารถในการจับภาพ และเก็บรายละเอียดหน้าชัดหลังเบลอ ทำให้ภาพที่ได้คมชัด เป็นต้น
ซึ่ง G6 นั้น มากับกล้องคู่ 13 + 13 Megapixel ง่ายก็ตัวละ 13ล้านอะนะ (แพงไหม เอ้ยไม่ใช้แล้ว) แต่ที่แน่ๆคือ กล้องตัวแรก F/1.8 ถ่ายภาพกว้าง 71 องศา และตัวที่สอง F/2.4 ถ่ายภาพกว้าง 125 องศา !!!! มันดีกว่ายังไง ทำให้เราเก็บภาพได้กว้างขึ้นนั่นเอง และสามารถถ่ายภาพที่อัตราส่วน 18:9 ได้นั่นเอง ผมว่ามันทำให้เพิ่มมิติใหม่ในการถ่ายภาพ Landscape ครับ สวดยอดเลยยย
ตัวอย่างรูปดูได้ด้านล่างครับ ปล.ถ่ายสดยังไม่ได้แต่งนะครับ ต้องการให้เพื่อนๆ ดูความจริงจากกล้องครับ ภาพจะถูกลดขนาดกับความละเอียดลงนะครับ มันลงพันทิพไม่ได้ ถ้าภาพขนาดเกินกว่าที่กำหนดครับ
ถือว่าสวยเลยทีเดียวเชียวแหละครับ
6. แบตเตอรี่
LG G6 ให้แบตเตอรี่มา 3300 mAH ซึ่งผมว่าเพียงพอกับการใช้งานทั้งวัน แต่ถ้าผมเคยลองใช้งานหนักๆ เล่นเกม.ฟังเพลงกับท่องเน็ตพร้อมกัน 3 Hrs ก็ลดฮวบไป 35 % ได้ ก็ถือว่ากินแบตพอสมควรครับ สำหรับหน้าจอขนาดนี้ กับฮาร์ดแวร์ขนาดนี้ครับ เมื่อเทียบกับ Mate 9 ที่เคยใช้ ผมว่า Mate 9 จะอึดกว่านะครัช
7. อุปกรณ์ในกล่อง
อุปกรณ์ในกล่อง ก็เหมือนกับมือถือทั่วไปครับ ที่ชาร์ต สายชาร์ต USB-C,เข็มจิ้มซิม,หูฟัง,คู่มือ,ตัวแปลงไมโคร USB=>USB-C แต่ที่ชอบคือ มันให้ตัวแปลงแฟลชไดร์ฟ(USB)=> USB-C ทำให้ถ่ายไฟล์งาน หรือรูปลงแฟลชไดร์ฟได้ง่ายกว่าเยอะเลยครับบ
สรุป ข้อดี
1. จอ Full vision และขอบจอแทบไม่มี ทำให้รับชมภาพยนตร์หรือดูภาพได้จุใจไม่มีขอบมากวน (Critical point)
2. บอดี้พอดีมือไม่ใหญ่เกิน แต่จอใหญ่ (Critical point)
3. ระบบเสียง Quad DAC (Critical point)
4. กล้องคู่ที่ถ่ายภาพกว้าง 125 องศานะครับ
5. กันน้ำกันฝุ่น มือถือตัวเรือธงส่วนใหญ่จะมีแล้วนะครับ
ข้อเสีย
1. สแกนนิ้ว ของผมว่ายังไม่สู้เจ้าอื่นๆ ครับ เจ้าอื่นติดดีกว่าครับ
2. แบตผมว่าลดเร็วครับ
3. CPU จับมังกร 821 ยังไม่ใช่ตัวท็อปสุดในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันเป็น 835 แต่เห็นว่าโดนเหมาไปหมด เลยไม่เพียงพอ ไม่รู้จริงป่าว
4. ไม่มีเครื่องไทยครับ
***เพิ่มเติมนะครับ สำหรับเครื่องโมเดลเกาหลีจะมีแอปของเกาหลีอยู่ ซึ่งผมใช้มาเนี่ย ยังไม่พบปัญหามายุ่งเกี่ยวอะไร กับการใช้งาน หรือว่าทำให้หน่วงประการใดนะครับ มีทั้งหมด 7 แอป กินพื้นที่ไป 87 MB ครับ
***อีกอย่างโมเดลเกาหลีไม่มีเมนูไทยครับ เป็นภาษาอังกฤษหมด แต่สามารถพิมพ์ไทย(ถ้าขนาดให้คีย์บอร์ดมาแล้ว ก็ทำเมนูไทยเลยเหอ แม_ร่งไม่มีเมนูไทย แต่มีคียบอร์ด 555) หรืออ่านไทยและใช้เน็ต 4g อะไรได้ปกติครับ แค่ไม่มีเมนูไทยเฉยๆครับ
ก็หมดไปแล้วนะครับ สำหรับรีวิว LG G6 สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเครื่องนอกแนะนำนะครับ ถ้าอยากได้สเป็กท็อปจริงๆ ต้องโมเดลเกาหลีครับ ถึงจะได้ความจุ (ROM) 64 GB และระบบ Quad DAC นะครับ ส่วนโมเดลยุโรปจะได้ 32 GB กับไวเลสชาร์ตแทนครับ
[CR] รีวิว LG G6 แบบวิศวกรเถื่อนๆ
โดยเครื่องที่ผมใช้รีวิวนั้น เป็นเครื่องที่ผมใช้เอง และเป็นเครื่องนอกโมเดลเกาหลี นะครับซึ่งจะเป็นสเปกที่ท้อปสุด เมื่อเทียบกะโมเดลอื่นนะครัช
ปล. ผมมือใหม่ในการรีวิวนะครับ ถ้าผิดพลาดประการได้น้อมรับการแนะนำติชม จากเพื่อนๆครับ
ภาพเครื่อง LG G6 ที่ผมถ่ายนั้นบางทีอาจจะไม่ชัดเพราะผมใช้ กล้องหน้า Mac book ในการถ่ายครับ
1. หน้าจอกะบอดี้
เปิดมาด้วยหน้าจอก่อนเลยนะครับ ด้วยหน้าจอเป็นจอ IPS LCD มาพร้อมกับเทคโนโลยี Full vision 18:9 ขนาด 5.7 นิ้ว โดยมาพร้อมกับความละเอียด 1440 x 2880 pixel(QHD)
ซึ่งเมื่อผมเปิดกล่องและจับมันและสวยโคตร คือแม_ร่งลดขอบไปเกือบหมดขอบข้างจอจะเห็นว่าเหลือประมาณ 2 มิลลิเมตรนะครับ ถือว่าไม่ได้ลดสนิทนะ ส่วนขอบบนล่าง จะเหลืออยู่แค่ 6-7 มิลลิเมตรเท่านั้น(บนกะล่าง) ซึ่งสิ่งที่ได้มาคืออะไร ขนาดบอดี้ของเครื่องนั้นเองครับ ขนาดพอดีมือมาก สามารถใช้งานมือเดียวได้ตามสบายๆ ถือเหมาะมือ ง่ายต่อการพก แต่ได้มือถือจอใหญ่ 5.7 นิ้วมานั่นเอง เมื่อเทียบกับเครื่องที่มีขนาด จอ 5.5-6 นิ้วด้วยกันแล้วนั้นถือง่ายกว่ามาก ผมเคยใช้ Huawei mate 9 มาก่อน จัดว่าถือง่ายกะพกง่ายกว่าครับ
แถมการดูภาพดู หรือวีดีโอ 18: 9 ก็เต็มตาทะลุจอ ไม่ต้องมารำคาญขอบ หรือกวนใจเรื่องขอบครับ
ในส่วนของจอ IPS LCD ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้สีสดเวอร์เหมือน Amoled แต่ด้วยเทคโนโลยี Dolby vision และ HDR 10 แบบเดียวกับทีวีนั้น ทำให้ได้ภาพสวยคมชัด กับสีที่ไม่ซีดเลยแหละ
และจอก็มาพร้อมกับ Gorila glass 5 ครับ และจอมี Alway on display ก็คือ จะโชว์นาฬิกาหรือพวก notification อยู่ระหว่างปิดหน้าจอครับ
ด้านหลังจะเป็นดำเงา นะครับ เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ของผมจับวันแรกก็รอยนิ้วมือ เต็มเลย มีกล้องสองตัวนะครับ กับแฟลชนะครับ ด้านล่างของกล้องเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนะครับ ด้านล่างสุดมีโลโก้สกรีน G6 โดยด้านบนซ้าม มีสติ้กเกอร์แปะคำว่า Hi-Fi 32bit DAC อยู่ ซึ่งหมายความว่า โมเดลเกาหลีนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียง Quad DAC นะครับ ซึ่งผมจะบอกอีกทีว่ามันคืออะไรที่ตรงส่วนของระบบเสียงนะครับ
ตัวเครื่องเป็น Unibody ถอดแบตไม่ได้ครับ
2.การใช้งานทั่วไป
ในการใช้งานทั่วไป ตัวเครื่องมาพร้อมกับ CPU จับมังกร(Snapdragon) 821 2.34 Ghz GPU Adreno 530 และแรม 4 GB และพิเศษสำหรับเครื่องโมเดลเกาหลีคือ ได้ความจุ 64 GB ครับ
ซึ่งในส่วนนี้ ผมคิดว่ามันสามารถซัพพอร์ตการใช้งานระดับ Hi-End ได้อย่างสบายๆ เลยแหละ จากที่ผมใช้งานมาได้ 7 วัน ยังไม่พบปัญหา ค้าง หรือหน่วงนะครับ การเข้าออกแอป เร็วมาก การใช้งานมัลติวินโดว์ ถือว่าโอเคครับ ถึงจะยังไม่ได้แบ่งเป็น Layer เหมือน SS แต่ว่าด้วยคุณสมบัติของจอใหญ่การแบ่งครึ่งของหน้าจอก็สามารถทำให้มัลติวินโดว์ลื่นไหลเหมือนกัน และใช้สะดวกเหมือนกัน และสามารถแบ่งได้ด้วยว่า จะเอาจอไหนใหญ่ จอไหนเล็กครับ
ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือ ผมเคยใช้ Mate 9 หรือ S7 มาก่อนนั้น ผมว่ายังสู้สองเจ้านี้ไม่ได้ สองเจ้านี้ แค่โดนก็ติด แต่ของ LG G6 มันต้องโดนเต็มนิ้ว หรือ เกือบเต็มนิ้วครับ แค่เฉียดจะยังปลดล้อคไมไ่ด้นะ ถือว่ายังด้อยตรงนี้ครับ
แต่ที่ทดแทนกันได้ คือการทัชหรือเคาะสองครั้ง เพื่อเปิดปิดหน้าจอนั้น ผมว่าโอเคเลยแหละ มันช่วยถนอมปุ่มดี ผมว่า และสามารถเปิดปิดหน้าจอได้สะดวกดีครับ
3. กันน้ำกันฝุ่น
LG G6 มาพร้อมกับมาตรฐาน IP68 อยู่แล้วครับ ซึ่งง่ายๆ ก็คือสามารถใช้ในน้ำได้นั่นเอง ซึ่งตัวผมเองนั้นก็ได้ลองเรียบร้อยแล้ว เนื่องด้วยเป็นเครื่องนอก ไม่มีประกันอยุ่แล้วครับก็เลยเจิมเลย พบว่าใช้ในน้ำได้ตามปกติครับ แต่จะทัชไม่ได้นะ
4. ระบบเสียง
แน่นอนว่านอกจากจอที่เป็นตัวชูโรงแล้วนั้น สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ ระบบเสียง ที่เป็นตัวชูโรงเช่นกันครับ ในการเปิดเพลงด้วยลำโพงของเครื่องนั้น เสียงถือว่าดีมาก เมื่อเทียบกับ Mate 9 ที่ผมเคยใช้ เสียงเพราะ ใส และเสียงที่ดังขึ้นกว่ามาก ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีชัดดีครับ
แต่ที่ขาดไปไม่ได้เลยที่มาพร้อมกับ โมเดลเกาหลีคือ Quad DAC 32 bit ซึ่งมันคืออะไร มันคือ ระบบประมวลผลเสียงที่ดีที่สุดในมือถือตอนนี้ที่เทียบเท่า เครื่องเล่นเพลงชั้นนำของโลก(เค้าว่ายังงั้นนะ) ซึ่งจะสามารถควบคุมสมดุลเสียงซ้ายขวาได้อย่างดี และลด noise ในตัวเสียงได้ด้วย จะทำให้ได้เสียงที่คมชัดโคตรๆ เค้าว่ากันว่า เหมือนนั่งฟังดนตรีสด (ขนาดนั้นเชียว!!!) แต่จะต้องใช้โหมดนี้ระหว่างการใส่หูฟังเท่านั้นครับ ซึ่งหูฟังที่มากับเครื่องผม ว่ามันยังจัดการเสียงได้ไม่ค่อยดี มันดูแหลมๆ โล่งๆ เสียงเครื่องดนตรีผมว่ายังเฉยๆ
ผมเลยจัดหูฟังดีๆมาสักหน่อย AKG Y20U
หลังจากที่ลองใช้หูฟังนี้กับระบบ Quad DAC มันสุดยอดจริงๆครับ เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น เสียงนักร้อง แยกส่วนชัดเจน เสียงคมชัด มีความแน่นของเบส ความใสของเพลง แทบไม่มี Noise รบกวนเลย แถมเสีบไม่แหบแหลมด้วย ซึ่งสามารถแยกแยะได้ชัดเจนเลยว่าระบบ Quad DAC ระบบธรรมดาต่างกันอย่างไร Quad DAC ดึงมิติ จากการฟังเพลงได้สุดยอดจริงๆ เสียงคมชัดมากครับ
อันนี้ยกนิ้วให้ (นิ้วโป้งนะ ไม่ใช้นิ้วกลาง)
5. กล้องถ่ายรูป
LG G6 มากับกล้องคู่ (Dual camera) ซึ่งในเทคโนโลยีของกล้องคู่ผมพูดตรงๆว่าผมก็ไม่เชี่ยวชาญเท่าไร ที่ว่าตัวนึงจะแยกเก็บรายละเอียดภาพด้านหน้า อีกตัวจะเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆด้านหลัง เพื่อเพิ่มความสามารถในการจับภาพ และเก็บรายละเอียดหน้าชัดหลังเบลอ ทำให้ภาพที่ได้คมชัด เป็นต้น
ซึ่ง G6 นั้น มากับกล้องคู่ 13 + 13 Megapixel ง่ายก็ตัวละ 13ล้านอะนะ (แพงไหม เอ้ยไม่ใช้แล้ว) แต่ที่แน่ๆคือ กล้องตัวแรก F/1.8 ถ่ายภาพกว้าง 71 องศา และตัวที่สอง F/2.4 ถ่ายภาพกว้าง 125 องศา !!!! มันดีกว่ายังไง ทำให้เราเก็บภาพได้กว้างขึ้นนั่นเอง และสามารถถ่ายภาพที่อัตราส่วน 18:9 ได้นั่นเอง ผมว่ามันทำให้เพิ่มมิติใหม่ในการถ่ายภาพ Landscape ครับ สวดยอดเลยยย
ตัวอย่างรูปดูได้ด้านล่างครับ ปล.ถ่ายสดยังไม่ได้แต่งนะครับ ต้องการให้เพื่อนๆ ดูความจริงจากกล้องครับ ภาพจะถูกลดขนาดกับความละเอียดลงนะครับ มันลงพันทิพไม่ได้ ถ้าภาพขนาดเกินกว่าที่กำหนดครับ
ถือว่าสวยเลยทีเดียวเชียวแหละครับ
6. แบตเตอรี่
LG G6 ให้แบตเตอรี่มา 3300 mAH ซึ่งผมว่าเพียงพอกับการใช้งานทั้งวัน แต่ถ้าผมเคยลองใช้งานหนักๆ เล่นเกม.ฟังเพลงกับท่องเน็ตพร้อมกัน 3 Hrs ก็ลดฮวบไป 35 % ได้ ก็ถือว่ากินแบตพอสมควรครับ สำหรับหน้าจอขนาดนี้ กับฮาร์ดแวร์ขนาดนี้ครับ เมื่อเทียบกับ Mate 9 ที่เคยใช้ ผมว่า Mate 9 จะอึดกว่านะครัช
7. อุปกรณ์ในกล่อง
อุปกรณ์ในกล่อง ก็เหมือนกับมือถือทั่วไปครับ ที่ชาร์ต สายชาร์ต USB-C,เข็มจิ้มซิม,หูฟัง,คู่มือ,ตัวแปลงไมโคร USB=>USB-C แต่ที่ชอบคือ มันให้ตัวแปลงแฟลชไดร์ฟ(USB)=> USB-C ทำให้ถ่ายไฟล์งาน หรือรูปลงแฟลชไดร์ฟได้ง่ายกว่าเยอะเลยครับบ
สรุป ข้อดี
1. จอ Full vision และขอบจอแทบไม่มี ทำให้รับชมภาพยนตร์หรือดูภาพได้จุใจไม่มีขอบมากวน (Critical point)
2. บอดี้พอดีมือไม่ใหญ่เกิน แต่จอใหญ่ (Critical point)
3. ระบบเสียง Quad DAC (Critical point)
4. กล้องคู่ที่ถ่ายภาพกว้าง 125 องศานะครับ
5. กันน้ำกันฝุ่น มือถือตัวเรือธงส่วนใหญ่จะมีแล้วนะครับ
ข้อเสีย
1. สแกนนิ้ว ของผมว่ายังไม่สู้เจ้าอื่นๆ ครับ เจ้าอื่นติดดีกว่าครับ
2. แบตผมว่าลดเร็วครับ
3. CPU จับมังกร 821 ยังไม่ใช่ตัวท็อปสุดในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันเป็น 835 แต่เห็นว่าโดนเหมาไปหมด เลยไม่เพียงพอ ไม่รู้จริงป่าว
4. ไม่มีเครื่องไทยครับ
***เพิ่มเติมนะครับ สำหรับเครื่องโมเดลเกาหลีจะมีแอปของเกาหลีอยู่ ซึ่งผมใช้มาเนี่ย ยังไม่พบปัญหามายุ่งเกี่ยวอะไร กับการใช้งาน หรือว่าทำให้หน่วงประการใดนะครับ มีทั้งหมด 7 แอป กินพื้นที่ไป 87 MB ครับ
***อีกอย่างโมเดลเกาหลีไม่มีเมนูไทยครับ เป็นภาษาอังกฤษหมด แต่สามารถพิมพ์ไทย(ถ้าขนาดให้คีย์บอร์ดมาแล้ว ก็ทำเมนูไทยเลยเหอ แม_ร่งไม่มีเมนูไทย แต่มีคียบอร์ด 555) หรืออ่านไทยและใช้เน็ต 4g อะไรได้ปกติครับ แค่ไม่มีเมนูไทยเฉยๆครับ
ก็หมดไปแล้วนะครับ สำหรับรีวิว LG G6 สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเครื่องนอกแนะนำนะครับ ถ้าอยากได้สเป็กท็อปจริงๆ ต้องโมเดลเกาหลีครับ ถึงจะได้ความจุ (ROM) 64 GB และระบบ Quad DAC นะครับ ส่วนโมเดลยุโรปจะได้ 32 GB กับไวเลสชาร์ตแทนครับ