ยืมภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
สวัสดีค่ะ ด้วยความที่เพิ่งไปดูมาสดๆ ร้อนๆ เลยอยากมาระบายถึงบรรยากาศการแสดง Disney on ice ค่ะ
ด้วยความที่ไม่เคยไปงานแบบนี้มาก่อน เลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากๆ เลยล่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราอายุ 18 มาดูคนเดียว รอบแรกเลย 14.30 น 30 มี.ค นั่งรถโดยสารมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อยคือประมาณบ่ายโมงค่ะ
เพราะพี่ๆ ที่รู้จักกันแนะนำว่าถ้าจะมาเมืองทองช่วยนี้ต้องเผื่อเวลาหน่อยเพราะมีหลายอีเวนต์จัดอยู่
เช่น งานมอเตอร์โชว์ เราก็เลยรีบออกมาแต่เนิ่นๆ
แม้จะเคยมาที่เมืองทองอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ก็ไม่แม่นที่ทางเท่าไหร่ว่าอันไหนจัดอะไรฮอลไหนยังไง
แต่ก็ดีนะที่เป็นคนช่างสังเกตเพราะเรามองไปเจอบรรดาคุณแม่คุณพ่อทั้งหลาย ที่เดินจูงลูกๆ มาอยู่จุดๆ หนึ่งที่เยอะมาก
ซึ่งนอกจากจะเยอะแล้ว เหล่าเด็กๆ ก็ยังแต่งตัวกับเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ แบบจัดเต็มกันอีกด้วย
บอกได้เลยว่าพื้นที่นี้ นาทีนี้ต้อง เอลซ่า เท่านั้นค่ะ ที่คุณคู่ควร
ระหว่างที่มองไปยิ้มไปและเดินตามเด็กๆ เหล่านั้นไปยังพื้นที่จัดแสดงทางเข้าโซนแรก
มีการกั้นรั้วตรวจความเรียบร้อยและความปลอดภัย เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ลูกได้อุ่นใจว่าเป็นพื้นที่ๆ
วางใจได้ จากนั้นเมื่อเข้ามาบริเวณพื้นที่รอบฮอล จำนวนเด็กๆ ก็ดูจะหนาตามากขึ้นด้วย
นอกเหนือจากเอลซ่าและอันนาตัวน้อยที่มีทุกลุคทุกเวอร์ชั่นมาประชันโชว์กันแล้ว เราก็ยังได้เห็นองค์หญิงน้อยๆ
จากเรื่องอื่นๆ เช่น เบลล์ จากโฉมงามกับเจ้าชายอสูร (หนังเพิ่งเข้าโรงด้วยอินเทรนด์)
สโนว์ไวท์ , ซินเดอเรล่า และ แอเรียลเงือกสาวด้วย
ระหว่างรอประตูทางเข้าเปิด เราก็เดินดูบูธต่างๆ ว่าเขามีอะไรบ้าง ส่วนมาก็เป็นกิจกรรมเอาใจน้องๆ หนูๆ เต็มรูปแบบจริงๆค่ะ
แบบวาดรูประบายสี ประกวดชุด หรือที่เป็นสไลเดอร์ ฉากถ่ายรูป และที่เราแอบเห็นว่าดูจะมีความสุขไม่แพ้
คุณลูกเลยก็คือคุณพ่อคุณแม่ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พาเด็กๆ ไปถ่ายรูปในจุดสวยๆ จัดวางท่าทางกันเป็นอย่างสนุกสนานด้วย
นอกจากนี้เราก็ยังชอบมุมของที่ระลึก ซุ้มขายน้ำ ขนม ของเล่น ที่มันช่างล่อตาล่อใจมาก
อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยวัยรุ่นอย่างเราก็ยังรู้สึกว่า เฮ้ย มันน่ารักดีอะ คิดได้ไงขนมสายไหมเป็นโอลาฟ
หรือปลาดอลลี่ นีโม่ แล้วก็พวกของกระจุ๊กกระจิ๊ก มันช่างน่าสอยทุกชิ้นนัก
ไม่นานก่อนงานเริ่มประมาณ 15 นาทีได้ มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ
ก็ได้เวลาที่จะเข้าไปดูเรื่องราวของดิสนี่ย์ที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวการ์ตูนวาดกันแล้ว
พื้นที่ที่เราซื้อตั๋วดูเป็นที่นั่ง 600 น่าจะเป็นตั๋วราคาเบาสุด ด้วยความที่เป็นครั้งแรก
บอกตามตรงก็กล้าๆ กลัวๆ นะ เพราะเราก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อนว่าง่ายๆ
ซื้อไม่เป็นเลยลองแบบนี้ก่อนดีกว่า และเราเองก็เพิ่งรู้ว่าบัตรราคาถูกสุดเขาเรียกว่ายอดดอย
ฟังดูแบบไกลลิบเลยใช่ไหมละคะ และนี่คือมุมมองจุดจริงที่เรานั่งค่ะ
เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ไกลมากอย่างที่คิดเลย คือมันเป็นมุมที่เห็นภาพรวมได้ชัดดีมาก
แอบเห็นบางท่านก็มีกล้องส่องทางไกลมาช่วยด้วย แต่ดีอีกอย่างคือเรารู้สึกว่าที่เลือกมุมนี้มันเฉียงๆ
ได้เห้นภาพรวมหน่อย ถ้าไปอยู่ข้างเลย หรือกลางเลยอันนี้อาจจะเป็นมุมที่ดูไม่มีมิติเท่าไหร่ค่ะ
มาในส่วนของพาร์ทเรื่อง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดิสนี่ย์ออนไอซ์เขาจัดมากันกี่ปีแล้ว
แต่ได้ยินมานานมากละ เราก็แอบคิดว่ามันเหมือนๆ กัน แต่เปล่าเลย มันจะมีธีมในแต่ละครั้งที่แตกต่างกันออกไป
เหมือนว่าถ้าใครได้ชมของปีที่แล้วมันก็จะมีชื่อตอนไม่เหมือนปีนี้ แต่เรื่องที่จะมาแสดงก็จะเปลี่ยนไป
แบบในปีนี้กับปีก่อนก็จะมีบางเรื่องที่ต่างกันประมาณนี้
ชื่อตอนของปีนี้คือ The Wonderful world ตามรูปเราก็จะได้รู้เลยว่าปีนี้เขาจะแสดงเรื่องไหนหลัก
แอบเสียดายนะที่ปีนี้ไม่มีบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์ เพิ่งไปดูหนังมาแอบอิน โดยปีนี้มันจะมีการเล่าเรื่องอยู่ว่า
พวกตัวมิคกี้เม้าและผองเพื่อนออกหาสมบัติตามคำใบ้ในหนังสือ และก็เกิดเป็นเรื่องเล่าที่มีชีวิตออกมา
เป็นเรื่องต่างๆ เริ่มจาก ไลอ้อน คิงส์ สโนว์ไวท์ ดอลลี่ ราพันเซล นางเงือก ทอยสตอรี่
แบ่งเวลาในเนื้อหาตอนประมาณ 10-20 นาทีโดยเฉลี่ย และเรื่องที่เด็กๆ รอคอยนั่นก็คือโฟรเซ่น
โดยจะมีการตัดสลับให้พวกมิคกี้เม้ามาพาเข้าเรื่องต่างๆ อย่างลื่นไหล
สิ่งที่เราชอบคือเหมือนกับได้ดูการ์ตูนที่แม่ชอบเปิดให้เราดูตอนเด็กๆ อีกครั้ง
แต่มันคือการที่คนออกมาแสดงด้วยลีลาแบบสเก็ตน้ำแข็งแบบพลิ้วไหวมาก และแบบเหมือนระดับการแสดง
ท่าที่สวยงามก็ยากขึ้นตามเรื่องที่ดูลึกๆ เข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องที่จัดหนักจัดเต็มที่สุดคือ
โฟรเซ่น
ที่เด็กเกือบทั้งฮอลรอคอยอย่างจดจ่อวัดได้จากเสียงกริ๊ดดีใจของเด็กๆ และเสียงร้องตามเพลงเล็ทอิทโกที่ท่วมท้นมากจริงๆ
ยืมภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
สิ่งที่ชอบคือรายละเอียดยิบย่อยที่คนทำไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ เช่น แสงที่จะใช้ในแต่ละเรื่อง
เช่นสีส้มในไลอ้อนคิง สีฟ้าน้ำทะเล และสีม่วงเรืองแสงในดอลลี่ สีฟ้าในโฟรเซ่น
และหิมะเทียมที่โปรยปรายที่ทำให้สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ ค่ะ ทำให้รู้เลยจริงๆ
ว่าความสุขแบบเด็กๆ นั่นมันเป็นยังไงอีกครั้ง
[CR] รีวิวบรรยากาศ ความสุข ความทรงจำ ความเด็ก จาก Disney on ice
สวัสดีค่ะ ด้วยความที่เพิ่งไปดูมาสดๆ ร้อนๆ เลยอยากมาระบายถึงบรรยากาศการแสดง Disney on ice ค่ะ
ด้วยความที่ไม่เคยไปงานแบบนี้มาก่อน เลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากๆ เลยล่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราอายุ 18 มาดูคนเดียว รอบแรกเลย 14.30 น 30 มี.ค นั่งรถโดยสารมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อยคือประมาณบ่ายโมงค่ะ
เพราะพี่ๆ ที่รู้จักกันแนะนำว่าถ้าจะมาเมืองทองช่วยนี้ต้องเผื่อเวลาหน่อยเพราะมีหลายอีเวนต์จัดอยู่
เช่น งานมอเตอร์โชว์ เราก็เลยรีบออกมาแต่เนิ่นๆ
แม้จะเคยมาที่เมืองทองอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ก็ไม่แม่นที่ทางเท่าไหร่ว่าอันไหนจัดอะไรฮอลไหนยังไง
แต่ก็ดีนะที่เป็นคนช่างสังเกตเพราะเรามองไปเจอบรรดาคุณแม่คุณพ่อทั้งหลาย ที่เดินจูงลูกๆ มาอยู่จุดๆ หนึ่งที่เยอะมาก
ซึ่งนอกจากจะเยอะแล้ว เหล่าเด็กๆ ก็ยังแต่งตัวกับเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ แบบจัดเต็มกันอีกด้วย
บอกได้เลยว่าพื้นที่นี้ นาทีนี้ต้อง เอลซ่า เท่านั้นค่ะ ที่คุณคู่ควร
ระหว่างที่มองไปยิ้มไปและเดินตามเด็กๆ เหล่านั้นไปยังพื้นที่จัดแสดงทางเข้าโซนแรก
มีการกั้นรั้วตรวจความเรียบร้อยและความปลอดภัย เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ลูกได้อุ่นใจว่าเป็นพื้นที่ๆ
วางใจได้ จากนั้นเมื่อเข้ามาบริเวณพื้นที่รอบฮอล จำนวนเด็กๆ ก็ดูจะหนาตามากขึ้นด้วย
นอกเหนือจากเอลซ่าและอันนาตัวน้อยที่มีทุกลุคทุกเวอร์ชั่นมาประชันโชว์กันแล้ว เราก็ยังได้เห็นองค์หญิงน้อยๆ
จากเรื่องอื่นๆ เช่น เบลล์ จากโฉมงามกับเจ้าชายอสูร (หนังเพิ่งเข้าโรงด้วยอินเทรนด์)
สโนว์ไวท์ , ซินเดอเรล่า และ แอเรียลเงือกสาวด้วย
ระหว่างรอประตูทางเข้าเปิด เราก็เดินดูบูธต่างๆ ว่าเขามีอะไรบ้าง ส่วนมาก็เป็นกิจกรรมเอาใจน้องๆ หนูๆ เต็มรูปแบบจริงๆค่ะ
แบบวาดรูประบายสี ประกวดชุด หรือที่เป็นสไลเดอร์ ฉากถ่ายรูป และที่เราแอบเห็นว่าดูจะมีความสุขไม่แพ้
คุณลูกเลยก็คือคุณพ่อคุณแม่ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พาเด็กๆ ไปถ่ายรูปในจุดสวยๆ จัดวางท่าทางกันเป็นอย่างสนุกสนานด้วย
นอกจากนี้เราก็ยังชอบมุมของที่ระลึก ซุ้มขายน้ำ ขนม ของเล่น ที่มันช่างล่อตาล่อใจมาก
อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยวัยรุ่นอย่างเราก็ยังรู้สึกว่า เฮ้ย มันน่ารักดีอะ คิดได้ไงขนมสายไหมเป็นโอลาฟ
หรือปลาดอลลี่ นีโม่ แล้วก็พวกของกระจุ๊กกระจิ๊ก มันช่างน่าสอยทุกชิ้นนัก
ไม่นานก่อนงานเริ่มประมาณ 15 นาทีได้ มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ
ก็ได้เวลาที่จะเข้าไปดูเรื่องราวของดิสนี่ย์ที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวการ์ตูนวาดกันแล้ว
พื้นที่ที่เราซื้อตั๋วดูเป็นที่นั่ง 600 น่าจะเป็นตั๋วราคาเบาสุด ด้วยความที่เป็นครั้งแรก
บอกตามตรงก็กล้าๆ กลัวๆ นะ เพราะเราก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อนว่าง่ายๆ
ซื้อไม่เป็นเลยลองแบบนี้ก่อนดีกว่า และเราเองก็เพิ่งรู้ว่าบัตรราคาถูกสุดเขาเรียกว่ายอดดอย
ฟังดูแบบไกลลิบเลยใช่ไหมละคะ และนี่คือมุมมองจุดจริงที่เรานั่งค่ะ
เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ไกลมากอย่างที่คิดเลย คือมันเป็นมุมที่เห็นภาพรวมได้ชัดดีมาก
แอบเห็นบางท่านก็มีกล้องส่องทางไกลมาช่วยด้วย แต่ดีอีกอย่างคือเรารู้สึกว่าที่เลือกมุมนี้มันเฉียงๆ
ได้เห้นภาพรวมหน่อย ถ้าไปอยู่ข้างเลย หรือกลางเลยอันนี้อาจจะเป็นมุมที่ดูไม่มีมิติเท่าไหร่ค่ะ
มาในส่วนของพาร์ทเรื่อง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดิสนี่ย์ออนไอซ์เขาจัดมากันกี่ปีแล้ว
แต่ได้ยินมานานมากละ เราก็แอบคิดว่ามันเหมือนๆ กัน แต่เปล่าเลย มันจะมีธีมในแต่ละครั้งที่แตกต่างกันออกไป
เหมือนว่าถ้าใครได้ชมของปีที่แล้วมันก็จะมีชื่อตอนไม่เหมือนปีนี้ แต่เรื่องที่จะมาแสดงก็จะเปลี่ยนไป
แบบในปีนี้กับปีก่อนก็จะมีบางเรื่องที่ต่างกันประมาณนี้
ชื่อตอนของปีนี้คือ The Wonderful world ตามรูปเราก็จะได้รู้เลยว่าปีนี้เขาจะแสดงเรื่องไหนหลัก
แอบเสียดายนะที่ปีนี้ไม่มีบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์ เพิ่งไปดูหนังมาแอบอิน โดยปีนี้มันจะมีการเล่าเรื่องอยู่ว่า
พวกตัวมิคกี้เม้าและผองเพื่อนออกหาสมบัติตามคำใบ้ในหนังสือ และก็เกิดเป็นเรื่องเล่าที่มีชีวิตออกมา
เป็นเรื่องต่างๆ เริ่มจาก ไลอ้อน คิงส์ สโนว์ไวท์ ดอลลี่ ราพันเซล นางเงือก ทอยสตอรี่
แบ่งเวลาในเนื้อหาตอนประมาณ 10-20 นาทีโดยเฉลี่ย และเรื่องที่เด็กๆ รอคอยนั่นก็คือโฟรเซ่น
โดยจะมีการตัดสลับให้พวกมิคกี้เม้ามาพาเข้าเรื่องต่างๆ อย่างลื่นไหล
สิ่งที่เราชอบคือเหมือนกับได้ดูการ์ตูนที่แม่ชอบเปิดให้เราดูตอนเด็กๆ อีกครั้ง
แต่มันคือการที่คนออกมาแสดงด้วยลีลาแบบสเก็ตน้ำแข็งแบบพลิ้วไหวมาก และแบบเหมือนระดับการแสดง
ท่าที่สวยงามก็ยากขึ้นตามเรื่องที่ดูลึกๆ เข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องที่จัดหนักจัดเต็มที่สุดคือ โฟรเซ่น
ที่เด็กเกือบทั้งฮอลรอคอยอย่างจดจ่อวัดได้จากเสียงกริ๊ดดีใจของเด็กๆ และเสียงร้องตามเพลงเล็ทอิทโกที่ท่วมท้นมากจริงๆ
ยืมภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
สิ่งที่ชอบคือรายละเอียดยิบย่อยที่คนทำไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ เช่น แสงที่จะใช้ในแต่ละเรื่อง
เช่นสีส้มในไลอ้อนคิง สีฟ้าน้ำทะเล และสีม่วงเรืองแสงในดอลลี่ สีฟ้าในโฟรเซ่น
และหิมะเทียมที่โปรยปรายที่ทำให้สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ ค่ะ ทำให้รู้เลยจริงๆ
ว่าความสุขแบบเด็กๆ นั่นมันเป็นยังไงอีกครั้ง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น