+ โดยปกติ เวลาผมไปดูหนัง จะต้องมีการทำการบ้านก่อน เรื่องเป็นยังไง ใครแสดง คุ้มเงินที่จ่ายไหม แต่สุดท้าย สัญชาติญาณจะเป็นนำทางเสมอ
+ ผมเห็นตัวอย่างของหนังเรื่องนี้ได้ไม่นาน ตอนที่ดูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังจะได้เข้าไทยไหม เพราะดาราไม่ใช่ระดับแม่เหล็ก หน้าหนังน่าสนใจ แต่เหมือนหนังที่ส่งตรงลงแผ่นมากกว่า แต่ที่ตกใจหนักก็คือ ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ หนังก็เข้าแล้ว!!!!! โอ้วววแม่เจ้า นี่มันการตลาดประเภทไหนกัน
+ ก่อนจะไปดู ก็ตรวจสอบกับเว็บมะเขือเน่า ตกใจหนักกว่าเดิม มีคนชอบ 100% จากนักวิจารณ์เกือบ 200 คน (ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ เปลี่ยนเป็น 99% จากนักวิจารณ์ 228 คน ชอบ 227 คน ไม่ชอบ 1 คน) คะแนนเฉลี่ย 8 เต็ม 10 เวอร์มากครับ เวอร์จริงๆ เวอร์จนน่าหมั่นไส้ นี้มันเทียบชั้น God Father เลยนะฮะ (
https://www.rottentomatoes.com/m/get_out/)
+ พอดูหนังจบแล้ว ผมถึงได้เข้าใจ คะแนนที่มากมายที่หนังได้รับ ไม่ใช่เพราะมันคลาสสิกอย่าง God Father ไม่ใช่เพราะมีโปรดักชันเลิศอย่าง Gone with the Wind และไม่ใช่เพราะเอฟเฟกซ์ตระการตาเหมือน Star Wars แต่มันเป็นหนังที่พูดถึงประเด็นหนักๆ ได้อย่างสนุก ระทึก และ มีสีสัน เมื่อคุณดูจบ คำถามที่หนังสร้างขึ้น ล้วนตอบได้อย่างหมดจด แต่ประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อ จะยังติดหัวคุณกลับบ้านไปด้วย จะเรียกว่าหนังจบคนไม่จบก็น่าจะได้
+ ตัวหนังค่อนข้างตรงไปตรงมาตั้งแต่เปิดเรื่องว่า หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของสีผิว ซึ่งโดยปกติ หนังแนวนี้มักถูกเล่าในรูปแบบของดราม่า แสดงภาพคนผิวดำที่ต้องตกระกำลำบาก ร้องไห้ฟูมฟาย แต่หนังเรื่องนี้ไม่ทำแบบนั้น แทนที่จะเล่าในรูปแบบเดียว หนังกลับเล่าเรื่องในหลายรูปแบบผสมกัน ทั้งแนวดราม่า แนวจิตวิทยา แนวลึกลับ แนวผี แนวไซไฟ แนวเอาตัวรอด รวมไปถึง แนวตลก แต่ละแนวถูกใส่เข้ามาอย่างละนิดอย่างละหน่อย ดูเหมือนจะมั่ว แต่ผู้กำกับคนนี้กลับทำออกมาได้อย่างกลมกล่อมจนน่าประหลาดใจ แถมประเด็นสีผิวก็ยังไม่หายไปไหน มันถูกแทรกเข้าไปในหนังทุกส่วนทุกตอนอย่างชาญฉลาด
+ กลับมาบ้าน มาหาข้อมูลเกี่ยกวับผู้กำกับว่าเทพมาจากไหน ก็ต้องตกใจหนักขึ้นไปอีก เพราะใน IMDB ระบุไว้ว่า กำกับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก่อนหน้านั้นรับงานเป็นนักแสดงตลกเป็นหลัก O_O (
http://www.imdb.com/name/nm1443502/)
+ นักแสดงทุกคน รับส่งบทได้ดีมาก ตัวเอกหญิง (Allison Williams) และชาย (Daniel Kaluuya) แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม พูดได้แค่นี้แหละ กลัวสปอย
+ หนังเรื่องนี้ ใน Major และ SF ขึ้นว่าได้เรท 18+ ใน IMDB บอกว่าได้เรท R เข้าใจว่าเพราะหนังมีฉากเลือด และ ฉากเฉือนอวัยวะ แต่ก็ไม่กี่นาที
+ ด้วยความที่หนังมีหลายแนวผสมกัน ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจว่า หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังแนวไหน เอาเป็นว่า ได้ทุกแนวก็แล้วกัน
+ หนังเรื่องนี้ต้องมีสปอนเซอร์เป็นไมโครซอฟท์แน่ๆ ๕๕๕
[CR] [ดูมาแล้ว ไม่สปอย] Get Out : หนังม้ามืด มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่สนุกมาก แถมมีประเด็นให้ขบคิด
+ โดยปกติ เวลาผมไปดูหนัง จะต้องมีการทำการบ้านก่อน เรื่องเป็นยังไง ใครแสดง คุ้มเงินที่จ่ายไหม แต่สุดท้าย สัญชาติญาณจะเป็นนำทางเสมอ
+ ผมเห็นตัวอย่างของหนังเรื่องนี้ได้ไม่นาน ตอนที่ดูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังจะได้เข้าไทยไหม เพราะดาราไม่ใช่ระดับแม่เหล็ก หน้าหนังน่าสนใจ แต่เหมือนหนังที่ส่งตรงลงแผ่นมากกว่า แต่ที่ตกใจหนักก็คือ ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ หนังก็เข้าแล้ว!!!!! โอ้วววแม่เจ้า นี่มันการตลาดประเภทไหนกัน
+ ก่อนจะไปดู ก็ตรวจสอบกับเว็บมะเขือเน่า ตกใจหนักกว่าเดิม มีคนชอบ 100% จากนักวิจารณ์เกือบ 200 คน (ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ เปลี่ยนเป็น 99% จากนักวิจารณ์ 228 คน ชอบ 227 คน ไม่ชอบ 1 คน) คะแนนเฉลี่ย 8 เต็ม 10 เวอร์มากครับ เวอร์จริงๆ เวอร์จนน่าหมั่นไส้ นี้มันเทียบชั้น God Father เลยนะฮะ (https://www.rottentomatoes.com/m/get_out/)
+ พอดูหนังจบแล้ว ผมถึงได้เข้าใจ คะแนนที่มากมายที่หนังได้รับ ไม่ใช่เพราะมันคลาสสิกอย่าง God Father ไม่ใช่เพราะมีโปรดักชันเลิศอย่าง Gone with the Wind และไม่ใช่เพราะเอฟเฟกซ์ตระการตาเหมือน Star Wars แต่มันเป็นหนังที่พูดถึงประเด็นหนักๆ ได้อย่างสนุก ระทึก และ มีสีสัน เมื่อคุณดูจบ คำถามที่หนังสร้างขึ้น ล้วนตอบได้อย่างหมดจด แต่ประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อ จะยังติดหัวคุณกลับบ้านไปด้วย จะเรียกว่าหนังจบคนไม่จบก็น่าจะได้
+ ตัวหนังค่อนข้างตรงไปตรงมาตั้งแต่เปิดเรื่องว่า หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของสีผิว ซึ่งโดยปกติ หนังแนวนี้มักถูกเล่าในรูปแบบของดราม่า แสดงภาพคนผิวดำที่ต้องตกระกำลำบาก ร้องไห้ฟูมฟาย แต่หนังเรื่องนี้ไม่ทำแบบนั้น แทนที่จะเล่าในรูปแบบเดียว หนังกลับเล่าเรื่องในหลายรูปแบบผสมกัน ทั้งแนวดราม่า แนวจิตวิทยา แนวลึกลับ แนวผี แนวไซไฟ แนวเอาตัวรอด รวมไปถึง แนวตลก แต่ละแนวถูกใส่เข้ามาอย่างละนิดอย่างละหน่อย ดูเหมือนจะมั่ว แต่ผู้กำกับคนนี้กลับทำออกมาได้อย่างกลมกล่อมจนน่าประหลาดใจ แถมประเด็นสีผิวก็ยังไม่หายไปไหน มันถูกแทรกเข้าไปในหนังทุกส่วนทุกตอนอย่างชาญฉลาด
+ กลับมาบ้าน มาหาข้อมูลเกี่ยกวับผู้กำกับว่าเทพมาจากไหน ก็ต้องตกใจหนักขึ้นไปอีก เพราะใน IMDB ระบุไว้ว่า กำกับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก่อนหน้านั้นรับงานเป็นนักแสดงตลกเป็นหลัก O_O (http://www.imdb.com/name/nm1443502/)
+ นักแสดงทุกคน รับส่งบทได้ดีมาก ตัวเอกหญิง (Allison Williams) และชาย (Daniel Kaluuya) แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม พูดได้แค่นี้แหละ กลัวสปอย
+ หนังเรื่องนี้ ใน Major และ SF ขึ้นว่าได้เรท 18+ ใน IMDB บอกว่าได้เรท R เข้าใจว่าเพราะหนังมีฉากเลือด และ ฉากเฉือนอวัยวะ แต่ก็ไม่กี่นาที
+ ด้วยความที่หนังมีหลายแนวผสมกัน ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจว่า หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังแนวไหน เอาเป็นว่า ได้ทุกแนวก็แล้วกัน
+ หนังเรื่องนี้ต้องมีสปอนเซอร์เป็นไมโครซอฟท์แน่ๆ ๕๕๕