หนึ่งปีครึ่งกับชีวิตในเมืองเล็กๆ ทางใต้ของเยอรมัน

วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ เหมือนที่ฝรั่งพูดว่า Time flies. เวลามันบินได้จริงเหรอ ชีวิตในเมือง Oberstdorf ทางใต้ของเยอรมันซึ่งอยู่ในแคว้นบาวาเรียก็ผ่านพ้นมาหนึ่งปีครึ่งละค่ะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา มันมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป ช่วงนี้ ก็ยังต้องเรียนภาษาเยอรมันอยู่นะคะจะจบหลักสูตรที่กำหนดก็ปลายปีนี้เลยค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ความสุขให้น่ะค่ะความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ของเมืองที่อยู่นะคะ ขอเล่าคร่าวๆ นะคะ เมือง Oberstdorf นี้อยู่ทางใต้สุดติดกับออสเตรีย และสวิสเซอร์แลนด์ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่แถบเทือกเขาแอลป์นะคะ คนยุโรปจะรู้จักเมืองนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติค่ะ ฤดูร้อนก็มาเดินเขา ขี่จักรยานภูเขา ปิคนิค ไปเที่ยวทะเลสาบ ฯลฯ ฤดูหนาวก็เป็นที่เล่นสกีดีๆ นี่เองค่ะ แต่หนาวค่ะ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา วันที่อุณหภูมิลดต่ำลงสุดคือ -22 องศาเซลเซียส แล้วติดลบต่ำกว่า 10 องศาเกือบสามอาทิตย์ ใส่เสื้อผ้ากันไม่ถูกเลยทีเดียว เป็นหนาวที่สองแล้วค่ะที่มีโอกาสได้สัมผัสหิมะ ฤดูนี้ชอบมากเวลาเดินท่ามกลางหิมะโปรยปราย มันไม่หนาวจนเกินไปแต่สุขมากเลยค่ะ แล้ววันที่แดดออก แสงแดดกระทบปุยหิมะขาวๆ ตัดกับสีท้องฟ้าใสไม่มีเมฆเลย ธรรมชาติหนอธรรมชาติมันงดงามเกินบรรยายเลยค่ะ ปกติคนไทยเราเองน้อยคนนักที่จะวิ่งรี่เข้าหาแสงแดด นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เดี๋ยวนี้วิ่งหาแสงแดดแทบไม่ทันเลยค่ะ ฮ่าๆๆ ตอนทำงานโรงแรมที่โอมานบ่อยครั้งที่แขกยุโรปมักจะเปรยว่า I love the sun very much. เรานี่ทำงานเหงื่อไหลโซกๆ เวลาต้องพาแขกเดินดูโรงแรมก่อนเข้าพัก ช่วงหน้าร้อนของโอมานอุณหภูมิก็พุ่งปรี๊ดไปถึง 48-50 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว เรานี่นึกในใจแขกยุโรปต้องผิดปกติแน่ๆ ฮ่าๆๆ ทุกวันนี้ถึงบางอ้อแล้วล่ะค่ะ เพราะตัวเองคิดถึงแสงแดดเหมือนกันค่ะ ฤดูหนาวปีนี้ก็ผ่านไปละค่ะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่