ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมจะขึ้นม.3แล้วเราก็มีเป้าหมายอยากต่อม.4โรงเรียนดังแห่งหนึ่งที่คนสอบเยอะมากข้อสอบก็ยากเช่นกัน(คงเดากันได้ว่ารร.อะไร)และเราก็ไปหาซื้อหนังสือสำหรับเตรียมสอบมาหลายเล่ม หวังจะตั้งใจอ่านหนังสือทำแบบฝึกหัดทำชีทสรุป พอเราเริ่มอ่านหนังสือมาได้ไม่กี่วันก็มาคิดว่าที่ผ่านมาเราไม่มีสมาธิเลยเพราะเราอยู่ห้องเดียวกับพ่อแม่เวลาเค้าคุยกันเวลาเค้าดูทีวีมันทำให้เราไม่มีสมาธิ เราตั้งใจมุ่งมั่นได้ไม่นานก็หันมาเล่นมาดูทีวีตลอด
อยากขอวิธีที่ทำให้มีสมาธิแม้จะมีเสียงรบกวนอะค่ะ
เราได้มาอ่านหนังสือจริงๆจังๆตอนที่พ่อแม่นอนหลับ ตอนเวลาเที่ยงคืน-ตี3 เลยกลายเป็นว่าตอนเช้าเรานอนแล้วตอนเวลาที่ควรนอนเราตื่น พอมีวันที่ต้องนอนเร็วเพราะต้องตื่นเช้ากลับทำให้เรานอนไม่หลับเพราะติดนิสัยตื่นกลางคืนนอนกลางวัน ที่ผ่านมาเวลาเราทำการบ้านของรร.เราจะใช้เวลานานๆมากเพราะสมาธิหลุดบ่อย คือเสียงมันมีผลต่อคนเซนซิทีฟอย่างเรามากๆเสียงรบกวนนิดเดียวก็ทำให้เราไม่มีสมาธิเลยค่ะรู้สึกหงุดหงิดด้วย
เราไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดี เวลาอ่านตอนเช้าก็มีนะตอนที่พ่อแม่ไม่ได้เปิดทีวีไม่ได้มีเสียงดัง เราก็สามารถอ่านหนังสือได้ แต่เวลา6โมงเย็น-5ทุ่ม(พ่อแม่จะเปิดทีวีเวลานี้)เรามีฟีลลิ่งอยากอ่านอยากทำแบบฝึกแต่พอเปิดหนังสือมาก็ไม่มีสมาธิ
ความคิดคืออยากมีห้องเป็นของตัวเอง...แต่พ่อก็บอกไว้ว่ามีแผนจะทำบ้านใหม่และทำห้องให้เราใน1-2ปีข้างหน้า ตอนนี้เราก็ต้องทนไปก่อน
ก่อนที่เราจะมาเขียนกท.ระบายนี้คือเราคิดว่าที่เราทำแบบฝึก เราทำไม่ได้และไม่เข้าใจเราเลยขอพ่อเรียนพิเศษแต่เค้าไม่สนับสนุนค่ะ เราอยากเรียนศิลป์ภาษาแต่เค้าสนับสนุนให้เราเรียนวิทย์คณิต และเค้าก็ด่าประมาณว่าเราไร้สาระ ศิลป์ภาษาบ้าบอ ด่าสารพัดค่ะ ส่วนใหญ่ด่าแนวดูถูกที่เราอยากเรียนด้านนี้
เราร้องไห้เลยค่ะ เราเคยคุยเรื่องที่เราอยากเรียนศิลป์ภาษากับพ่อแม่หลายครั้ง โดนว่าทุกครั้ง แล้วเราก็ร้องไห้ทุกครั้ง ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆอยากระบายแต่ระบายได้แค่เอาเก็บมาพิม
ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยค่ะ ขอวิธีไม่ให้เป็นคนเซนซิทีฟจนเกินไป
เค้าให้เราเรียนพิเศษติววิทย์คณิตก่อนสอบแต่เราเรียนไม่รู้เรื่องเพราะไม่ถนัดและไม่ชอบแต่สิ่งที่เราชอบ ต้องการเรียนเค้าไม่สนับสนุนแล้วยังดูถูก
เราก็บอกเค้าไปแล้วนะถึงเหตุผลที่อยากเรียน อธิบายยันเรื่องต่อมหาลัยและจบไปทำอะไรแต่เค้าก็ยังไม่สนใจ
ปล.เกลียดค่านิยมของพ่อแม่ที่คิดว่าเรียนวิทย์คณิตแล้วดีเลิศเลอ เรียนศิลป์ภาษาจะหางานทำไม่ได้ จะได้เงินเดือนน้อย จะสอบมหาลัยไม่ติด เกลียดมากจริงๆแต่ก็เปลี่ยนความคิดหัวโบราณของเค้าไม่ได้ ยิ่งพยายามให้เค้าเข้าใจก็กลายเป็นว่าเถียงและทะเลาะกัน
มีวิธีแก้ไม่ให้เป็นคนเซนซิทีฟจนเกินไปและสร้างสมาธิได้ไหมคะ(กท.ระบาย)
อยากขอวิธีที่ทำให้มีสมาธิแม้จะมีเสียงรบกวนอะค่ะ
เราได้มาอ่านหนังสือจริงๆจังๆตอนที่พ่อแม่นอนหลับ ตอนเวลาเที่ยงคืน-ตี3 เลยกลายเป็นว่าตอนเช้าเรานอนแล้วตอนเวลาที่ควรนอนเราตื่น พอมีวันที่ต้องนอนเร็วเพราะต้องตื่นเช้ากลับทำให้เรานอนไม่หลับเพราะติดนิสัยตื่นกลางคืนนอนกลางวัน ที่ผ่านมาเวลาเราทำการบ้านของรร.เราจะใช้เวลานานๆมากเพราะสมาธิหลุดบ่อย คือเสียงมันมีผลต่อคนเซนซิทีฟอย่างเรามากๆเสียงรบกวนนิดเดียวก็ทำให้เราไม่มีสมาธิเลยค่ะรู้สึกหงุดหงิดด้วย
เราไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดี เวลาอ่านตอนเช้าก็มีนะตอนที่พ่อแม่ไม่ได้เปิดทีวีไม่ได้มีเสียงดัง เราก็สามารถอ่านหนังสือได้ แต่เวลา6โมงเย็น-5ทุ่ม(พ่อแม่จะเปิดทีวีเวลานี้)เรามีฟีลลิ่งอยากอ่านอยากทำแบบฝึกแต่พอเปิดหนังสือมาก็ไม่มีสมาธิ
ความคิดคืออยากมีห้องเป็นของตัวเอง...แต่พ่อก็บอกไว้ว่ามีแผนจะทำบ้านใหม่และทำห้องให้เราใน1-2ปีข้างหน้า ตอนนี้เราก็ต้องทนไปก่อน
ก่อนที่เราจะมาเขียนกท.ระบายนี้คือเราคิดว่าที่เราทำแบบฝึก เราทำไม่ได้และไม่เข้าใจเราเลยขอพ่อเรียนพิเศษแต่เค้าไม่สนับสนุนค่ะ เราอยากเรียนศิลป์ภาษาแต่เค้าสนับสนุนให้เราเรียนวิทย์คณิต และเค้าก็ด่าประมาณว่าเราไร้สาระ ศิลป์ภาษาบ้าบอ ด่าสารพัดค่ะ ส่วนใหญ่ด่าแนวดูถูกที่เราอยากเรียนด้านนี้
เราร้องไห้เลยค่ะ เราเคยคุยเรื่องที่เราอยากเรียนศิลป์ภาษากับพ่อแม่หลายครั้ง โดนว่าทุกครั้ง แล้วเราก็ร้องไห้ทุกครั้ง ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆอยากระบายแต่ระบายได้แค่เอาเก็บมาพิม
ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยค่ะ ขอวิธีไม่ให้เป็นคนเซนซิทีฟจนเกินไป
เค้าให้เราเรียนพิเศษติววิทย์คณิตก่อนสอบแต่เราเรียนไม่รู้เรื่องเพราะไม่ถนัดและไม่ชอบแต่สิ่งที่เราชอบ ต้องการเรียนเค้าไม่สนับสนุนแล้วยังดูถูก
เราก็บอกเค้าไปแล้วนะถึงเหตุผลที่อยากเรียน อธิบายยันเรื่องต่อมหาลัยและจบไปทำอะไรแต่เค้าก็ยังไม่สนใจ
ปล.เกลียดค่านิยมของพ่อแม่ที่คิดว่าเรียนวิทย์คณิตแล้วดีเลิศเลอ เรียนศิลป์ภาษาจะหางานทำไม่ได้ จะได้เงินเดือนน้อย จะสอบมหาลัยไม่ติด เกลียดมากจริงๆแต่ก็เปลี่ยนความคิดหัวโบราณของเค้าไม่ได้ ยิ่งพยายามให้เค้าเข้าใจก็กลายเป็นว่าเถียงและทะเลาะกัน