หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Review: ลัลลาเวียดนามกลาง ((เว้ ดานัง ฮอยอัน))
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศเวียดนาม
ประเทศลาว
จังหวัดสกลนคร
สวัสดีค่ะ พึ่งมีโอกาสได้ไปเวียดนามกลางมาเมื่อวันที่10-14 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาเยือนเวียดนามกลางโดยการเดินทางทางรถ จากจังหวัดลำปาง - เวียดนาม ถามว่าเหนื่อยไหม ลำบากไหมกับการเดินทาง ขอบอกเลยว่าเหนื่อยนะแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง ช่วงที่เราไปเจอทั้งแดด เจอทั้งฝน ครบทุกอย่างเลย เพราะฉะนั้นใครที่จะเดินทางเตรียมพกหมวก พกร่มไปด้วยนะคะ ภาพรวมตลอดการเดินทางถือว่าโอเคไหมตอบเลยว่าอยากมาอีกหลายๆเพราะชอบบบรรยากาศของเมืองฮอยอันมาก ถ้ามีโอกาสอีกก็อยากกลับมาเที่ยวอีก การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางฉบับสบายกระเป๋า(ตังค์)เนื่องจากว่าเที่ยวฟรี กินฟรี ฟรีทุกอย่างเนื่องจากหน่วยงานพามาเที่ยว เจ้าของกระทู้เลยฟินเป็นพิเศษจ้าอิอิ
วันที่10 กุมภาพันธ์ 2560 ออกเดินทางจากลำปาง 20.00 น.เดินทางถึงจังหวัดสกลนครเวลา 09.00น.แวะนมัสการพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งอยู่ริมหนองหาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
จากนั้นเดินทางไปยังจังหวัดมุกดาหาร เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยเข้ากับแขวงสะหวันนะเขตของประเทศลาว
เดินทางถึงสะหวันนะเขตก็เดินเล่นซื้อของที่ตลาดสะหวันนะเขตและเข้าพักที่โรงแรมสะหวันเวกัส 1 คืน ที่โรงแรมสะหวันเวกัสและคาสิโนเปิดให้บริการตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ สกุลเงินตราที่ใช้ในคาสิโนคือเงินบาทไทย มีห้องเล่นเกมส์ใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่4,950 ตางรางเมตรมีเกมส์ให้เลือกเล่นหลายอย่าง เช่น เครื่องเล่นสลอตแมซซีนและประเภทเกมส์บนโต๊ะ เป็นอีกหนึ่งที่ที่นักเสี่ยงโชคทั้งหลายไม่ควรพลาด
เช้าวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 เดินทางจากลาวมุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม ประมาณ200กิโล ก็จะถึงด่านลาวบาว จากด่านลาวบาวเข้าเวียดนามเดินทางอีกประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าก็จะถึงเมืองเว้
ถึงเมืองเว้ปุ๊ปเที่ยวปั๊บ สถานที่แรกที่ไปก็คือวัดเทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของริมแม่น้ำหอมของประเทศเวียดนาม ทางไปสุสานของพระเจ้ามิงห์หม่าง วัดแห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือ เจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ส่วนทางฝั่งซ้ายและขวาเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกและระฆังสำริดขนาดใหญ่หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ถัดมาทางด้านหลังของเจดีย์เป็นประตูทางเข้าสู่บริเวณภายในวัด มีรูปปั้นเทพเจ้า 6 องค์ คอยยืนเฝ้าปกป้องไม่ให้ความชั่วร้ายเข้ามาเยือนและวัดแห่งนี้เองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองในช่วงยุคหลังของเวียตนาม เมื่อพระภิกษุทิกกวางหยุก เจ้าอาวาสของวัดเทียนมู่ได้ใช้รถออสตินสีฟ้าคันเล็กเป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบัน
หลังจากเดินเที่ยวชมวัดเที่ยนมู่และจับจ่ายซื้อของฝากบริเวณทางเข้าวัดก็เดินทางไปล่องเรือแม่น้ำหอมกันต่อเลย ที่มาของชื่อแม่น้ำสายนี้เป็นเพราะในยามค่ำคืน แม่น้ำสายนี้จะพัดพาเอาความหอมของต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมมาตามสายน้ำนั่นเอง ในการล่องเรือเราสามารถชมชีวิตชนบทของสองฝั่งแม่น้ำหอม และภายในเรือยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองคอยบรรเลงให้ฟังตลอดการเดินทาง
พอถึงที่พักปุ๊ปรีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกมาสำรวจบริเวณหน้าโรงแรมในเมืองเว้ แล้วมาสะดุดร้านกาแฟที่จัดร้านน่ารัก เครื่องดื่มและเค้กรสชาติดีเลยทีเดียว ชื่อว่าThe One Coffee & Bakery เปิดบริการเวลา: 7:30 - 22:30 น.
เช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 เริ่มต้นด้วยสถานที่แรกคือพระราชวังเมืองเว้
เดินทางต่อไปยังเมืองดานังแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่วัดลิงอึ๊งบ๊ายบุต เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ ตั้งตระหง่านอยู่ที่แหลมซอนทรา อีกจุดชมวิว ที่เห็นดานังในมุมพญาเหยี่ยว ชาวดานังสร้างขึ้นเพื่อให้ท่านปกปักษ์รักษาดานังจากภัยธรรมชาติ และพายุไต้ฝุ่น ที่เคยเข้ามาทำลายเมืองในหลายปีก่อนหน้า เจ้าแม่กวนอิมมีสูงประมาณตึก 30 ชั้น ประกอบกับความงามของหินอ่อนสีขาวโพลน รัศมีความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจึงแผ่กระจายไปทั่วเมืองดานัง
แวะถ่ายภาพที่ชายหาดที่เมืองดานัง อากาศดีที่สุดเลยยยยยยย
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศดีดีของเมืองดานัง ก็เดินทางสู่เมืองฮอยอันซึ่งฮอยอันถือว่าเป็นเมืองโบราณ ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม
ยังคงฟินในความสวยงามของเมืองฮอยอัน
วิถีชีวิตของคนในฮอยอัน
สวยทุกมุม ชอบและหลงเสน่ห์ของฮอยอันมาก ขอเก็บภาพซะหน่อยนะคริคริ
หลังจากช็อปปิ้งซื้อของที่เมืองฮอยอันเป็นที่เรียบร้อยก็เดินทางกลับมายังเมืองดานัง ก่อนเข้าที่พักได้ไปดูสัตว์ที่ตัวเป็นปลามีหัวเป็นมังกรพ่นน้ำเรียกว่าCa Chep Hoa Rong อนุเสาวรีย์ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของดานังรูปปั้นนี้สร้างลอกเลียนแบบเมอร์ไลอ้อนของสิงคโปร์ มีความหมายให้ชาวเวียดนาม หมั่นศึกษาหาความรู้มาประดับตน เพื่อที่เมื่อเติบใหญ่ เรียนสูงขึ้นก็จะกลายร่างเป็นมังกรมาช่วยเหลือประเทศชาติได้
เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เดินทางกลับประเทศไทยโดยใช้เส้นทางเดิม เส้นทางในเวียดนามถนนโอเคเลย ส่วนลาวก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงเส้นทางมีหลุมบ่อเป็นช่วงๆเสียอย่างเดียวที่นั่งรถนานไปหน่อยเพราะเจ้าของกระทู้นั่งมาจากจังหวัดลำปางเลยจะเมื่อยเป็นพิเศษ ถ้ามีบินตรงน่าจะสะดวกกว่านี้ แต่ภาพรวมก็ถือว่าโอเคมาก ประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาอีกครั้ง
ว้ายๆๆๆๆๆลืมไปก่อนกลับคณะของพวกเราได้มีโอกาสไปแวะนมัสการพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนมด้วยนะเออ ถือว่าเป็นการปิดทริปสุดยอดมากได้ทั้งเที่ยวและทำบุญไหว้พระด้วย อิ่มใจสุดๆ
บ๊ายยยยยย บายยยยยย
ชื่อสินค้า:
ฮอยอัน เว้ ดานัง เวียดนาม เวียดนามกลาง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศเวียดนาม
ประเทศลาว
จังหวัดสกลนคร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 76
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Review: ลัลลาเวียดนามกลาง ((เว้ ดานัง ฮอยอัน))
จากนั้นเดินทางไปยังจังหวัดมุกดาหาร เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยเข้ากับแขวงสะหวันนะเขตของประเทศลาวเดินทางถึงสะหวันนะเขตก็เดินเล่นซื้อของที่ตลาดสะหวันนะเขตและเข้าพักที่โรงแรมสะหวันเวกัส 1 คืน ที่โรงแรมสะหวันเวกัสและคาสิโนเปิดให้บริการตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ สกุลเงินตราที่ใช้ในคาสิโนคือเงินบาทไทย มีห้องเล่นเกมส์ใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่4,950 ตางรางเมตรมีเกมส์ให้เลือกเล่นหลายอย่าง เช่น เครื่องเล่นสลอตแมซซีนและประเภทเกมส์บนโต๊ะ เป็นอีกหนึ่งที่ที่นักเสี่ยงโชคทั้งหลายไม่ควรพลาดเช้าวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 เดินทางจากลาวมุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม ประมาณ200กิโล ก็จะถึงด่านลาวบาว จากด่านลาวบาวเข้าเวียดนามเดินทางอีกประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าก็จะถึงเมืองเว้ ถึงเมืองเว้ปุ๊ปเที่ยวปั๊บ สถานที่แรกที่ไปก็คือวัดเทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของริมแม่น้ำหอมของประเทศเวียดนาม ทางไปสุสานของพระเจ้ามิงห์หม่าง วัดแห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือ เจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ส่วนทางฝั่งซ้ายและขวาเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกและระฆังสำริดขนาดใหญ่หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ถัดมาทางด้านหลังของเจดีย์เป็นประตูทางเข้าสู่บริเวณภายในวัด มีรูปปั้นเทพเจ้า 6 องค์ คอยยืนเฝ้าปกป้องไม่ให้ความชั่วร้ายเข้ามาเยือนและวัดแห่งนี้เองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองในช่วงยุคหลังของเวียตนาม เมื่อพระภิกษุทิกกวางหยุก เจ้าอาวาสของวัดเทียนมู่ได้ใช้รถออสตินสีฟ้าคันเล็กเป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบัน
หลังจากเดินเที่ยวชมวัดเที่ยนมู่และจับจ่ายซื้อของฝากบริเวณทางเข้าวัดก็เดินทางไปล่องเรือแม่น้ำหอมกันต่อเลย ที่มาของชื่อแม่น้ำสายนี้เป็นเพราะในยามค่ำคืน แม่น้ำสายนี้จะพัดพาเอาความหอมของต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมมาตามสายน้ำนั่นเอง ในการล่องเรือเราสามารถชมชีวิตชนบทของสองฝั่งแม่น้ำหอม และภายในเรือยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองคอยบรรเลงให้ฟังตลอดการเดินทาง
พอถึงที่พักปุ๊ปรีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกมาสำรวจบริเวณหน้าโรงแรมในเมืองเว้ แล้วมาสะดุดร้านกาแฟที่จัดร้านน่ารัก เครื่องดื่มและเค้กรสชาติดีเลยทีเดียว ชื่อว่าThe One Coffee & Bakery เปิดบริการเวลา: 7:30 - 22:30 น.
เช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 เริ่มต้นด้วยสถานที่แรกคือพระราชวังเมืองเว้
เดินทางต่อไปยังเมืองดานังแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่วัดลิงอึ๊งบ๊ายบุต เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ ตั้งตระหง่านอยู่ที่แหลมซอนทรา อีกจุดชมวิว ที่เห็นดานังในมุมพญาเหยี่ยว ชาวดานังสร้างขึ้นเพื่อให้ท่านปกปักษ์รักษาดานังจากภัยธรรมชาติ และพายุไต้ฝุ่น ที่เคยเข้ามาทำลายเมืองในหลายปีก่อนหน้า เจ้าแม่กวนอิมมีสูงประมาณตึก 30 ชั้น ประกอบกับความงามของหินอ่อนสีขาวโพลน รัศมีความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจึงแผ่กระจายไปทั่วเมืองดานัง
แวะถ่ายภาพที่ชายหาดที่เมืองดานัง อากาศดีที่สุดเลยยยยยยย
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศดีดีของเมืองดานัง ก็เดินทางสู่เมืองฮอยอันซึ่งฮอยอันถือว่าเป็นเมืองโบราณ ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม
ยังคงฟินในความสวยงามของเมืองฮอยอัน
วิถีชีวิตของคนในฮอยอัน
สวยทุกมุม ชอบและหลงเสน่ห์ของฮอยอันมาก ขอเก็บภาพซะหน่อยนะคริคริ
หลังจากช็อปปิ้งซื้อของที่เมืองฮอยอันเป็นที่เรียบร้อยก็เดินทางกลับมายังเมืองดานัง ก่อนเข้าที่พักได้ไปดูสัตว์ที่ตัวเป็นปลามีหัวเป็นมังกรพ่นน้ำเรียกว่าCa Chep Hoa Rong อนุเสาวรีย์ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของดานังรูปปั้นนี้สร้างลอกเลียนแบบเมอร์ไลอ้อนของสิงคโปร์ มีความหมายให้ชาวเวียดนาม หมั่นศึกษาหาความรู้มาประดับตน เพื่อที่เมื่อเติบใหญ่ เรียนสูงขึ้นก็จะกลายร่างเป็นมังกรมาช่วยเหลือประเทศชาติได้
เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เดินทางกลับประเทศไทยโดยใช้เส้นทางเดิม เส้นทางในเวียดนามถนนโอเคเลย ส่วนลาวก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงเส้นทางมีหลุมบ่อเป็นช่วงๆเสียอย่างเดียวที่นั่งรถนานไปหน่อยเพราะเจ้าของกระทู้นั่งมาจากจังหวัดลำปางเลยจะเมื่อยเป็นพิเศษ ถ้ามีบินตรงน่าจะสะดวกกว่านี้ แต่ภาพรวมก็ถือว่าโอเคมาก ประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาอีกครั้ง
ว้ายๆๆๆๆๆลืมไปก่อนกลับคณะของพวกเราได้มีโอกาสไปแวะนมัสการพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนมด้วยนะเออ ถือว่าเป็นการปิดทริปสุดยอดมากได้ทั้งเที่ยวและทำบุญไหว้พระด้วย อิ่มใจสุดๆ
บ๊ายยยยยย บายยยยยย