สวัสดีครับ ผมเป็นนักศึกษา ป.โท (นักศึกษาทุน) ผมมีแฟนคนหนึ่งซึ่งเธอทำงานเเล้วได้ 10 เดือน เงินเดือนรวมโอทีเดือนละประมาณ 30,000 บาท
เธอเป็นหนี้รถ 700,000 (ซื้อรถตั้งเเต่เดือนแรกที่ทำงาน) ต้องส่งรถเดือนละ 10,000 บาท
หนี้บัตรเครดิตอีก 100,000 บาท (บัตรกดเงินสด 50,000 บัตรผ่อนของอีก 50,000 เธอเอาเงินตรงนี้ไปดาวน์รถ)
ต้องส่งอีกเดือนละประมาณเดือนละประมาณ 6,500 บาท รวมหนี้ที่ต้องส่งรายเดือน เดือนละ 16,500 บาท
      
      ก่อนเธอจะซื้อรถผมได้ทำการคัดค้านเธอ และเสนอให้เธอทำงานเก็บเงินให้ได้ค่าดาวน์รถ 100,000 บาท (ผมคิดว่าเก็บ 10 เดือน เดือนละ 10,000 บาทก็คงไหว) แล้วจึงไปไปดาวน์รถออกมา แบบนี้เธอจะเหลือเพียงหนี้รถอย่างเดียวที่ต้องจ่ายเดือนละ 10,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ 20,000 บาทก็คงบริหารจัดการและเหลือเก็บได้สบายๆ แต่เธอไม่เห็นด้วยกับผมโดยให้เหตุผลว่าเธอต้องใช้รถขับไปทำงานตอนกะดึก (เธอทำงานเป็นกะ) ผมก็ไม่ได้คัดค้านอะไรต่อเพราะเป็นเงินของเธอเเละคิดว่าส่งไหวไม่เดือดร้อนอะไรมาก แต่คงมีเงินเหลือเก็บยาก
      
      เมื่อเธอไปดาวน์รถออกมาเดือนแรกๆก็ไม่มีปัญหาเงินเธอยังพอใช้เดือนชนเดือน แต่แล้วเธอก็มาบอกกับผมว่าแม่เธอเป็นหนี้นอกระบบอยู่ 300,000 บาท ซึ่งหนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่กู้ส่งเธอเรียนจนจบปริญญาตรี ซึ่งเธอก็เพิ่งรู้ว่าแม่เธอเป็นหนี้เหมือนกัน แม่เธอขอให้เธอช่วยส่งเงินให้เดือนละ 5,000 บาทเพื่อนำไปจ่ายค่าดอกเบี้ยซึ่งไม่รู้ดอกบานไปเท่าไรแล้ว ตอนนี้เธอเลยมีหนี้ที่ต้องจ่ายรวมเดือนละ 21,500 บาท เลยทำให้เงินเดือนที่เหลือประมาณ 8,500 บาทไม่พอใช้ จึงต้องมายืมเงินผมใช้ทุกเดือนจนทำให้ไม่มีเงินเก็บทั้งคู่ (ผมพอมีรายจากการเป็นผู้ช่วยสอน เเละผู้ช่วยวิจัยอยู่บ้าง) มันน่าเจ็บใจก็ตรงที่แม่เธอสนับสนุนให้เธอกดบัตรเพื่อนำเงินไปดาวน์รถแล้วจึงมาบอกว่าตัวเองเป็นหนี้

      อยากได้คำแนะนำครับ
1.เป็นห่วงเรื่องอนาคตของเรามาก ผมรักเธออย่างสร้างครอบครัวกับเธอแต่เธอต้องใช้ทั้งหนี้ตัวเองและหนี้แม่เธอแบบนี้จะได้พร้อมเมื่อไร ผมเองก็เรียนอยู่ด้วยต้องใช้เงินอีกเยอะ
2.ผมกลัวว่าหมดหนี้ทั้งหมดนี้เเล้วจะมีหนี้ก้อนใหม่มาเพิ่มอีก (ทั้งหนี้ที่เธอก่อ และหนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ)
3.เริ่มไม่ชอบแม่แฟนซะเเล้ว ควรทำอย่างไรดี