สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ พี่ ๆ ขอเริ่มเกริ่นก่อนเลยว่านี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรกของเรา หลังจากที่สิงอ่านกระทู้ต่างๆอยุ๋ในพันทิปมานาน  อาจจะมีติดขัดไปบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


วันนี้เราจะมาประเดิมด้วยรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหลังจากที่เราได้ลองใช้มาสักพักและกำลังติดใจในผลลัพธ์ เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆที่มีปัญหาผิวหน้าแบบเดียวกับเราได้ลองใช้ดูค่ะ


เรื่องมันมีอยู่ว่าเราเป็นคนที่มีปัญหาผิวมาแห้งตั้งแต่เด็ก  ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวตัว ผิวแขน ผิวขา แห้งไปหมด แห้งชนิดที่ว่าหน้าลอกเป็นขุยเป็นปกติตลอดปีจนเพื่อนล้อว่าเป็น Snowman!!  บวกกับเป็นคนมีนิสัยขี้เกียดตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยคิดที่จะหาตัวช่วยอะไรมาบำรุงมาก






ทุกวันนี้เลยมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างด้วย และเราเองเป็นคนทื่มีผิวขาวมากกกกกก ขนาดเพื่อนยังทักว่า "แกร๊กินหลอดไฟเป็นอาหารหรอ -.-" ทำให้เวลาที่เราเป็นสิว ไม่ว่าจะสิวเล็ก สิวใหญ่ สิวอักเสบน้อย อักเสบมาก จะต้องทิ้งรอยแดงหรือรอยดำ เอาไว้ให้ต้องเจ็บใจเล่น



พอชีวิตเข้าสู่วัยทำงาน เพิ่งจะรู้สึกตัวว่า เห้ยยย OMG!!ทำไมพี่ๆแต่ละคนผิวหน้าเค้าดีกว่าเราว๊าาาแกร ไม่ได้ละๆ อายุเพิ่งเลข2กว่าๆเอง ผิวยังแย่ขนาดนี้ ถ้าเลข3ไปร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลง ผิวเราจะแย่ขนาดไหนเนี่ย



ด้วยอาชีพของเราที่ต้องทำงานไฟล์ทเช้าบ้าง ไฟล์ทดึกบ้าง ไฟล์ทข้ามคืนบ้าง บินข้ามTime zoneบ้าง นอนน้อย ทำงานไม่ค่อยจะเป็นเวลาสักเท่าไหร่ แถมยังต้องทำงานอยู่บนเครื่องซึ่งอากาศค่อนข้างแห้ง ซึ่งมีผลในเรื่องผิวแห้ง และเหี่ยวเร็วอีกด้วยT^T


จากนั้นมาเราก็เริ่มหาอาหารเสริมและวิตามินมาทาน ตามล่าครีมสารพัดมาบำรุงผิวหน้า แล้วก็ได้ลองทดลองใช้ครีม หรือ Moisturizer มาหลายยี่ห้อมากๆ ลองถูกลองผิดมาตั้งเยอะ  ทั้งที่เป็นยี่ห้อตามเค้าน์เตอร์ในเซ็นทรัล หรือจะเป็นครีมที่ขายใน วัตสัน หรือ บูทส์ หรือ ซื้อจากเมืองนอกบ้าง ครีมตัวไหนที่เพื่อนว่าดีหรือมีใครแนะนำมา เราก็ว่าดี ต้องไปตามหามาลองใช้ให้จนได้ ก็แหมม !!! อยากสวยนี่หน่า
โดยหลักๆที่เลือกใช้ก็จะเน้นไปที่ตัวที่เติมน้ำในผิว แก้ปัญหาหน้าแห้ง เราจึงเป็นคนที่ขาดครีมทาแก้หน้าแห้งไม่ได้


มาค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

1.    Royal jelly จากออสเตรเลีย

นมผึ้งอันนี้เป็นวิตามินที่เราทานก่อนนอนทุกวัน ซื้อมาเพราะเพื่อนไปเที่ยวที่ออสเตรเลียถูกมาก แหมม! เพื่อนไปทั้งทีก็เลยถือโอกาสฝากซื้อมาซะเลย เราว่าตั้งแต่ทานนมผึ้งมา3เดือน รู้สึกได้ว่าผิวสดใสขึ้น เด้งขึ้น และรู้สึกว่าทานแล้วหลับลึกดี ตื่นมาก็สดชื่น แต่เราว่าหลังจากทานน้ำหนักแอบขึ้นเล็กน้อย อาจจะเป็นธรรมดาของอาหารเสริมบำรุงผิว เพราะรู้สึกว่าอาหารบำรุงผิวส่วนใหญ่ทานแล้วจะเจริญอาหารขึ้นค่ะ
ให้คะแนน 9/10 ค่ะ หักที่น้ำหนักขึ้นเล็กน้อยหลังทาน แต่ปรนะโยชน์เรื่องอื่นชอบมากเลยค่ะ ผิวดีขึ้นจิงๆหลังจากที่ทานไป

2.    น้ำมะเขือเทศ ดอยคำ

ขอเกรื่นก่อนว่าปกติเราเป็นคนไม่ทานผัก โดยเฉพาะมะเชือเทศ แต่ทุกวันนี้หันมาลองทาน เพราะอยากสวยล้วนๆเลยค่ะ ไม่มีสาเหตุอื่นผสมเลย 555555 เราจะทานน้ำมะเขือเทศแช่เย็นๆทุกวันตอนเช้า (ต้องเย็นเท่านั้นน้า ถ้าไม่เย็นมันจะมีกลิ่นมะเขือเทศค่อนข้างแรง จะไม่ค่อยเหมาะกับคนไม่ชอบทานมะเขือเทศ) หลังจากเราลองทานมาทุกยี่ห้อแล้ว รู้สึกว่าของดอยคำเราโอเคที่สุด เพราะแต่ละยี่ห้อรสชาติไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ ของดอยคำจะมีรสชาติออกเค็มๆทำให้เราทานได้ง่ายขึ้นค่ะ
ให้คะแนน 10/10 หลังจากทานได้2อาทิตย์ รู้สึกว่าผิวใสขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้นชัดมาก ถ่ายเป็นเวลามากขึ้น จากที่เราเป็นคนผิวขาวซีดๆ ทำให้ผิวเราขาวอมชมพูมากขึ้นค่ะ

3.    สเปรย์แตงกวาไต้หวัน

ตัวนี้ซื้อมาตอนไปเที่ยวไต้หวัน เห็นคนไต้หวันใช้กันเยอะ ชื่อสเปรย์อ่านว่าอะไรไม่แน่ใจ แต่เค้าเคลมว่าเป็นสารสกัลจากแตงกวาไต้หวัน100% ไม่ผสมน้ำ ออแกนิกมาก เราใช้แทนน้ำแร่ฉีดหลังล้างหน้า แล้วก็ฉีดระหว่างวัน ตัวนี้เราพกติดตัวไปเวลาบินด้วย นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาฉีดทั่วหน้าเลย
ตัวนี้ให้ 9/10 เลยค่ะ หลังใช้รู้สึก fresh มากเลยค่ะ สบายหน้ามากก ไม่ต่างจากใช้น้ำแร่ฉีดหน้ายี่ห้ออื่น หน้าฉ่ำวาวเลย หักคะแนนที่ตรงความสวยงามของแพคเกจแล้วกันค่ะ แล้วก็ไม่มีคำอธิบายภาษาอังกฤษ เวลาไปตามหาซื้อ ไม่รู้จะถามคนขายว่าอะไร เพราะอ่านชื่อไม่ออกจีจี 5555555

4.    Biotherm life plankton essense

ตัวนี้เราลองใช้เพราะเห็นรีวิวค่อนข้างเยอะ และเพื่อนๆก็แนะนำให้ใช้กันหลายคน เลยลองซื้อมาใช้ดู ตัวนี้เป็นตัวที่เราใช้ก่อนที่จะลงครีมหรือเซรั่มทุกตัวค่ะ เป็น pre serum วิธีใช้ก็เหมือนน้ำตบป้าเจี๊ยบเลยค่ะ เขย่าๆ ตบๆลงบนหน้า เค้าเคลมว่าช่วยในเรื่องปัญหาผิวแห้ง รอยแดง และปัญหาผิวต่างๆค่ะ  ก่อนใช้หน้าเราแห้งมาก  แต่พอหลังใช้ได้สัก1อาทิตย์ หน้าหายแห้งลอกค่ะ แต่ถ้าวันไหนลืมพกไปบิน รู้สึกว่าหน้าก็กลับมาแห้งเหมือนเดิมก่อนใช้นะ ตัวนี้เจะเป็นตัวเบสิกที่เรารใช้เป็นประจำทุกวันไม่ขาด ตอนนี้ก็ใช้มาขวดที่4แล้วค่า
ตัวนี้ให้8/10 ค่ะ จิงๆชอบตัวนี้นะคะเพราะแก้ปัญหาผิวแห้งได้ดีมาก ใช้แล้วหน้าหายแห้งแถมรู้สึกว่าเซรั่มซึมลงผิว หน้าไม่เป็นคราบเวลาแต่งหน้า แต่หักคะแนนตรงที่ ไม่เห็นผลในเรื่องของรอยสิว และรูขุมขนค่ะ

5.    SKII น้ำป้าเจี้ยบ

ตัวนี้เราลองใช้ตามพี่ๆแอร์ที่บินด้วย เราเลยฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่นค่ะ  ใช้หยดน้ำเซรั่มลงบนมือแล้วตบๆเบาๆลงไปบนหน้าเช้าเย็น ใช้แล้วซึมลงไปที่ผิวเลย
ตัวนี้ให้ 5/10ค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าใช้แล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ในเรื่องความชุ่มชื้น คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยมากกว่า และไม่ค่อยชอบกลิ่ยนน้ำป้าเจี้ยบด้วย เราเลยไม่ได้ซื้อใช้ต่อ

6.    Physiogel ตัว AI cream

ตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะซื้อมาจากวัตสันค่ะ เคยลงทะเบียนแล้วได้เป็นคูปองส่วนลดส่งมาที่บ้าน ก็เลย จัดสิคะ!!! รออะไร!!! ( เห็นของเซลล์ทีที่ไร เสียตังทุกทีสิเรา) เนื้อครีมค่อนข้างมัน ทาหลังจากลงเซรั่มเช้าเยนเลยค่ะ เนื้อครีมค่อนข้างหนา เพิ่มความชุ่มชื้น เคยเอาไปใช้ตอนไปประเทศอุณหภูมิติดลบ ความหนาวก็ทำอะไรเราไม่ได้ บอกเลยยย!!!  ตัวนี้เราเลยพกไว้สำหรับเวลาบินไปในที่ที่หนาวจัดๆค่ะ
ตัวนี้ให้8/10ค่ะ ตัวนี้จิงๆรู้สึกว่าแก้หน้าแห้งได้ดีมากเลยค่ะ แต่คิดว่าไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใช้แล้วหน้าเยิ้มหนักมากค่ะเลยหักข้อนี้

7.    Divinia HA triple hydration (aqua deep creamy gel)

ตัวนี้ลองซื้อมาใช้หลังจากลองตัวเอสเซ้นแล้วติดใจ แถมตอนไปซื้อก็ยังลด50%เหมือนกันเลย เนื้อเจลค่อนข้างแปลกดี เนื้อเจลจะเด้งๆเหมือนเจลาตินข้นๆในกระปุก ซึมเร็วเหมือนตัวเอสเซ้น ใช้ทาหน้าเช้าเยน  ตัวนี้ให้ความรู้สึกเหมือนมีน้ำกระจายอยู่ทั่วหน้าไม่หนาเหมือนเนื้อครีมทั่วไป เราใช้หลังจากลงเอสเซ้น ก่อนที่จะลงครีมค่ะ ส่วนถ้าวันไหนบินมาเหนื่อยๆอยากมาร์กหน้านอน แต่หามาร์กไม่ได้ เราใช้ตัวนี้ทาทั่วหน้าหนาๆแล้วนอนเลย ตื่นมาหน้าชุ่มฉ่ำดีค่ะ อาจจะไม่เท่าการทา overnight mask แต่ก็ช่วยได้ระดับนึงอยู่น้า
ให้คะแนน 9/10 เหมือนตัวเอสเซ้นเลยค่ะ เราชอบตรงที่ไม่มันเหมือนหนะเลย แต่หักคะแนนตรงที่หาซื้อได้ที่วัตสันที่เดียวค่ะ

8.    Cream De Latex Intensive White-Repair Night Cream

ตัวนี้เพื่อนสาวเราแนะนำมาให้ลองใช้ เนื้อครีมเป็นครีมสีขาวข้น เนื้อไม่แน่นจนเกินไป กลิ่นหอมมากเหมือนดอกไม้ ทาไปแล้วรู้สึกว่ามีเนื้อครีมมาเคลือบหน้าไว้อีแต่ก็ไม่รู้สึกหนักหรือเนอะ แล้วก็ไม่ซึมหายวับไปกับตา หลังจากตื่นนอนก็รู้สึกได้ทันที่เลยว่าผิวหน้ามันจะเด้งๆ เค้าเคลมว่าสะกัดมาจากน้ำนมยางพารานะเออ  ตัวนี้เราเอามาทาเสริมต่อจากครีมทาหน้าปกติตอนกลางคืน เพราะชอบที่เค้าเคลมว่าเป็น overnight booster ฟังแล้วรุ้สึกเหมือนบำรุงหน้าในชั่วข้ามคืน

ก่อนใช้จากที่เราหน้าแห้งมาก รูขุมขนตรงแก้ม2ข้างชัด มีกระบริเวณโหนกแก้ม2ข้าง รอยสิวเยอะ  และถ้าเอามือลูบตรงหน้าผากหรือส่องใหล้ๆจะเห็นว่าเป็นสิวผด  ใช้แล้วประมาณ 2 อาทิตย์รู้สึกว่าชอบมาก ผิวเด้ง กระจ่างขึ้น รูขุมขนตื้นขึ้น โดยเฉพาะรอยดำจางลงไวมาก ที่สำคัญที่สุดคือ หน้าที่แห้งและลอกเป็นขุยหายไปเลยจ้าาาาาา หลังจากตื่นนอนมาและล้างหน้ารู้สึกว่าหน้านุ่มมาก สิวผดที่จะมาเป็นช่วงๆก็ไม่ค่อยมีเลย แต่งหน้าแล้วอยู่ติดดีทั้งๆที่บางวันนอนน้อย

ให้คะแนน 10/10 ไปเลยค่าเพราะประทับใจตรงที่แก้ปัญหาหน้าแห้งได้อย่างจริงจังมาก ตรงจุดที่เราต้องการเลย แถมรูขุมขนกับรอยดำที่มีปัญหามานานดีขึ้นแบบชัดเจนจนเพื่อนที่ทำงานทักเยอะขึ้นว่าไปทำอะไรมา  คิดว่าจะต้องได้ซื้อมาใช้เป็นกระปุกที่2แน่นอนค่ะ


***อันนี้คำแนะนำจากเพื่อนสาว (แต่เรายังไม่เคยลองเพราะไม่ค่อยได้นอนบ้าน เลยกลัวว่าจะลืมพกไปค้างตามที่ต่างๆด้วย) บอกมาว่าให้ลองเอาไปแช่เย็นแล้วมาทาหน้า จะรู้สึกสดชื่นมากค่ะ

9.    Clinique moisture surge

ตัวนี้เราเคยใช้ตั้งแต่ตอนไปอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นอากาศหนาวมากครีมอะไรก็เอาไม่อยู่ พี่สาสวเราเลยแนะนำให้ลองใช้ตัวนี้ดูเพราะเค้าเป็น moisturizer เน้นๆบำรุงเข้าไป และที่สำคัญใช้แล้วไม่แพ้ด้วย เราเลยตัดสินใจเดินเข้าห้างและหาซื้อแแล้วใช้ทันทีเลย ก่อนใช้หน้าเราแห้งมากลอกเป็นแผ่นๆ และร่อลแก้มชัดขึ้นเพราะความแห้งและความหนาว แต่พอโบกครีมตัวนี้ไปประมาณ3วัน หายเป็นปริดทิ้งเลยจ้า จากที่หน้าแห้งแตก ยิ้มแล้วตึงหน้า กลายเป็นเด้งดึ่ง ชุ่มชื้นขึ้นมาก
ให้คะแนน 7/10 ค่ะ จริงๆแล้วเราว่าตัวนี้ค่อนข้างดีนะสำหรับคนหน้าแห้ง แต่เราหักตรงที่เราไม่สามารถทาแล้วมาบินได้ เพราะหลังจากทาตัวนี้ เวลาแต่งหน้าตัวครีมตัวนี้ที่เคลือบหน้าไว้จะหลุดออกมาเป็นขุย (ที่ลอกออกมาคือเนื้อครีมน้า) ทำให้มีปัญหาเวลาที่แต่งหน้า รู้สึกเหมือนกับว่าเนื้อครีมมันไม่ได้ซึมลงไปที่ผิวแต่มันเคลือบผิวำว้เท่านั้นเอง ตัวนี้เลยเหมาะสำหรับใช้ทาในวันหยุด ไม่ต้องแต่งหน้า เป็นวันพักผ่อนค่ะ



จบแล้วค่ะรีวิวแรกของเรา อยากให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านเก็บไว้เป็นข้อมูล เผื่อใครที่มีปัญหาที่เหมือนกันไปลองใช้ดู  ในส่วนของเรื่องราคาแต่ละตัวเราจำราคาที่แน่นอนไม่ค่อยได้ค่ะ บางตัวเราก็ซื้อมาจากต่างประเทศ ซึ่งค่าเงินแต่ละช่วงก็จะต่างกันไป และถ้าเราได้ลองใช้ครีมตัวอื่นเพิ่มเติมแล้วประทับใจจะมาบอกต่อให้เพื่อนๆฟังเป็นรีวิวต่อไปค่า