แต่เอาเข้าจริงในปัจจุบัน เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีการแข่งขันสูง มีการพัฒนาและขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจมาก และที่สำคัญบริบทการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ มีความเปลี่ยนไปและเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ
ทว่า อัตลักษณ์ของเวียงพิงค์และแม่หญิงงามนั้น ยังคงอยู่
ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่คือวัฒนธรรมล้านนาที่ผสมผสานกับความทันสมัยกลายเป็น
“ล้านนาประยุกต์” หรือร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
ถ้าไม่เชื่อ ผมมีตัวอย่างครับ
เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้มีโอกาสต้อนรับโรงแรมน้องใหม่ใจกลางเมืองตรงสี่แยกรินคำ หัวมุมตัดถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านที่ได้ชื่อว่าฮิปที่สุดและฮิตที่สุดของเชียงใหม่
“ยู นิมมาน เชียงใหม่” (U Nimman Chiangmai) คือโรงแรมน้องใหม่ที่ว่า
แม้คนที่เคยผ่านไปมาในอดีตจะคุ้นตาว่านี่คือ
“โรงแรมรินคำ” แต่ถูกนำมาแต่งตัว แต่งหน้าเสียใหม่ ตกแต่งโรงแรมและห้องพักแบบร่วมสมัย จนไม่เหลือเค้าเดิม ดูมีความสดใส ร่วมสมัย ทว่า ไม่ลืมพื้นฐานวัฒนธรรมล้านนา กลับนำมาประยุกต์เข้ากับโรงแรมได้อย่างลงตัวครับ
ด้านหน้าโรงแรมคุณจะพบ
“ควายสามตัว” เล่นน้ำอยู่ในบ่อ เพื่อรอต้อนรับ ซึ่งหากขยับเข้ามาใกล้ คุณจะพบว่า มันถูกบรรจงสร้างขึ้นจากโลหะที่เป็นอักษรไทยเชื่อมต่อกัน บ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของสถานที่พักแห่งนี้แน่นอน
ส่วนประตูหลังจะถูกจัดวางด้วย
”กวาง” ยืนเชิดหน้าทำหน้าที่รอต้อนรับผู้มาเยือนเช่นกันครับ แน่นอนว่า กวางสีเงินก็ถูกสร้างจากโลหะอักษรไทย ปลายเขาของกวางประดับด้วยไฟระยิบระยับ ดูต้องมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนยิ่งนัก
ด้านในล็อบบี้ คุณจะพบการตกแต่งแบบร่วมสมัย มีการพิมพ์ลายผ้าแม่ แม่ญิง (ผู้หญิง) กับ ป้อจาย (ผู้ชาย) บนอักษรล้านนา เฟอร์นิเจอร์หลากดีไซน์ถูกจัดวางเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใกล้กันมีเล้าจน์ (The Lounge) สำหรับนั่งจิบเบาๆ ลดทอนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายนอกโรงแรมได้พอสมควรครับ
ถัดมาด้านในจะเป็นส่วนของห้องอาหาร EAT@รินคำ บริการอาหารเช้า กลางวันและมื้อค่ำที่นี่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม
“ซึ้งนึ่งข้าว” อันใหญ่ที่กลายสภาพมาเป็นเค้าน์เตอร์บาร์ กระซิบนิดนึงว่า เบเกอรี่ของที่นี่ ดีต่อใจมาก ไลน์อาหารเช้าก็โดดเด่น Eggs Benedict ขอบอกว่าห้ามพลาด เพราะที่นี่เค้ารสชาติไม่เหมือนใคร สูตรเด็ดของเชฟที่นี่เลยครับ
ในแต่ละวันจะมี Menu of the Day ที่เชฟบรรจงรังสรรความเป็นฟิวชั่นของอาหารอิตาเลี่ยนกับล้านนาเข้าไว้ด้วยกัน มันดีต่อใจมาก ณ จุดนี้
อันที่จริง อาหารเช้าของ U Nimman Chiangmai เราสามารถเลือกที่จะรับประทานเวลาใดก็ได้ ณ สถานที่ใดก็ได้ภายในโรงแรม (Breakfast whenever/wherever) ไม่ว่าจะเป็นที่ห้องพัก ริมสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร หรือในสวน แต่พอดีผมแอบงก แหะๆ เกิดติดใจในไลน์ขนมปังมื้อเช้า เลยต้องลงมาทานที่ห้องอาหารด้วยตัวเอง นัยว่าจะได้ทานให้เต็มที่ เต็มอารมณ์ อิอิ ขอย้ำอีกครั้งว่า ขนมปังที่นี่ดีงาม พระรามแปดจริงๆ ครับ
โรงแรม U Nimman Chiangmai มีห้องพักทั้งหมด 147 ห้อง แบ่งเป็น 5 Type ประกอบด้วยห้องแบบ Deluxe ขนาด 36 ตร.ม. มีด้วยกันทั้งหมด 84 ห้อง มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ห้อง Deluxe Balcony ขนาด 36 ตร.ม. มีทั้งหมด 45 ห้อง มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ห้อง Deluxe Corner มีด้วยกันทั้งหมด 6 ห้อง เป็นเตียงเดี่ยวทุกห้อง ขนาดห้อง 50 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Suite ขนาด 67 ตร.ม. มี 6 ห้อง แน่นอนว่าเป็นเตียงเดี่ยวทุกห้องครับ
และห้อง 2 Bedroom Suite ขนาด 134 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดครับ มีทั้งหมด 6 ห้อง มีทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ถ้าจะถามว่าภายในห้องพักผมชอบอะไรมากที่สุด เห็นจะเป็นหัวเตียงครับ บุด้วยผ้าซึ่งเป็นลายแบบล้านนาที่ออกแบบมาเพื่อยูนิมมานโดยเฉพาะ มีหลายสีแตกต่างกันไปในแต่ละห้อง ส่วนตัวมองว่าเป็นอะไรที่ดูใส่ใจในดีเทลมาก ไม่ละทิ้งความเป็นตัวตนคนเชียงใหม่ ในขณะเดียวกันก็รับเอาความร่วมสมัยเข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว
ภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ในตู้เย็นมีนมกล่องพร้อมน้ำดื่มให้ฟรี นอกจากนี้ยังมีบริการกาแฟแคปซูลด้วยนะครับ
อ่อ!! อีกอย่างที่ติดใจ ก็เห็นจะเป็นห้องสุขาโปร่งใสนี่แหละครับ ถ้าอยู่คนเดียวก็ดูเหมือนจะมีความเป็นส่วนตัว แบบว่า โลกทั้งโลก ห้องทั้งห้องเป็นของเรา
อ๊ะจึ๋ยยย
โดยภาพรวมแล้ว
“U Nimman Chiangmai” ถือเป็นโรงแรมที่
“ดีต่อใจ” มากเลยทีเดียว รู้สึกอบอุ่น อารมณ์เหมือนกลับไปนอนบ้านตัวเอง
ส่วนเรื่องที่เป็น Signature ของโรงแรมในเครือ U ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สบู่หอมๆ ที่เลือกกลิ่นได้ (ผมชอบชาโคล กลิ่นไม้ไผ่) นอกจากนี้ หมอน ก็เลือกได้ ชาถ้วยโปรดคุณก็เลือกได้ และที่เด็ดสุดรายการเพลงโปรด (ช่องโปรแกรมในโทรทัศน์) ที่คุณชื่นชอบ คุณก็เลือกได้ เพียงกรอกให้ข้อมูลแก่โรงแรมเมื่อทำการจองห้องพักออนไลน์ หรือแจ้งกับทางพนักงานเมื่อเข้าพักครับ
นอกจากนี้ โรงแรมยังมี Wi Fi ให้ใช้ฟรีตลอดเวลา ส่วนใครที่ชื่นชอบในการติดต่อสื่อสารผ่าน Social Media ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านโทรทัศน์ในห้องพักได้ ผมยังดู The Face ผ่าน Youtube เลย เด็ดป่ะละ!!
ส่วนที่ขาดไม่ได้ในการมาพักที่แหล่งชิคๆ ของฮิปสเตอร์อย่างเราก็เห็นจะเป็นมีบริการจักรยานให้ยืมไปปั่นเล่นแถวถนนนิมมานฯ ฟรี เลอค่ามากๆ ณ จุดนี้
ถ้าปั่นจักรยานแล้วยังคิดว่า ออกกำลังกายไม่จุใจ เชิญไปใช้บริการฟิตเนสได้ครับ อยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ฟิตเนสที่นี่ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ส่วนบริการ
24 hour use of room เช็คอินเวลาไหน เช็คเอ้าท์ได้เวลานั้น อยู่กัน 24 ชั่วโมงไปเลย อันนี้แน่นอนว่าต้องมี และถือว่าคงเส้นคงวา ตามมาตรฐานของโรงแรมเครือ U เค้าอยู่แล้วครับ
แอบบอกว่าผมเช็คอินตอนเย็น เช็คเอ้าท์ก็เย็น เรียกได้ว่า
“พักคุ้ม” กันเลยทีเดียว
แถมยังได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่
คุณหนุ่ย สัจจพันธ์ุ GM ของทางโรงแรมเรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกท่าน เอาใจใส่ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น ผมลงมาข้างล่างทีไร เป็นต้องสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการให้บริการจากเจ้าหน้าที่ทุกท่าน บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ
ในฐานะคนทำงานบริการเหมือนกันต้องขอยกนิ้วให้เลยครับ เพราะ
หัวใจของคนทำงานบริการ ก็คือ สิ่งที่ทำออกมาด้วยหัวจิตหัวใจของผู้ให้บริการไปสู่ผู้รับบริการ นั่นก็คือลูกค้านั่นเอง
แต่สำหรับผมแล้ว ผมมองเจ้าหน้าที่ของ
U Nimman Chiangmai ว่าไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการ แต่เขาและเธอเหล่านั้นเป็นมากกว่า ...
“เราเป็นคนบ้านเดียวกันครับ”
สอบถามและห้องพักโทร
052-005-111 หรือที่ www.unimmanchiangmai.com
...... #ชอบกดไลค์ #ใช่กดแชร์
"กานต์เดินทาง" สนับสนุนให้ทุกคนออกเดินทาง ติดตามข่าวสาร ข้อมูล รีวิว รูปภาพได้ที่
Facebook >>
https://www.facebook.com/kantjourney
Twitter>>
https://twitter.com/kantjourney
Instagram>>
https://www.instagram.com/kant_journey
LINE ID>> @Kant_Journey
Website >>
https://www.KantJourney.com
[SR] ดีต่อใจ ... ไปนอน U NIMMAN CHIANGMAI
เมื่อเอ่ยถึงเวียงพิงค์ หรือเมืองเชียงใหม่ ภาพจำในอดีตของใครหลายคนคือความอ่อนช้อย งดงาม เป็นเมืองช้าๆ เหมาะกับการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์
แต่เอาเข้าจริงในปัจจุบัน เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีการแข่งขันสูง มีการพัฒนาและขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจมาก และที่สำคัญบริบทการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ มีความเปลี่ยนไปและเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ
ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่คือวัฒนธรรมล้านนาที่ผสมผสานกับความทันสมัยกลายเป็น “ล้านนาประยุกต์” หรือร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้มีโอกาสต้อนรับโรงแรมน้องใหม่ใจกลางเมืองตรงสี่แยกรินคำ หัวมุมตัดถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านที่ได้ชื่อว่าฮิปที่สุดและฮิตที่สุดของเชียงใหม่
“ยู นิมมาน เชียงใหม่” (U Nimman Chiangmai) คือโรงแรมน้องใหม่ที่ว่า
แม้คนที่เคยผ่านไปมาในอดีตจะคุ้นตาว่านี่คือ “โรงแรมรินคำ” แต่ถูกนำมาแต่งตัว แต่งหน้าเสียใหม่ ตกแต่งโรงแรมและห้องพักแบบร่วมสมัย จนไม่เหลือเค้าเดิม ดูมีความสดใส ร่วมสมัย ทว่า ไม่ลืมพื้นฐานวัฒนธรรมล้านนา กลับนำมาประยุกต์เข้ากับโรงแรมได้อย่างลงตัวครับ
ด้านหน้าโรงแรมคุณจะพบ “ควายสามตัว” เล่นน้ำอยู่ในบ่อ เพื่อรอต้อนรับ ซึ่งหากขยับเข้ามาใกล้ คุณจะพบว่า มันถูกบรรจงสร้างขึ้นจากโลหะที่เป็นอักษรไทยเชื่อมต่อกัน บ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของสถานที่พักแห่งนี้แน่นอน
ส่วนประตูหลังจะถูกจัดวางด้วย ”กวาง” ยืนเชิดหน้าทำหน้าที่รอต้อนรับผู้มาเยือนเช่นกันครับ แน่นอนว่า กวางสีเงินก็ถูกสร้างจากโลหะอักษรไทย ปลายเขาของกวางประดับด้วยไฟระยิบระยับ ดูต้องมนต์เสน่ห์ยามค่ำคืนยิ่งนัก
ด้านในล็อบบี้ คุณจะพบการตกแต่งแบบร่วมสมัย มีการพิมพ์ลายผ้าแม่ แม่ญิง (ผู้หญิง) กับ ป้อจาย (ผู้ชาย) บนอักษรล้านนา เฟอร์นิเจอร์หลากดีไซน์ถูกจัดวางเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใกล้กันมีเล้าจน์ (The Lounge) สำหรับนั่งจิบเบาๆ ลดทอนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายนอกโรงแรมได้พอสมควรครับ
ถัดมาด้านในจะเป็นส่วนของห้องอาหาร EAT@รินคำ บริการอาหารเช้า กลางวันและมื้อค่ำที่นี่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม “ซึ้งนึ่งข้าว” อันใหญ่ที่กลายสภาพมาเป็นเค้าน์เตอร์บาร์ กระซิบนิดนึงว่า เบเกอรี่ของที่นี่ ดีต่อใจมาก ไลน์อาหารเช้าก็โดดเด่น Eggs Benedict ขอบอกว่าห้ามพลาด เพราะที่นี่เค้ารสชาติไม่เหมือนใคร สูตรเด็ดของเชฟที่นี่เลยครับ
ในแต่ละวันจะมี Menu of the Day ที่เชฟบรรจงรังสรรความเป็นฟิวชั่นของอาหารอิตาเลี่ยนกับล้านนาเข้าไว้ด้วยกัน มันดีต่อใจมาก ณ จุดนี้
อันที่จริง อาหารเช้าของ U Nimman Chiangmai เราสามารถเลือกที่จะรับประทานเวลาใดก็ได้ ณ สถานที่ใดก็ได้ภายในโรงแรม (Breakfast whenever/wherever) ไม่ว่าจะเป็นที่ห้องพัก ริมสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร หรือในสวน แต่พอดีผมแอบงก แหะๆ เกิดติดใจในไลน์ขนมปังมื้อเช้า เลยต้องลงมาทานที่ห้องอาหารด้วยตัวเอง นัยว่าจะได้ทานให้เต็มที่ เต็มอารมณ์ อิอิ ขอย้ำอีกครั้งว่า ขนมปังที่นี่ดีงาม พระรามแปดจริงๆ ครับ
โรงแรม U Nimman Chiangmai มีห้องพักทั้งหมด 147 ห้อง แบ่งเป็น 5 Type ประกอบด้วยห้องแบบ Deluxe ขนาด 36 ตร.ม. มีด้วยกันทั้งหมด 84 ห้อง มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ห้อง Deluxe Balcony ขนาด 36 ตร.ม. มีทั้งหมด 45 ห้อง มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ห้อง Deluxe Corner มีด้วยกันทั้งหมด 6 ห้อง เป็นเตียงเดี่ยวทุกห้อง ขนาดห้อง 50 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Suite ขนาด 67 ตร.ม. มี 6 ห้อง แน่นอนว่าเป็นเตียงเดี่ยวทุกห้องครับ
และห้อง 2 Bedroom Suite ขนาด 134 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดครับ มีทั้งหมด 6 ห้อง มีทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่
ถ้าจะถามว่าภายในห้องพักผมชอบอะไรมากที่สุด เห็นจะเป็นหัวเตียงครับ บุด้วยผ้าซึ่งเป็นลายแบบล้านนาที่ออกแบบมาเพื่อยูนิมมานโดยเฉพาะ มีหลายสีแตกต่างกันไปในแต่ละห้อง ส่วนตัวมองว่าเป็นอะไรที่ดูใส่ใจในดีเทลมาก ไม่ละทิ้งความเป็นตัวตนคนเชียงใหม่ ในขณะเดียวกันก็รับเอาความร่วมสมัยเข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว
ภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ในตู้เย็นมีนมกล่องพร้อมน้ำดื่มให้ฟรี นอกจากนี้ยังมีบริการกาแฟแคปซูลด้วยนะครับ
อ่อ!! อีกอย่างที่ติดใจ ก็เห็นจะเป็นห้องสุขาโปร่งใสนี่แหละครับ ถ้าอยู่คนเดียวก็ดูเหมือนจะมีความเป็นส่วนตัว แบบว่า โลกทั้งโลก ห้องทั้งห้องเป็นของเรา อ๊ะจึ๋ยยย
โดยภาพรวมแล้ว “U Nimman Chiangmai” ถือเป็นโรงแรมที่ “ดีต่อใจ” มากเลยทีเดียว รู้สึกอบอุ่น อารมณ์เหมือนกลับไปนอนบ้านตัวเอง
ส่วนเรื่องที่เป็น Signature ของโรงแรมในเครือ U ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สบู่หอมๆ ที่เลือกกลิ่นได้ (ผมชอบชาโคล กลิ่นไม้ไผ่) นอกจากนี้ หมอน ก็เลือกได้ ชาถ้วยโปรดคุณก็เลือกได้ และที่เด็ดสุดรายการเพลงโปรด (ช่องโปรแกรมในโทรทัศน์) ที่คุณชื่นชอบ คุณก็เลือกได้ เพียงกรอกให้ข้อมูลแก่โรงแรมเมื่อทำการจองห้องพักออนไลน์ หรือแจ้งกับทางพนักงานเมื่อเข้าพักครับ
นอกจากนี้ โรงแรมยังมี Wi Fi ให้ใช้ฟรีตลอดเวลา ส่วนใครที่ชื่นชอบในการติดต่อสื่อสารผ่าน Social Media ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านโทรทัศน์ในห้องพักได้ ผมยังดู The Face ผ่าน Youtube เลย เด็ดป่ะละ!!
ส่วนที่ขาดไม่ได้ในการมาพักที่แหล่งชิคๆ ของฮิปสเตอร์อย่างเราก็เห็นจะเป็นมีบริการจักรยานให้ยืมไปปั่นเล่นแถวถนนนิมมานฯ ฟรี เลอค่ามากๆ ณ จุดนี้
ถ้าปั่นจักรยานแล้วยังคิดว่า ออกกำลังกายไม่จุใจ เชิญไปใช้บริการฟิตเนสได้ครับ อยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ฟิตเนสที่นี่ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ส่วนบริการ 24 hour use of room เช็คอินเวลาไหน เช็คเอ้าท์ได้เวลานั้น อยู่กัน 24 ชั่วโมงไปเลย อันนี้แน่นอนว่าต้องมี และถือว่าคงเส้นคงวา ตามมาตรฐานของโรงแรมเครือ U เค้าอยู่แล้วครับ
แอบบอกว่าผมเช็คอินตอนเย็น เช็คเอ้าท์ก็เย็น เรียกได้ว่า “พักคุ้ม” กันเลยทีเดียว
แถมยังได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่คุณหนุ่ย สัจจพันธ์ุ GM ของทางโรงแรมเรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกท่าน เอาใจใส่ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น ผมลงมาข้างล่างทีไร เป็นต้องสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการให้บริการจากเจ้าหน้าที่ทุกท่าน บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ
ในฐานะคนทำงานบริการเหมือนกันต้องขอยกนิ้วให้เลยครับ เพราะหัวใจของคนทำงานบริการ ก็คือ สิ่งที่ทำออกมาด้วยหัวจิตหัวใจของผู้ให้บริการไปสู่ผู้รับบริการ นั่นก็คือลูกค้านั่นเอง
แต่สำหรับผมแล้ว ผมมองเจ้าหน้าที่ของ U Nimman Chiangmai ว่าไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการ แต่เขาและเธอเหล่านั้นเป็นมากกว่า ...
“เราเป็นคนบ้านเดียวกันครับ”
สอบถามและห้องพักโทร 052-005-111 หรือที่ www.unimmanchiangmai.com
...... #ชอบกดไลค์ #ใช่กดแชร์ "กานต์เดินทาง" สนับสนุนให้ทุกคนออกเดินทาง ติดตามข่าวสาร ข้อมูล รีวิว รูปภาพได้ที่
Facebook >> https://www.facebook.com/kantjourney
Twitter>> https://twitter.com/kantjourney
Instagram>> https://www.instagram.com/kant_journey
LINE ID>> @Kant_Journey
Website >> https://www.KantJourney.com
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น