พอดีผมอยู่สายการผลิตมา เลยขอแชร์ข้อมูลตามประสบการณ์ที่ผ่านมาและกันครับ
ลักษณะงาน
ตามชื่อเลยครับ วิจัย+พัฒนา โดยเรื่องที่วิจัย+พัฒนา จะแตกต่างกันตามประเภทอุตสาหกรรม แต่โดยหลักๆ จะแบ่งเป็นด้านๆ ประมาณนี้ครับ
1.การควบคุมกระบวนการให้เสถียร
2.การเพิ่มประสิทธิภาพ
3.การลดต้นทุนในกระบวนการ
4. ความปลอดภัย
5. แนวโน้มของลูกค้าหรือกระแสในอนาคตของอุตสาหกรรมนั้น
6. สิ่งอื่นๆที่จะเข้ามาแทนที่ หรือทดแทน เช่น สมัยก่อนเราสร้างบ้านจากไม้ แต่มีปัญหาคือ ไม้โก่งงอ ปลวกกิน ไฟไหม้ และป่าไม้ลดลง
จึงพัฒนาวัสดุเป็นไม้สังเคราะห์ (Engineering wood) ที่ไม่โก่งงอ ปลวกไม่กิน และ ทนความร้อน ไม่ติดไฟ

เทียบ R&D กับ Production
เรื่องนี้ต้องดูที่นโยบายของบริษัทหรือองค์กรนั้นเป็นสำคัญครับ ว่าเป็นบริษัทที่เน้นเรื่องนวัตกรรมรึเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่หรือเป็นเจ้าตลาดในอุตสาหกรรมนั้นๆครับ
ยกตัวอย่าง เป็นมือถือละกันครับ เช่น ซัมซุง เราจะเห็นว่าเขามีสิ่งประดิษฐ์ หรือมือถือที่มีฟังก์ชั่นลูกเล่นใหม่ๆ นั่นเพราะเขาเน้นเรื่องนี้ครับ และเขามีเงินทุนพอที่จะสนับสนุนในเรื่อง R&D ได้ บวกกับการที่เป็นเจ้าตลาดนี่ละครับ เป็นยี่ห้อที่ใครๆ ก็รู้จัก ออกมือถือรุ่นใหม่ยังไงๆ ก็ขายได้
ในขณะเดียวกันถ้าเป็น บ.มือถือยี่ห้อทั่วๆไป เขาจะเน้น Production มากกว่าครับ เน้นผลิตให้ได้ยอด+ลดต้นทุน เพื่อแข่งด้านราคาแทน  เพราะเขายังต้องเน้นเรื่องยอดขายให้มากกว่าจะไปคิดค้นอะไรใหม่ๆ เอง เพราะไม่มีเงินทุนมากพอที่จะใช้วิจัย บวกกับชื่อเสียงก็ยังไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ส่วนการ R&D หรือเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ไม่เน้นครับ แต่จะไปซื้อลิขสิทธิ์มาแทน  (เราคงเคยเห็นมือถือยี่ห้อทั่วๆไป ที่โฆษณาว่า กล้องของมือถือเขาใช้เลนส์ Sony หรือใช้หน้าจอ Super AMOLED ระบบเสียง dts.)
ข้อนี้จึงแล้วแต่ครับว่าบริษัทเน้นอะไร ถ้าเน้น R&D ทำ R&D ก็รุ่งครับ เพราะมีทุนสนับสนุน

ถ้าจะเปิดธุรกิจส่วนตัว
สำคัญทั้ง R&D กับ Production ครับ
แรกๆ คงต้อง Research ก่อนครับ ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร ความต้องการในตลาดมากน้อยแค่ไหน มีคู่แข่งเยอะไหม ต้องลงทุนเท่าไหร่ และคุ้มทุนตอนไหน
พอเริ่มอยู่ตัวแล้ว ก็ใช้หลักของ Production มาช่วยบริหารจัดการครับ คือ เน้น 4M (Man Material Machine Method)
ถ้าธุรกิจแข็งแรง + มีเงินทุนแล้วค่อย Develop ครับ

สุดท้ายถ้าเป็นช่วงเริ่มต้นทำงาน ซื้อรถยนต์มือหนึ่งมือสองหรือมอไซค์ดี
แนะนำมอไซค์ก่อนครับ เพราะผ่อนไม่กี่เดือนก็หมดแล้ว และค่าใช้จ่ายที่จะตามมาน้อยกว่ารถยนต์มากๆๆ ครับ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา แถมไปไหนก็สะดวก หาที่จอดง่ายอีกต่างหาก ขี่มอไซค์สักปีสองปี + เก็บเงินไว้และค่อยซื้อรถยนต์ก็ยังไม่สายครับ
เพิ่มเติมเรื่องรถมือสอง แนะนำให้ตัดรถมือสองทิ้งเลยครับ เพราะ 1.ดอกเบี้ยแพงมาก รวมกับค่ารถ เผลอๆ ราคารถมือสองนี่ไม่ต่างกับรถมือหนึ่งเลยครับ
2.เราไม่รู้หรอกครับว่ารถมือสองเขาไปเจออะไรมาบ้าง ถ้าต้องซ่อม คิดค่าซ่อมบำรุงแล้วไม่คุ้มครับ 3.ซื้อรถมือหนึ่ง ได้รถใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ฟรีค่าบำรุงรักษา ค่าแรงช่าง อาจมีต้องจ่ายค่าอะไหล่อุปกรณ์บ้าง เพราะเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งานจริง แต่เรามั่นใจว่าได้ของแท้ตรงสเปคจากโรงงาน เผลอๆ มีส่วนลดให้ พยายามเอารถเข้าศูนย์ตามที่เขากำหนด สบายใจได้หลายปีครับ