เรื่องราวอาจจะเล็กๆน้อย แต่สำหรับฉันมันไม่น้อยเลย
ดิฉันอายุ40ปี เรื่องที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักของพ่อกับแม่เราค่ะ ท่านทั้งสองรักกันมาก แต่สุดท้ายท่านทั้งสองก็ต้องหย่ากันเพราะความเสียสละของแม่
ปัจจุบันแม่ดิฉันอายุ60ปี ส่วนพ่อดิฉันอายุ61ปี ย้อนไปเมื่อ45ปีที่แล้ว
ช่วงนั้นแม่ฉันอายุได้สัก15ปีเรียนอยู่ชั้นม.4 ลักษณะนิสัยของแม่ฉันเป็นคนเรียบร้อย ใสใส พ่อของฉันเรียนอยู่ม.4เช่นเดียวกันแต่คนละห้อง ซึ่งได้แอบชอบแม่มานาน เวลาพักเที่ยงก็จะมาร้องจีบแม่ในห้องเรียนเสมอ ทำแบบนี้เป็นประจำจนแม่รำคาญจึงยอมคบหาดูใจกัน ทางบ้านทั้ง2ฝ่ายก็รู้กัน ครอบครัวทั้ง2ฝ่ายต่างรักและเอ็นดูพ่อและแม่มาก พอท่านทั้ง2เรียนจบม.6 ทางผู้ใหญ่จึงอนุญาติให้แต่งงานกัน อยู่กินกันมานานแม่ฉันก็ท้องฉันตอนนั้นอายุ20ปีพอดี แม่บอกว่าแม่ท้องฉันตรงกับวันที่1 ม.ค.เป็นของขวัญวันปีใหม่พอดีเลย เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อฉัน "ปีใหม่"
พ่อกับแม่เลี้ยงดูฉันเองโดยที่ไม่จ้างใครเลี้ยงเลย ท่านทั้งสองช่วยเหลือกันมาตลอด พอมีน้องอีกคนท่านก็เลี้ยงเองตลอด
ตอนนั้นปี2545 วันนั้นเป็นวันที่พ่อกับแม่หย่ากันทั้งๆที่รักกันอยู่ สาเหตุเพราะพ่อดิฉันทำผู้หญิงท้อง แม่ดิฉันเลยเสียสละเลยขอหย่ากับพ่อเพื่อจะให้พ่อไปจดทะเบียนสมรสกับภรรยาใหม่ เพื่อให้เด็กในท้องเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย เซ็นใบหย่าเสร็จปุ๊บ แม่กลับมาเก็บของที่บ้าน พ่อกับแม่สนทนากันว่า
พ่อ:คุณ ไม่ไปไม่ได้หรอ
แม่:หยกตัดสินดีแล้วค่ะ หยกจะกลับไปดูแลแม่ค่ะ
พ่อ:ผมหาผู้หญิงที่ดีแบบคุณไม่ได้อีกแล้ว ผมทำตัวเอง ผมก็ต้องยอมรับ
แม่
ร้องไห้) คุณคะ หยกขอกอดคุณเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย
พอกอดกันเสร็จ พ่อก็ไปส่งแม่ที่สนามบินไปเชียงใหม่ ซึ่งเราอยู่กับพ่อ น้องไปกับแม่ พอผ่านไปเกือบ10ปี เราได้ติดต่อกับน้องทางfacebookตอนนั้นกำลังฮิตมาก
น้องบอกว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม่อยากเจอเรา
ฉันเลยตัดสินใจไปบอกพ่อ พอพ่อรู้พ่อก็ตกใจ วันนั้นเลยไปเชียงใหม่กันทันที พอไปถึงห้องแม่เราเห็นแม่จากที่แม่สวยๆ ตอนนี้แม่ไม่เหลือเค้าสวยเลย ผมจากดำเป็นขาว น้องบอกว่าจากที่แม่มาอยู่เชียงใหม่ แม่ตรอมใจจนป่วยหนัก
พอเเม่เห็นหน้าพ่อเท่านั้นแหละ แม่ร้องไห้เลย ในปากก็พึมพำเรียกพ่อ
ญาติพี่น้องก็มากันเต็มไปหมดมายืนล้อมเตียงหวังจะมาดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย เพราะแม่ได้บอกกับหมอว่าแม่ไม่ไหวเเล้ว มันเจ็บ มันปวด มันทรมาน หมอเลยถอดเครื่องมือทางการแพทย์ออกหมดทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้ว่าอีก26นาทีต่อไปนี้ เรากำลังตะเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แม่บอกให้เราปรับเตียงให้สูงขึ้น แม่ได้สนทนากับพ่อว่า
แม่:ไม่นึกเลยนะคะ ว่าจะเจอกันอีก(แม่พูดแบบเสียงแหบ ไม่มีแรง)
พ่อ:ใช่ (น้ำตาไหล)
***แม่เกี่ยวก้อยกับพ่อแล้วบอกว่า
แม่:ขอทำแบบนี้เหมือนวันแรกที่เรารักกันได้ไหมคะ
พ่อ:พยักหน้า(ร้องไห้)
พ่อกับแม่คุยได้สักพัก ฉันสังเกตเห็นว่าแม่เริ่มเหนื่อย ปากซีด ตัวเหลือง
ฉันเลยบอกให้แม่นอนพักก่อน แต่แม่ไม่ยอมนอนแถมยังบอกว่า "มันเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่ต้องทำ" ฉันเลยตามใจท่าน สักพักแม่บอกว่าพ่อว่าไม่ไหวแล้ว น้องฉันกำลังวิ่งไปตามพยาบาลแต่แม่ร้องห้าม บอกว่า แม่เจ็บ ไม่ต้องยื้อแม่แล้ว พ่อเลยมาโอบกอดแม่ไว้อยู่นานจนสุดท้ายแม่ก็เสียในอ้อมกอดพ่อที่ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับคนที่กำลังนอนหลับฝันดี
ทุกคนต่างพากันร้องไห้เสียใจในการจากไปของแม่ ถึงแม่จะจากไป แต่ความรักและเสียสละของแม่ ไม่เคยจางหายไปจากใจของพ่อและฉันกับน้องได้เลย
เป็นเรื่องราวที่ได้ฟังจากปากพ่อและได้เห็นกับตาของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแต่งนะคะ
ความรักของพ่อกับแม่ หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ สำหรับฉัน
ดิฉันอายุ40ปี เรื่องที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักของพ่อกับแม่เราค่ะ ท่านทั้งสองรักกันมาก แต่สุดท้ายท่านทั้งสองก็ต้องหย่ากันเพราะความเสียสละของแม่
ปัจจุบันแม่ดิฉันอายุ60ปี ส่วนพ่อดิฉันอายุ61ปี ย้อนไปเมื่อ45ปีที่แล้ว
ช่วงนั้นแม่ฉันอายุได้สัก15ปีเรียนอยู่ชั้นม.4 ลักษณะนิสัยของแม่ฉันเป็นคนเรียบร้อย ใสใส พ่อของฉันเรียนอยู่ม.4เช่นเดียวกันแต่คนละห้อง ซึ่งได้แอบชอบแม่มานาน เวลาพักเที่ยงก็จะมาร้องจีบแม่ในห้องเรียนเสมอ ทำแบบนี้เป็นประจำจนแม่รำคาญจึงยอมคบหาดูใจกัน ทางบ้านทั้ง2ฝ่ายก็รู้กัน ครอบครัวทั้ง2ฝ่ายต่างรักและเอ็นดูพ่อและแม่มาก พอท่านทั้ง2เรียนจบม.6 ทางผู้ใหญ่จึงอนุญาติให้แต่งงานกัน อยู่กินกันมานานแม่ฉันก็ท้องฉันตอนนั้นอายุ20ปีพอดี แม่บอกว่าแม่ท้องฉันตรงกับวันที่1 ม.ค.เป็นของขวัญวันปีใหม่พอดีเลย เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อฉัน "ปีใหม่"
พ่อกับแม่เลี้ยงดูฉันเองโดยที่ไม่จ้างใครเลี้ยงเลย ท่านทั้งสองช่วยเหลือกันมาตลอด พอมีน้องอีกคนท่านก็เลี้ยงเองตลอด
ตอนนั้นปี2545 วันนั้นเป็นวันที่พ่อกับแม่หย่ากันทั้งๆที่รักกันอยู่ สาเหตุเพราะพ่อดิฉันทำผู้หญิงท้อง แม่ดิฉันเลยเสียสละเลยขอหย่ากับพ่อเพื่อจะให้พ่อไปจดทะเบียนสมรสกับภรรยาใหม่ เพื่อให้เด็กในท้องเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย เซ็นใบหย่าเสร็จปุ๊บ แม่กลับมาเก็บของที่บ้าน พ่อกับแม่สนทนากันว่า
พ่อ:คุณ ไม่ไปไม่ได้หรอ
แม่:หยกตัดสินดีแล้วค่ะ หยกจะกลับไปดูแลแม่ค่ะ
พ่อ:ผมหาผู้หญิงที่ดีแบบคุณไม่ได้อีกแล้ว ผมทำตัวเอง ผมก็ต้องยอมรับ
แม่ร้องไห้) คุณคะ หยกขอกอดคุณเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย
พอกอดกันเสร็จ พ่อก็ไปส่งแม่ที่สนามบินไปเชียงใหม่ ซึ่งเราอยู่กับพ่อ น้องไปกับแม่ พอผ่านไปเกือบ10ปี เราได้ติดต่อกับน้องทางfacebookตอนนั้นกำลังฮิตมาก
น้องบอกว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม่อยากเจอเรา
ฉันเลยตัดสินใจไปบอกพ่อ พอพ่อรู้พ่อก็ตกใจ วันนั้นเลยไปเชียงใหม่กันทันที พอไปถึงห้องแม่เราเห็นแม่จากที่แม่สวยๆ ตอนนี้แม่ไม่เหลือเค้าสวยเลย ผมจากดำเป็นขาว น้องบอกว่าจากที่แม่มาอยู่เชียงใหม่ แม่ตรอมใจจนป่วยหนัก
พอเเม่เห็นหน้าพ่อเท่านั้นแหละ แม่ร้องไห้เลย ในปากก็พึมพำเรียกพ่อ
ญาติพี่น้องก็มากันเต็มไปหมดมายืนล้อมเตียงหวังจะมาดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย เพราะแม่ได้บอกกับหมอว่าแม่ไม่ไหวเเล้ว มันเจ็บ มันปวด มันทรมาน หมอเลยถอดเครื่องมือทางการแพทย์ออกหมดทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้ว่าอีก26นาทีต่อไปนี้ เรากำลังตะเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แม่บอกให้เราปรับเตียงให้สูงขึ้น แม่ได้สนทนากับพ่อว่า
แม่:ไม่นึกเลยนะคะ ว่าจะเจอกันอีก(แม่พูดแบบเสียงแหบ ไม่มีแรง)
พ่อ:ใช่ (น้ำตาไหล)
***แม่เกี่ยวก้อยกับพ่อแล้วบอกว่า
แม่:ขอทำแบบนี้เหมือนวันแรกที่เรารักกันได้ไหมคะ
พ่อ:พยักหน้า(ร้องไห้)
พ่อกับแม่คุยได้สักพัก ฉันสังเกตเห็นว่าแม่เริ่มเหนื่อย ปากซีด ตัวเหลือง
ฉันเลยบอกให้แม่นอนพักก่อน แต่แม่ไม่ยอมนอนแถมยังบอกว่า "มันเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่ต้องทำ" ฉันเลยตามใจท่าน สักพักแม่บอกว่าพ่อว่าไม่ไหวแล้ว น้องฉันกำลังวิ่งไปตามพยาบาลแต่แม่ร้องห้าม บอกว่า แม่เจ็บ ไม่ต้องยื้อแม่แล้ว พ่อเลยมาโอบกอดแม่ไว้อยู่นานจนสุดท้ายแม่ก็เสียในอ้อมกอดพ่อที่ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับคนที่กำลังนอนหลับฝันดี
ทุกคนต่างพากันร้องไห้เสียใจในการจากไปของแม่ ถึงแม่จะจากไป แต่ความรักและเสียสละของแม่ ไม่เคยจางหายไปจากใจของพ่อและฉันกับน้องได้เลย
เป็นเรื่องราวที่ได้ฟังจากปากพ่อและได้เห็นกับตาของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแต่งนะคะ