สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพร้อมกระทู้แบบเป็นเรื่องเป็นราวแล้วนาจา (ไม่ได้มาเล่นๆ นะเออ) สืบเนื่องมาจาก จขกท. เริ่มวิ่งลดน้ำหนักแบบเอาเป็นเอาตายที่สวนลุมมาได้สักพัก และความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้ชัด คือเอว!! ไม่เปลี่ยนค่ะ แต่เดี๋ยวก่อน นั่นหนังหน้าดั๊นหรอ?! (กรีดร้อง 18 ล้านรอบ) คือมันเข้มขึ้นจนเพื่อนพี่น้องเริ่มทัก บอกให้ไปหาครีมกันแดดมาทา ไอเราก็เสียเซลฟ์นะ แต่แบบรู้สึกทำใจยากที่จะทาอะไรเวลาวิ่งจริงๆ เพราะรู้สึกรำคาญ เหนอะหนะหน้า แต่เพื่อที่จะกอบกู้หน้าไม่ให้กลายเป็นพี่เข้มไปซะก่อนเลยแบบเอาวะ และเพื่อให้ตัวเองรู้สึกอยากทาครีมกันแดดไปจนตลอดรอดฝั่ง เราเลยซื้อกันแดดมาเยอะมาก (บางตัวก็ยืมเพื่อน ยืมพี่ป้าน้าอาไปตามเบี้ยน้อยหอยน้อยที่มี 55555) ซึ่งแน่นวลว่าสแกนมาแล้ว ทุกตัวราคาไม่เว่อร์วังถึงพัน โดยเราเลือกเฉพาะครีมกันแดดที่เค้าเคลมว่ากันน้ำมาทดสอบค่ะ เพราะปกติเวลาวิ่ง เหงื่อจะออกเยอะ เราไม่อยากให้เหงื่อล้างตัวครีมออกหมด อารมณ์แบบหน้าเป็นหุ่นขี้ผึ้งโดนความร้อนละลายออกมาไรงี้ มันไม่โออะ
เข้าเรื่องกัน (สักที) รีวิวครั้งนี้เราจะทดสอบ 3 เรื่องด้วยกัน (ทุกเรื่องมาจาก inner ล้วนๆ) คือ เรื่อง
- ความวอก ดูว่าทาแล้วสีผิวดูขาวลอยเว่อร์วังกว่าสีผิวจริงเยอะมั้ย
- ความมัน ดูว่าระหว่างวันจะมันเยิ้มเป็นไข่เจียวรึเปล่า อันนี้ขอทดสอบกับกระดาษซับมัน และทดสอบกับผิว
- ประสิทธิภาพในการกันน้ำ ดูว่าครีมกันน้ำดีรึเปล่า ละลายออกมามั้ย ทิ้งคราบมั้ย
และนี่คือ โฉมหน้าของผู้เข้าประกวดทั้ง 8 ค่าาาาา
ขอไล่ยี่ห้อจากซ้ายไปขวานาจา
1. Cancer Council Active Dry Touch Sunscreen SPF50 PA++++
2. Provamed Sun Face SPF50+ PA+++
3. Neutrogena Ultra Sheer Dry-Touch Sunscreen SPF50+ PA+++
4. Nivea Sun Protect & Moisture Face SPF50 PA++
5. Anessa Perfect UV Sunscreen SPF50+ PA++++
6. Biore UV Perfect Milk SPF50+ PA++++
7. MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++
8. Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF50+ PA+++
เริ่มที่การทดสอบความวอก เราได้ยืมมือของเพื่อนที่มีผิวสีเข้มมาทดสอบ จะได้เห็นกันชัดว่าวอกไม่วอก โดยเราใช้วิธีทาครีมกันแดดที่หลังฝ่ามือด้านหนึ่ง แล้วเทียบกับสีผิวของหลังฝ่ามือที่ไม่ได้ทา และผลที่ออกมา แอ่น แอน แอ๊น!
ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างหนืด ใช้เวลาเกลี่ยสักพักเหมือนกันกว่าครีมจะแห้ง แต่ทาเสร็จแล้วไม่วอกเลย แค่แอบดูมันๆ เงาๆ ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบแนวนี้ เพราะทำให้ดูหน้ามันย่องตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากบ้าน
ตอนยืมเพื่อนมา เราสนใจตัวนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นบนหลอดครีมกันแดดบอกว่าเป็น Non-Chemical Sunscreen คือเขาจะไม่ใช้สารกันแดดแบบเคมี หรือก็คือ Physical Sunscreen นั่นแหละ มันให้ความรู้สึกปลอดภัยกับหนังหน้าเราดีอะ แต่แอบเฟลเบาๆ ที่มีแต่ Titanium Dioxide ซึ่งกัน UVA1 ไม่ได้นะจ้ะ หลังทาแล้วก็แห้งเร็วอยู่ แต่วอกไปหน่อย สีผิวขาวเพิ่มขึ้นอีกระดับเลย แนะนำสำหรับคนที่อยากขาวแบบเร่งด่วนเป็นพิเศษค่ะ แต่พอดีไม่ใช่แนวเรา 55555
เนื้อครีมเกลี่ยง่ายใช้ได้ ทาเสร็จแล้วรู้สึกว่าสีใกล้เคียงกับสีผิวจริงดี ดูมันเงาแค่นิดหน่อย เราให้ผ่านค่ะ
หลังจากเกลี่ยครีมเสร็จแล้ว รู้สึกครีมแอบจับเป็นขุยนิดนุง คงเพราะเนื้อครีมหนืดมากด้วย แต่ที่พีค คือ แกร๊! มือแกลอยไปถึงดาวอังคารแล้วอะ 55555 มันแบบวอกไปอีกกกก
ตัวนี้ได้ยินกิตติศัพท์มานานนม ในที่สุดก็ได้ลอง เย้! พอเปิดฝามา ความรู้สึกแรกคือกลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างแรง ทาแล้วจะมีเมือกๆ มันๆ อยู่แป๊บนึง น่าจะเพราะส่วนผสมเป็นน้ำมันซิลิโคนเยอะมากเลยลื่นๆเคลือบผิว แต่ประทับใจที่ทาแล้วไม่วอกเลย สีของครีมกันแดดเนียนไปกับผิว ดีต่อใจจริงๆ ค่ะ
ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เนื้อครีมเป็นแบบน้ำนม อารมณ์เดียวกันกับ Anessa เปิดฝามามีกลิ่นแอลกอฮอล์ชัดมาก แต่ทาแล้วแห้งไวดี ติดอยู่นิสนึงตรงที่ทาเสร็จยังมีความวอกให้เห็นบ้าง แต่ไม่มาก เลยพอให้อภัยได้ ให้ผ่านค่ะ
ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เราสนใจ เพราะเป็น 100% Physical (Non-Chemical) Sunscreen ที่กัน UVA1 ได้ด้วย เนื้อครีมทาแล้วแอบหนึบนิดหน่อย แต่แห้งเร็วใช้ได้ หลังทาเสร็จวอกขึ้นเล็กน้อย อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สีครีมกันแดดเนียนไปกับสีผิวดีเลย เป็นอีกตัวที่เลิศมากค่ะ
ตัวนี้เนื้อครีมหนืดมากจนเรียกว่าข้นคลั่กเลย 55555 ใช้เวลาเกลี่ยสักพักใหญ่ เวลาทาเสร็จแล้วดูไม่วอก แต่จะดูมันๆ เงาๆ ซึ่งไม่ใช่ทางเราอีกเช่นเคย
หลังจากเทสต์เรื่องความวอกไป สรุปชอบอยู่ 4 ตัว คือ Neutrogena, Anessa, Biore และ MizuMi เพราะโดยรวมทาเสร็จแล้ว ผิวไม่ขาวโอเวอร์ ไม่ดูลอยเกินไป สีของครีมกันแดดมีความเนียนไปกับสีผิวจริงดี และไม่ได้ทำให้ผิวมีความเงามากจนดูเหมือนคนผิวมัน
มาต่อกันที่เรื่องถัดไป คือ การทดสอบความมัน เราใช้วิธีบีบครีมกันแดดลงบนกระดาษซับมัน โดยแต่ละตัวจะบีบเท่าเมล็ดถั่วเขียว นำไปตากแดด และเช็คดูความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ
มาเริ่มกันเลย!!
จะเห็นได้ว่าพอหยดครีมกันแดดลงไปปุ๊บ ตัวที่เป็นเนื้อครีมแบบเหลวจ๊อกๆ คือ Anessa และ Biore จะมีน้ำมันซึมออกมามากทันทีบนกระดาษซับมัน ที่แปลกคือ Provamed ที่เนื้อครีมเป็นเนื้อมูส ดูแห้งๆ กลับมีน้ำมันออกมาเยอะพอควรเลย
มาดูกันว่าพอเวลาผ่านไป ผลที่ออกมาจะเป็นยังไง…
ผ่านไป 5 นาที
ครีมกันแดดแต่ละตัวเริ่มมีส่วนที่เป็นน้ำมันซึมบนกระดาษมากขึ้น แต่ยังดูไม่ค่อยแตกต่างจากตอนเริ่มทดสอบเท่าไร
ผ่านไป 1/2 ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่าครีมกันแดดแต่ละตัวเริ่มมีความมันแผ่กว้างขึ้น มีแค่ Neutrogena และ Nivea ที่ความมันไม่แผ่ออกมาจากเดิม
และเมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่าครีมกันแดดหลายตัวมีความมันแผ่ออกมาเป็นวงกว้างมากจากก่อนหน้านี้ที่เวลาผ่านไป 1/2 ชั่วโมง โดยเฉพาะ Biore และ Cancer Council ถ้าสังเกตดีๆ เนื้อครีมของ Cancer Council จะเริ่มหายไปด้วย (เราไม่ได้เขี่ยออกนาจา 55555) ส่วน Nivea ยังคงไม่มีความมันแผ่ออกมา ในขณะที่ Neutrogena เริ่มมีความมันออกมาบ้างเล็กน้อย
ถ้าดูจากแค่นี้ เรามอบมงให้ Nivea และ Neutrogena ไปเลย คือแบบวางไว้ร่วมชั่วโมงยังแทบจะไม่มีความมันออกมาให้เห็นเลยค่ะ
และเพื่อให้แน่ใจมากขึ้นว่าครีมกันแดดตัวไหนทิ้งความมันบนผิวเยอะ (ประมาณว่ามันไม่ซึม ไม่แห้งสักที) เราเลยลองทดสอบบนผิวด้วย โดยใช้วิธีบีบครีมกันแดดขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ทาลงบนหลังฝ่ามือ ทิ้งไว้ซัก 15 วินาที แล้วเอากระดาษซับมันมาซับดู
ผลที่ได้ออกมาตามนี้เลย
แอบผิดจากที่คิดอยู่เล็กน้อย เพราะครีมกันแดดตัวที่บีบลงกระดาษซับมันแล้วไม่มีน้ำมันแผ่บนกระดาษซับมัน พอลองทดสอบกับผิวจริงก็มันอยู่พอสมควร ตัวที่ทดสอบบนผิวแล้วมีความมันเหลือน้อยแบบเห็นได้ชัด ก็มี MizuMi ส่วนตัวที่มีความมันค่อนข้างน้อยใกล้เคียงกันก็จะมี Provamed และ Neutrogena
สำหรับเรื่องความมันของครีมกันแดด ส่วนตัวเราชอบอยู่ 3 ตัว คือ MizuMi, Provamed และ Neutrogena เพราะลองบนผิวจริงและเทียบกับตัวอื่นๆ แล้ว ความมันระหว่างวันยังอยู่ในระดับที่รับได้อยู่ ทาแล้วหน้าไม่มันๆ เงาๆ ละลายเป็นไข่เจียว
สำหรับเรื่องสุดท้าย เราจะขอต่อกันในอีกเม้นท์ เอาแบบ Non-Stop จัดเต็ม ไม่ต้องปูเสื่อรอกันเลย 5555
[CR] รีวิวจัดเต็มฉบับ My Face (หน้าชั้นนน)!! กับการหาครีมกันแดดเวอร์ชั่นกันน้ำสุดเริ่ด งบไม่เกินพัน
เข้าเรื่องกัน (สักที) รีวิวครั้งนี้เราจะทดสอบ 3 เรื่องด้วยกัน (ทุกเรื่องมาจาก inner ล้วนๆ) คือ เรื่อง
- ความวอก ดูว่าทาแล้วสีผิวดูขาวลอยเว่อร์วังกว่าสีผิวจริงเยอะมั้ย
- ความมัน ดูว่าระหว่างวันจะมันเยิ้มเป็นไข่เจียวรึเปล่า อันนี้ขอทดสอบกับกระดาษซับมัน และทดสอบกับผิว
- ประสิทธิภาพในการกันน้ำ ดูว่าครีมกันน้ำดีรึเปล่า ละลายออกมามั้ย ทิ้งคราบมั้ย
และนี่คือ โฉมหน้าของผู้เข้าประกวดทั้ง 8 ค่าาาาา
ขอไล่ยี่ห้อจากซ้ายไปขวานาจา
1. Cancer Council Active Dry Touch Sunscreen SPF50 PA++++
2. Provamed Sun Face SPF50+ PA+++
3. Neutrogena Ultra Sheer Dry-Touch Sunscreen SPF50+ PA+++
4. Nivea Sun Protect & Moisture Face SPF50 PA++
5. Anessa Perfect UV Sunscreen SPF50+ PA++++
6. Biore UV Perfect Milk SPF50+ PA++++
7. MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++
8. Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF50+ PA+++
เริ่มที่การทดสอบความวอก เราได้ยืมมือของเพื่อนที่มีผิวสีเข้มมาทดสอบ จะได้เห็นกันชัดว่าวอกไม่วอก โดยเราใช้วิธีทาครีมกันแดดที่หลังฝ่ามือด้านหนึ่ง แล้วเทียบกับสีผิวของหลังฝ่ามือที่ไม่ได้ทา และผลที่ออกมา แอ่น แอน แอ๊น!
ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างหนืด ใช้เวลาเกลี่ยสักพักเหมือนกันกว่าครีมจะแห้ง แต่ทาเสร็จแล้วไม่วอกเลย แค่แอบดูมันๆ เงาๆ ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบแนวนี้ เพราะทำให้ดูหน้ามันย่องตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากบ้าน
ตอนยืมเพื่อนมา เราสนใจตัวนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นบนหลอดครีมกันแดดบอกว่าเป็น Non-Chemical Sunscreen คือเขาจะไม่ใช้สารกันแดดแบบเคมี หรือก็คือ Physical Sunscreen นั่นแหละ มันให้ความรู้สึกปลอดภัยกับหนังหน้าเราดีอะ แต่แอบเฟลเบาๆ ที่มีแต่ Titanium Dioxide ซึ่งกัน UVA1 ไม่ได้นะจ้ะ หลังทาแล้วก็แห้งเร็วอยู่ แต่วอกไปหน่อย สีผิวขาวเพิ่มขึ้นอีกระดับเลย แนะนำสำหรับคนที่อยากขาวแบบเร่งด่วนเป็นพิเศษค่ะ แต่พอดีไม่ใช่แนวเรา 55555
เนื้อครีมเกลี่ยง่ายใช้ได้ ทาเสร็จแล้วรู้สึกว่าสีใกล้เคียงกับสีผิวจริงดี ดูมันเงาแค่นิดหน่อย เราให้ผ่านค่ะ
หลังจากเกลี่ยครีมเสร็จแล้ว รู้สึกครีมแอบจับเป็นขุยนิดนุง คงเพราะเนื้อครีมหนืดมากด้วย แต่ที่พีค คือ แกร๊! มือแกลอยไปถึงดาวอังคารแล้วอะ 55555 มันแบบวอกไปอีกกกก
ตัวนี้ได้ยินกิตติศัพท์มานานนม ในที่สุดก็ได้ลอง เย้! พอเปิดฝามา ความรู้สึกแรกคือกลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างแรง ทาแล้วจะมีเมือกๆ มันๆ อยู่แป๊บนึง น่าจะเพราะส่วนผสมเป็นน้ำมันซิลิโคนเยอะมากเลยลื่นๆเคลือบผิว แต่ประทับใจที่ทาแล้วไม่วอกเลย สีของครีมกันแดดเนียนไปกับผิว ดีต่อใจจริงๆ ค่ะ
ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เนื้อครีมเป็นแบบน้ำนม อารมณ์เดียวกันกับ Anessa เปิดฝามามีกลิ่นแอลกอฮอล์ชัดมาก แต่ทาแล้วแห้งไวดี ติดอยู่นิสนึงตรงที่ทาเสร็จยังมีความวอกให้เห็นบ้าง แต่ไม่มาก เลยพอให้อภัยได้ ให้ผ่านค่ะ
ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เราสนใจ เพราะเป็น 100% Physical (Non-Chemical) Sunscreen ที่กัน UVA1 ได้ด้วย เนื้อครีมทาแล้วแอบหนึบนิดหน่อย แต่แห้งเร็วใช้ได้ หลังทาเสร็จวอกขึ้นเล็กน้อย อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สีครีมกันแดดเนียนไปกับสีผิวดีเลย เป็นอีกตัวที่เลิศมากค่ะ
ตัวนี้เนื้อครีมหนืดมากจนเรียกว่าข้นคลั่กเลย 55555 ใช้เวลาเกลี่ยสักพักใหญ่ เวลาทาเสร็จแล้วดูไม่วอก แต่จะดูมันๆ เงาๆ ซึ่งไม่ใช่ทางเราอีกเช่นเคย
หลังจากเทสต์เรื่องความวอกไป สรุปชอบอยู่ 4 ตัว คือ Neutrogena, Anessa, Biore และ MizuMi เพราะโดยรวมทาเสร็จแล้ว ผิวไม่ขาวโอเวอร์ ไม่ดูลอยเกินไป สีของครีมกันแดดมีความเนียนไปกับสีผิวจริงดี และไม่ได้ทำให้ผิวมีความเงามากจนดูเหมือนคนผิวมัน
มาต่อกันที่เรื่องถัดไป คือ การทดสอบความมัน เราใช้วิธีบีบครีมกันแดดลงบนกระดาษซับมัน โดยแต่ละตัวจะบีบเท่าเมล็ดถั่วเขียว นำไปตากแดด และเช็คดูความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ
มาเริ่มกันเลย!!
จะเห็นได้ว่าพอหยดครีมกันแดดลงไปปุ๊บ ตัวที่เป็นเนื้อครีมแบบเหลวจ๊อกๆ คือ Anessa และ Biore จะมีน้ำมันซึมออกมามากทันทีบนกระดาษซับมัน ที่แปลกคือ Provamed ที่เนื้อครีมเป็นเนื้อมูส ดูแห้งๆ กลับมีน้ำมันออกมาเยอะพอควรเลย
มาดูกันว่าพอเวลาผ่านไป ผลที่ออกมาจะเป็นยังไง…
ผ่านไป 5 นาที
ครีมกันแดดแต่ละตัวเริ่มมีส่วนที่เป็นน้ำมันซึมบนกระดาษมากขึ้น แต่ยังดูไม่ค่อยแตกต่างจากตอนเริ่มทดสอบเท่าไร
ผ่านไป 1/2 ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่าครีมกันแดดแต่ละตัวเริ่มมีความมันแผ่กว้างขึ้น มีแค่ Neutrogena และ Nivea ที่ความมันไม่แผ่ออกมาจากเดิม
และเมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่าครีมกันแดดหลายตัวมีความมันแผ่ออกมาเป็นวงกว้างมากจากก่อนหน้านี้ที่เวลาผ่านไป 1/2 ชั่วโมง โดยเฉพาะ Biore และ Cancer Council ถ้าสังเกตดีๆ เนื้อครีมของ Cancer Council จะเริ่มหายไปด้วย (เราไม่ได้เขี่ยออกนาจา 55555) ส่วน Nivea ยังคงไม่มีความมันแผ่ออกมา ในขณะที่ Neutrogena เริ่มมีความมันออกมาบ้างเล็กน้อย
ถ้าดูจากแค่นี้ เรามอบมงให้ Nivea และ Neutrogena ไปเลย คือแบบวางไว้ร่วมชั่วโมงยังแทบจะไม่มีความมันออกมาให้เห็นเลยค่ะ
และเพื่อให้แน่ใจมากขึ้นว่าครีมกันแดดตัวไหนทิ้งความมันบนผิวเยอะ (ประมาณว่ามันไม่ซึม ไม่แห้งสักที) เราเลยลองทดสอบบนผิวด้วย โดยใช้วิธีบีบครีมกันแดดขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ทาลงบนหลังฝ่ามือ ทิ้งไว้ซัก 15 วินาที แล้วเอากระดาษซับมันมาซับดู
ผลที่ได้ออกมาตามนี้เลย
แอบผิดจากที่คิดอยู่เล็กน้อย เพราะครีมกันแดดตัวที่บีบลงกระดาษซับมันแล้วไม่มีน้ำมันแผ่บนกระดาษซับมัน พอลองทดสอบกับผิวจริงก็มันอยู่พอสมควร ตัวที่ทดสอบบนผิวแล้วมีความมันเหลือน้อยแบบเห็นได้ชัด ก็มี MizuMi ส่วนตัวที่มีความมันค่อนข้างน้อยใกล้เคียงกันก็จะมี Provamed และ Neutrogena
สำหรับเรื่องความมันของครีมกันแดด ส่วนตัวเราชอบอยู่ 3 ตัว คือ MizuMi, Provamed และ Neutrogena เพราะลองบนผิวจริงและเทียบกับตัวอื่นๆ แล้ว ความมันระหว่างวันยังอยู่ในระดับที่รับได้อยู่ ทาแล้วหน้าไม่มันๆ เงาๆ ละลายเป็นไข่เจียว
สำหรับเรื่องสุดท้าย เราจะขอต่อกันในอีกเม้นท์ เอาแบบ Non-Stop จัดเต็ม ไม่ต้องปูเสื่อรอกันเลย 5555