สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
Beauty and the Beast มันคือ หนังเพลง...
แบบที่เป็นหนังเพลงอย่างแท้จริงครับ...
มันใช้เพลงในการเล่าเรื่องราวจริงๆ...
และวิธีการเล่ามันจะมีชั้นเชิง มีความซับซ้อนมากๆ...
มันจะให้อารมณ์บรอดเวย์ อยู่ในตัวของมันเอง...
หนังเพลงแบบนี้ แทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ในยุคนี้....
หรือไม่ก็ถูกปัดไปเป็นการ์ตูน เหมือน frozen....
ซึ่งมีเพลงที่พิถีพิถันในการทำไม่กี่เพลง...
และในทางวงการ ก็ไม่ถือว่าเป็นหนังเพลงอีก...
ตอนที่ Beauty and the Beast เวอร์ชั่นปี 1991 ออกฉายนั้น...
หนึ่งในคำวิจารณ์ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดก็คือ คำวิจารณ์ที่ว่า....
การ์ตูนเรื่องนี้ ดีงามยิ่งกว่าละครบรอดเวย์ทุกเรื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา...
หลังจาก Little Mermaid และ Beauty and the Beast เป็นต้นมา...
การ์ตูนยุครุ่งเรืองของดีสนีย์ อยู่ในรูปแบบ Broadway-style ตลอดครับ...
แต่มันก็เป็นการ์ตูน มันไม่ใช่หนังเพลงครับ...
พอมีข่าวว่าดีสนีย์จะเอาการ์ตูนยุครุ่งเรืองทั้งหลายมาทำเป็น live - action...
คนก็ลุ้นกันแล้วครับ ว่ามันจะมีหนังเพลงหลุดมาบ้างไหม...
แล้วหวยก็มาลงที่ beauty and the Beast ครับ....
เรียกว่าเป็นหวยล๊อคก็ว่าได้... เพราะเพลงในการ์ตูนเรื่องนี้ มันเป็นเพลงอมตะทุกเพลงจริงๆ...
ในวงการหนัง และวงการบรอดย์เวย์ เพลงจาก beauty and the Beast นี่... ถือเป็นเพลงที่ทุกคนต้องรู้จัก...
ไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนทำแบบนี้ได้เลย... จะมีก็แค่ The Lion King เท่านั้น....
ดังนั้น มันต้องออกมาเป็นหนัง Musical Live Action เท่านั้นครับ....
คือ จะบอกว่า...
มันไม่ใช่ความผิดของหนังเลย ที่หลายๆ คนไม่ชอบ...
และไม่ใช่ความผิดของคนที่ไม่ชอบเลย ที่จะไม่รู้สึกคลิ๊กกับหนังเพลงแนวนี้....
เพราะมันเป็นเรื่องของรสนิยม และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังเพลง Broadway-style...
แค่อยากให้คนที่ไม่ชอบ เข้าใจว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของหนัง...
และสิ่งที่หนังทำออกมา แม้ไม่ตรงรสนิยมส่วนตัว ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี มันไม่เพราะ...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่มีอิทธิพลหลัก ต่อศิลปะของฝั่งตะวันตก...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงที่มา ของศิลปะยุคปัจจุบัน...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่มีความซับซ้อน มีชั้นเชิงในรูปแบบของตัวมันเอง...
การไม่ชอบมัน ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี ไม่สนุก หรือไม่เพราะ ....
มันเป็นแค่เพราะ คุณไม่ชอบมัน แค่นั้นเอง... ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ...
ล่าสุด..
หนังเรื่องนี้ได้กลายเป็นหนัง musiacal ที่ทำรายได้สูงที่สุด...
ในประวัติศาสตร์อเมริกา นับตั้งแต่ปี 1974 แล้วครับ...
จากใจจริง
แบบที่เป็นหนังเพลงอย่างแท้จริงครับ...
มันใช้เพลงในการเล่าเรื่องราวจริงๆ...
และวิธีการเล่ามันจะมีชั้นเชิง มีความซับซ้อนมากๆ...
มันจะให้อารมณ์บรอดเวย์ อยู่ในตัวของมันเอง...
หนังเพลงแบบนี้ แทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ในยุคนี้....
หรือไม่ก็ถูกปัดไปเป็นการ์ตูน เหมือน frozen....
ซึ่งมีเพลงที่พิถีพิถันในการทำไม่กี่เพลง...
และในทางวงการ ก็ไม่ถือว่าเป็นหนังเพลงอีก...
ตอนที่ Beauty and the Beast เวอร์ชั่นปี 1991 ออกฉายนั้น...
หนึ่งในคำวิจารณ์ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดก็คือ คำวิจารณ์ที่ว่า....
การ์ตูนเรื่องนี้ ดีงามยิ่งกว่าละครบรอดเวย์ทุกเรื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา...
หลังจาก Little Mermaid และ Beauty and the Beast เป็นต้นมา...
การ์ตูนยุครุ่งเรืองของดีสนีย์ อยู่ในรูปแบบ Broadway-style ตลอดครับ...
แต่มันก็เป็นการ์ตูน มันไม่ใช่หนังเพลงครับ...
พอมีข่าวว่าดีสนีย์จะเอาการ์ตูนยุครุ่งเรืองทั้งหลายมาทำเป็น live - action...
คนก็ลุ้นกันแล้วครับ ว่ามันจะมีหนังเพลงหลุดมาบ้างไหม...
แล้วหวยก็มาลงที่ beauty and the Beast ครับ....
เรียกว่าเป็นหวยล๊อคก็ว่าได้... เพราะเพลงในการ์ตูนเรื่องนี้ มันเป็นเพลงอมตะทุกเพลงจริงๆ...
ในวงการหนัง และวงการบรอดย์เวย์ เพลงจาก beauty and the Beast นี่... ถือเป็นเพลงที่ทุกคนต้องรู้จัก...
ไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนทำแบบนี้ได้เลย... จะมีก็แค่ The Lion King เท่านั้น....
ดังนั้น มันต้องออกมาเป็นหนัง Musical Live Action เท่านั้นครับ....
คือ จะบอกว่า...
มันไม่ใช่ความผิดของหนังเลย ที่หลายๆ คนไม่ชอบ...
และไม่ใช่ความผิดของคนที่ไม่ชอบเลย ที่จะไม่รู้สึกคลิ๊กกับหนังเพลงแนวนี้....
เพราะมันเป็นเรื่องของรสนิยม และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังเพลง Broadway-style...
แค่อยากให้คนที่ไม่ชอบ เข้าใจว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของหนัง...
และสิ่งที่หนังทำออกมา แม้ไม่ตรงรสนิยมส่วนตัว ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี มันไม่เพราะ...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่มีอิทธิพลหลัก ต่อศิลปะของฝั่งตะวันตก...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงที่มา ของศิลปะยุคปัจจุบัน...
มันคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ที่มีความซับซ้อน มีชั้นเชิงในรูปแบบของตัวมันเอง...
การไม่ชอบมัน ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี ไม่สนุก หรือไม่เพราะ ....
มันเป็นแค่เพราะ คุณไม่ชอบมัน แค่นั้นเอง... ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ...
ล่าสุด..
หนังเรื่องนี้ได้กลายเป็นหนัง musiacal ที่ทำรายได้สูงที่สุด...
ในประวัติศาสตร์อเมริกา นับตั้งแต่ปี 1974 แล้วครับ...
จากใจจริง
สมาชิกหมายเลข 713968 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 831143 ถูกใจ, 100 years ถูกใจ, the sin girl ถูกใจ, อันตี้ ถูกใจ, จางซังซิล ถูกใจ, nhdpun1944 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 819197 ถูกใจ, spectator ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3200723 ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 8
เอาตรงๆนะ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ถนัดหนังแนวนี้ ไปแนว บู๊ ตลก รักฟีลกู๊ดมากกว่า ฝรั่งมีน้อยมากกกที่คอมเม้นว่า"ไม่ชอบเพราะร้องเพลงเยอะ" อาจจะเพราะ 1 ส่วนใหญ่รู้กันอยู่ว่าต้นฉบับเป็นหนังเพลง แล้วถ้าไม่ทำเรื่องนี้ออกมาเป็นหนังเพลงโดนด่าตาย เพราะว่าเพลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องขึ้นหิ้งมากๆ ชิงรางวัลออสก้า 3 ได้ไป1 (เพลงBeauty and the beast) 2 วัฒนธรรมฝรั่งดูหนังเพลงแล้วรับได้ อิน รู้เรื่อง มากกว่าคนไทย
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณดูหนังเพลงไม่รู้เรื่องไม่อิน = เพลงห่วยมั้ย มันแค่คุณดูไม่เก็ท ไม่ซึ้งไม่อิน หลักฐานก็อย่างที่หลายๆคนกล่าว + รายได้ตอนนี้คงจะบอกว่ามันห่วยไม่ได้แล้วมั้ง 555
เราว่าเรื่องนี้เป็นหนังเพลงที่ดีด้วยซ้ำ ในความคิดเราคือ หนังเพลงที่ดีคือ เพลงเพราะ ติดหู เอามาเล่าเป็นเรื่องราวให้แสดงหนังหรือเป็น broadway ได้สนุก และมี"หลายเพลง" 70% ขึ้นต้องเพราะ ไม่ใช่ใส่มาเฉยๆเพลงธรรมดาให้มันพอปะชื่อว่าเป็นหนังเพลง
จากในรายชื่อคห 6 กล้าบอกเลยว่าไม่มีหนังเพลงเรื่องไหนที่เป็นตำนานเท่าเรื่องโฉมงามฯ อีกแล้ว (ไม่นับเวอรชั่นbroadway นะ ถ้านับเราให้ Les miserables ที่ดังมากๆ) .........อาจจะมีตำนานหนังเพลงที่ไม่มีในรายชื่อนี้อีกเช่น The sound of music(#1 แล้วมั้ง) , Mary poppin
สรุปเลยว่า หนังเพลงเรื่องนี้มันไม่ห่วยแน่ๆ มันอาจจะห่วยสำหรับคนบางคนเพราะไม่ถูกรสนิยมก็ไม่ว่า แต่ถ้าเอามาตรฐานอื่นๆ มาตีค่าไม่ใช่ตามปัจเจก เพลงมันไม่ห่วยแน่นอน ............ ต่อให้ดู The sound of music #1 ของหนังเพลง ยังไงคนพวกนี้ก็ต้องว่าเรื่องนี้กากร้องเพลงเยอะ ลงไปแดดิ้นแน่ๆ เพราะหนังมันนานมากและไม่ว่าจะทำอะไรก็พูดเป็นเพลง เชื่อสิ 555
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณดูหนังเพลงไม่รู้เรื่องไม่อิน = เพลงห่วยมั้ย มันแค่คุณดูไม่เก็ท ไม่ซึ้งไม่อิน หลักฐานก็อย่างที่หลายๆคนกล่าว + รายได้ตอนนี้คงจะบอกว่ามันห่วยไม่ได้แล้วมั้ง 555
เราว่าเรื่องนี้เป็นหนังเพลงที่ดีด้วยซ้ำ ในความคิดเราคือ หนังเพลงที่ดีคือ เพลงเพราะ ติดหู เอามาเล่าเป็นเรื่องราวให้แสดงหนังหรือเป็น broadway ได้สนุก และมี"หลายเพลง" 70% ขึ้นต้องเพราะ ไม่ใช่ใส่มาเฉยๆเพลงธรรมดาให้มันพอปะชื่อว่าเป็นหนังเพลง
จากในรายชื่อคห 6 กล้าบอกเลยว่าไม่มีหนังเพลงเรื่องไหนที่เป็นตำนานเท่าเรื่องโฉมงามฯ อีกแล้ว (ไม่นับเวอรชั่นbroadway นะ ถ้านับเราให้ Les miserables ที่ดังมากๆ) .........อาจจะมีตำนานหนังเพลงที่ไม่มีในรายชื่อนี้อีกเช่น The sound of music(#1 แล้วมั้ง) , Mary poppin
สรุปเลยว่า หนังเพลงเรื่องนี้มันไม่ห่วยแน่ๆ มันอาจจะห่วยสำหรับคนบางคนเพราะไม่ถูกรสนิยมก็ไม่ว่า แต่ถ้าเอามาตรฐานอื่นๆ มาตีค่าไม่ใช่ตามปัจเจก เพลงมันไม่ห่วยแน่นอน ............ ต่อให้ดู The sound of music #1 ของหนังเพลง ยังไงคนพวกนี้ก็ต้องว่าเรื่องนี้กากร้องเพลงเยอะ ลงไปแดดิ้นแน่ๆ เพราะหนังมันนานมากและไม่ว่าจะทำอะไรก็พูดเป็นเพลง เชื่อสิ 555
สมาชิกหมายเลข 2473824 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3403258 ถูกใจ, อันตี้ ถูกใจ, จางซังซิล ถูกใจ, PB ลูกพ่อ Kahn ถูกใจ, nhdpun1944 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 819197 ถูกใจ, Danclave ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 863203 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนดูบางคนถึงมีปัญหาที่ Beauty and the Beast เป็นหนังเพลง
พอมาดูที่พันทิป บอกรำคาญหนังเพลงมั่งจะหลับมั่ง หลายๆเหตุผล1ในเหตุผล คือเป็นหนังเพลง
ถ้าบอกว่านักแสดงเล่นไม่ดีก็ไม่ได้ว่าอะไร บท หรือ CGไม่ชอบหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ชอบเพราะแนวหนัง เป็นหนังเพลง มันแปลก มันดูอคติ ไม่เปิดใจให้หนังแนวนี้ หรือป่าว
นั้นหนังพลงทำให้ดียังไงคุณก็ไม่ดู พวกLaLalandก็คงไม่ได้ดูด้วยใช่ไหม