เหตุเกิดกับตัวเองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เองครับ เลยได้ลองใช้บริการ 191 เห็นหลายคนมักจะบ่นการทำงานของคุณตำรวจ แต่ครั้งนี้ผมพอใจและขอบคุณคุณตำรวจมากครับ
บริเวณจุดเกิดเหตุครับอยู่เลยวัดอรุณฯ มาเล็กน้อย ระหว่างที่ผมจอดรอให้รถฝั่งตรงข้ามยูเทิร์นก็โดนคู่กรณีเฉี่ยวด้านหลังซ้ายไปทั้งแถบ (บังโคลนหลัง ประตูหลัง และมือจับประตู) ตอนโดนชนก็หันไปมองเห็นคนขับเป็นผู้ชาย เค้าเห็นแน่ๆว่าเฉี่ยวเพราะแผลยาวและเสียงค่อนข้างดังแต่พยายามขับหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีจะจอดมาดู
ตอนแรกผมก็คิดว่าจะไปแจ้งความว่าโดนชนแล้วหนี แต่ผมดันจำทะเบียนรถคู่กรณีไม่ได้ (มาลองเปิดดูกล้องทีหลังก็ดูไม่ออกเพราะย้อนแสง) แถมเป็นการชนด้านข้างกล้องหน้ารถจับภาพตอนชนไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าขับตามไปดูทะเบียนดีกว่า คู่กรณีขับหนีค่อนข้างเร็วในรูปนี่คือกำลังขึ้นสะพานพระปกเกล้า ระหว่างขับตามผมก็บีบแตรเป็นระยะๆเพื่อให้เค้ารู้ว่าเราตามมาแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
ตอนขับตามเป็นเช้าวันศุกร์สิ้นเดือน รถก็ค่อนข้างเยอะ ตรงจุดนี้คือแยกสามยอด (สะพานเหล็กเดิม) จังหวะรถติดไฟแดงผมเลยเดินลงไปเคาะกระจกเพื่อให้เค้ารู้ว่าเราต้องการให้เค้าจอดเพื่อรับผิดชอบ แต่คู่กรณีไม่สนใจครับ ไม่ลงกระจกและไม่ตอบสนองใดๆ จังหวะนี้ผมเลยได้เห็นว่าในรถมีคนขับที่เป็นผู้ชาย 1 คน หญิงสาวนั่งข้าง 1 คน และหมา 1 ตัว (น่าจะชิสุมั้ง)
หลังจากนั้นคนขับก็ยังคงขับหนีไปเรื่อยๆ ซิ่งบ้างปาดบ้างเป็นช่วงๆ เมื่อมั่นใจว่าเค้ารับรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุและตั้งใจหนีชัวร์แล้ว ผมเลยตัดสินใจที่จะพึ่งตำรวจ
โดยขับตามไปเรื่อยๆ และถ้าระหว่างทางเจอตำรวจจะบีบแตรเรียกให้รู้ว่ามีเหตุครับ
จุดนี้คู่กรณีเริ่มขับสวนเลนแล้วเพื่อพยายามสะบัดให้หลุด เส้นนี้คือช่วงที่จะตรงไปแยกนางเลิ้ง ผมเลยคิดว่าคู่กรณีคงพยายามหนีขึ้นทางด่วนเพื่อจะได้ใช้ความเร็วหนีอย่างแน่นอน
รถติดตรงตลาดนางเลิ้ง ผมสังเกตุเห็นตำรวจสายตรวจขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา พยายามบีบแตรเรียกแต่ท่านก็ไม่สนใจกันเลย
คู่กรณีขับสวนเลนเพื่อพยายามหนีไปอีกรอบแล้ว
จังหวะนี้เกือบชนกับ Honda City อีกรอบ เพราะคู่กรณีพยายามจะปาดออกเลนซ้ายที่รถไหลได้ดีกว่า
ในระหว่างที่ขับผมได้โทรหา จส.100 เพื่อแจ้งเหตุ และโทรหา 191 เพื่อให้ช่วยสกัดจับ เพราะดูแล้วจะหวังพึ่งตำรวจตามข้างทางได้ยากแล้ว
191 โทรติดรวดเร็วมากครับ เจ้าหน้าที่รับสายเราก็เล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเหตุเกิดตั้งแต่วัดอรุณฯ เราก็ตามมาจนถึงแยกนางเลิ้งแล้ว ช่วงที่คุยกับ 191 ผมก็เปิด speaker ให้เสียงมันบันทึกในกล้องหน้ารถไปด้วยเลยว่าคุยอะไรกันบ้าง หลักๆ เจ้าหน้าที่ท่านก็สอบถามทะเบียนเรา ทะเบียนคู่กรณี และสถานที่ที่อยู่เพื่อจะได้ประสานกับตำรวจในพื้นที่นี้ได้ถูก
เอ๊ะหายไปไหนแล้วหว่า?
จุดนี้คือก่อนถึงด่านทางด่วนยมราช คู่กรณีหายไปจากสายตาช่วงนึง แต่ก็มั่นใจว่าต้องพยายามหนีขึ้นทางด่วนแน่ๆ ซึ่งถ้าขึ้นได้ก็คงตามไม่ทันแล้วล่ะ ดังนั้น จึงมีทางเลือกเดียวคือต้องรีบบอกให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านให้ไม่เปิดไม้กั้น
คู่กรณีเลี้ยวเข้าด่านจริงด้วย จังหวะนี้ผมบีบแตรยาวๆ กับตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่าคู่กรณีพยายามหนีมา
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็งงๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี ผมเลยเดินลงไปเอามือถือให้เค้าได้ยินว่ากำลังคุยกับ 191 ในสายอยู่ คู่กรณีคงเห็นว่าไม่มีทางไปแล้วเลยบอกว่าจะยอมจอด พอรู้จุดที่อยู่แน่นอนเจ้าหน้าที่ 191 ก็เลยประสานตำรวจที่ด่านให้มาครับ
พอตำรวจมาถึงเรื่องก็ง่ายครับ คู่กรณียอมรับสภาพ เรียกประกันเคลมกันแป๊ปเดียว
จริงๆรถก็มีประกันไม่เห็นต้องหนีอะไรขนาดนี้เลย
ทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ประกันก็งงกันใหญ่ว่าชนตรงวัดอรุณฯ เนี่ยนะ? แล้วมาเคลมไกลกันขนาดนี้? ถามอยู่ 2-3 รอบ
ส่งท้ายครับ
ตอนแรกคนขับไม่ลงมาจากรถ ให้หญิงสาวข้างๆ ลงมาคุย ทางผมก็ถามว่าชนทำไมไม่จอดน้องผู้หญิงบอกว่า “บอกให้จอดแล้วเค้าไม่ยอมจอด…” แย่จริงเชียว
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ 191 และคุณตำรวจที่มาอำนวยความสะดวกครับ และต้องขออภัยผู้ใช้รถใช้ถนนครับหากวันนั้นมีอะไรไม่ถูกใจ โดยเฉพาะผมบีบแตรไปซะเยอะเชียว
แชร์ประสบการณ์ใช้บริการ 191 ตามรถชนแล้วหนี จากวัดอรุณฯ ถึงด่านยมราชในชั่วโมงเร่งด่วนเช้า
บริเวณจุดเกิดเหตุครับอยู่เลยวัดอรุณฯ มาเล็กน้อย ระหว่างที่ผมจอดรอให้รถฝั่งตรงข้ามยูเทิร์นก็โดนคู่กรณีเฉี่ยวด้านหลังซ้ายไปทั้งแถบ (บังโคลนหลัง ประตูหลัง และมือจับประตู) ตอนโดนชนก็หันไปมองเห็นคนขับเป็นผู้ชาย เค้าเห็นแน่ๆว่าเฉี่ยวเพราะแผลยาวและเสียงค่อนข้างดังแต่พยายามขับหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีจะจอดมาดู
ตอนแรกผมก็คิดว่าจะไปแจ้งความว่าโดนชนแล้วหนี แต่ผมดันจำทะเบียนรถคู่กรณีไม่ได้ (มาลองเปิดดูกล้องทีหลังก็ดูไม่ออกเพราะย้อนแสง) แถมเป็นการชนด้านข้างกล้องหน้ารถจับภาพตอนชนไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าขับตามไปดูทะเบียนดีกว่า คู่กรณีขับหนีค่อนข้างเร็วในรูปนี่คือกำลังขึ้นสะพานพระปกเกล้า ระหว่างขับตามผมก็บีบแตรเป็นระยะๆเพื่อให้เค้ารู้ว่าเราตามมาแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
ตอนขับตามเป็นเช้าวันศุกร์สิ้นเดือน รถก็ค่อนข้างเยอะ ตรงจุดนี้คือแยกสามยอด (สะพานเหล็กเดิม) จังหวะรถติดไฟแดงผมเลยเดินลงไปเคาะกระจกเพื่อให้เค้ารู้ว่าเราต้องการให้เค้าจอดเพื่อรับผิดชอบ แต่คู่กรณีไม่สนใจครับ ไม่ลงกระจกและไม่ตอบสนองใดๆ จังหวะนี้ผมเลยได้เห็นว่าในรถมีคนขับที่เป็นผู้ชาย 1 คน หญิงสาวนั่งข้าง 1 คน และหมา 1 ตัว (น่าจะชิสุมั้ง)
หลังจากนั้นคนขับก็ยังคงขับหนีไปเรื่อยๆ ซิ่งบ้างปาดบ้างเป็นช่วงๆ เมื่อมั่นใจว่าเค้ารับรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุและตั้งใจหนีชัวร์แล้ว ผมเลยตัดสินใจที่จะพึ่งตำรวจ
โดยขับตามไปเรื่อยๆ และถ้าระหว่างทางเจอตำรวจจะบีบแตรเรียกให้รู้ว่ามีเหตุครับ
จุดนี้คู่กรณีเริ่มขับสวนเลนแล้วเพื่อพยายามสะบัดให้หลุด เส้นนี้คือช่วงที่จะตรงไปแยกนางเลิ้ง ผมเลยคิดว่าคู่กรณีคงพยายามหนีขึ้นทางด่วนเพื่อจะได้ใช้ความเร็วหนีอย่างแน่นอน
รถติดตรงตลาดนางเลิ้ง ผมสังเกตุเห็นตำรวจสายตรวจขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา พยายามบีบแตรเรียกแต่ท่านก็ไม่สนใจกันเลย
คู่กรณีขับสวนเลนเพื่อพยายามหนีไปอีกรอบแล้ว
จังหวะนี้เกือบชนกับ Honda City อีกรอบ เพราะคู่กรณีพยายามจะปาดออกเลนซ้ายที่รถไหลได้ดีกว่า
ในระหว่างที่ขับผมได้โทรหา จส.100 เพื่อแจ้งเหตุ และโทรหา 191 เพื่อให้ช่วยสกัดจับ เพราะดูแล้วจะหวังพึ่งตำรวจตามข้างทางได้ยากแล้ว
191 โทรติดรวดเร็วมากครับ เจ้าหน้าที่รับสายเราก็เล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเหตุเกิดตั้งแต่วัดอรุณฯ เราก็ตามมาจนถึงแยกนางเลิ้งแล้ว ช่วงที่คุยกับ 191 ผมก็เปิด speaker ให้เสียงมันบันทึกในกล้องหน้ารถไปด้วยเลยว่าคุยอะไรกันบ้าง หลักๆ เจ้าหน้าที่ท่านก็สอบถามทะเบียนเรา ทะเบียนคู่กรณี และสถานที่ที่อยู่เพื่อจะได้ประสานกับตำรวจในพื้นที่นี้ได้ถูก
เอ๊ะหายไปไหนแล้วหว่า?
จุดนี้คือก่อนถึงด่านทางด่วนยมราช คู่กรณีหายไปจากสายตาช่วงนึง แต่ก็มั่นใจว่าต้องพยายามหนีขึ้นทางด่วนแน่ๆ ซึ่งถ้าขึ้นได้ก็คงตามไม่ทันแล้วล่ะ ดังนั้น จึงมีทางเลือกเดียวคือต้องรีบบอกให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านให้ไม่เปิดไม้กั้น
คู่กรณีเลี้ยวเข้าด่านจริงด้วย จังหวะนี้ผมบีบแตรยาวๆ กับตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่าคู่กรณีพยายามหนีมา
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็งงๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี ผมเลยเดินลงไปเอามือถือให้เค้าได้ยินว่ากำลังคุยกับ 191 ในสายอยู่ คู่กรณีคงเห็นว่าไม่มีทางไปแล้วเลยบอกว่าจะยอมจอด พอรู้จุดที่อยู่แน่นอนเจ้าหน้าที่ 191 ก็เลยประสานตำรวจที่ด่านให้มาครับ
พอตำรวจมาถึงเรื่องก็ง่ายครับ คู่กรณียอมรับสภาพ เรียกประกันเคลมกันแป๊ปเดียว
จริงๆรถก็มีประกันไม่เห็นต้องหนีอะไรขนาดนี้เลย
ทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ประกันก็งงกันใหญ่ว่าชนตรงวัดอรุณฯ เนี่ยนะ? แล้วมาเคลมไกลกันขนาดนี้? ถามอยู่ 2-3 รอบ
ส่งท้ายครับ
ตอนแรกคนขับไม่ลงมาจากรถ ให้หญิงสาวข้างๆ ลงมาคุย ทางผมก็ถามว่าชนทำไมไม่จอดน้องผู้หญิงบอกว่า “บอกให้จอดแล้วเค้าไม่ยอมจอด…” แย่จริงเชียว
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ 191 และคุณตำรวจที่มาอำนวยความสะดวกครับ และต้องขออภัยผู้ใช้รถใช้ถนนครับหากวันนั้นมีอะไรไม่ถูกใจ โดยเฉพาะผมบีบแตรไปซะเยอะเชียว