มีคำพูดไม่เพราะโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทริปนี้เกิดจากการที่เราแชร์โพสต์ในเฟชบุ๊ค โพสต์ที่คนแชร์เยอะ ๆ หลายคนน่าจะเคยเห็นกัน
“12Trips นับ 1 ให้ถึงเที่ยว - SAPA เที่ยวเดือนไหนสวยสุด”
เพื่อนผู้ชายที่ไม่เคยเจอกันมากกว่า 5 ปี มาตอบคอมเม้นแรกเลยว่า
เพื่อนคนที่1 - ไปดิ อยากไป แล้ว Tag. ลากเพื่อนอีกคนมา
เพื่อนคนที่2 - ก็มาตอบ จัดเลย (( -*- เอิ่ม....จัดไป จัดเลย คืออัลไลลลล พวกง่ายไปไหม? ใช้ชีวิตกันยังไง ))
เราตอบ - (กำลังตกใจ แต่ก็ตอบไปว่า) เออไปดิ เมื่อไหร่ดีวะ
เพื่อนคนที่1 - อาทิตย์หน้า กูอยากเห็นหิมะ (อิสัสสสส...ตกใจมากกกกกก!!!!! ถามตังในเป๋ากูยัง?)
เพื่อนคนที่2 - ฟายยยยยยย รีบไรเนี่ย เค้าไปกันสิงหา-กันยา ป่ะวะ
เพื่อนคนที่1 - แล้วสิงหาของมีหิมะป่ะละ กูอยากไปเลย อยากรู้ว่ามันจะมีจริงมั้ย
เรา - ขอเวลากูเดือนนึง สัสสสสสส ....... อาทิตย์หน้าไปคนเดียวเถอะ ฟายยย
เพื่อนคนที่2 - เออออ หาตั๋วแปป (ตูยังตกใจไม่หายเลย พวกหาตั๋วกันแล้ว!!!)
นางก็หาไปหามาคือ ตั๋วแพงมาก ไปกลับ 5500+++ อีเพื่อนคนแรกเลยไม่ได้ไปดูหิมะ
สรุปพวกเราได้ตั๋วเดือนไปเดือนมีนาคม ในราคาที่จะว่าถูกก็ไม่ถูก 3,850 บาท ไปกลับโดย Viet jet Air
ที่ไม่ถูกเพราะไม่มีอะไรเลย ไม่มีอาหาร ไม่มีโหลดกระเป๋า คือทุกคนต้องสะพายเป้ขึ้นเครื่อง
เพื่อนบอกเดินขึ้นเครื่องชิวๆ ลงก็ชิวๆ ไม่ต้องรอโหลดกระเป๋า (แอบกรอกตา 10 ที) สรุปตั๋วแพง 555555+
แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมนางจองเดือนมีนาคม มีนาคมซาปามีอะไร?
จากนั้นเราก็หาข้อมูลเดือนมีนาคม ไม่มีรีวิว ไม่มีคำตอบจากอากู๋ เอิ่ม.....
ก่อนไปเราก็คอยเช็คอากาศ ใน
IG ค้นหา
#SAPA ส่องไปค่ะ เค้าหนาวกันไหม ร้อนไหม แต่งตัวกันยังไง
ต้องเอาเสื้อกันหนาวไปรึเปล่า คือทำไมไม่เช็คใน App พยากรณ์อากาศ เพราะเรา ซาปา หาไม่เจอนั่นเอง -*-
เช็ค IG ก็ดีนะคะ ดูเพื่อนคนไหนเป็นคนไทยเราก็แอบถามได้เลยว่าอากาศที่ซาปาเป็นไงบ้าง หนาวรึเปล่าคะ?
คือคุณได้คำตอบแบบ Real time 5555+
ปรากฏว่ามีพี่สาวจาก IG คนนึง ตอบกลับมาว่าตอนกลางวันประมาณ
11-15 องศา กลางคืนเลขตัวเดียว
ช๊อคคคคคค!!! สิค่ะ คือไร? ประเทศไทยร้อนหนักมาก เสื้อผ้าที่จะเอาไปก็ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับอากาศหนาวขนาดนั้น
โทรหาพี่ป้าน้าอาเลยจ้า ยืมเสื้อกันหนาวหน่อย หนูกลัวหนาวตาย จริงๆ ไม่มีใครเชื่อสักคนว่าหนาว
ถามจะเอาไปทำไม เดี๋ยวก็ไม่ได้ใช้ เกะกะ ...... หื้อออออ แต่เราเอาไปนะ เสื้อกันหนาวแบบหนา กับแบกขึ้นลงเครื่อง -*-
การเดินทางจาก ฮานอย - ซาปา ด้วยรถไฟ
จะสะดวกสบายมากจากคุณติดต่อกับเอเจนซี่ที่ดี เราติดต่อ MissHuong Nguyen ผู้โด่งดัง ผ่าน Facebook
ซึ่งไม่ต้องจ่ายเงินก่อน นางจองให้ทุกอย่างที่เราต้องการ ยกเว้น ที่พักเราจองเองผ่าน Booking
ที่พักที่เราจองกับ Booking ซึ่งทั้งสองที่จะจ่ายเงินเมื่อเข้าพัก
แผนการเดินทาง
9/03/60 เดินเที่ยวฮานอย จัดการจ่ายเงินกับเอเจนซี่ รอเวลา 22.00น. ขึ้นรถไฟ
10/3/60 เช้าถึงสถานีลาวไก ต่อรถมินิแวนไปซาปา เข้าที่พัก เช่ามอเตอร์ไซด์ เที่ยว
11/3/60 กลับฮานอยด้วยรถ Sleeper bus 16.00 น. นอนฮานอย
12/3/60 กลับเมืองไทย
ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ Taxi ไป-กลับสนามบิน รถไปสถานีรถไฟ รถไฟนอน รถต่อไปซาปา รถทัวร์ sleeper bus เราให้ MissHuong
ติดต่อให้หมด ในราคาที่เราว่าไม่แพง และเชื่อถือได้ แอบเชียร์ถ้าใครจะไปติดต่อคนนี้ ไม่โกงไม่หลอก แถมใจดีอีก
เริ่ม จากเรามาถึงสนามบิน Noibai 17.40 น. ตม.ที่นี่ผ่านง่ายมาก ทำตามขั้นตอนก็จบ ไม่เห็นมีใครโดนเรียกอะไร
เดินลงมาหา Taxi ที่มีป้ายชื่อตัวเอง ปรากฏว่า
ไม่มี!!! หาทุกประตู ยังไงก็ไม่มี คือตอนนั้นแอบเครียด ทำไงดีๆ
เลยลองเข้า wifi สนามบิน ......ใช้ได้ว่ะเฮ้ย เร็วด้วย รีบแชทหา MissHuong ว่าเรามาถึงแล้วนะ แต่ไม่เห็นมีใครมารับเลยหาจนทั่วแล้ว
สักพัก MissHuong ก็ติดต่อกลับมาบอกว่าคนขับ Taxi กำลังไปนะ ขอโทษมากๆ ที่ทำให้รอ เรารีบบอกเลยไม่เป็นไรเราโอเค
ถ้าไม่มีใครมารับนี่สิ คือ พวกเราต้องตายแน่ๆ ภาษาอังกฤษไม่ดี เวียดนามก็ไม่ได้ -*- ขอขอบคุณ wifi สนามบินอย่างสูง
สักพักไม่นาน taxi ก็มารับไปส่งที่ตึกเอเจนซี่ MissHuong ในฮานอย เจอกันก็ชำระเงินและซื้อ Sim net ทันที ( 5 ดอลล่า )
บนตึกจะมีห้องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวให้ ใครอยากอาบน้ำก็อาบได้เลย สะดวกดี แต่บันไดในตึกที่นี่ทางเล็กมากเดินสวนกันลำบากนิดนึง
คือใช้พื้นที่คุ้มจริงๆ พอทำธุระเสร็จจะไปหาอะไรกินแถวนั้น แต่อยู่ดีดีฝนตก!!! เฮ้อ......
พวกเราเลยต้องกินข้าวเย็นกันที่ตึกนั้นเลย ตึกนี้ ชั้น1 เป็นร้านขายน้ำ ชั้น 2- 3 เป็นร้านอาหาร
ชั้น 4 เป็นห้องพักรับรองกึ่งออฟฟิชของ MissHuong
อาหารมื้อแรกอารมณ์เหมือนสุกี้ (สุกี้ผงชูรส)
แต่น้ำจิ้มเค้า พีคมากกกก เหมือนผงชูรสผสมเกลือ พริกซอย ที่เวียดนามจะให้ผงแบบนี้ทุกร้าน
แต่ที่น่าแปลกคือ พอใส่ไอ้ผงๆ นี่เข้าไป อาหารทุกอย่างรสชาติจะดีขึ้น 20% เค็มๆ
สามทุ่มกว่าๆ ไปสถานีรถไฟ MissHuong ให้คนไปส่งพวกเราถึงห้องนอนในโบกี้เลย คือดีมากๆ
ซื้อเบียร์แล้วเข้าห้องกันได้เลย
อากาศเย็นสบายมากในรถไฟ โคตรชิวววววว
ถึงสถานีลาวไก คือพวกเราไม่มีใครรู้เลยว่าที่นี่คือลาวไก เลยไม่มีใครลุกนอนต่อกันทุกคนจนเจ้าหน้าที่มาไล่ -*-
แถมเดินออกไปเจอคนขับมินิแวนดึงหน้าใส่อีก
เค้าคงรอกันนานแล้ว ขอโทษคร่า หนูไม่รู้จริงๆ
อากาศที่นี่เย็นมาก ไม่แน่ใจกี่องศา ใส่เสื้อกันหนาวแทบไม่ทัน
ด้านหน้าสถานีลาวไก
ภาพระหว่างเดินทางไปซาปา ใช้เวลานั่งรถประมาณ 40 นาที ดูกันไปเพลินๆ เลย
[CR] SAPA ซาปาเดือนมีนาคม ใครว่าไม่น่าไป
มีคำพูดไม่เพราะโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทริปนี้เกิดจากการที่เราแชร์โพสต์ในเฟชบุ๊ค โพสต์ที่คนแชร์เยอะ ๆ หลายคนน่าจะเคยเห็นกัน
“12Trips นับ 1 ให้ถึงเที่ยว - SAPA เที่ยวเดือนไหนสวยสุด”
เพื่อนผู้ชายที่ไม่เคยเจอกันมากกว่า 5 ปี มาตอบคอมเม้นแรกเลยว่า
เพื่อนคนที่1 - ไปดิ อยากไป แล้ว Tag. ลากเพื่อนอีกคนมา
เพื่อนคนที่2 - ก็มาตอบ จัดเลย (( -*- เอิ่ม....จัดไป จัดเลย คืออัลไลลลล พวกง่ายไปไหม? ใช้ชีวิตกันยังไง ))
เราตอบ - (กำลังตกใจ แต่ก็ตอบไปว่า) เออไปดิ เมื่อไหร่ดีวะ
เพื่อนคนที่1 - อาทิตย์หน้า กูอยากเห็นหิมะ (อิสัสสสส...ตกใจมากกกกกก!!!!! ถามตังในเป๋ากูยัง?)
เพื่อนคนที่2 - ฟายยยยยยย รีบไรเนี่ย เค้าไปกันสิงหา-กันยา ป่ะวะ
เพื่อนคนที่1 - แล้วสิงหาของมีหิมะป่ะละ กูอยากไปเลย อยากรู้ว่ามันจะมีจริงมั้ย
เรา - ขอเวลากูเดือนนึง สัสสสสสส ....... อาทิตย์หน้าไปคนเดียวเถอะ ฟายยย
เพื่อนคนที่2 - เออออ หาตั๋วแปป (ตูยังตกใจไม่หายเลย พวกหาตั๋วกันแล้ว!!!)
นางก็หาไปหามาคือ ตั๋วแพงมาก ไปกลับ 5500+++ อีเพื่อนคนแรกเลยไม่ได้ไปดูหิมะ
สรุปพวกเราได้ตั๋วเดือนไปเดือนมีนาคม ในราคาที่จะว่าถูกก็ไม่ถูก 3,850 บาท ไปกลับโดย Viet jet Air
ที่ไม่ถูกเพราะไม่มีอะไรเลย ไม่มีอาหาร ไม่มีโหลดกระเป๋า คือทุกคนต้องสะพายเป้ขึ้นเครื่อง
เพื่อนบอกเดินขึ้นเครื่องชิวๆ ลงก็ชิวๆ ไม่ต้องรอโหลดกระเป๋า (แอบกรอกตา 10 ที) สรุปตั๋วแพง 555555+
แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมนางจองเดือนมีนาคม มีนาคมซาปามีอะไร?
จากนั้นเราก็หาข้อมูลเดือนมีนาคม ไม่มีรีวิว ไม่มีคำตอบจากอากู๋ เอิ่ม.....
ก่อนไปเราก็คอยเช็คอากาศ ใน IG ค้นหา #SAPA ส่องไปค่ะ เค้าหนาวกันไหม ร้อนไหม แต่งตัวกันยังไง
ต้องเอาเสื้อกันหนาวไปรึเปล่า คือทำไมไม่เช็คใน App พยากรณ์อากาศ เพราะเรา ซาปา หาไม่เจอนั่นเอง -*-
เช็ค IG ก็ดีนะคะ ดูเพื่อนคนไหนเป็นคนไทยเราก็แอบถามได้เลยว่าอากาศที่ซาปาเป็นไงบ้าง หนาวรึเปล่าคะ?
คือคุณได้คำตอบแบบ Real time 5555+
ปรากฏว่ามีพี่สาวจาก IG คนนึง ตอบกลับมาว่าตอนกลางวันประมาณ 11-15 องศา กลางคืนเลขตัวเดียว
ช๊อคคคคคค!!! สิค่ะ คือไร? ประเทศไทยร้อนหนักมาก เสื้อผ้าที่จะเอาไปก็ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับอากาศหนาวขนาดนั้น
โทรหาพี่ป้าน้าอาเลยจ้า ยืมเสื้อกันหนาวหน่อย หนูกลัวหนาวตาย จริงๆ ไม่มีใครเชื่อสักคนว่าหนาว
ถามจะเอาไปทำไม เดี๋ยวก็ไม่ได้ใช้ เกะกะ ...... หื้อออออ แต่เราเอาไปนะ เสื้อกันหนาวแบบหนา กับแบกขึ้นลงเครื่อง -*-
การเดินทางจาก ฮานอย - ซาปา ด้วยรถไฟ
จะสะดวกสบายมากจากคุณติดต่อกับเอเจนซี่ที่ดี เราติดต่อ MissHuong Nguyen ผู้โด่งดัง ผ่าน Facebook
ซึ่งไม่ต้องจ่ายเงินก่อน นางจองให้ทุกอย่างที่เราต้องการ ยกเว้น ที่พักเราจองเองผ่าน Booking
ที่พักที่เราจองกับ Booking ซึ่งทั้งสองที่จะจ่ายเงินเมื่อเข้าพัก
แผนการเดินทาง
9/03/60 เดินเที่ยวฮานอย จัดการจ่ายเงินกับเอเจนซี่ รอเวลา 22.00น. ขึ้นรถไฟ
10/3/60 เช้าถึงสถานีลาวไก ต่อรถมินิแวนไปซาปา เข้าที่พัก เช่ามอเตอร์ไซด์ เที่ยว
11/3/60 กลับฮานอยด้วยรถ Sleeper bus 16.00 น. นอนฮานอย
12/3/60 กลับเมืองไทย
ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ Taxi ไป-กลับสนามบิน รถไปสถานีรถไฟ รถไฟนอน รถต่อไปซาปา รถทัวร์ sleeper bus เราให้ MissHuong
ติดต่อให้หมด ในราคาที่เราว่าไม่แพง และเชื่อถือได้ แอบเชียร์ถ้าใครจะไปติดต่อคนนี้ ไม่โกงไม่หลอก แถมใจดีอีก
เริ่ม จากเรามาถึงสนามบิน Noibai 17.40 น. ตม.ที่นี่ผ่านง่ายมาก ทำตามขั้นตอนก็จบ ไม่เห็นมีใครโดนเรียกอะไร
เดินลงมาหา Taxi ที่มีป้ายชื่อตัวเอง ปรากฏว่าไม่มี!!! หาทุกประตู ยังไงก็ไม่มี คือตอนนั้นแอบเครียด ทำไงดีๆ
เลยลองเข้า wifi สนามบิน ......ใช้ได้ว่ะเฮ้ย เร็วด้วย รีบแชทหา MissHuong ว่าเรามาถึงแล้วนะ แต่ไม่เห็นมีใครมารับเลยหาจนทั่วแล้ว
สักพัก MissHuong ก็ติดต่อกลับมาบอกว่าคนขับ Taxi กำลังไปนะ ขอโทษมากๆ ที่ทำให้รอ เรารีบบอกเลยไม่เป็นไรเราโอเค
ถ้าไม่มีใครมารับนี่สิ คือ พวกเราต้องตายแน่ๆ ภาษาอังกฤษไม่ดี เวียดนามก็ไม่ได้ -*- ขอขอบคุณ wifi สนามบินอย่างสูง
สักพักไม่นาน taxi ก็มารับไปส่งที่ตึกเอเจนซี่ MissHuong ในฮานอย เจอกันก็ชำระเงินและซื้อ Sim net ทันที ( 5 ดอลล่า )
บนตึกจะมีห้องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวให้ ใครอยากอาบน้ำก็อาบได้เลย สะดวกดี แต่บันไดในตึกที่นี่ทางเล็กมากเดินสวนกันลำบากนิดนึง
คือใช้พื้นที่คุ้มจริงๆ พอทำธุระเสร็จจะไปหาอะไรกินแถวนั้น แต่อยู่ดีดีฝนตก!!! เฮ้อ......
พวกเราเลยต้องกินข้าวเย็นกันที่ตึกนั้นเลย ตึกนี้ ชั้น1 เป็นร้านขายน้ำ ชั้น 2- 3 เป็นร้านอาหาร
ชั้น 4 เป็นห้องพักรับรองกึ่งออฟฟิชของ MissHuong
อาหารมื้อแรกอารมณ์เหมือนสุกี้ (สุกี้ผงชูรส)
แต่น้ำจิ้มเค้า พีคมากกกก เหมือนผงชูรสผสมเกลือ พริกซอย ที่เวียดนามจะให้ผงแบบนี้ทุกร้าน
แต่ที่น่าแปลกคือ พอใส่ไอ้ผงๆ นี่เข้าไป อาหารทุกอย่างรสชาติจะดีขึ้น 20% เค็มๆ
สามทุ่มกว่าๆ ไปสถานีรถไฟ MissHuong ให้คนไปส่งพวกเราถึงห้องนอนในโบกี้เลย คือดีมากๆ
ซื้อเบียร์แล้วเข้าห้องกันได้เลย
อากาศเย็นสบายมากในรถไฟ โคตรชิวววววว
ถึงสถานีลาวไก คือพวกเราไม่มีใครรู้เลยว่าที่นี่คือลาวไก เลยไม่มีใครลุกนอนต่อกันทุกคนจนเจ้าหน้าที่มาไล่ -*-
แถมเดินออกไปเจอคนขับมินิแวนดึงหน้าใส่อีก เค้าคงรอกันนานแล้ว ขอโทษคร่า หนูไม่รู้จริงๆ
อากาศที่นี่เย็นมาก ไม่แน่ใจกี่องศา ใส่เสื้อกันหนาวแทบไม่ทัน
ด้านหน้าสถานีลาวไก
ภาพระหว่างเดินทางไปซาปา ใช้เวลานั่งรถประมาณ 40 นาที ดูกันไปเพลินๆ เลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น