สวัสดีทุกคนนะคะ
กลับมาพบกลับออยอีกแล้ว วันนี้ออยก็มีฮาวทูมาฝากกัน
ซึ่งก็มีหลายๆ คนอยากให้ออยทำฮาวทูลุคนี้ขึ้นมามาก วันนี้มีโอกาได้ทำซะทีโน๊ะ
สำหรับลุคการแต่งหน้าวันนี้ก็จะแต่งในโทนสีน้ำตาลในส่วนของใบหน้าแน่นอนอยู่แล้วว่ารับปริญญา
ต้องอยู่ทั้งวันดังนั้นเครื่องสำอางค์ที่เราจะใช้ก็ต้องอยู่ติดทนทั้งวันไปพร้อมกับเราเช่นกันค่ะ

เรามาเริ่มแต่งกันเลยดีกว่า
สำหรับใครที่ไม่อยากพึ่งช่างแต่งหน้าก็ลองเอาวิธีนี้ไปลองแต่งดูก็ได้นะคะ
แต่งไม่อยาก มือใหม่ก็สามารถแต่งได้เหมือนกันค่ะ

1. เริ่มแรกเลยก่อนแต่งหน้าอย่าลืมทากันแดดด้วยนะคะ อยู่ทั้งวันหน้าอาจจะเจอกับแสงแดด
และมลภาวะต่างๆ มากมายที่เจอในแต่ละวัน ซึ่งค่า SPF ที่เหมาะสมก็คือ SPF50PA+++ ค่ะ

2. ต่อมาก็ลงไพรเมอร์เพื่อให้เมคอัพติดทนนานทั้งวัน ออยเป็นคนหน้ามันและรูขุขมขนกว้างก็จะใช้ไพรเมอร์ที่เป็นสูตรปราศจากน้ำมันและก็ช่วยอำพรางรูขุมขนค่ะ ออยจะใช้ของ Cutepress ตัวนี้ออยใช้ประจำเลยเพราะทำให้เครื่องสำอางค์อยู่ได้ทั้งวันและไม่เยิ้มไม่เป็นคราบค่ะ

3. ต้องบอกก่อนว่าในการแต่งหน้ารับปริญญานั้นรองพื้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ นะคะ ถ้าเลือกรองพื้นที่ไม่เข้ากับผิวหน้าของเรา ระหว่างวันอาจจะเกิดการเยิ้มและเป็นคราบได้ รองพื้นที่ออยใช้วันนี้เป็นรองพื่นชนิดน้ำ covermerk รุ่น jusme liquid foundation ที่เบาสบายผิว เกลี่ยง่าย สีไม่ดรอประหว่างวันและมีส่วนผสมสารบำรุงผิวและสารกันแดด เป็นรองพื้นขวดเดียวเอาอยู่สำหรับออยมากๆ เพราะรองพื้นตัวนี้เหมาะสำหรับสาวผิวมันหรือผิวขาดน้ำที่ยังช่วยกระชับรูขุมขนแถมยังให้ความชุ่มชื้นกับผิวด้วยค่ะ

4. คอนทัวร์เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของหน้าเราและให้มีมิติพุ่งๆ กันนิดนึงโน๊ะ
ออยจะไม่ลงหนักมาค่ะ เดี๋ยวหน้าจะดูดำไม่สดใส โดยใช้สีเข้มทาบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม สันจมูกและคางที่เป็นส่วนเกินและใช้สีอ่อนทาบริเวณหน้าผาก ใต้ตาและคางเพื่อเพิ่มมิติให้หน้าดูสว่างขึ้นนะคะ แล้วก็ใช้คอนซีลเลอร์เกลี่ยบริเวณที่มีรอยสิวทับอีกครั้งหนึ่งค่ะ

5. จากนั้นก็เซทด้วยแป้งฝุ่นก่อนนะคะ เพราะขึ้นตอนต่อไปเราจะเขียนคิ้วและแต่งตากัน ระหว่างแต่งอาจมีเศษอายแชโดว์เลอะใต้ตาได้ค่ะ แล้วค่อยซ้ำแป้งผสมรองพื้นอีกครั้งหนึ่งวิธีนี้จะช่วยให้แป้งติดทาไม่เป็นคราบระหว่างวันได้ค่ะ

6. มาเขียนคิ้วกันต่อเลยจ้า ออยใช้เป็นเจลเขียนคิ้วจะใช้สีให้เข้ากับสีผมของเรามากที่สุดค่ะ
เขียนไปตามแนวคิ้วของเราเลย จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยหัวคิ้วให้ฟุ้งๆ แล้วเก็บรายละเอียดด้วยรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์อีกครั้งให้คิ้วของเราดูชัดมากขึ้นค่ะ

7. เราแต่งตากันต่อเลยค่ะ ลุคนี้ออยแต่งในโทนธรรมชาติหรือโทรสีน้ำตาลเพราะออยจะแต่งให้ดูสุภาพไม่เยอะและไม่น้อยเกินไปที่สำคัญทุกคนสามารถแต่งได้แน่นอนค่ะ

-    ลง Eye shadow base เพื่อให้สีอายแชโดว์ชัดและติดทนก่อนค่ะ
-    ออยจะใช้สี Innocent ลงให้ทั่วเปลือกตาใช้นิ้วเกลี่ยได้เลยค่ะ จากนั้นคัดเบ้าด้วยสี Edgy แค่บริเวณหางตาไปจนถึงกลางตาให้ฟุ้งๆ พอค่ะ ไม่ต้องลงสีเข้มมากนะคะ แล้วใช้สี Smoked คัดเบ้าหางตาเกลี่ยด้วยแปรงให้ฟุ้งๆ คะ คัดแค่หางตาพอนะคะ ไม่งั้นตาเราจะดูเข้มและดุไป
-    ส่วนใต้ตาล่างใช้สีน้ำตาล Whimsy เกลี่ยจากหางตาไปจนถึงกลางตาเลยค่ะ
-    เพิ่มชิมเมอร์ให้ตาดูวิ้งๆ ดูสดใสนิดนึงออยจะใช้สี Glam ที่เป็นชิมเมอร์ในพาเลทแตะเบาๆ จากกึ่งกลางตาไปจนถึงหัวตาเลยค่ะ แล้วใช้สี Vintage สีขาวและสี Glam ลงหัวตาให้ดูสว่างขึ้นค่ะ
-    แล้วใช้สี Punk เกลี่ยใต้ตาให้ดูชัดขึ้นโดยใช้แปรงหัวตัดเกลี่ยนะคะ

8. กรีดอายไลเนอร์โดยให้ตวัดหางแค่นิดเดียวพอค่ะ ไม่ต้องกรีดยาวมากไม่งั้นมันจะเฉี่ยวเกินไป
กรีดเส้นไม่ใหญ่มากนะคะ

9. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าต่อเลยนะคะ มาสคาร่าที่ออยใช้เป็นของ Meilinda rita mascara ค่ะ

10. ติดขนตาปลอมที่ดูฟุ้งๆ ไม่หนาและไม่บางไปค่ะ ออยใช้ขนตาปลอมบอกต่อเบอร์ BT-03 หรือใครที่มีขนตาปลอมที่บางกว่าเบอร์นี้ก็ติดซ้อนกันได้ค่ะ

11. เพื่อให้ตาของเรานั้นดูโตขึ้นออยใช้ Inliner สีขาวเขียนขอบตาล่างค่ะ

12. พอเราแต่งตาเสร็จแล้วก็ใช้แปรงพุ่มใหญ่ปัดเศษอายโดว์หรือผงต่างๆ ออกจากนั้นก็เซทด้วยแป้งงพัฟผสมรองพื้นอีกครั้งหนึ่งค่ะ

13. คอนทัวร์หน้าของเราอีกครั้งหนึ่งให้ดูชัดขึ้นและอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้าโดยออยจะเพิ่มกรอบหน้าโดยปัดที่โหนกแก้มก่อนแล้วปัดที่ข้างหน้าผากและใต้ตางค่ะ

14. ในลุคนี้บลัชออนที่ออยใช้จะเป็นสีส้มชมพูๆ ปัดบริเวณโหนกแก้มเบาๆ ไม่ต้องเข้มมากนะคะ

15. ออยจะขอไฮไลท์นิดนึงให้หน้าดูพุ่งๆ เงาๆ หรือถ้าใครไม่อยากปัดหรือไม่ชอบก็ได้นะคะ
ออยจะปัดไม่หนามากค่ะ เพราะเดี๋ยวจะดูเยอะไป

16. ลิปที่ออยใช้ลุคนี้ออยจะลิปแมทต์ที่สีชมพูนมๆ ไม่ฉูดฉาดเกินไปรับปริญญาก็ขอสุภาพนิดหนึ่งทาแล้วรอให้แห้งจากนั้นก็ใช้ลิปกลอสแตะทับอีกครั้ง ย้ำว่าแค่แตะๆ พอนะคะ ไม่งั้นปากเราจะดูเยิ้มไปเลย

17. เพื่อให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นนะคะ ออยจะใช้สเปรย์น้ำแร่ Fresh drop rose mineral spray
ฉีดหลังแต่งหน้าและเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราค่ะ

เสร็จแล้วคร้า สำหรับลุครับปริญญาที่เราแต่งเองได้ไม่ต้องง้อช่างแต่งหน้า ประหยัดเวลาและประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย