สวัสดีคับเพื่อนๆห้องบลู ผมยังไม่เคยเข้ามาเขียนกระทู้ในนี้จริงๆจังๆซักที ช่วงนี้ว่างๆเลยเก็บรูปถ่าย กับข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ในเมืองน่ารักๆ อย่าง Sapporo มาฝากกันนะคับ (:
เริ่มกันเลยเน๊อะ (บอกก่อนว่า รีวิวนี้อาจไม่ได้ละเอียดนัก เอาเเค่คร่าวๆๆ อาศัยภาพประกอบเอา)
ผมเดินทางกันวันที่ 9 พฤษจิกายน 2559 (นานเน๊อะกว่าจะมารีวิวได้ 555) ผมและเพื่อนๆ 5 คนรวมตัวผม นัดเจอกันที่สนามบิน ดอนเมืองคับ ทริปนี้เราจะเหินอากาศกันด้วย air asia X ผมได้ราคาตั๋วรวมกระเป๋าแล้วอยู่ที่ 8000 นิดๆคับ ราคาก็พอใช้ได้เน๊อะ 5555 ไฟลท ตอน 10.00 คับ บินไปถึงสนามบิน นาริตะ ก็ราว ๆ 1 ทุ่ม ของญี่ปุ่นคับ เร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง กว่าจะผ่านด่าน ตม ก้อ2 ทุ่มนิดๆๆ โชคดี ตม คนไม่เยอะ แถม ตม ไม่ถามไรอีก ผ่านฉลุย (ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองคับ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น)
เสร็จจากรับกระเป๋าเเล้ว ผมก็เดินลากกระเป๋ากันมาที่ Terminal 3 คับ ซึ่งผมมีไฟลทต่อไปที่ hokkaido ตอน 7.45 พอถึง Termilnal 3 ก็ตะเวนหาของกินกันเลยที่เดียว จากที่นั่งเครื่องมานาน พวกผมค่อนข้างชอบอาหารญี่ปุ่นคับเลยไม่ค่อยเป็นปัญหากับการหาของกินเท่าไหร่ เรียกได้ว่าหยิบจับอะไรได้ ก็ซัดกันเลยทีเดียว พออิ่ม ก็เริ่มง่วง คืนนี้คงต้องฝากชีวิตไว้ที่ สนามบิน 1 คืน 55555 หลับๆตื่นๆคับ คนเดินไปมาทั้งคืน น่าจะรอต่อเครื่องทั้งนั้น ไม่นานก็เช้า ผมล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวไปเช็คอิน ผมเดินทางกันด้วยสายการบิน vanilla airline คับ ค่าเครื่องตกแล้วคนละ 4000 บาท ราคา ไป/กลับ
เดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงคับ ก็ถึงสนามบิน New Chitose Hokkaido มาเที่ยวครั้งนี้ผมกับเพื่อนคุยกันว่าจะมาเช่ารถขับเล่นกัยดีกว่า คืออยากแวะไหน อยากถ่ายรูปที่ไหนก็ตามใจเราได้เลยย ไม่รอช้า เรารีบตรงไปที่เค้าท์เตอร์ จองรถคับ (ผมไม่ได้จองผ่านเว็บมา) รถที่ได้เป็น รถที่นั่งได้ 7 ที่นั่งคับ ค่อนข้างใหญ่เลยแหละ นั่งสบาย ภายในรถมี GPRS ให้ ขอบอกว่า ที่ญี่ปุ่น GPS แม่นมากกๆๆ ไม่ต้องกลัวหลงเลย
ค่าเช่ารถตกวันละ 3500 บาทคับ
ค่าน้ำมัน 2 วัน 1,400 บาท
ค่าผ่านทาง express way 1500 ก็คือค่าทางด่วนบ้านเรานี่เอง
หาร 5 คน ตกคนละ 1,980 บาท ถือว่าโอเคเลยกับราคานี้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
GPRS ในรถคับ พนักกงานจะมาบอกวิธีการใช้คับ ง่ายๆๆ ไม่ยากคับ เค้าจะมีกระดาษมาให้ 1แผ่น ในนั้นจะระบุสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในระแวก sapporo โดยจะระบุเป็นคล้ายๆกับหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ เราเบอร์ของสถานที่ๆเราจะไป ใส่ไว้ใน GPRS แล้วก็กดเดินทางได้เลยคับ
นี่คือน่าตาของ express way คับ ถ้าเราซื้อตัว express way ไว้ เวลาเข้าใกล้ทาง ตัวกั้นจะเปิดให้เองอัตโนมัติเลย ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่เปิดเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ แอบใจเสียนิดๆ ถ้าไม่เปิดจะทำยังไงเนี่ยย รถข้างหลังก็ตามมา
เอาล่ะคับจุดหมายเเรกของเราวันนี้ ตรงไปที่โรงแรมก่อนเลย พมจองห้องพักที่ Holiday Inn Susukino คับ โรงแรมนี้ค่อนข้างสะดวกสบายเลย อยู่ใจกลางย่านช้อปปิ้ง แฟมิลี่มาร์ท ลอสัน เซเว่น ครบเลยทีเดียวเชียว การเดินทางก็ เปิด gprs อย่างเดียวเลย 5555 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากสนามบิน ก็ถึงโรงแรมละ เชคอินน์ก่อนแปป
เชคอินเสร็จ ก็แยกย้ายกันเก็บกระเป๋าคับ พักผ่อนตามอัธยาศัย เรานัดเจอกันที่ ล็อบบี้ บ่าย 2 โมง เพื่อจะไปต่อกันที่ >>> Otaru
ถึงเวลาบ่ายสองโมง ลุยกันเลยยยยยย กด GPRS ไปที่ Otaru ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีคับ ระหว่างที่ขับรถ มีวิวให้ชม บ้านเรือนชาวญี่ปุ่น ขับรถเรียบทะเลไป บรรยากาศชิวสุดๆ ชมวิวเพลินๆ ก็เดินทางมาถึงละคับ
วนหาที่จอดกันอยู่พักใหญ่ ที่นี่ไม่เหมือนที่ไทย ที่สามารถจอดได้ตามข้างทาง แต่จะมีที่จอดไว้ให้ โดยมีค่าบริการ จากตู้อัติโนมัต ที่นี่อะไรก็หยอดเหรียญเน๊อะ 55555
ได้เวลาลงไปสัมผัสความหนาว โอตารุ เป็นเมืองท่าเก่า ที่มีความคลาสสิคมากๆ เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่ใครมา hokaido ต้องมาเยือนที่นี่ เลยกว่าเป็นแลนด์มาร์คก็ว่าได้ ช่วงที่หิมะปกคลุมหนาๆ เวลาเดินต้องระวังนะคับ อาจจะลื่นได้ ทางที่ดีควรสวมรองเท้าที่พื้นดีดี หรือใส่ที่กันลื่นนะคับ
ญี่ปุ่นหน้าหนาว ช่วง 4-5 โมงเย็น ก็เริ่มมืดละคับ เวลาเที่ยวจะน้อยลง เพราะฉะนั้นต้องตื่นกันแต่เช้าาาเลย พวกผมขอตัวกลับก่อนนะคับ มีนัดกินขาปูอลาสก้าขาใหญ่ๆแถวโรงแรมเลย ปักหมุดรอเลยคับบบ 555
[CR] รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น Hokkaido >> Otaru >> Lake shikotsu >> Jigokudani >> Tokyo
เริ่มกันเลยเน๊อะ (บอกก่อนว่า รีวิวนี้อาจไม่ได้ละเอียดนัก เอาเเค่คร่าวๆๆ อาศัยภาพประกอบเอา)
ผมเดินทางกันวันที่ 9 พฤษจิกายน 2559 (นานเน๊อะกว่าจะมารีวิวได้ 555) ผมและเพื่อนๆ 5 คนรวมตัวผม นัดเจอกันที่สนามบิน ดอนเมืองคับ ทริปนี้เราจะเหินอากาศกันด้วย air asia X ผมได้ราคาตั๋วรวมกระเป๋าแล้วอยู่ที่ 8000 นิดๆคับ ราคาก็พอใช้ได้เน๊อะ 5555 ไฟลท ตอน 10.00 คับ บินไปถึงสนามบิน นาริตะ ก็ราว ๆ 1 ทุ่ม ของญี่ปุ่นคับ เร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง กว่าจะผ่านด่าน ตม ก้อ2 ทุ่มนิดๆๆ โชคดี ตม คนไม่เยอะ แถม ตม ไม่ถามไรอีก ผ่านฉลุย (ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองคับ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น)
เสร็จจากรับกระเป๋าเเล้ว ผมก็เดินลากกระเป๋ากันมาที่ Terminal 3 คับ ซึ่งผมมีไฟลทต่อไปที่ hokkaido ตอน 7.45 พอถึง Termilnal 3 ก็ตะเวนหาของกินกันเลยที่เดียว จากที่นั่งเครื่องมานาน พวกผมค่อนข้างชอบอาหารญี่ปุ่นคับเลยไม่ค่อยเป็นปัญหากับการหาของกินเท่าไหร่ เรียกได้ว่าหยิบจับอะไรได้ ก็ซัดกันเลยทีเดียว พออิ่ม ก็เริ่มง่วง คืนนี้คงต้องฝากชีวิตไว้ที่ สนามบิน 1 คืน 55555 หลับๆตื่นๆคับ คนเดินไปมาทั้งคืน น่าจะรอต่อเครื่องทั้งนั้น ไม่นานก็เช้า ผมล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวไปเช็คอิน ผมเดินทางกันด้วยสายการบิน vanilla airline คับ ค่าเครื่องตกแล้วคนละ 4000 บาท ราคา ไป/กลับ
เดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงคับ ก็ถึงสนามบิน New Chitose Hokkaido มาเที่ยวครั้งนี้ผมกับเพื่อนคุยกันว่าจะมาเช่ารถขับเล่นกัยดีกว่า คืออยากแวะไหน อยากถ่ายรูปที่ไหนก็ตามใจเราได้เลยย ไม่รอช้า เรารีบตรงไปที่เค้าท์เตอร์ จองรถคับ (ผมไม่ได้จองผ่านเว็บมา) รถที่ได้เป็น รถที่นั่งได้ 7 ที่นั่งคับ ค่อนข้างใหญ่เลยแหละ นั่งสบาย ภายในรถมี GPRS ให้ ขอบอกว่า ที่ญี่ปุ่น GPS แม่นมากกๆๆ ไม่ต้องกลัวหลงเลย
ค่าเช่ารถตกวันละ 3500 บาทคับ
ค่าน้ำมัน 2 วัน 1,400 บาท
ค่าผ่านทาง express way 1500 ก็คือค่าทางด่วนบ้านเรานี่เอง
หาร 5 คน ตกคนละ 1,980 บาท ถือว่าโอเคเลยกับราคานี้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
GPRS ในรถคับ พนักกงานจะมาบอกวิธีการใช้คับ ง่ายๆๆ ไม่ยากคับ เค้าจะมีกระดาษมาให้ 1แผ่น ในนั้นจะระบุสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในระแวก sapporo โดยจะระบุเป็นคล้ายๆกับหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ เราเบอร์ของสถานที่ๆเราจะไป ใส่ไว้ใน GPRS แล้วก็กดเดินทางได้เลยคับ
นี่คือน่าตาของ express way คับ ถ้าเราซื้อตัว express way ไว้ เวลาเข้าใกล้ทาง ตัวกั้นจะเปิดให้เองอัตโนมัติเลย ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่เปิดเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ แอบใจเสียนิดๆ ถ้าไม่เปิดจะทำยังไงเนี่ยย รถข้างหลังก็ตามมา
เอาล่ะคับจุดหมายเเรกของเราวันนี้ ตรงไปที่โรงแรมก่อนเลย พมจองห้องพักที่ Holiday Inn Susukino คับ โรงแรมนี้ค่อนข้างสะดวกสบายเลย อยู่ใจกลางย่านช้อปปิ้ง แฟมิลี่มาร์ท ลอสัน เซเว่น ครบเลยทีเดียวเชียว การเดินทางก็ เปิด gprs อย่างเดียวเลย 5555 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากสนามบิน ก็ถึงโรงแรมละ เชคอินน์ก่อนแปป
เชคอินเสร็จ ก็แยกย้ายกันเก็บกระเป๋าคับ พักผ่อนตามอัธยาศัย เรานัดเจอกันที่ ล็อบบี้ บ่าย 2 โมง เพื่อจะไปต่อกันที่ >>> Otaru
ถึงเวลาบ่ายสองโมง ลุยกันเลยยยยยย กด GPRS ไปที่ Otaru ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีคับ ระหว่างที่ขับรถ มีวิวให้ชม บ้านเรือนชาวญี่ปุ่น ขับรถเรียบทะเลไป บรรยากาศชิวสุดๆ ชมวิวเพลินๆ ก็เดินทางมาถึงละคับ
วนหาที่จอดกันอยู่พักใหญ่ ที่นี่ไม่เหมือนที่ไทย ที่สามารถจอดได้ตามข้างทาง แต่จะมีที่จอดไว้ให้ โดยมีค่าบริการ จากตู้อัติโนมัต ที่นี่อะไรก็หยอดเหรียญเน๊อะ 55555
ได้เวลาลงไปสัมผัสความหนาว โอตารุ เป็นเมืองท่าเก่า ที่มีความคลาสสิคมากๆ เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่ใครมา hokaido ต้องมาเยือนที่นี่ เลยกว่าเป็นแลนด์มาร์คก็ว่าได้ ช่วงที่หิมะปกคลุมหนาๆ เวลาเดินต้องระวังนะคับ อาจจะลื่นได้ ทางที่ดีควรสวมรองเท้าที่พื้นดีดี หรือใส่ที่กันลื่นนะคับ
ญี่ปุ่นหน้าหนาว ช่วง 4-5 โมงเย็น ก็เริ่มมืดละคับ เวลาเที่ยวจะน้อยลง เพราะฉะนั้นต้องตื่นกันแต่เช้าาาเลย พวกผมขอตัวกลับก่อนนะคับ มีนัดกินขาปูอลาสก้าขาใหญ่ๆแถวโรงแรมเลย ปักหมุดรอเลยคับบบ 555