เรากล้าสละความสุขตนเองเพื่อแต่งงานกับคนที่รักไหม

1)...เมื่อ..3..ปีก่อน..มีน้องที่ทำงานสอบติดนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ..มาบรรจุที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ...สมัยนี้สอบราชการยาก...ทำงานได้..2-3..เดือนน้องเค้าแต่งงาน..แต่สามีอยู่ขอนแก่น...น้องเค้าตัดสินใจไม่นานที่จะลาออกเพื่อไปอยู่กับสามีที่ขอนแก่น..เพราะขอย้ายยาก..ทุกวันนี้มีลูกสองแล้วครอบครัวมีความสุขมากๆ
2)...รายต่อมา...ทำงานโรงแรม..นี่ก็ผู้หญิงแต่อายุ..34-35แล้ว..ทำงานมานานมากๆขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกโรงแรม (พวกAssistantรองจากManager)..โรงแรม.5..ดาว..เงินเดือน+เซอร์วิสชาร์ทสูง..ผู้หญิงใต้คนพังงาได้สามีคนสุรินทร์รับราชการ..สุดท้ายสามีย้ายไปทำงานที่สุรินทร์ (เดิมสามีทำงานที่ภูเก็ตเลยเจอกับสาวคนนี้)..เค้ายอมสละเงินเดือนเกือบแสนไปอยู่กับสามี..ทุกวันนี้ก็มีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น
3)...รายต่อมา..ตรงกันข้าม...พึ่งแต่งงานได้ไม่ถึง..2..เดือน..สอบติดราชการ..เป็นคนสงขลาหาดใหญ่..บรรจุครั้งแรกที่กรุงเทพฯ...ยอมมาอยุ่กรุงเทพฯเพื่อหน้าที่การงานทั้งๆที่พึ่งแต่งงาน..อยากเป็นข้าราชการ...สามีทำงานบริษัทน้ำมันเงินเดือนหลักเกือบแสน....ฝ่ายหญิงยอมทำงานกรุงเทพฯได้ปีครึ่งจึงดิ้นรนหาทางแลกเปลี่ยนกับคนอื่นย้ายกับไปภาคใต้ลงทำงานที่สุราษฎร์ก่อนครึ่งปี..แล้วจึงกลับไปหาดใหญ่ได้..ใช้เวลา..2..ปี..แต่..ไม่มีลูกกับสามี..สุดท้ายก็เลิกรากันไป..เพราะไม่มีลูก...นี่เลือกงานมากกว่าสามี..
......ผมเองมีแฟนอยู่สงขลาทำสวนปาม.....ผมรับราชการกรุงเทพฯ...ผมก็หาทางย้ายลงสงขลา....เพื่อจะได้แต่งงานอยุ่กับแฟน...ผมเองก็คิดๆ...อาชีพราชการจะสละได้เพื่อคนที่รักดีไหมนะ....แฟนก็ทำสวนมีความสุขและเค้าก็ยินดีที่ผมไปทำสวนด้วย...ถ้าอยุ่อย่างพอเพียง....หากผมย้ายไม่ได้..ก็คิดๆจะเลือกคนที่รัก..ดีกว่าเลือกงาน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 27
อยู่ที่เป้าหมายชีวิตของคุณคืออะไรค่ะ  เมื่อประมาณ 6-7 ปีก่อน เป้าหมายชีวิตเราคืออยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีเงินเดือนสูงๆ มีตำแหน่งที่ดี

แต่แฟน (ปจ. คือสามี) ทำให้เราค้นพบว่าเป้าหมายที่เราเคยคิด มันเป็นแค่สิ่งฉาบฉวย ไม่มั่นคง ถาวรและไม่ใช่เป้าหมายชีวิตเราจริงๆ
สามีไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนความคิดเรา แต่พอเรามีเค้าเข้ามาในชีวิต เค้าทำให้เรารู้ว่า แค่เราได้มีเงินใช้ มีของที่อยากได้ ได้เที่ยวที่อยากไป ได้ทำงานที่ไม่เครียดและจัดสรรเวลาได้ มีเวลาให้ครอบครัว มีชีวิตและครอบครัวที่อบอุ่น มีสุขภาพจิต สุขภาพชีวิตที่ดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ทุกวันนี้เป้าหมายชีวิตเราเลยเปลี่ยนไปสิ้นเชิง ... ไม่ได้ตั้งตำแหน่ง หรือรายได้เป็นปัจจัยหลักแล้ว

ความรักคือการเสียสละค่ะ  ถ้าคุณรักใครและเค้ารักคุณ และคิดว่าคนนี้คือคนที่จะใช้ชีวิตด้วย คุณต้องตัดสินใจดีๆนะคะ

ดิฉันเลือกที่จะเสียสละ ประเทศบ้านเกิด, อาหารที่อร่อย, อยู่ไกลจากพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่รัก, งานที่ไม่ได้มีตำแหน่งให้เลือกมากนัก
และสิ่งที่ดิฉันได้รับปัจจุบัน
- มีสามีที่ดีมาก
- เพื่อนสามี กลายเป็นเพื่อนของดิฉัน และได้มีเพื่อนใหม่ๆที่นี่ และมีญาติ พี่น้องเพิ่มขึ้น
- มีบ้านของตัวเองในต่างประเทศ
- ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตต่างประเทศ
- ได้เห็นข้อดีและข้อเสียของที่ๆเราเคยอยู่ และที่ๆอยู่ปจ
- ได้ทำงานในสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมที่เข้ากับนิสัยเรา  Open minded culture
- ได้อยู่บริษัทข้ามชาติ ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการที่ดี โดยทำงานแค่ช่วงเวลางาน สามารถลาพักร้อน ลาป่วยได้อย่างสบายใจ มีเวลาส่วนตัวและเวลาให้ครอบครัวได้เต็มที่
ฯลฯ

อนาคตจะเป็นอย่างไรดิฉันไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ดิฉันจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ค่ะ
ที่เขียนมายาว อยากจะบอกแค่ว่า  จขกท คิดให้ถี่ถ้วนถึงความรู้สึกของคุณที่มีต่อแฟน และทบทวนดูว่า ในอนาคตคุณมีเค้าอยู่ในชีวิตคุณไหม และคุณมองเห็นเค้าในเวลาที่คุณแก่เฒ่าหรือเปล่า  ถ้าใช่ ดิฉันว่าบางทีความสุขก็ต้องแลกด้วยการเสียสละบางอย่างค่ะ


edit เพิ่มเติมค่ะ: ตอนดิฉันตัดสินใจย้ายมาประเทศแฟน ตอนนั้นงานที่ได้เป็นงาน admin ธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ดีได้เต็มที่ รู้สึกไม่มีความสุขกับงานที่ทำมากๆ รายได้ก็กลางๆ  .. งาน, หน, เพื่อน ดีมากก แต่แค่รู้สึกว่าความรู้ความสามารถที่เรามี ทำอะไรได้มากกว่านี้เยอะ เหมือนนั่งทำอะไรไร้สาระ คนอื่นทำทั้งวัน เราทำไม่กี่ชมเสร็จ ว่างมากกกกกก  

แต่โชคดีมาก ทำไปเกือบปี บริษัทเดียวกันหาเซลล์ (อาชีพเดิมที่ทำตอนอยู่ที่ไทย) เลยขอย้ายตำแหน่ง และได้มาลงตำแหน่งนี้สมใจ

ที่มาพิมพ์เพิ่ม เพราะเห็นว่าหลายๆคอมเม้นเป็นห่วงเรื่องงานหรืออื่นๆ  แต่เราอยากจะสื่อว่า บางทีโอกาสมันก็จะตามมาทีหลัง ถ้าเราแสวงหาและไขว่คว้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่