จากผลที่หมอได้ขอเลื่อนการส่งงบ มาเป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม และก็ไม่สามารถส่งได้โดยไร้คำอธิบายใดๆ ทั้งที่เป็นเหตุสำคัญเรื่องหนึ่งที่ทำให้ IFEC ถูกแขวน sp เรื่องการที่ผู้สอบบัญชีไม่ยอมลงนามรับรองงบ แหล่งข่าวจากอดีตพนักงานบัญชี IFEC ชี้ว่ามีสาเหตุจาก
1. บริษัทบริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน ส่งหนังสือเตือนถึงสภาวิชาชีพบัญชี วันที่ 10 มีนาคม 2560
เรื่องนี้ทำให้ผู้สอบบัญชีต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบบัญชี IFEC อย่างสูงสุด เพราะตกอยู่ในสายตาของสภาวิชาชีพบัญชี , ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ดังนั้นหลักฐานเอกสารทุกอย่างต้องละเอียดตรงไปตรงมา และไม่ยินยอมรับข้อต่อรองใดๆจากหมอไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น หากผิดพลาดจะมีผลกระทบกับใบอนุญาตสอบบัญชีของสภาวิชาชีพบัญชี และใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของผู้สอบบัญชี
2. ไม่กล้าเผยตัวเลขขาดทุน
หลังจากIFEC ใช้วิศวกรรมทางการเงินอันเป็นคำอธิบายที่หมอใช้อย่างภาคภูมิใจหลายครั้งในเรื่องการได้รับผลกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของโรงแรมดาราเทวี รับรู้มาเป็นรายได้พิเศษทางบัญชีของ IFEC สูงถึง 1,103 ล้านบาท ในงบบัญชีไตรมาสที่2 ของปี2559 ในขณะที่รายได้เป็นเม็ดเงินจริงๆของ IFEC นั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเลย ทำให้เกิดผลขาดทุนอย่างมหาศาล สูงจนหมอไม่กล้าเปิดเผยตัวเลขเพราะจะทำให้เหล่าแมงเม่าหน้าโง่ที่หลงเชื่อภาพลักษณ์หมอคนดีนักปราบโกง เลิกเชื่อถืออันจะมีผลสำคัญกับคะแนนเสียงที่หมอต้องการจากแมงเม่าในการเลือกกรรมการที่หมอกำลังจะฝ่าฝืนกฎหมายและคำสั่งของ ก.ล.ต.จัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้
3. ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถลงบัญชีได้และ IFEC ไม่สามารถอธิบายได้
หมอใช้เงินของผู้ถือหุ้นอย่างมากมายไปกับค่าจ้างชายชุดดำ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าจ้างบริษัทพีอาร์ให้ทำข่าวชวนเชื่อ ส่งข่าวกล่าวหาโจมตีนายสิทธิชัยและพวก จ้างสื่อให้แก้ข่าวพฤติกรรมเลวร้ายของตน และสกัดกั้นไม่ให้ข่าวเลวร้ายที่หมอทำขึ้นใน IFEC ออกสู่โลกภายนอก
นอกจากนั้นยังมีค่านายหน้าที่หมอสั่งจ่ายให้กับเหล่า"นางหน้า"ร่วมขบวนการ เพื่อเป็นหนทางดึงเงินของบริษัทออกมาใช้ทั้งส่วนตัวและในกิจที่ลงบัญชีไม่ได้
ผู้สอบบัญชีจึงยังต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนและบริษัทก็ปกปิดตัวเลขโดยพยายามต่อรองให้โยกตัวเลขค่าใช้จ่ายดำมืดเหล่านี้กระจายไปสู่กลุ่มค่าใช้จ่ายอื่นๆ
4. ปัญหาภายในฝ่ายบัญชีและการเงิน
ผลจากการไล่พนักงานออกจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายนที่หมอใช้ชายชุดดำยึดบริษัท ไล่ CFO อันเป็นหัวใจของบริษัทออกทันทีโดยไม่มีผู้มารับงานแทน และจากสภาพการทำงานที่อึมครึมหวาดระแวง และถูกควบคุมโดยชายชุดดำทำให้พนักงานทยอยลาออกกันทุกเดือนจนล่าสุดฝ่ายบัญชีและการเงินเหลือพนักงานไม่เพียงพอกับงาน CFONคนใหม่ก็ไม่รู้เรื่องราวใดๆเลย
IFEC มีบริษัทย่อยที่ต้อง Consolidated ผลการดำเนินงานทางบัญชีกับบริษัทแม่สูงถึง 45 บริษัท จึงทำให้แค่หาเอกสารทางบัญชีส่งให้ผู้ตรวจสอบก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะไปหาเอกสารจากกล่องใด
5. การก้าวก่ายทางบัญชีและการเงินจากที่ปรึกษาใหญ่
สิ่งที่สร้างความสับสนสูงสุดด้านบัญชีและการเงินคือท่านที่ปรึกษาร่างทรงของหมอด้วยเหตุที่หมอไม่ยอมรับการติดต่อกับโลกภายนอก ซุกหลบตัวอยู่แต่ในห้องทำงานที่มีชายชุดดำอารักขาอย่างแน่นหนาแม้นยามไปห้องสุขา อำนาจการบริหารจึงตกอยู่ในมือของที่ปรึกษาใหญ่เพื่อนร่วมรุ่น จากสถาบันอันทรงเกีรติระดับประเทศ คำสั่งคำแนะนำพิศดารต่างๆเรื่องเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากและคำสั่งให้ลงบัญชีแบบปิดบังจึงบีบให้พนักงานฝ่ายบัญชีหลายคนลาออกไป บางคนรีบลาออกเพราะกลัวจะถูกยึดใบอนุญาตสอบบัญชีหากเรื่องลงบัญชีผิดข้อเท็จจริงที่ตนถูกที่ปรึกษาบังคับให้จำต้องมีส่วนร่วมถูกเปิดเผยขึ้น
ตราบใดที่หมอยังไม่ถูกกำจัดออกจาก IFEC ผู้ถือหุ้นทั้งหลายก็อย่าหวังว่าหุ้นจะหลุดจาก NP และ SP
IFEC ผู้สอบบัญชีไม่ยอมเซ็นรับรองงบบัญชีพิศดาร !!!!!!!!!
1. บริษัทบริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน ส่งหนังสือเตือนถึงสภาวิชาชีพบัญชี วันที่ 10 มีนาคม 2560
เรื่องนี้ทำให้ผู้สอบบัญชีต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบบัญชี IFEC อย่างสูงสุด เพราะตกอยู่ในสายตาของสภาวิชาชีพบัญชี , ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ดังนั้นหลักฐานเอกสารทุกอย่างต้องละเอียดตรงไปตรงมา และไม่ยินยอมรับข้อต่อรองใดๆจากหมอไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น หากผิดพลาดจะมีผลกระทบกับใบอนุญาตสอบบัญชีของสภาวิชาชีพบัญชี และใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของผู้สอบบัญชี
2. ไม่กล้าเผยตัวเลขขาดทุน
หลังจากIFEC ใช้วิศวกรรมทางการเงินอันเป็นคำอธิบายที่หมอใช้อย่างภาคภูมิใจหลายครั้งในเรื่องการได้รับผลกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของโรงแรมดาราเทวี รับรู้มาเป็นรายได้พิเศษทางบัญชีของ IFEC สูงถึง 1,103 ล้านบาท ในงบบัญชีไตรมาสที่2 ของปี2559 ในขณะที่รายได้เป็นเม็ดเงินจริงๆของ IFEC นั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเลย ทำให้เกิดผลขาดทุนอย่างมหาศาล สูงจนหมอไม่กล้าเปิดเผยตัวเลขเพราะจะทำให้เหล่าแมงเม่าหน้าโง่ที่หลงเชื่อภาพลักษณ์หมอคนดีนักปราบโกง เลิกเชื่อถืออันจะมีผลสำคัญกับคะแนนเสียงที่หมอต้องการจากแมงเม่าในการเลือกกรรมการที่หมอกำลังจะฝ่าฝืนกฎหมายและคำสั่งของ ก.ล.ต.จัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้
3. ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถลงบัญชีได้และ IFEC ไม่สามารถอธิบายได้
หมอใช้เงินของผู้ถือหุ้นอย่างมากมายไปกับค่าจ้างชายชุดดำ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าจ้างบริษัทพีอาร์ให้ทำข่าวชวนเชื่อ ส่งข่าวกล่าวหาโจมตีนายสิทธิชัยและพวก จ้างสื่อให้แก้ข่าวพฤติกรรมเลวร้ายของตน และสกัดกั้นไม่ให้ข่าวเลวร้ายที่หมอทำขึ้นใน IFEC ออกสู่โลกภายนอก
นอกจากนั้นยังมีค่านายหน้าที่หมอสั่งจ่ายให้กับเหล่า"นางหน้า"ร่วมขบวนการ เพื่อเป็นหนทางดึงเงินของบริษัทออกมาใช้ทั้งส่วนตัวและในกิจที่ลงบัญชีไม่ได้
ผู้สอบบัญชีจึงยังต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนและบริษัทก็ปกปิดตัวเลขโดยพยายามต่อรองให้โยกตัวเลขค่าใช้จ่ายดำมืดเหล่านี้กระจายไปสู่กลุ่มค่าใช้จ่ายอื่นๆ
4. ปัญหาภายในฝ่ายบัญชีและการเงิน
ผลจากการไล่พนักงานออกจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายนที่หมอใช้ชายชุดดำยึดบริษัท ไล่ CFO อันเป็นหัวใจของบริษัทออกทันทีโดยไม่มีผู้มารับงานแทน และจากสภาพการทำงานที่อึมครึมหวาดระแวง และถูกควบคุมโดยชายชุดดำทำให้พนักงานทยอยลาออกกันทุกเดือนจนล่าสุดฝ่ายบัญชีและการเงินเหลือพนักงานไม่เพียงพอกับงาน CFONคนใหม่ก็ไม่รู้เรื่องราวใดๆเลย
IFEC มีบริษัทย่อยที่ต้อง Consolidated ผลการดำเนินงานทางบัญชีกับบริษัทแม่สูงถึง 45 บริษัท จึงทำให้แค่หาเอกสารทางบัญชีส่งให้ผู้ตรวจสอบก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะไปหาเอกสารจากกล่องใด
5. การก้าวก่ายทางบัญชีและการเงินจากที่ปรึกษาใหญ่
สิ่งที่สร้างความสับสนสูงสุดด้านบัญชีและการเงินคือท่านที่ปรึกษาร่างทรงของหมอด้วยเหตุที่หมอไม่ยอมรับการติดต่อกับโลกภายนอก ซุกหลบตัวอยู่แต่ในห้องทำงานที่มีชายชุดดำอารักขาอย่างแน่นหนาแม้นยามไปห้องสุขา อำนาจการบริหารจึงตกอยู่ในมือของที่ปรึกษาใหญ่เพื่อนร่วมรุ่น จากสถาบันอันทรงเกีรติระดับประเทศ คำสั่งคำแนะนำพิศดารต่างๆเรื่องเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากและคำสั่งให้ลงบัญชีแบบปิดบังจึงบีบให้พนักงานฝ่ายบัญชีหลายคนลาออกไป บางคนรีบลาออกเพราะกลัวจะถูกยึดใบอนุญาตสอบบัญชีหากเรื่องลงบัญชีผิดข้อเท็จจริงที่ตนถูกที่ปรึกษาบังคับให้จำต้องมีส่วนร่วมถูกเปิดเผยขึ้น
ตราบใดที่หมอยังไม่ถูกกำจัดออกจาก IFEC ผู้ถือหุ้นทั้งหลายก็อย่าหวังว่าหุ้นจะหลุดจาก NP และ SP